บทรักบทลงทัณฑ์

115.0K · ยังไม่จบ
ต้นอ้อ
54
บท
5.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เสียงฝีเท้าใหญ่หนักๆวิ่งมายังจุดเกิดเหตุด้วยความร้อนรนใจ ใบหน้าคมคายที่เต็มไปด้วยความสับสนปะปนไปพร้อมกับหยดน้ำตา​ไหลพรั่งพรูอาบแก้มทั้งสองข้าง เขาจุกจนพูดไม่ออก​ เมื่อได้เห็นร่างไร้วิญญาณ​ของหญิงคนรักที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น "ริตา! ริตา! ฮื่อๆ" "เข้าไปที่เกิดเหตุ​ไม่ได้นะครับ" ตำรวจสองนายช่วยกันกีดกันชายคนนั้น​ เพื่อไม่ให้เข้าไปยังจุดที่ผู้เสียชีวิต​นอนอยู่ "หลบไป!" ชายหนุ่มพยายามผลักทั้งสองให้พ้นตัว​ แต่ตำรวจนายหนึ่งกลับล็อคแขนของเขาเอาไว้ ส่วนอีกคนกันร่างของเขาไว้แทน ต่อให้เขาจะถูกแรงมหาศาลหักห้ามเขาแค่ไหนก็ไม่อาจขวางทางหัวใจที่กำลังสลายของเขาได้เลย "ริตา ฮึก ปล่อยกูสิวะ! ฮื่อ ริตา ปล่อยกู! "ชายหนุ่มพยายามสบัดร่างกาย​ เพื่อให้พ้นธนาการ​ เมื่อเจ้าหน้าที่ทั้งสองล็อคแขนของเขาไปยอมปล่อย "ใจเย็นๆนะครับ ตอนนี้ทางตำรวจกำลังเก็บหลักฐานอยู่" เจ้าหน้าที่​ตำรวจนายหนึ่งพูดขึ้น​ พร้อมกับกันชายหนุ่มเอาไว้สุดฤทธิ์​ "มึงก็เก็บไปสิวะ กูจะเข้าไปหาเมียกู ฮึก ปล่อยกู! "ชายหนุ่มดิ้นพล่าน​ พยายามตะเกียกตะกายสุดฤทธิ์​ เพื่อจะเข้าไปหาร่างไร้วิญญาณ​ของแฟนสาวตรงหน้า "ผมบอกว่าเข้าไม่ได้ไงครับ!" "มึงอยากตายหรือไงวะ! ปล่อยกู! ฮึก"

รักหวานๆดราม่าแก้แค้นมาเฟียความจำเสื่อมโรแมนติก

1 ไม่หน้ารอด "

บทรัก บทลงทัณฑ์

.... เริ่มต้น (บทลงทัณฑ์)

คอนโดหรูย่านกรุงเทพมหานคร​...

"เวลา 22:00 ได้เกิดเหตุการณ์สลดใจ​ขึ้น ทางตำรวจสภ.มีนบุรีได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตคาคอนโดหรูใจกลางเมือง ทางตำรวจได้ตรวจสอบชื่อของผู้ตายพบว่าเป็นดาราสาวชื่อดังของเมืองไทย น.ส. ภริตา บุญเวหา (ริตา)อายุ​25ปี เธอได้เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 ชั่วโมง จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ตายไม่ได้ถูกฆาตกรรม​ เพราะไม่มีร่องรอยการต่อสู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้ก่อน พร้อมทั้งจะทำการสอบปากคำญาติอย่างละเอียดอีกครั้งว่าผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวอะไรบ้าง จากนั้นมอบร่างผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.เกษมสันต์​ เพื่อชันสูตรต่อไป"

ตึก! ตึก! ตึก!

เสียงฝีเท้าใหญ่หนักๆวิ่งมายังจุดเกิดเหตุด้วยความร้อนรนใจ ใบหน้าคมคายที่เต็มไปด้วยความสับสนปะปนไปพร้อมกับหยดน้ำตา​ไหลพรั่งพรูอาบแก้มทั้งสองข้าง เขาจุกจนพูดไม่ออก​ เมื่อได้เห็นร่างไร้วิญญาณ​ของหญิงคนรักที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น

"ริตา! ริตา! ฮื่อๆ"

"เข้าไปที่เกิดเหตุ​ไม่ได้นะครับ" ตำรวจสองนายช่วยกันกีดกันชายคนนั้น​ เพื่อไม่ให้เข้าไปยังจุดที่ผู้เสียชีวิต​นอนอยู่

"หลบไป!" ชายหนุ่มพยายามผลักทั้งสองให้พ้นตัว​ แต่ตำรวจนายหนึ่งกลับล็อคแขนของเขาเอาไว้ ส่วนอีกคนกันร่างของเขาไว้แทน ต่อให้เขาจะถูกแรงมหาศาลหักห้ามเขาแค่ไหนก็ไม่อาจขวางทางหัวใจที่กำลังสลายของเขาได้เลย

"ริตา ฮึก ปล่อยกูสิวะ! ฮื่อ ริตา ปล่อยกู! "ชายหนุ่มพยายามสบัดร่างกาย​ เพื่อให้พ้นธนาการ​ เมื่อเจ้าหน้าที่ทั้งสองล็อคแขนของเขาไปยอมปล่อย

"ใจเย็นๆนะครับ ตอนนี้ทางตำรวจกำลังเก็บหลักฐานอยู่"เจ้าหน้าที่​ตำรวจนายหนึ่งพูดขึ้น​ พร้อมกับกันชายหนุ่มเอาไว้สุดฤทธิ์​

"มึงก็เก็บไปสิวะ กูจะเข้าไปหาเมียกู ฮึก ปล่อยกู! "ชายหนุ่มดิ้นพล่าน​ พยายามตะเกียกตะกายสุดฤทธิ์​ เพื่อจะเข้าไปหาร่างไร้วิญญาณ​ของแฟนสาวตรงหน้า

"ผมบอกว่าเข้าไม่ได้ไงครับ!"

"มึงอยากตายหรือไงวะ! ปล่อยกู! ฮึก"

"ไอ้ชัน มึงใจเย็นๆดิวะ " ภาสกรชายหนุ่มหน้าหวานวิ่งเข้ามาทักท้วง​ พร้อมกับห้ามปรามเพื่อนที่กำลังเสียใจกับภาพตรงหน้า​

" เมียกูนอนตายอยู่ตรงนั้น มึงจะให้กูใจเย็นได้ยังไงไอ้กร ฮึก "

" กูเข้าใจ แต่ตำรวจกำลังเก็บหลักฐานอยู่ ขืนมึงเข้าไปตอนนี้ริตาก็ไม่ตื่นมาเช็ดน้ำตาให้มึงหรอก ใจเย็นๆดิวะ "

" มึงพูดแบบนี้ได้ไงวะ! ฮึก "

" กูเรียกสติให้มึงนะไอ้ชัน "

" หึ! ถ้าวันไหนที่เมียมึงตายวันนั้นกูจะพูดว่าไม่เป็นไรก็แค่เมียตายเอง มึงใจเย็นๆ กูจะเรียกสติมึงแบบนี้ให้ดู! " เขาประชดประชันเพื่อนด้วยน้ำเสียงหนาทุ้ม ดวงตาแดงก่ำจ้องมองใบหน้าเพื่อนด้วยความเคืองใจที่เพื่อนของเขาใช้คำพูดแบบนั้นในสถานการณ์แบบนี้

" จะเรียกสติกูแบบไหนก็เรื่องของมึงเถอะ แต่ตอนนี้มึงต้องเรียกสติตัวเองก่อน ให้ตำรวจเขาทำงานไป ส่วนมึงมายืนรออยู่ตรงนี้ มึงได้เข้าไปหาริตาแน่ แต่รอหน่อยดิวะ "

" ฮึก ปล่อยกู! " เขาสบัดมือตำรวจและเพื่อนของเขาออกจากมือทั้งสองแล้วยืนก้มหน้าก้มตาร้องไห้ออกมาราวกับคนที่กำลังสิ้นหวัง​

ใช่...... ตอนนี้เขากำลังสิ้นหวัง​ เมื่อเห็นคนที่รักสุดหัวใจ​ เหลือเพียงร่างไร้วิญญาณ​

ร่างบางของหญิงสาวที่นอนแน่นิ่งถูกห่อด้วยผ้าขาวก่อนจะถูกยกออกจากมาจากห้องหรูของเธอ ราชันเดินตามร่างของคนรักออกมาติดๆ จิตใจของเขาดับสลายเมื่อได้เห็นร่างของเธอที่นอนตายต่อหน้าต่อตาเขา

" จากการตรวจสอบเบื้องต้นผู้ตายไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายเพราะไม่มีบาดแผลตามร่างกายเลย แต่เป็นการจงใจฆ่าตัวเองด้วยการกินยาบางชนิดเข้าไป ทางเรายังตรวจสอบไม่ได้ว่ายานั้นคือยาอะไร ต้องรอผลชันสูตรออกมา แต่มั่นใจว่าการตายของคุณริตาไม่ใช่เหตุฆาตกรรมครับ "

" ริตา ฮึก คุณทำแบบนี้ทำไม ฮึก ทิ้งผมทำไม " เขานั้นสับสนไม่น้อยกับเหตุผลที่หญิงคนรักเลือกที่จะทิ้งเขาไปด้วยการฆ่าตัวตายแบบนี้ มันดูไม่สมเหตุสมผลแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับมัน

" ผมต้องเชิญคุณไปให้ปากคำที่โรงพักต่อด้วยนะครับ "

" ฮึก ริตา ฮือฮือ ไม่จริงใช่ไหมริตา ฮึก "

" ครับคุณตำรวจ ผมจะพาเพื่อนผมไปให้ปากคำ " ภาสกรตอบกลับไปแทนเพื่อนของตนที่กำลังคุกเข่าร้องไห้เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขานั้นถอนหายใจออกมาแล้วแรงๆ​ แล้วตบบ่าเพื่อนเป็นการปลอบใจ

ในเวลาเดียวกันของค่ำคืนนั้น รถเก๋งสีขาวขับแล่นอยู่บนถนนด้วยความเร็ว มือเรียวยาวจับพวงมาลัยบังคับรถไปพร้อมกับสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว เธอยกมือปาดน้ำตาตัวเองซ้ำไปซ้ำมาพร้อมกับมองกระจกหลังด้วยความหวาดระแวง

" ฮึก จะตามฉันไปถึงไหน ฮือฮือ " ดวงตาที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา​ เธอเหล่ตามองเส้นทางอย่างรุกรี้รุกรน เธอเร่งคันเร่งอย่างไม่คิดชีวิตเพราะต้องการหนีจากรถคันข้างหลังที่ขับตามมาติดๆให้พ้น

" ฮึกฮือ ได้โปรดเถอะ! ฮึก รับสายฉันที " เธอกดย้ำไปที่หน้าจอรถที่กำลังต่อสายหาใครบางคน แต่เหมือนโชคชะตาจะไม่เข้าข้างเธอเลยสักนิด​ ราวกับโชคชะตากำลังเล่นตลกกับเธอ

" ฮือ รับสายสิ! ฮือๆๆ "

เธอตบลงที่พวงมาลัยด้วยความหมดหวังแล้วเปล่งเสียงร้องไห้โฮออกมา ดวงตาแดงก่ำที่ปนไปด้วยน้ำตาเหลือบมองรถคันด้านหลังอีกครั้งแล้วเม้มปากตัวเองแน่นๆ

เสียงแผ่วเบาของหญิงสาวคนหนึ่งดังกึกก้องขึ้นมาในห้วงลึกในสมองของเธอ

" หนีไปผิง อึก! นะ.. หนี ไป เฮือก! " เสียงนั้นยิ่งทำให้เธอทุกข์ระทมจิตใจมากขึ้นกว่าเดิม เธอปาดน้ำตาตัวเองอีกครั้งแล้วสะอื้นออกมาจนดังลั่นรถ

" ฮึก ริตา ฮือ ฉันขอโทษ ฮือๆๆ อร๊ายยย!! "

โครมมมมม!!!!!

เพราะเธอมัวแต่ร้องไห้คร่ำครวญ​จนไม่ได้ดูทาง เธอขับรถฝ่าไฟแดงด้วยความเร็วสูง​ จนปะทะเข้ากับรถกะบะที่ขับออกมาพอดี ความเร็วที่เธอขับมานั้นทำให้รถเธอเสียหลักกระเด็นพลิกคว่ำไปชนกับต้นไม้ข้างทางซ้ำอีกรอบ ร่างอันบอบบางถูกอัดกระแทกจากรถและต้นไม้จนร่างกายเธอนั้นเต็มไปด้วยเลือด

"อึก​!"

ดวงตาสีน้ำตาลค่อยๆหลับตาลง แสงสุดท้ายที่เธอได้สัมผัสคือแสงไฟจากรถคันอื่นๆที่กำลังสาดไฟส่องพร้อมกับผู้คนจำนวนหนึ่งพากันวิ่งเข้ามาเพื่อช่วยเหลือเธอ

" ริ...ตา " ปากบางกระจับเอ่ยน้ำเสียงแผ่วเบาเป็นเสียงสุดท้าย​ หยาดน้ำตาไหลรินออกมาทางหางตา สติของเธอเลือนราง ก่อนจะหลับใหลไม่ได้สติคารถของตัวเอง

รถสปอตสุดหรูคันหนึ่งที่จอดอยู่ริมทางสาดไฟหน้าส่องดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ห่างๆ ริมฝีปากที่ทาลิปสติกสีแดงสดค่อยๆยกยิ้มขึ้นมุมปากอย่างพึงพอใจที่เห็นรถเก๋งคันตรงหน้ากระเด็นกระดอนชนกับต้นไม้อย่างนั้น

" ไม่หน้ารอด " เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนจะขับรถออกไปอย่างไม่ใยดี