บทบาทนางร้ายไร้สมองข้าไม่ต้องการ

82.0K · จบแล้ว
หย่งเอ๋อร์
32
บท
9.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

นักฆ่าสาวมือหนึ่งได้ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในร่างของนางร้าย ซ้ำยังมีสามีเป็นตัวร้ายที่ชิงชังนางเข้าไส้ ไหนจะภารกิจเปลี่ยนตัวร้ายให้กลายเป็นพระเอกที่ท่านเทพมอบให้ บทบาทของนางร้ายไยถึงวุ่นวายถึงเพียงนี้กัน!

เกิดใหม่ในนิยายนิยายจีนโบราณท่านอ๋องแม่ทัพข้ามมิตินางเอกเก่งแต่งงานก่อนรักจีนโบราณโรแมนติกรักหวานๆ

บทที่ 1 งานแต่งงานของนางร้าย

ในช่วงชีวิตที่ผ่านความเป็นความตายมาอย่างนับไม่ถ้วน ลู่หนิงไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตของเธอนั้นเข้าใกล้ความตายถึงขนาดนี้มาก่อน ภายในป่าลึก ลู่หนิงพาร่างอ่อนปวกเปียกไปทิ้งกายลงนั่งเอนหลังพิงต้นไม้ใหญ่ มือบางที่กอบกุมอยู่บริเวณสีข้างค่อยๆเปิดออกเผยให้เห็นมือที่ชุ่มโชกไปด้วยโลหิตสีแดงฉาน ในขณะที่บาดแผลของเธอยังคงมีเลือดไหลทะลักทะลายออกมาอย่างไม่ขาดสาย

ลู่หนิงรู้ดีว่าอย่างไรวันนี้เธอคงไม่รอดเป็นแน่ ปากบางเผยรอยยิ้มออกมาบางๆยอมจำนนต่อโชคชะตาของตัวเองแต่โดยดี ในห้วงวาระสุดท้ายของลมหายใจ ความทรงจำในตอนที่เธอยังเป็นเด็กก็ฉายชัดขึ้นมาในหัว ลู่หนิงเป็นเด็กกำพร้า ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าอย่างโดดเดี่ยวมาตั้งแต่จำความได้ จวบจนกระทั่งเติบโตได้อายุสิบห้าปีก็มีผู้ชายคนหนึ่งมาอุปการะ

ตอนนั้นเธอดีใจเป็นอย่างมากคิดว่ากำลังจะได้มีความครัวที่อบอุ่น ทว่าความหวังที่มีก็พังทะลายลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา หลังจากที่เขาพาเธอเดินทางมายังองค์กรลึกลับแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาบอกเธอในภายหลังว่าเขาคือหัวหน้าขององค์กรนักฆ่าลึบลับแห่งนี้!

ชีวิตในวัยสิบห้าของลู่หนิงเปลี่ยนไปทุกอย่าง ที่องค์กรลับเธอต้องฝึกฝนฝีมืออย่างหนัก จนกระทั่งอายุได้สิบแปดก็ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญนั่นคือการสังหารศัตรูที่อยู่ฝั่งตรงข้ามและเธอก็ทำสำเร็จ ด้วยฝีมืออันโดดเด่นทำให้ลู่หนิงก้าวขึ้นมาสู่นักฆ่ามือหนึ่งขององค์กรภายในระยะเวลาไม่นาน

ลู่หนิงทำงานให้กับองค์กรนักฆ่าลึกลับมาเป็นเวลาเจ็ดปี อุทิศทั้งชีวิตให้กับองค์กรโดยการเข่นฆ่าผู้คนมากมายตามแต่ที่ได้รับมอบหมาย อันที่จริงเธอก็ไม่ได้อยากทำอย่างนั้นหรอก แต่ถ้าเธอไม่ทำ คนที่จะเดือดร้อนก็คือตัวของเธอเอง เรื่องราวภายในองค์กรทุกอย่างเป็นความลับ ไม่มีทางที่คนในองค์กรจะปล่อยให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระในโลกภายนอก หากไม่ทำตามคำสั่ง พวกมันก็จะสังหารเธอแทน

แต่สุดท้ายในวันนี้ชีวิตของลูหนิงก็เดินทางมาถึงจุดจบจนได้ เมื่อพวกศัตรูวางแผนตลบหลังทำให้เธอได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก เดิมทีคิดว่าจะหนีกลับไปที่องค์กร แต่ไม่นานก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อฉุกคิดขึ้นมาได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำงานพลาด เธอไม่มีหน้ากลับไปที่องค์กรอีกแล้ว ลู่หนิงคิดว่าการมีอยู่ของเธอไม่ได้ส่งผลอะไรต่อองค์กรมากมาย แม้วันนี้เธอจะจากไป สักวันหนึ่งองค์กรก็ต้องหาคนมาแทนที่เธอจนได้

ลู่หนิงส่งสายตามองขึ้นไปบนท้องฟ้า เวลานี้บ่ายคล้อยมากแล้ว ดวงอาทิตย์ส่องสว่างสีทองไปทั่วท้องนภา ฝูงนกกำลังพากันส่งเสียงเจื้อยแจ้วบินกลับรัง เป็นครั้งแรกที่ลู่หนิงรู้สึกว่าชีวิตของเธอได้พบเจอกับความสงบสุขอย่างแท้จริง ในห้วงวาระสุดท้าย ลู่หนิงคิดอย่างมีความสุข เปลือกตาบางของหญิงสาวค่อยๆปิดลงพร้อมกับลมหายใจสุดท้ายที่ได้หลุดลอยไป

ขณะนี้วิญญาณของลู่หนิงล่องลอยอยู่ในโลกแห่งความตาย เธอเห็นผู้คนมากมายกำลังเดินผ่านไป พวกเขาต่างมีใบหน้าสงบนิ่งแตกต่างจากเธอที่กำลังส่งสายตามองไปรอบๆด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตกใจอย่างมหันต์ แต่แล้วหญิงสาวก็เหลือบไปเห็นคนๆหนึ่ง ลู่หนิงจำได้ว่าเป็นคนที่เธอเพิ่งสังหารไป ก่อนที่เธอจะโดนตลบหลังและสิ้นใจตาย

“ตายล่ะ! เขาจะจำฉันได้ไหมนั่น” ลู่หนิงรีบหมุนกายหันหลังวิ่งหนีกลับไปอีกทาง จริงอยู่ที่ในโลกแห่งชีวิตได้เคยเข่นฆ่ากันมาก่อน แต่ในโลกแห่งวิญญาณเธอไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้ว ชายผู้นั้นเป็นคนปกติซะที่ไหนกันเล่า ในเมื่อตอนนี้เขามีแค่เพียงวิญญาณ และเธอก็เป็นคนกลัวผีซะด้วย แต่แล้วลู่หนิงก็ชะงักฝีเท้าให้หยุดลงเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“ตอนนี้ฉันเองก็เป็นผีเหมือนกันนี่นา” หญิงสาวกะพริบตาปริบๆ ช่างเถิด… ผีคนอื่นกับผีตัวเองเหมือนกันซะที่ไหน อย่างน้อยเธอก็ไม่มีวันทำให้ตัวเองหวาดกลัวหรอก

หญิงสาวคิดว่าวิ่งหนีมาไกลมากแล้วจึงหยุดวิ่ง ยามนี้บรรยากาศรอบกายเปลี่ยนไปจากตอนแรกอย่างสิ้นเชิง มีเพียงแค่ม่านหมอกหนาปกคลุมไปทั่วบริเวณ อากาศที่แสนเยือกเย็นทำให้ลู่หนิงต้องยกมือขึ้นกอดอกเอาไว้เพื่อคลายความหนาว

“เป็นวิญญาณก็หนาวเป็นด้วยหรือ” หญิงสาวพึมพำเสียงเบาด้วยความงุนงง

แต่ทันใดนั้นเอง…

“ลู่หนิง” เสียงแหบเย็นยะเยือกดังขึ้นจากทางด้านหลังเรียกความสนใจจากลู่หนิงให้หันไปมอง ก่อนที่คิ้วเรียวสวยจะค่อยๆย่นเข้าหากัน เมื่อเห็นชายชราในชุดสีขาวคนหนึ่งยืนอยู่

“ตาเป็นใคร” ถามเสียงห้วน มองอย่างไม่ไว้ใจมากนัก ลู่หนิงครุ่นคิดอย่างหนักหน่วง เธอจำได้ว่าไม่เคยทำร้ายหรือสังหารคนแก่ แต่อย่างไรก็ตามที่แน่ๆเขาคงเป็นวิญญาณเหมือนกับเธอนั่นแหละ

“ตาเลยหรือ” ร่างผอมบางสะดุ้งโหยงขึ้นเล็กน้อยด้วยความตกใจ

“ไม่ชอบให้เรียกตาหรือ ถ้าอย่างนั้นขอเรียกลุงก็แล้วกันนะ” ลู่หนิงยกมือขึ้นกอดอก ส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร แต่สำหรับคนมอง เขารู้สึกว่ารอยยิ้มของเธอดูยียวนกวนประสาทมากเหลือเกิน

“จะเรียกอะไรก็ตามใจเจ้าเถิด” ชายชราบอกปัดแม้จะไม่ใคร่พอใจนัก แต่เขาไม่มีเวลามากพอที่จะมาต่อล้อต่อเถียงด้วยหรอก

“ข้าคือท่านเทพ มาพบเจ้าเพราะต้องการให้โอกาส”

“โอกาสอะไรหรือ” ลู่หนิงหรี่สายตาให้แคบลง สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยอย่างมาก

“เจ้าเข่นฆ่าสังหารผู้คนมามากมาย ถึงแม้จะเป็นศัตรูฝั่งตรงข้ามก็ตาม แต่การมุ่งหมายเอาชีวิตของผู้คนก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง บาปกรรมที่เจ้าได้ทำหนักหนายิ่งนัก หากแต่เพราะความจำเป็นบีบบังคับให้เจ้าต้องทำ ข้าจึงจะให้โอกาสเจ้าได้ชดใช้ในสิ่งที่เคยทำผิดไว้” ท่านเทพเอ่ยวาจายาวเหยียด แต่ลู่หนิงจับใจความได้เพียงว่า เขากำลังจะให้โอกาสเธอทำอะไรสักอย่าง

“ฉันไม่ทำได้หรือไม่ ขี้เกียจอ่ะ” เธอคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในโลกของวิญญาณ ไม่ก็ส่งให้เธอไปเกิดใหม่เลยก็ได้

“ได้ แต่ถ้าเจ้าไม่ทำตามที่ข้าบอก ข้าจะเสกให้วิญญาณของเจ้าดับสูญไปตลอดกาล”

“อ้าว! ได้อย่างไรกัน!” ลู่หนิงอุทานขึ้นด้วยความตกใจ แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อท่านเทพก็เอ่ยขัดขึ้นมาก่อน

“แต่ถ้าหากเจ้าทำตามที่ข้าบอกสำเร็จ เจ้าจะได้ใช้ชีวิตอย่างที่เจ้าต้องการ ในโลกที่ข้ามอบให้” ประโยคสุดท้าย เสียงของชายชราเบาลงพร้อมกับมองเธอด้วยแววตาลุ่มลึก

ลู่หนิงนิ่งไปเล็กน้อย เธอยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ และอยากมีโอกาสได้ใช้ชีวิตสงบสุขอย่างที่เคยใฝ่ฝัน ดูจากท่าทางของท่านเทพแล้วก็ดูไม่ใช่คนใจร้าย เขาคงไม่ให้เธอทำอะไรที่ยากมากมายนักหรอก

“เอาก็เอา ว่าแต่ว่าฉันต้องทำอะไรบ้างล่ะคะท่านเทพ”

ท่านเทพยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยจากนั้นจึงโยนหนังสือเล่มหนึ่งให้ ลู่หนิงรับมาเปิดออกอ่าน ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนักเพียงแค่เธอเปิดอ่านหน้าแรก เธอก็ได้รู้เรื่องราวทั้งหมดภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที

“เจ้าต้องทำให้คนผู้หนึ่งกลับตัวกลับใจจากคนร้ายให้กลายเป็นคนดี”

“คนผู้หนึ่ง… คือใครกัน” คิ้วเรียวย่นเข้าหากันด้วยความสงสัย

“หลินจื่อมู่”

คำตอบของท่านเทพทำให้ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย หลินจื่อมู่ที่ท่านเทพพูดถึงมีบทบาทเป็นตัวร้ายในนิยายเรื่องนี้ เธอจะทำให้ตัวร้ายกลับใจเป็นคนดีได้อย่างไรกัน ในเมื่อเรื่องราวทุกอย่างได้กำหนดไว้แล้ว ลู่หนิงทำท่าจะอ้าปากโวยวายขึ้น แต่ดูเหมือนว่าท่านเทพจะรู้ทันเมื่อร่างผอมบางค่อยๆอันตธานหายไป มีเพียงเสียงแหบๆที่ดังขึ้นอยู่ในอากาศ

“เจ้าต้องทำทุกอย่างให้หลินจื่อมู่กลับตัวกลับใจเป็นคนดีให้ได้ หากเจ้าทำสำเร็จ เจ้าจะได้ใช้ชีวิตตามที่เจ้าหวัง แต่ถ้าหากเจ้าทำไม่สำเร็จ เจ้าจะต้องสิ้นใจอย่างอนาจด้วยฝีมือของหลินจื่อมู่เอง!” สิ้นเสียงนั้นพลันมีสายลมวูบใหญ่พัดมาปะทะร่างของลู่หนิงทำให้ร่างบางลอยละลิ่วหายเข้าไปในม่านหมอก ท่ามกลางเสียงร้องลั่นด้วยความตกใจของเธอ!

หลังจากที่ม่านหมอกค่อยๆอันตธานหายไป ลู่หนิงก็รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นอยู่รอบกาย เสียงครึ่กครั่กดังขึ้นอยู่ภายนอก หญิงสาวจึงหันหน้าไปมองด้วยความประหลาดใจ แต่แล้ว...

โป๊ก!

“โอย เจ็บ!” ลู่หนิงเปล่งเสียงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บ เมื่อศีรษะกระแทกเข้ากับผนังไม้อย่างแรง จากที่ปิดเปลือกตาอยู่ในตอนแรกจึงเปิดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อนึกถึงวาจาที่ท่านเทพได้พูดไว้ก่อนหน้านี้

แต่เมื่อเปิดเปลือกตาขึ้น ลู่หนิงจึงพบว่าตอนนี้เธอนั่งอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆแคบๆ ผนังรอบข้างทำจากไม้และดูเหมือนว่ามันกำลังเคลื่อนที่ไปมาอยู่ ครั้นเมื่อมองลงไปข้างล่างและได้เห็นอาภรณ์สีแดงที่กำลังสวมใส่อยู่ก็ต้องย่นคิ้วเข้าหากันเมื่อพบว่ามันคือชุดแต่งงานนั้นเอง

"ฉันทะลุมิติเข้ามาในนิยายตามที่ท่านเทพบอกไว้แล้วสินะ” หญิงสาวพึมพำเสียงเบา พยายามครุ่นคิดว่าตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ในบทบาทอะไร แต่แล้วชื่อของคนผู้หนึ่งก็ค่อยๆฉายชัดขึ้นมา

‘ฮุ่ยเจียวเจียว’ คือนางร้ายของนิยายเรื่องนี้ นางกับหลินจื่อมู่แต่งงานกันเพราะสมรสพระราชทานที่หลินเต๋อจินฮ่องเต้ทรงประทานให้ ทว่าความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาเป็นไปอย่างไม่ค่อยดีเท่าใดนัก เพราะหลินจื่อมู่หลงรักเกาฟางเหนียงผู้เป็นนางเอก ส่วนฮุ่ยเจียวเจียวก็มีใจให้พระเอกหลินยวี่หาน หากแต่พระเอกกับนางเอกนั้นมีใจให้กัน ความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงยิ่งกว่าสายไฟฟ้าจึงบังเกิดขึ้น ลู่หนิงแค้นใจเป็นอย่างมากที่ทั้งพระเอกและตัวร้ายผู้เป็นสามีของนางนั้นมีใจให้เกาฟางเหนียงกันทั้งคู่ นางจึงคิดหาทางกำจัดศัตรูหัวใจ แต่สุดท้ายก็โดนหลินจื่อมู่ผู้เป็นสามีสังหารจนสิ้นใจตายเสียเอง

ลู่หนิงที่อยู่ในร่างของฮุ่ยเจียวเจียวถึงกับต้องยกมือขึ้นกุมขมับ นึกโมโหท่านเทพไม่น้อย แทนที่จะให้นางทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของเกาฟางเหนียง แต่กลับให้เข้ามาอยู่ในร่างของนางร้ายที่มีจุดจบอนาจอย่างฮุ่ยเจียวเจียวเสียได้ ท่านเทพคิดที่จะกลั่นแกล้งนางเป็นแน่ ฮุ่ยเจียวเจียวไม่ใช่คนที่หลินจื่อมู่รักเหมือนแม่นางเอกเกาฟางเหนียง เขาชิงชังนางร้ายฮุ่ยเจียวเจียวยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือ มีหรือจะยอมทำตามที่นางต้องการ

ฮุ่ยเจียวเจียวรู้สึกปวดหัวยิ่งนัก มือบางยกขึ้นขยี้เรือนผมของตัวเองไปมา แต่เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าอีกไม่นานเมื่อเกี้ยวเจ้าสาวเดินทางมาถึงตำหนักอ๋อง พิธีแต่งงานก็จะเริ่มขึ้น นางจึงรีบใช้มือสางผมให้เรียบร้อยเข้าที่เข้าทางเหมือนเดิม

ให้ผ่านพิธีอภิเษกไปก่อนก็แล้วกันแล้วค่อยคิดว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตต่อไปดี ตัวร้ายก็ตัวร้ายเถอะ คนอย่างลู่หนิงกลัวซะที่ไหนกัน เธอจะเปลี่ยนให้สิงโตดุร้ายอย่างเขากลายเป็นลูกแมวตัวน้อยแสนเชื่องให้ได้ คอยดูเถิด!