บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 สมรสพระราชทาน

"รั่วเหรินซีเป็นผู้ที่มีความประพฤติดีงาม กิริยาเรียบร้อย เพียบพร้อมด้วยรูปทรัพย์ ความสามารถโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นต้นแบบให้สตรีในแคว้นเสิ่นจึงพระราชทานสมรสให้รั่วเหรินซีแต่งเป็นฮูหยินใหญ่ในจางไท่ฝู จบพระราชโองการ"

"รั่วเหรินซีน้อมรับพระราชโองการ ขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี หมื่น หมื่นปีเพคะ" ร่างบางในชุดผ้าแพรเนื้อดีสีเหลืองอ่อนยอบกายรับราชโองการของหม่าฮ่องเต้อย่างนอบน้อม ดวงหน้างามดุจหยกของนางก้มต่ำ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันมุ่นด้วยความหงุดหงิดใจ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมา ร่องรอยความกังวลที่มีก็พลันหายไปจนสิ้น คงเหลือไว้เพียงริมฝีปากที่แย้มยิ้มออกมาบางๆ ราวกับมีความสุขเสียเต็มประดา

ความประพฤติดีงาม ความสามารถโดดเด่น? พวกเขารู้ได้อย่างไรกัน แม้กระทั่งนางเองก็ยังไม่รู้เลยว่าสตรีผู้นี้เป็นอย่างที่ในพระราชโองการบอกไว้หรือไม่

'มู่ชิงเหยา' ลอบถอนลมหายใจออกมาเบาๆ ใครจะไปคิดว่าหญิงสาวในยุคปีสองพันบวกอย่างเธอจะได้ทะลุมิติเข้ามาในนิยายที่เคยอ่านจนจบไปนานแล้ว ในยุคนั้นมู่ชิงเหยาเป็นถึงนางเอกเบอร์หนึ่งชื่อดังของวงการบันเทิง

เมื่อหนึ่งเดือนก่อน ขณะที่กำลังออกงานเปิดตัวสินค้าใหม่อยู่นั้น เมื่อตอนที่กำลังก้าวขาขึ้นเวที จู่ๆรองเท้าส้นสูงของเธอก็ตกไปในร่องบันไดทำให้มู่ชิงเหยาหงายหลังศีรษะกระแทกกับขอบบันไดจนสิ้นใจตาย และวิญญาณก็ได้เข้ามาอยู่ในร่างของ 'รั่วเหรินซี' ที่สิ้นใจตายจากพิษไข้ในฤดูสารทที่ผ่านมา

ได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในนิยายก็คิดว่าจะดี เพราะได้โอกาสมีชีวิตใหม่ แต่มู่ชิงเหยาไม่เข้าใจเท่าใดนักว่าทำไมนางต้องเข้ามาอยู่ในร่างของรั่วเหรินซี นางรองที่มีชีวิตสุดแสนจะอาภัพคนนี้ด้วยนะ!

"ยินดีกับคุณหนูรั่วเหรินซี ท่านโชคดียิ่งนักที่ได้แต่งเป็นฮูหยินของจางไท่ฝู" จิ่วกงกงเอ่ยกับสตรีวัยกำดัดที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าที่เกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม

ทว่าเสียงหัวเราะของใครบางคนกลับดังขึ้นหลังจากที่จิ่วกงกงเอ่ยจบ ทุกสายตาจึงหันไปมองเจ้าของเสียงทันที

"คิกๆๆ"

"ซินเอ๋อร์ อย่าเสียมารยาทต่อหน้าจิ่วกงกง" ประมุขของจวนสกุลรั่วกล่าวเสียงเข้ม ส่งสายตาดุๆมองบุตรสาวคนเล็ก

"ขออภัยเจ้าค่ะท่านพ่อ ขออภัยท่านกงกงด้วยที่ข้าเสียมารยาทเจ้าค่ะ" รั่วหรงซินยอบกายให้กับผู้อาวุโส

"หมดหน้าที่แล้ว ข้าขอตัวกลับก่อน" จิ่วกงกงกล่าวจบก็เดินออกไป เหลือเพียงแค่คนสกุลรั่วที่อยู่ภายในห้องโถงรับแขกแห่งนี้

"ข้ายินดีกับพี่สาวด้วยจริงๆ หวังว่าจางไท่ฝูจะมีแรงลุกขึ้นมาเข้าหอกับท่านในวันแต่งงานนะเจ้าคะ" รั่วหรงซินกล่าวเสียงกลั้วหัวเราะ ปากบางเบ้เข้าหากันยามมองไปยังรั่วเหรินซี นางรู้ว่ายามนี้หม่าฮ่องเต้มีพระชนมพรรษายี่สิบห้าหนาวแล้ว

โดยปกติแล้วตำแหน่งไท่ฝูใช่ว่าผู้ใดจะเข้ามาอยู่ในตำแหน่งนี้ได้โดยง่าย เขาผู้นั้นต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์และรอบรู้ รั่วหรงซินจึงคิดว่าผู้ที่มากประสบการณ์เช่นนั้นก็คงจะมีอายุเป็นชายแก่คราวพ่อของหม่าฮ่องเต้กระมัง

"แทนที่จะกล่าวแสดงความยินดี ข้าควรแสดงความเสียใจกับเจ้าแทนหรือไม่" เยว่เล่อซินเดินเข้าไปหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าของรั่วเหรินซีพลางคว้ามือบางเข้ามากอบกุมเอาไว้หลวมๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความห่วงใย ทว่ารั่วเหรินซีรู้ดีว่าแท้จริงแล้วนางแค่เพียงเสแสร้งเท่านั้น!

มู่ชิงเหยาในร่างของรั่วเหรินซีได้แต่กระตุกยิ้มที่ฮูหยินรองกับรั่วหรงซินกล่าวเช่นนั้นเป็นเพราะยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วจางไท่ฝูคือบุรุษหนุ่มรูปงามสินะ ก็แหงล่ะ... เขาเป็นพระเอกของนิยายเรื่องนี้นี่นา

หนึ่งเดือนที่ดวงวิญญาณของนางได้มาอยู่ในร่างของรั่วเหรินซีทำให้ได้รู้ว่าที่เรือนสกุลรั่วนั้นไม่ต่างจากดงงูเห่า เพราะทั้งฮูหยินรองและน้องสาวต่างมารดาที่มีบทบาทเป็นนางร้ายในนิยายเรื่องนี้กำลังหาโอกาสคอยจ้องจะฉกกัดนางอยู่ตลอดเวลา

รั่วเหรินซีเป็นบุตรสาวของฮูหยินใหญ่สกุลรั่ว ทว่านางสิ้นใจจากไปด้วยโรคระบาดเมื่อสิบปีก่อน ทำให้รั่วเหรินซีในวัยเจ็ดหนาวต้องกำพร้าแม่ การจากไปของเหวินซื่อตานทำให้เยว่เล่อซินที่อยู่ในตำแหน่งฮูหยินรองเรืองอำนาจขึ้น

ในนิยายที่มู่ชิงเหยาเคยอ่าน เยว่เล่อซินเกลียดรั่วเหรินซี เพราะกลัวว่านางจะโดดเด่นและได้ดีเกินหน้าเกินตาของรั่วหรงซินผู้เป็นบุตรสาวจึงคอยหาทางกลั่นแกล้งและกำจัดรั่วเหรินซีออกจากเรือนสกุลรั่วไป

ในนิยายรั่วเหรินซีคนเดิมไม่ได้ตอบโต้ฮูหยินรองกับนางร้าย นางได้แต่ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมอยู่เงียบๆ หากแต่รั่วเหรินซีคนใหม่นี้ไม่ยอมให้ผู้ใดมารังแกได้ง่ายๆหรอก!

"แม่รองกล่าวเกินไปแล้ว แสดงความเสียใจอะไรกันเจ้าคะ ต้องแสดงความยินดีสิถึงจะถูก ข้าได้สมรสพระราชทานกับจางไท่ฝูเชียวนะ" มู่ชิงเหยาในร่างของรั่วเหรินซีดึงมือกลับ พลางยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อว่า

"แม่รองก็รู้ว่าจะมีสตรีจากตระกูลพ่อค้ากี่คนกันที่ได้แต่งงานเข้าตระกูลขุนนางเยี่ยงนี้ อีกทั้งจางไท่ฝูก็หาใช่ขุนนางธรรมดา แต่เป็นถึงขุนนางขั้นสูงที่ปรึกษาของหม่าฮ่องเต้เชียวนะเจ้าคะ ยามนี้น้องสาวซินเอ๋อร์ก็อายุสิบหกหนาวแล้ว ข้ายังไม่เห็นจะมีบุรุษจากตระกูลขุนนางใดมาทาบทามสู่ขอ เห็นแต่พวกอั้งม้อที่ทอดสายตาให้ในยามที่ไปเดินตลาดเท่านั้น" หญิงสาวจงใจเน้นย้ำประโยคสุดท้าย ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะได้ผล เพราะทำให้เยว่หล่อซินหน้าตึงไปทันที

"พูดอะไรของเจ้าน่ะ!" รั่วหรงซินแผดเสียงดังลั่น ถลาเข้ามาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าของนางคล้ายกับต้องการจะหาเรื่อง ร้อนถึงเยว่เล่อซินต้องรีบเข้ามาคว้าตัวของนางเอาไว้เสียก่อน

"ใจเย็นๆก่อนลูก ท่านพ่อมองอยู่" นางกระซิบข้างใบหูบุตรสาวเสียงเบา รั่วหรงซินได้แต่ทำท่ากระฟัดกระเฟียดไปมาด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง

"นั่นสิ ถึงแม้ซีเอ๋อร์จะไม่ใช่บุตรสาวที่แท้จริงของเจ้า แต่อย่างไรทุกคนล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้าไม่ควรที่จะกล่าววาจาเช่นนั้นกับนาง" รั่วเฉิงตวัดสายตามองภรรยา เยว่เล่อซินจึงแค่นเสียงเหอะออกมาเบาๆ รู้สึกโกรธไม่น้อยที่เห็นสามีเข้าข้างรั่วเหรินซี

"ในสายตาของท่านพี่ ข้าทำอะไรก็ผิดไปเสียทุกอย่าง อันที่จริงข้าแค่เป็นห่วงซีเอ๋อร์เท่านั้น เกรงว่านางจะทุกข์ใจที่ได้แต่งงานกับชายแก่คราวพ่อ แต่ถ้าหากวาจาที่ข้าเอ่ยไปทำให้ท่านพี่เข้าใจผิด ข้าก็ขออภัยด้วยเจ้าค่ะ" เยว่เล่อซินกล่าวเสียงเครือ หยดน้ำตาเม็ดกลมไหลกลิ้งออกมาจากดวงตาราวกับสั่งได้ รั่วหรงซินเห็นเช่นนั้นจึงรีบปรี่เข้ามาหาคนเป็นแม่

"ท่านพ่อลำเอียงรักมัน เอ๊ย พี่สาวมากกว่าข้ากับท่านแม่ ข้าผิดหวังในตัวท่านพ่อจริงๆ" เอ่ยอย่างตัดพ้อ จากนั้นจึงประคองร่างของมารดาเดินจากไป

รั่วเฉิงส่ายศีรษะไปมาด้วยความระอา เพียงแค่เขาเอ่ยปากดุเล็กน้อย พวกนางก็มักจะใช้น้ำตาเพื่อกลบเกลื่อนความผิดของตนแล้ว

"ซีเอ๋อร์เสียใจหรือไม่ที่ได้แต่งงานกับจางไท่ฝู" ชายวัยกลางคนหันมาหาบุตรสาวคนโต แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความอาทร

"ไม่ได้เสียใจ แต่แค่ไม่ชอบใจเจ้าค่ะ" หญิงสาวตอบตามความจริง วาจาของนางทำให้สีหน้าของผู้เป็นพ่อหม่นแสงลง หลังจากที่เหวินซื่อตานจากไป เขาก็เลือกที่จะทำแต่งาน ตั้งใจบริหารโรงกลั่นสุราอย่างหนักเพื่อให้ลืมนาง แต่ลืมไปว่าการทำเช่นนี้กลายเป็นละเลยรั่วเหรินซี ความสัมพันธ์ของพ่อลูกก็ห่างเหินกันมากขึ้น

แต่กระนั้นนางก็รู้ดีว่าอันที่จริงแล้วท่านพ่อรั่วเฉิงตั้งใจขอสมรสพระราชทาน โดยแลกกับการทำสัญญาส่งสุราให้วังหลวงทุกเดือนโดยไม่เก็บเงินเป็นเวลาหนึ่งปี เรื่องนี้เป็นความลับ แม้กระทั่งเยว่เล่อซินก็ยังไม่รู้

"ข้ารู้ว่าท่านพ่อหวังดีต่อข้า ท่านพ่ออย่าได้เป็นกังวลไปเลยเจ้าค่ะ" รั่วเหรินซีจับมือใหญ่ของคนเป็นพ่อมากอบกุมเอาไว้ ความปรารถนาดีทั้งหมดที่รั่วเฉิงมีให้รั่วเหรินซี นางรับรู้ทุกอย่างจากการอ่านนิยายเรื่องนั้น

ใบหน้าของรั่วเฉิงปรากฏรอยยิ้มขึ้นบางๆ มองบุตรสาวคนโตด้วยความประหลาดใจ

"ลูกรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรกัน"

"ไม่บอกเจ้าค่ะ แต่อย่างไรข้าก็ต้องขอบคุณท่านพ่อมากนะเจ้าคะที่ทำเพื่อข้า" หญิงสาวโผเข้าไปกอดบิดา หัวอกของคนเป็นพ่อสะท้านขึ้นเล็กน้อย นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้กอดนางอย่างนี้

"การแต่งงานกับจางไท่ฝูหาใช่เรื่องน่าเสียใจ สักวันหนึ่งเจ้าจะเข้าใจว่าวาจาของพ่อนั้นเป็นความจริงหรือไม่" มือใหญ่ลูบแผ่นหลังของบุตรสาวไปมาเบาๆ ในขณะที่รั่วเหรินซีได้แต่พยักหน้าหงึกหงักอยู่ในอ้อมแขนของบิดา จุดจบของนางรองมีหรือจะสมหวังในรักกับพระเอก เมื่อผลสุดท้ายตำแหน่งฮูหยินใหญ่ของจางไท่ฝูก็ต้องตกเป็นของ 'ฟู่เจียหนิง' นางเอกในนิยายอยู่ดี แต่ทว่านางไม่เสียใจหรอก มิหนำซ้ำยังคิดจะช่วยทำให้คู่พระนางได้ครองรักกันเร็วๆด้วยความเต็มใจอีกด้วย หญิงสาวคิดในใจอย่างหมายมาด!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel