บท
ตั้งค่า

EP.1 ย้ายมาอยู่กับน้าสาว

‘เวียร์’ แหงนมองบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ตรงหน้า พลางปาดเหงื่อที่ไหลซึมออกมาบริเวณหน้าผากออก ก่อนจะถอนหายใจเหนื่อยๆ เพราะอากาศยามบ่ายของกรุงเทพฯ ถือว่าร้อนจัดจนเขาแทบจะเป็นลม กว่าจะเดินทางมาถึงที่นี่ได้ก็ต้องต่อรถหลายต่อ

เขายกถุงใส่น้ำแข็งซึ่งเมื่อครู่มีน้ำอัดลมอยู่เต็มขึ้นดูด แต่ก็พบว่ามันเกลี้ยงจนเขาต้องดูดซ้ำๆ สุดท้ายก็ต้องปลิ้นน้ำแข็งออกมาใส่ปาก เพราะยิ่งร้อนก็ยิ่งกระหายน้ำ

ดวงตาคมเข้มมีแววมุ่งมั่นทอดมองบ้านหลังใหญ่ในพื้นที่ประมาณ 100 ตารางวาตรงหน้า จากช่องว่างของรั้วทำให้เห็นบ้านชั้นเดียวหลังไม่ใหญ่นักถ้าเทียบกับขนาดของสวนด้านข้าง

จากวันนี้เขาต้องอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ไปอีกหลายปีจนกว่าจะเรียนจบ หรือจนกว่าเขาจะได้งานและมีรายได้มากพอที่จะจ่ายเป็นค่าห้องได้ แต่ตอนนี้เขามีเงินติดตัวเพียงจ่ายค่าเทอมได้เท่านั้น ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ‘น้าเปิ้ล’ น้าสาวแท้ๆ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ รับปากกับแม่ว่าจะช่วยดูแลให้

เวียร์คิดถึงคำที่แม่บอก ก่อนที่เขาจะออกมาจากบ้าน

‘อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดายนะลูก น้าเปิ้ล น้าชาย เขาให้ช่วยงานอะไรก็ต้องเร่งรีบทำ อย่านิ่งเฉย อย่าขี้เกียจ อย่าทำให้เขาลำบากใจ โดยเฉพาะน้าชาย เวียร์ต้องเคารพน้าเขาให้มากๆ เพราะเขาเป็นเขยแท้ๆ แต่เขาก็ดีกับเรามาก นี่ถ้าเขาไม่ออกปาก แม่ก็ไม่กล้าให้เวียร์ไปอยู่กับเขาหรอกนะ เกรงใจเขา กลัวผัวเมียเขาจะมีปัญหากันเปล่าๆ แต่นี่น้าเปิ้ลมันเชียร์ น้าชายก็มาคุยกับแม่เอง แม่ก็เลยวางใจ ก็เหลือแต่เวียร์นั่นแหละว่าจะทำตัวให้เขาเอ็นดูได้มากแค่ไหน’

‘น้าชาย’ ที่แม่พูดถึงเป็นผัวของน้าเปิ้ล น้าชายกับน้าเปิ้ลแต่งงานกันตั้งแต่เขาอยู่ชั้นประถม จากนั้นก็พากันมาเปิดร้านจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้างและซ่อมบำรุงอยู่กรุงเทพฯ น้าชายจะพาน้าเปิ้ลกลับไปเยี่ยมตายายก็แค่ในช่วงวันหยุดเทศกาลสำคัญๆ เท่านั้น ส่วนเขาก็เคยมาเยี่ยมน้าเปิ้ลกับน้าชายบ้างตอนที่พ่อแม่มาซื้อของในกรุงเทพฯ

แต่พอเขาใกล้จบชั้นมัธยมปลาย พ่อเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ครอบครัวเขาระส่ำระสาย ความฝันว่าจะเรียนต่อก็แทบจะมอดไป แต่น้าเปิ้ลกลับบอกให้แม่ส่งเขามาอยู่ช่วยงานที่ร้าน แล้วน้าเปิ้ลจะส่งเสียเขาเรียนต่อระดับปริญญาตรีเอง

แต่แม่ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลคือเกรงใจ แม่บอกให้เขาออกมาทำงานสักปีหนึ่งก่อน พอมีเงินเก็บสักก้อนค่อยลงเรียนต่อ เพราะแม่กลัวว่าหากน้าเปิ้ลส่งเสียเขาแล้วน้าชายไม่พอใจ ครอบครัวของน้าเปิ้ลอาจมีปัญหาได้

แต่น้าชายนั่นแหละที่ไปพูดกับแม่ ว่าจะส่งเสียให้เขาเรียนเอง อีกทั้งตอนนี้น้าเปิ้ลก็ท้องแก่ใกล้คลอด น้าชายเองก็ไม่มีพี่น้องหรือหลานที่จะพอไว้ใจได้ หากแม่ส่งเขามาอยู่ช่วยงานก็จะแบ่งเบาภาระไปได้มาก และน้าชายเองก็เห็นเขามาตั้งแต่เล็กๆ คิดเสมอว่าเขาเป็นหลานชายแท้ๆ หากจะส่งเสียหลานเรียนก็คงไม่เหลือบ่ากว่าแรง

เมื่อน้าชายรับปากว่าจะดูแลเขาให้เหมือนหลานแท้ๆ แม่ถึงได้กล้าส่งเขามาที่นี่

กริ๊งก่อง... กริ๊งก่อง...

เขากดออดอยู่หน้าบ้านเพราะนี่เป็นวันอาทิตย์ร้านปิด เขาเลยคิดว่ามาที่บ้านเลยดีกว่า เพียงครู่เดียวเขาก็เห็นน้าชายเดินออกมา เขาส่งยิ้มไปให้ในทันทีพลางยกมือไหว้

“สวัสดีครับน้าชาย”

“เฮ้ย! เวียร์ โธ่... น้าก็คิดว่าคนมาขายของ แล้วนี่มายังไงกันเนี่ย เหงื่อโทรมมาเลย ทำไมไม่โทร. มาบอกก่อน ก็น้าบอกแล้วไงว่าจะมาวันไหนให้โทร. บอก น้าจะได้ไปรับที่หมอชิต นั่งรถมาเองลำบากแย่เลย มาๆ เข้าบ้านๆ โหย... เหงื่อท่วม”

น้าชายเปิดประตูพร้อมเข้ามาลูบเนื้อลูบตัวเขาที่โทรมไปด้วยเหงื่อ ก็จริงอย่างที่น้าชายพูดเพราะทั้งตัวเขามัน ‘ฉ่ำ’ ไปด้วยเหงื่อ จนเขาอยากจะถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วใช้น้ำดับความเหนียวความเหนื่อยตัวเวลานี้

ยิ่งยามเคลื่อนไหวเขายิ่งรู้สึกได้ กางเกงในซับเหงื่อจนต้นขาเขาลื่น รับรู้ได้แม้กระทั่งเม็ดเหงื่อที่กำลังหยาดหยดลงตามร่องก้นเรื่อยไปถึงง่าม จนได้ยินเสียง ‘แฉะ’ ทุกครั้งที่ก้าวเดิน เพราะกางเกงผ้ายาวคลุมเข่าเป้ายานหน่อยๆ ให้ความสบายในการสวมใส่ แต่ยามนี้กลับเกิดช่องว่างให้ต้นขาด้านในเสียดดี มันทั้งฉ่ำและแฉะจนเขาอยากได้พัดลมสักตัวในยามนี้จริงๆ แต่ที่เขาทำน่ะเหรอ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel