บท
ตั้งค่า

ตอนที่ ๑.๒ ปฐมบทคนคดโกง

“ไม่ได้เจอกันตั้งสองปี ไม่คิดถึงหลานเลยหรือไง ไหน มากอดทีซิ” ผมทวงถามความคิดถึงจากยาย ผู้หญิงหนึ่งในสองคนที่เลี้ยงดูผมมาอย่างยากลำบากกับเศษเงินที่ครอบครัวของพ่อโยนมาให้บ้างเป็นบางครั้ง

“วิดีโอคอลคุยกันทุกอาทิตย์ จะคิดถึงอะไรนักหนาล่ะ ถอยมาตรงนี้ รถไฟจะมาแล้ว เอ็งอยากตายหรือไง” ยายทำเป็นไม่สนใจ แล้วดึงแขนเสื้อของผมให้ห่างออกมาจากรางรถไฟ

ปู๊น ปู๊น

เสียงหวูดดังเตือนอีกครั้ง ก่อนที่รถไฟจะเริ่มเคลื่อนตัวออกจากสถานีอย่างช้า ๆ ผู้คนที่รออยู่สองข้างรางรถไฟต่างยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่าย ผมคงเป็นคนเดียวที่แต่งตัวคล้ายกับนักท่องเที่ยวแต่ไม่สนใจขบวนรถไฟที่กำลังเคลื่อนที่ผ่ากลางตลาดที่พ่อค้าแม่ค้าเพิ่งจะหุบร่มและเก็บร้านหลบกัน

“แต่นิวคิดถึงยายนะ โคตรคิดถึงเลยอะ” ผมพูดกับยายแข่งกับเสียงหวูดรถไฟ

“ฮะ? เอ็งว่าอะไรนะ ข้าไม่ได้ยิน” ยายก็ตะเบ็งเสียงถามกลับ แล้วก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมด้วย

ผมมองผิวแก้มเหี่ยว ๆ ของยาย ที่ดูมันจะเหี่ยวมากกว่าที่ผมเคยเห็นผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือตอนที่คอลคุยกันด้วยความรู้สึกหลากหลาย ก่อนจะก้มลงไปสูดกลิ่นเหม็นเขียวนั้นอย่างแรง

ฟอด!

“เล่นอะไรของเอ็ง” ยายต่อว่าผมอย่างไม่จริงจังนัก คงแค่กลบเกลื่อนความเขินมากกว่า แกเอาพัดมาตีแขนของผม พลางก็พูดเสียงเบาแทบไม่ได้ยิน “ยายก็คิดถึงเอ็งเหมือนกัน”

“ฮั่นแน่” ผมฉีกยิ้มล้อเลียน แล้วก็แกล้งดึงแกเข้ามากอดแน่น ๆ “ยอมรับแล้วใช่มั้ยล่ะว่าคิดถึงนินิว” ผมแทนตัวเองว่านินิวเหมือนตอนที่ย่างเข้าสู่วัยรุ่น แล้วเพื่อน ๆ มักจะมีชื่อสองพยางค์ ผมก็เลยเปลี่ยนชื่อเล่นให้ตัวเองบ้าง จากนิวเฉย ๆ เป็นน้องนินิว

“เออ ๆ ๆ ก็คิดถึงสิวะ ไม่มีคนให้คอยเอ็ดคอยว่า บางทีมันก็เหงาปากเหมือนกัน” ในที่สุดยายก็ยอมรับว่าคิดถึงผม และมันคงมากเลยแหละเพราะว่าผมแอบเห็นแกน้ำตาคลอ ๆ

“โอ๋ ๆ ๆ มาแล้ว นินิวกลับมาหายายแล้วนะ จะอยู่ให้ยายเอ็ดยายว่าสักสองเดือนเลยดีมั้ย” แล้วผมก็ตัดสินใจในนาทีนั้นว่าจะอยู่กับยายช่วงปิดเทอม ระหว่างนี้ก็จะหารายได้ เพื่อใช้เป็นค่าตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับไปเรียนต่อด้วย

พอแดดร่มลมตกยายก็ชวนผมเก็บแผง แกบอกว่าจะรีบกลับไปทำอาหารเย็นให้ผมกิน ผมช่วยยายเข็นรถเข็นที่เทินอาหารทะเลแห้งกับปลาทูหลายเข่งเดินทะลุหลังตลาดมาจนถึงหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ มีป้ายชื่อสลักสีแดงเหลือบทองว่า ‘กลิ่นโกมุท’

ไม่ต้องตกใจไปครับ นั่นไม่ใช่บ้านของผม แฮร่…

แต่เป็นบ้านหลังใหญ่ที่ผมแอบเข้าไปเล่นน้ำในสระบัวแดงนั้นอยู่บ่อย ๆ เพราะป้าของผมทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ที่นั่น

“ทำไมมันดูโทรมเร็วจัง” ผมมองลอดรั้วเข้าไป พลางก็ถามยายอย่างสงสัย บ้านหลังใหญ่สีขาวอมเทาที่เคยสวยอลังการกว่าบ้านหลังไหน ๆ ในย่านนี้ ป้าปรางค์เคยเล่าว่ามันเป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ แม้ว่าจะถูกต่อเติมมาเรื่อย ๆ จากทายาทรุ่นหลัง ๆ แต่มันก็ยังหลงเหลือกลิ่นอายของความเก่าแก่อยู่บ้าง แต่ดูเหมือนว่าทายาทคนปัจจุบันจะดูแลมันไม่ค่อยดีเท่าไรนัก

“ก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลานั่นแหละ คุณเพียงฝันท่านก็เจ็บออด ๆ แอด ๆ สามวันดีสี่วันไข้ ตอนนี้ก็นอนเป็นผักอยู่ในโรงพยาบาลโน่นแน่ะ ลูกหลานก็ไม่มี น่าเวทนา”

ยายเล่าให้ผมฟังด้วยน้ำเสียงเวทนาจริง ๆ เพราะคุณเพียงฝันที่ยายพูดถึงเป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ ตอนนี้คงอายุสักเก้าสิบแล้วละมั้ง ลูกผัวก็ไม่มี

“แล้วตอนนี้มีใครอยู่มั้ยยาย”

“ไม่มีหรอก คนงานในบ้านก็ลาออกกันไปหมดแล้ว เหลือแต่นังปรางค์ที่มันยังคอยเข้าไปทำความสะอาดให้อาทิตย์ละครั้ง แล้วก็คอยดูแลคุณเพียงฝันอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะเขายังจ่ายค่าจ้างให้มันอยู่ เห็นว่าสั่งจ่ายเข้าบัญชีเป็นรายเดือนละมั้ง”

“เขาขายมั้ยยาย นิวอยากได้จัง” ผมจ้องมองเข้าไปในบ้านด้วยแววตาเพ้อฝัน เพราะรู้สึกผูกพันเหลือเกิน

โป๊ก!

ทันใดนั้นอะไรบางอย่างที่มันไม่แข็งมากนักก็ลอยหวือมาฟาดหัวผมจนต้องร้อง “โอ๊ย!”

ที่แท้มันเป็นถุงปลาหมึกบดที่อยู่ในมือยายนั่นเอง

“เอ็งฝันอยู่เรอะ? คงต้องถูกล็อตเตอรีรางวัลที่หนึ่งสักยี่สิบใบละมั้งถึงจะซื้อได้น่ะ”

“ก็ไม่แน่หรอกยาย นิวอาจจะซื้อได้ก็ได้นะ”

“ตื่น! แล้วก็เข็นรถระวัง ๆ ด้วยล่ะ”

ยายรีบปัดความฝันของผมทิ้งอย่างไม่เหลือให้ลุ้นกันเลยทีเดียว เฮ้อ! ผิดอะไรที่ผมจะฝันล่ะ ตอนเด็ก ๆ ผมจำเรื่องเล่าของพ่อได้ ว่าพ่อเจอกับแม่ที่บ้านหลังนั้น เพราะคุณเพียงฝันเป็นเพื่อนของคุณปู่ ตอนที่พ่อต้องย้ายมารับราชการที่นี่สี่ปี คุณเพียงฝันก็เลยให้พ่อมาพักที่นี่

ตอนนั้นป้านวลปรางค์กับแม่นวลอนงค์ของผมเป็นคนรับใช้ในบ้านกลิ่นโกมุท คงเดากันได้แล้วใช่มั้ยล่ะครับว่าผมเกิดมาได้ยังไง ใช่ครับ พ่อผมดอดเข้าห้องแม่แทบทุกคืน จนผมมาจุตินั่นแหละ แล้วคุณหฤทัยก็ตามมาอาละวาดฟาดงวงฟาดงา แล้วก็ใช้เส้นสายสั่งย้ายให้พ่อกลับไปทำงานในกรุงเทพฯ

หลังจากห่างกับพ่อ แม่ก็มีผัวใหม่เป็นชาวต่างชาติที่ไม่รู้เหมือนกันว่าชาติไหน แล้วแม่ก็ทิ้งผมไว้กับยายและป้า แล้วก็ไม่เคยกลับมาหาผมอีกเลย

คุณปู่คุณย่าไม่เคยมาดูดำดูดีผม ตอนแรกจะไม่ยอมให้ผมใช้นามสกุลท่านด้วยซ้ำ ดีที่พ่อยังมีความเป็นพ่ออยู่บ้างจึงดึงดันที่จะให้ผมใช้ พ่อรับรองผมเป็นลูก ผมถึงได้เข้าเรียนในโรงเรียนดี ๆ ด้วยสวัสดิการของข้าราชการ แต่กระนั้นคุณหฤทัยก็คอยตามกลั่นแกล้งมาตลอด เป็นไงครับ ชีวิตวัยเด็กของผม น่าเวทนามั้ยล่ะครับ

ผมโตมาในบ้านไม้เก่า ๆ ที่อยู่หลังคฤหาสน์กลิ่นโกมุท แล้วผมก็ชอบมุดรั้วเข้าไปเล่นน้ำในสระที่มีดอกบัวสีแดงนั่น ชอบมองบ้านหลังใหญ่หลังนั้น

ผมเคยแอบได้ยินคุณเพียงฝันคุยกับเพื่อนของเธอ จึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ได้เป็นแค่เพื่อนเก่าของคุณปู่ แต่เป็นคนรักเก่าต่างหาก มันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าถ้าปู่ได้กับคุณเพียงฝัน ผมก็ได้เป็นทายาทคนหนึ่งของกลิ่นโกมุทไปแล้ว ไม่น่าพลาดเลยปู่… เฮ้อ

ผมตื่นจากฝันลม ๆ นั่นเมื่อเข็นรถมาถึงบ้านไม้หลังเก่า ๆ ที่ผมเล่าไปเมื่อครู่ ซึ่งตอนนี้มันเก่าแล้วเก่าอีกจนจะพังลงมาอยู่แล้ว ก่อนจะได้ยินเสียงคนเอ่ยถามมาจากข้างในว่าทำไมวันนี้ยายกลับเร็วจัง

ไม่นานหญิงวัยกลางคนท่าทางใจดีก็เดินออกมา พอเห็นผมเข้าเธอก็เบิกตากว้าง แล้วก็เดินเร็ว ๆ เข้ามากอดผม

“นิว! กลับมาตั้งแต่เมื่อไร”

ป้านวลปรางค์ของผมเองครับ ผู้หญิงคนที่สองที่เลี้ยงดูผมมา

“เพิ่งมาถึงวันนี้แหละป้า นินิวคิดถึงป้าจังครับ” ผมกอดตอบ ไม่วายหอมแก้มฟอดใหญ่เหมือนที่ทำกับยาย

“ไหนยายเราว่าจะมาอาทิตย์หน้า” ป้าถามเหมือนยายเป๊ะ

“เซอร์ไพรส์!” ผมก็ตอบเหมือนเดิมเป๊ะเช่นกัน

“มา ๆ ๆ ป้ากำลังทำกับข้าวเอาไปให้คุณเพียงฝันที่โรงพยาบาล เดี๋ยวกินข้าวกันก่อนแล้วป้าค่อยไป แล้วคืนนี้จะกลับมานอนคุยด้วยนะ คิดถึงหลานมาก ๆ” ป้าปรางค์กุลีกุจอดึงข้อมือผมเข้าไปในบ้านหลังเล็กของพวกเรา จับผมนั่งลงบนเก้าอี้หวายเก่า ๆ แต่สะอาดสะอ้านเพราะป้าเป็นคนรักความสะอาดมาก แล้วก็รีบไปทำอาหารต่อ

พอได้ยินว่าป้าจะกลับมานอนคุยกับผมให้หายคิดถึง ผมก็เกิดสงสัยขึ้นมา เพราะจำได้ว่าป้ามีห้องนอนเป็นของตัวเองในคฤหาสน์กลิ่นโกมุทเพราะต้องอยู่เป็นเพื่อนคุณเพียงฝัน ผมจึงอดไม่ได้ที่จะถาม

“เดี๋ยวนี้ป้าไม่ได้นอนในบ้านนั้นแล้วเหรอครับ” ผมพเยิดหน้าไปทางบ้านของคุณเพียงฝัน

แล้วป้าก็รีบส่ายหน้า เอามือขึ้นมาลูบแขนตัวเองราวกับว่าอากาศมันหนาวทั้ง ๆ ที่ผมนั่งเหงื่อแตกพลั่กเพราะความจริงแล้วอากาศโคตรจะร้อน แล้วป้าก็เตือนผมด้วยท่าทางจริงจัง

“นิวจะเข้าไปเดินเล่นวิ่งเล่นในกลิ่นโกมุทสุ่มสี่สุ่มห้าเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วนะ โดยเฉพาะตอนกลางคืน”

“ทำไมเหรอครับป้า?”

ป้าปรางค์ไม่ตอบ แต่ทำท่าทางที่ผมจะใช้คำจำกัดความอะไรอื่นไปไม่ได้นอกจาก

บรื๋ออออออ!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel