
บทย่อ
นิยายชุด Fantasy Romance. รวมนิยายแฟนตาซีอิโรติก สุดซี๊ด หญิงสาวที่มาพร้อมกับเรื่องราวแสนอัศจรรย์ ในคืนคริสต์มาส เธอทำให้เขาเร่าร้อน โหยหา และมิอาจลืมค่ำคืนแสนวิเศษนี้ได้เลย “คืนนี้... ผมจะทำให้คุณเร่าร้อนยิ่งกว่าคืนไหนๆ ”
คืนร้อนซ่อนเสน่หาตอนที่ 1
บ้าน เลขที่ 27 ถนน Via Cappello, Verona Italy…
ชายหนุ่มหญิงสาวหลายคู่พากันมาที่นี่ พอเดินผ่านอุโมงค์ทางเข้าต่างหยุดที่กำแพงหยิบกระดาษมาเขียนข้อความติดไว้
บนกำแพงมีข้อความมากมาย จนแทบไม่มีพื้นที่ว่าง บางคนจึงเลือกติดกระดาษทับซ้อนข้อความของผู้อื่น หลากหลายข้อความ หลากหลายภาษา ล้วนมีความหมายคล้ายคลึงกัน นั่นคือ คำอธิษฐานและขอพรเรื่องความรักของตนเอง
“คุณอยากเขียนอะไรไหม”
ชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวที่อยู่ข้างเขา เธอพยักหน้าเปิดกระเป๋าหยิบกระดาษโพสน์อิตสีชมพูออกมาพร้อมปากกา พอเห็นรอยยิ้มเก้อๆ ของเขาก็ยิ้มขำ คนถามคงไม่ได้เตรียมการมาพร้อมเท่ากับคนถูกถาม
แน่นอนล่ะ... เธออยากมาที่นี่ตั้งนานแล้ว และคงไม่พลาดสิ่งสำคัญนี้จึงเตรียมตัวมาอย่างดี
หญิงสาวจรดปลายปากกาเขียนข้อความที่เธอต้องการจนครบทุกคำ แล้วบรรจงติดกระดาษแผ่นนั้นบนกำแพง แล้วหันมาถามเขาว่า
“คุณอยากเขียนอะไรไหมคะ”
เธอส่งกระดาษพร้อมปากกาให้เขา ชายหนุ่มพยักหน้าพลางรับปากกากับกระดาษมาเขียนข้อความ เขาติดกระดาษแผ่นนั้นไว้ข้างกระดาษของเธอ แล้วหันมายิ้มให้
“คุณเขียนว่าอะไรครับ” เขาไม่เข้าใจข้อความในภาษาของเธอ
หญิงสาวยิ้มละมุนกวักมือให้เขาซึ่งตัวสูงกว่าเธอก้มหน้าลงมา แล้วเธอก็กระซิบบอกข้อความที่เธอเขียนให้เขาฟัง
“ฉันเขียนว่า... ขอให้พบกับคนที่จะเป็นรักแท้ และรักเดียวในชีวิตของฉัน”
“ผมขอให้คุณสมหวังนะครับ”
“แล้วคุณล่ะคะ คุณเขียนว่าอะไร”
เธอเองก็อยากรู้ เพราะเขาเลือกเขียนข้อความด้วยภาษาของเขา ไม่ใช่ภาษาอังกฤษที่คนทั่วไปอ่านออก เขาก้มลงมากระซิบข้างหูเธอบ้าง
“ขอให้คุณสมหวังนะคะ”
สองหนุ่มสาวมองหน้ากันแล้วยิ้ม ก่อนจะจับมือกันเดินเข้าไปภายใน Casa di Giulietta. หรือบ้านของจูเลียตนั่นเอง
หลังจากทั้งสองเดินผ่านไป ข้อความบนกระดาษของหญิงสาวก็ถูกมือของใครคนหนึ่งดึงออกมา เจ้าของมือมองตามแผ่นหลังบอบบางของเธอด้วยแววตาวาววับ ขยำกระดาษในมือไว้แน่น
“แล้วเธอจะได้รู้ว่า รักแท้ที่เธอตามหา มันไม่มีอยู่จริง!”1
We wish you a Merry Christmas;
We wish you a Merry Christmas;
We wish you a Merry Christmas and a Happy New Year…
เสียงเพลงดังแว่วมาตามท้องถนน แสงไฟพริบพราวหลากสีบนต้นสนต้นใหญ่ ประดับตกแต่งด้วยลูกบอลสีทอง ระฆัง กล่องของขวัญ และตุ๊กตา ตัวเล็กตัวน้อย บรรยากาศรื่นเริงแสนสนุกสุขสันต์ ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นในค่ำคืนแสนวิเศษของผู้คน
ร่างเล็กสวมเสื้อกันหนาวสีชมพูแต่งระบายบนคอเสื้อและปลายแขนเสื้อด้วยขนเฟอร์สีขาวปุยน่ารัก สวมกางเกงสกินนี่สีดำกับรองเท้าบูทสีเดียวกัน เธอเกาะขอบหน้าต่างของห้องพักบน อพาร์ทเมนท์มองดูผู้คนด้วยความเบิกบานใจ
คริสต์มาสปีนี้เป็นปีที่นีรณากำลังจะพาตัวเอง ไปร่วมฉลองคริสต์มาสกับครอบครัวของเดวิด อัลเนโร เจ้านายของเธอตามคำเชิญของเขา
“ผมอยากแนะนำคุณให้ครอบครัวผมรู้จัก มานะครับได้โปรด”
“ยินดีค่ะ”
นีรณาแทบไม่เสียเวลาคิด เธอรีบตอบรับคำเชิญนั้นในทันที
สำหรับชาวตะวันตกที่นับถือศาสนาคริสต์ วันคริสต์มาสเป็นวันฉลองวันประสูติของพระเยซูผู้เป็นศาสดาของศาสนาคริสต์ และเป็นการฉลองความรักของพระเจ้าที่มีต่อมวลมนุษย์ แต่ละครอบครัวจะร่วมดื่มกินเฉลิมฉลองถือว่าเป็นวันที่คนในครอบครัวอยู่พร้อมหน้ากัน
นีรณามาอยู่ที่อิตาลีได้หนึ่งปีแล้ว เธอเป็นจิตรกรชาวไทยหนึ่งในไม่กี่คนที่ผลงานได้รับการยอมรับให้นำมาแสดงที่แกลลอรี่ของเดวิด อัลเนโร ชายหนุ่มชาวอิตาลีผู้เป็นทั้งนักธุรกิจและศิลปินชื่อดัง เขาหล่อเหลาทรงเสน่ห์จนมีสาวๆ ข้างกายไม่เคยขาด แต่สำหรับนีรณาเขาให้เกียรติเธอในฐานะเพื่อนร่วมงาน เธอเองก็ชื่นชมผลงานของเขาไม่น้อย จนรู้สึกว่าเขาคือเพื่อนชายที่เธอไว้วางใจคนหนึ่ง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก !!!
เสียงเคาะประตูทำให้หญิงสาวละสายตาจากภาพของผู้คนบนถนน ปิดหน้าต่างห้องก่อนจะเดินไปเปิดประตูด้วยคิดว่าเดวิดคงมารับเธอแล้ว แต่พอเปิดประตูออกไปกลับพบชายแปลกหน้าคนหนึ่งสวมชุดคนขับรถเป็นสูทสีเข้มสวมหมวกแก๊ปบนศีรษะ มีแว่นกรอบหนาบนดวงตา ทำให้มองเห็นหน้าไม่ชัด รูปร่างของเขาสูงใหญ่พอๆ กับเดวิด
“เจ้านายสั่งให้ผมมารับคุณนีน่าครับ”
เขาเอ่ยขึ้น พลางค้อมศีรษะด้วยท่าทางสุภาพ นีรณาพยายามมองใบหน้าของเขา แต่อีกฝ่ายตัวสูงกว่าและมีแว่นและหมวกสวมปิดบังใบหน้ากว่าครึ่ง เธอไม่เคยเห็นคนขับรถของเดวิดมาก่อน ปกติเจ้านายของเธอมักจะขับรถสปอร์ตสีแดงของเขาด้วยตัวเอง
“คุณเดวิด สั่งให้มารับฉันเหรอคะ” เธอยังคลางแคลงใจ
“เชิญทางนี้ครับ ผมจอดรถไว้ที่ด้านหน้าทางเข้า”
อีกฝ่ายไม่ตอบคำถาม เดินนำหน้าเธอไปเหมือนบังคับให้เธอต้องเดินตามเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ นีรณาหยิบมือถือมากดโทรหาเดวิดแต่ปลายสายไม่มีสัญญาณตอบรับ เธอมองแผ่นหลังกว้างของคนขับรถอย่างใช้ความคิด เดวิดคงไม่ว่างมารับเธอด้วยตัวเอง จึงส่งคนขับรถมารับแทน หญิงสาวปัดความระแวงออกจากใจ ก่อนจะตัดสินใจเดินตามหลังเขาไป
รถยนต์หรูสีดำจอดอยู่ที่ข้างกำแพงหน้าทางเข้าอพาร์ท เม้นท์ คนขับรถไม่ได้นำรถไปจอดที่ลานจอดรถแต่เลือกจอดบริเวณนี้ เขาเปิดประตูด้านหลังคนขับให้เธอนั่ง นีรณาเข้าไปนั่งด้านในปล่อยให้อีกฝ่ายปิดประตูรถ เธอมองร่างสูงใหญ่ของเขาประจำที่คนขับนำรถเคลื่อนออกจากที่แห่งนั้น เขายังคงทำหน้าที่อย่างเรียบร้อย ไม่ชวนคุย ตั้งใจขับรถ ทำให้หญิงสาวคลายความระแวงลง เปลี่ยนมาหันมองวิวข้างทางแทน
นีรณาเดินทางจากบ้านเกิดเมืองนอนมายังดินแดนที่มีชื่อด้านศิลปะแห่งนี้ ด้วยความหวังว่าการร่วมงานกับศิลปินชื่อดัง อย่างเดวิด อัลเนโร จะทำให้ผลงานของเธอเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และมันก็เริ่มเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆ มีคนสนใจผลงานของเธอ มีผู้ว่าจ้างให้เธอเขียนรูปให้หลายคน เธอมีรายได้มีความสุข มีเจ้านายและเพื่อนร่วมงานที่ดี ชีวิตยังต้องการอะไรมากกว่านี้อีกหนอ
จนกระทั่งก่อนคริสต์มาสเดวิดได้พาเธอไปเที่ยวที่ Casa di Giulietta. หรือบ้านของจูเลียต และเธอก็เขียนคำอธิษฐานแปะไว้บนกำแพงของที่นั่น คำอธิษฐานที่เธอไม่รู้ว่ามันจะเป็นจริงไหม แต่ก็เลือกที่จะเขียนข้อความนั้นลงไป
‘ขอให้พบกับคนที่จะเป็นรักแท้ และรักเดียวในชีวิตของฉัน’
บางทีเดวิดอาจจะเป็นคนคนนั้น หญิงสาวเคยถามตัวเอง แต่คำตอบในหัวใจกลับบอกว่า ชายหนุ่มเป็นเพียงเพื่อนที่ดี และเขาก็มีเสน่ห์กับผู้หญิงมากเกินไป แม้เขาจะให้เกียรติเธอ ทว่าเธอกลับไม่เคยรู้สึกกับเขาเกินคำว่าเจ้านายและเพื่อนร่วมงานเลย เช่นเดียวกับเขาที่ไม่อาจมอบตำแหน่งผู้หญิงคนเดียวข้างกายเขาให้เธอได้ การเป็นเพื่อนคือคำตอบที่ดีที่สุดของทั้งคู่
“บางทีเราสองคนอาจจะเหมาะที่จะแต่งกับงาน มากกว่าจะแต่งงานกันนะ”
นีรณายิ้มเมื่อนึกเจ้าของประโยคนี้ เดวิดกับเธอมีความเป็นศิลปินสูง เธอกับเขาต่างมีโลกส่วนตัวโลกที่ใครก็ไม่อาจเข้ามาถึง เขาเคยบอกว่าเขาอยู่เพื่อรอคอยใครสักคน ในขณะที่เธออยู่เพื่อรอคอยรักแท้ที่ไม่รู้ว่ามีจริงไหม...
“ถึงแล้วครับ”
เสียงนี้ ปลุกนีรณาให้ตื่นจากภวังค์ความคิด
ประตูรถฝั่งของเธอถูกเปิดออก หญิงสาวก้าวเท้าลงไปแล้วนิ่วหน้า เมื่อพบว่าคนขับรถพาเธอมาที่บ้านหลังหนึ่งบ้านหลังนี้ไม่มีการตกแต่งไฟหรือต้นคริสต์มาสให้เห็น และยังอยู่ห่างไกลจากบ้านหลังอื่น มีกำแพงสูงล้อมรอบพื้นที่ รถจอดอยู่หน้าประตูบ้าน ขณะประตูรั้วเลื่อนปิดช้าๆ มองไปรอบๆ ก็ไม่พบผู้คนนอกจากเธอและชายคนขับรถ
“เชิญทางนี้ครับ”
คนขับรถเปิดประตูบ้านผายมือเชื้อเชิญ ทว่า... นีรณายังยืนอยู่ที่เดิม หญิงสาวมองผ่านบานประตูเข้าไปในตัวบ้าน ก่อนจะถอยหลังกรูดเมื่อไม่เห็นวี่แววของผู้คนในบ้าน ไม่มีเสียงเพลง ไม่มีงานเลี้ยง และไม่มีเดวิดเจ้านายของเธอรออยู่ หัวใจดิ่งวูบความระแวงในนาทีแรกเข้ามาเกาะกุมหัวใจอีกครั้ง
“ที่นี่ที่ไหน”
เธอถามเสียงสั่น ขยับถอยออกห่างเรื่อยๆ มองประตูรั้วสูงที่ยังปิดสนิท ถ้าเกิดอะไรขึ้นเธอจะสามารถปีนออกไปจากที่นี่ได้ไหม
