3
“ดีแล้วครับ ไม่ค่อยถนัดทำของหวานเท่าไร”
สายตาทั้งคู่สบกันในความเงียบ มีเพียงเสียงฝนเป็นฉากหลัง หัวใจของพิมพ์แก้วเต้นแรงจนแทบเก็บไม่อยู่ ส่วนก้องภพก็ได้แต่ก้มหน้าลงซ่อนรอยยิ้มที่ไม่เคยเกิดขึ้นง่าย ๆ แบบนี้มานาน
ช่วงเวลาสั้น ๆ ใต้ฝนพรำในกระท่อมกลางนา กลายเป็นความทรงจำที่ทั้งคู่จะไม่มีวันลืม
“คิดถึงตอนเด็กๆ นะ” เขาเอ่ยขึ้น
“ค่ะ ตอนนั้นพี่ภพกับพี่ชาติสนิทกันมา เวลาไปไหนมาไหนก็จะพาพิมพ์ไปด้วยเสมอ”
“ก็พิมพ์เป็นน้องสาวตัวน้อยที่พวกเราหวงไง” เขายื่นมือไปวางบนศีรษะเล็กๆ ก่อนจะโยกไปมาเบา ๆ การกระทำของเขาทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหว
เธอไม่อยากให้เขาคิดว่าเธอเป็นแค่น้องสาวเลยสักนิด
วันรุ่งขึ้น เสียงกลองยาวและแตรวงดังสนั่นไปทั่วลานวัด ธงสีสดปลิวไสวเหนือศีรษะ ผู้คนแต่งชุดพื้นบ้านเดินเล่นกันอย่างครึกครื้น พิมพ์แก้วยืนอยู่หน้าร้านขนมของตนเองที่เพิ่งตั้งแผงในงานวัดปีนี้ ถาดขนมพื้นบ้านหลากชนิดถูกจัดเรียงอย่างสวยงาม กลิ่นหอมหวานลอยฟุ้งไปทั่ว
“ขนมน่ากินจังเลยนะคะน้องพิมพ์” ลูกค้าหลายคนชมไม่ขาดปาก
พิมพ์แก้วยิ้มรับ แต่สายตาก็แอบมองหาก้องภพ เธอรู้ว่าเขาสัญญาว่าจะมาช่วยดูเด็ก ๆ ที่พามาเที่ยวงาน แต่ก็ยังแอบหวังว่าเขาจะแวะมาที่ร้านด้วย
ไม่นานนัก ก้องภพก็ปรากฏตัว เขาใส่เสื้อเชิ้ตลายสก็อตกับกางเกงยีนส์ตัวเก่ง แต่กลับดูสะอาดตาและอบอุ่นในสายตาของพิมพ์แก้ว
“ร้านขนมคนแน่นเลยนะ” เขาเอ่ยทัก พลางช่วยพยุงถาดขนมที่พิมพ์แก้วกำลังจะยกขึ้นโต๊ะ
“เด็ก ๆ ชอบค่ะ พิมพ์เลยทำเพิ่มมาเยอะหน่อย” เธอตอบพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ
ทันใดนั้น ก็มีชายต่างถิ่นสองสามคนเดินเข้ามา หน้าตาไม่คุ้นเคย คนหนึ่งหยิบถาดขนมขึ้นมาแรงเกินไปจนเกือบหก
“อันนี้เท่าไหร่ เอามาเร็ว ๆ จะรีบไป!” น้ำเสียงห้วนจัดจนพิมพ์แก้วตกใจ
“เดี๋ยวจัดให้ค่ะ” ยังพูดไม่ทันจบ ก้องภพก็ก้าวเข้ามาขวางอยู่เบื้องหน้า สายตาเขาแน่วแน่
“ช่วยวางถาดลงก่อนครับ อย่าทำให้ของเสียหาย”
ชายคนนั้นชะงัก มองเขาอย่างไม่พอใจ แต่ก้องภพยืนมั่นคง ไม่หลบสายตา เสี้ยววินาทีนั้นพิมพ์แก้วสัมผัสได้ถึงความจริงจังและปกป้องของเขา เจ้าหน้าที่งานวัดเดินผ่านมา ก้องภพรีบเรียก
“รบกวนช่วยดูตรงนี้หน่อยครับ มีคนทำรุ่มร่ามกับร้านค้า” พอเจ้าหน้าที่เข้ามา ชายต่างถิ่นเหล่านั้นก็ถอยไปอย่างไม่เต็มใจ ทิ้งบรรยากาศตึงเครียดไว้ชั่วครู่
พิมพ์แก้วหันมามองก้องภพด้วยแววตาเต็มไปด้วยความขอบคุณ
“เมื่อกี้ขอบคุณนะคะ ถ้าไม่มีพี่ภพ พิมพ์คงทำอะไรไม่ถูก” ก้องภพยิ้มอ่อนโยน
“หน้าที่ครูไม่ใช่แค่ดูแลเด็ก ๆ หรอกนะ แต่ดูแลคนในหมู่บ้านด้วย” คำพูดเรียบง่ายนั้นทำให้หัวใจของพิมพ์แก้วอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด เธอหันไปขายขนมต่อ แต่ในใจกลับสั่นไหวทุกครั้งที่คิดถึงแววตาจริงจังของเขาเมื่อครู่
เช้าวันถัดจากงานวัด เสียงลมพัดใบข้าวพลิ้วไหวไปทั่วท้องนา ก้องภพเดินตรวจแปลงนาเรียนรู้ พร้อมกับเด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นหัวเราะกันอย่างร่าเริง
ทันใดนั้น เด็กหญิงคนหนึ่งวิ่งมาสะกิดแขนของเขาแล้วเอ่ยอย่างใสซื่อ
“ครูภพคะ เมื่อวานครูกับพี่พิมพ์เดินด้วยกันที่งานวัดใช่ไหมคะ แม่บอกว่าครูกับพี่พิมพ์ดูเหมาะสมกันมากเลย” เด็ก ๆ รอบข้างหัวเราะคิกคัก บ้างก็ปรบมือแซวกันเสียงดัง
ก้องภพถึงกับเกาหัว เขาหน้าแดงแต่ยังคงยิ้ม
“เด็ก ๆ อย่ามาแซวครูสิครับ ครูเขินแย่แล้วเนี่ย”
ในเวลาเดียวกันที่ตลาดเช้า พิมพ์แก้วก็กำลังโดนแม่ค้าในละแวกเดียวกันแซวไม่แพ้กัน
“พิมพ์จ๊ะ เมื่อคืนเห็นเดินอยู่กับครูภพ น่ารักดีออก เขาเป็นครูที่ดี มีอนาคต เขามาจีบเหรอ”
“ไม่ใช่นะคะ พี่ภพเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ชายของพิมพ์ก็แค่นั้นเอง” เขายังไม่มาจีบมาสารภาพรัก เธอจะยอมได้ยังไง ถ้าเกิดเขาไม่ได้คิดกับเธอเหมือนที่เธอคิด ก็หน้าแตกน่ะสิ
“ใช่ ๆ เห็นช่วยปกป้องพิมพ์ด้วย คนอะไรทั้งเก่งทั้งอบอุ่น” เหมือนแม่ค้าพ่อค้าข้างๆ จะไม่ได้สนใจในคำปฏิเสธของเธอ แต่ยังเชียร์ไม่เลิก
พิมพ์แก้วหน้าแดงจัดจนต้องรีบก้มหน้าหยิบขนมให้ลูกค้า
“อย่าแซวกันสิคะ พิมพ์ยังไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นสักหน่อย” แต่ในใจกลับสั่นไหว ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเหตุการณ์เมื่อคืนกับสายตาจริงจังของก้องภพยังคงวนเวียนอยู่ในหัวเป็นความประทับใจเล็กๆ ที่เกิดขึ้น และสะสมมานานหลายปี ตั้งแต่เด็กๆ ที่เขาคอยปกป้องเธอมาตลอด แม้ในเวลานั้นจะเป็นเพียงแค่ฐานะพี่ชายคนหนึ่ง แต่สั่งสมมาหลายปีก็กลายเป็นความประทับใจที่ยากจะลืมเลือน
เธอไม่เคยมีแฟนหรือคนรัก เพราะหัวใจของเธอได้มอบให้เพื่อนพี่ชายอย่างก้องภพไปนานแล้ว
ยามบ่าย ก้องภพแวะไปที่ตลาด เขาเห็นพิมพ์แก้วกำลังขายขนมเหมือนเคย พอเดินเข้าไปใกล้ เด็กนักเรียนที่มากับผู้ปกครองก็ร้องทักเสียงดัง
“พี่พิมพ์ หวานใจครูภพ!” ทั้งตลาดหันไปมองพร้อมรอยยิ้ม พิมพ์แก้วอ้าปากจะปฏิเสธ แต่พอเหลือบตาไปเห็นก้องภพยืนอยู่ข้าง ๆ ก็พูดไม่ออก ใบหน้าร้อนผ่าวจนต้องรีบหันหนี ก้องภพหัวเราะเบา ๆ พลางหันไปพูดกับเด็ก ๆ
“อย่าแซวครูกับพี่พิมพ์เล่นสิครับ เดี๋ยวพี่พิมพ์เขาจะอาย” คำพูดนั้นไม่ได้ทำให้ข่าวลือซาลง กลับยิ่งทำให้หัวใจของพิมพ์แก้วเต้นแรงกว่าเดิม เพราะลึก ๆ เธอก็อยากให้เรื่องนี้เป็นจริง แต่เธอเป็นผู้หญิงจะไปบอกรักผู้ชายก่อนก็กระไรอยู่
ห้องสมุดหลังเล็ก ๆ ของโรงเรียนบ้านทุ่งแสงดาวเต็มไปด้วยฝุ่นเกาะตามชั้นหนังสือ โต๊ะเก้าอี้บางตัวโยกคลอน ก้องภพเดินสำรวจแล้วถอนหายใจเบา ๆ
“ต้องซ่อมเยอะเลยแฮะ แต่ถ้าจัดใหม่ เด็ก ๆ คงมีที่อ่านหนังสือดี ๆ สักที”
บ่ายวันนั้น พิมพ์แก้วแวะเอาขนมมาฝากเด็ก ๆ ที่โรงเรียน พอเห็นก้องภพยืนปัดฝุ่นอยู่ในห้องสมุด เธอก็ยิ้มแล้วเดินเข้าไปช่วยในทันที
“พี่ภพ นี่กะจะจัดห้องสมุดใหม่เองเลยเหรอคะ”
ก้องภพหันมายิ้มอ่อนโยน มือยังคงเช็ดฝุ่นตามชั้นหนังสือ
“ก็อยากให้เด็ก ๆ มีที่นั่งอ่านหนังสือดี ๆ น่ะครับ แต่พี่ยังไม่เก่งเรื่องตกแต่งเท่าไร ถ้ามีพิมพ์ช่วยก็คงดี”
พิมพ์แก้วหัวเราะเบา ๆ
“งั้นเดี๋ยวพิมพ์เป็นแม่บ้านห้องสมุดให้เองค่ะ” ทั้งคู่ช่วยกันจัดชั้นหนังสือ ขนเล่มที่ชำรุดออก ก้องภพปีนบันไดไปหยิบหนังสือที่วางสูงเกินเอื้อม ขณะเดียวกันพิมพ์แก้วก็กำลังยกกล่องหนังสืออยู่ด้านล่าง
ทันใดนั้น บันไดโยกเล็กน้อย ก้องภพเสียหลัก เขารีบคว้าขอบชั้นแต่ก็ยังเซลงมาโชคดีที่พิมพ์แก้วเอื้อมมือรับไว้พอดี
ร่างของทั้งสองใกล้กันเสียจนต่างได้ยินเสียงลมหายใจ พิมพ์แก้วหน้าแดงจัด รีบผละออกเล็กน้อย
“ระวังหน่อยสิคะพี่ภพ ตกลงมาเดี๋ยวจะเจ็บตัวเอาค่ะ” ก้องภพหัวเราะแผ่ว ๆ มองสบตาน้องสาวเพื่อนอย่างลึกซึ้ง จนเธอต้องหลบสายตา ความใกล้ชิดนั้นทำเอาเธอใจสั่นสะท้านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
