6. รีสอร์ทริมแม่น้ำ
“โอโห!..พนักงานกิตติมศักดิ์ทั้งสองสาว มีความสุขกันจริง ๆ นะคร้าบ”
เสียงพูดพร้อมกับประตูกระจกออฟฟิศถูกผลักเข้ามา ทำให้สองสาวที่กำลังง่วนทำกิจกรรมส่วนตัวอยู่มีอันต้องสะดุ้ง ก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มรูปร่างสูงสง่าในชุดทะมัดทะแมงที่ก้าวเข้ามาภายในห้อง
“คนหนึ่งออนไลน์คุยกับหนุ่ม ๆ อีกคนนอนดูซีรีส์อย่างสบายใจเฉิบ เห็นทีประเมินผลการทดลองงานจะไม่ผ่านทั้งสองคนเสียแล้วละมั้ง”
ธีรนันท์ เจ้าของรีสอร์ท “ริมน้ำแคว” พูดเสียงดัง
“ฟ้าเอาข้อมูลลงในเพจ..ไม่ได้คุยกับหนุ่ม ๆ นะคะพี่เก่ง ฟ้าช่วยหาลูกค้ามาพักที่รีสอร์ทให้พี่เก่งต่างหากล่ะคะ”
อิงฟ้า รีบบอกเพราะสิ่งที่เธอกลัวมากที่สุดคือกลัวว่าธีรนันท์จะเข้าใจผิดว่าเธอมีหนุ่มคนอื่น อิงฟ้าอยากจะให้เขารับรู้เหลือเกินว่าผู้ชายคนเดียวในดวงใจของเธอนั้นมีเพียงคนเดียวคือธีรนันท์เท่านั้น ที่เธอแอบหลงรักเขามาตั้งแต่อายุสิบห้าปี จนป่านนี้อิงฟ้าอายุย่างเข้ายี่สิบสี่แล้ว ก็ยังรักมั่นคงอยู่กับผู้ชายคนนี้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะรู้ว่าธีรนันท์ มีแฟนสาวชาวต่างชาติ ชื่อเฮเลน อยู่แล้วก็ตาม
“ถ้าอย่างนั้นฟ้าผ่านการทดลองงานได้ เหลือแต่เรานะยัยเกรซ เข้ามาออฟฟิศทีไรเห็นอ่านแต่นิยายน้ำเน่า สมควรจะถูกไล่ออก”
ธีรนันท์ หันไปบอกกับ กัญญาวีร์ ผู้เป็นน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา ด้วยสายตาที่หยอกเย้าแกล้งดุ
กัญญาวีร์ กับ อิงฟ้า เป็นเพื่อนรักที่เรียนหนังสือด้วยกันมา ตั้งแต่ชั้นอนุบาลในตัวเมืองกาญจบุรี จนกระทั่งเรียนจบชั้น ม.6
ทั้งคู่ก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันในกรุงเทพฯได้อีกด้วย แต่คนละคณะ โดยกัญญาวีร์เรียนคณะศิลปะศาสตร์ ด้านภาษาต่างประเทศ ส่วนอิงฟ้าเรียนอยู่คณะบัญชี ระหว่างที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยจนเรียนจบปริญญาตรี ทั้งคู่ก็พักด้วยกันที่คอนโดในกรุงเทพฯ
แต่เวลานี้ ทั้งกัญญาวีร์ และอิงฟ้า ถูกเรียกตัวให้มาช่วยงานในรีสอร์ทของธีรนันท์ ได้สองเดือนกว่าแล้ว
“ใครบอกว่านิยายน้ำเน่า นี่มันเรื่องมีสาระทั้งนั้นเลยนะคะ แล้วเกรซก็อ่านเฉพาะช่วงที่ว่าง ๆ เท่านั้น เวลามีงานเข้ามาก็ทำเต็มที่เลยนะ ขอบอก”
กัญญาวีร์ อธิบายและยิ้มประจบให้กับพี่ชาย
“Only Love is real นี่มันชื่อนิยายน้ำเน่าชัด ๆ เลยนะยัยตัวแสบ หนังสืออีบุ้คพวกนิยายขายฝัน”
ธีรนันท์ แกล้งเดินมาส่องดูที่หน้าจอโน้ตบุ้คของน้องสาว และสายตาก็เห็นชื่อหัวข้อนั้นพอดี แต่เขาก็รู้สึกพอใจที่น้องสาว ชอบอ่านชอบดูเรื่องราวต่าง ๆ ในโลกโซเชียลที่เป็นภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ น้องสาวของเขาสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี ไม่แพ้พี่ชายที่เรียนจบมาจากต่างประเทศ
“มันเป็นหนังสืออีบุ้ค ประเภทฮาวทูต่างหาก เรื่องนี้จิตแพทย์เป็นคนเขียนจากประสบการณ์ที่บันทึกเรื่องราวจากการบำบัดคนไข้ด้วยวิธีสะกดจิตแบบระลึกชาติ”
กัญญาวีร์อธิบายอย่างคล่องแคล่ว
“โห..น้องสาวเรา..อ่านวิธีสะกดจิตเลยหรือ อย่ามาสะกดจิตให้พี่ขึ้นเงินเดือนให้ก็แล้วกัน”
ธีรนันท์ เอื้อมมือไปโยกศีรษะน้องสาวอย่างเอ็นดู
“ถ้าสะกดจิตกันได้ง่าย ๆ แบบนั้น เกรซจะสะกดจิตให้พี่เก่ง เขียนพินัยกรรม ยกกิจการทุกอย่างให้เกรซมากกว่า” .
น้องสาวบอกเสียงกลั้วหัวเราะ
“คิดจะฮุบสมบัติตั้งแต่พี่ยังไม่ตายเลยหรือไงวะ ดูเพื่อนเราสิฟ้า..งกแค่ไหน”
ธีรนันท์ หันไปขอแรงเสริมจากเพื่อนสนิทของน้องสาว
“ยัยเกรซ คงกลัวตอนที่พี่เก่งแต่งงานไปน่ะค่ะ เกิดพี่เก่งยกสมบัติทุกอย่างให้กับ...ภรรยาไปหมด ยัยเกรซก็อดสิคะ”
อิงฟ้า เกือบจะพลั้งปากเอ่ยชื่อภรรยาในอนาคตของเขาออกไปด้วยความช้ำใจ แม้อิงฟ้า จะไม่รู้ว่าเขาจะแต่งงานกับเฮเลนเมื่อไหร่ แต่ก็อดหวาดหวั่นในใจไม่ได้ว่า สักวันเขาก็คงจะแต่งงานกับคนรักของเขาอยู่ดีแต่อิงฟ้า ขอภาวนาอย่าเพิ่งให้เขาตัดสินใจแต่งงานเร็ว ๆ นี้เลยเพราะยังทำใจไม่ได้นั่นเอง
“อ้าว..พวกเดียวกันนี่หว่า..คิดว่าพี่จะยกสมบัติให้เมียหมดไม่เหลือเผื่อแผ่ให้น้องหรือยังไงล่ะ เอาเถอะถ้าพี่แต่งงานไปจริง ๆ สมบัติชิ้นไหนที่เป็นมรดกจากพ่อแม่ พี่ยกให้เธอหมดก็แล้วกัน พอใจรึยังล่ะ ยัยน้องขี้งก”
ธีรนันท์ หันไปบอกกับกัญญาวีร์โดยเฉพาะ
“ดีมากค่ะพี่ชาย...ยัยฟ้าช่วยเป็นพยานให้ฉันด้วยนะ”
กัญญาวีร์ หันไปบอกเพื่อนรักแบบหยอกล้อตามประสา
อิงฟ้ายิ้มแห้ง ๆ ด้วยหัวใจที่ชาวูบ เกิดวันนั้น ธีรนันท์ประกาศแต่งงานกับเฮเลนขึ้นมา คงเป็นวันที่อิงฟ้าจะต้องไปหาที่บวชชีพราหมณ์เพื่อทำใจเสียแล้วกระมัง
“ยัยเกรซ..เดี๋ยวเย็นนี้พี่จะเข้ากรุงเทพฯนะ พี่อยากจะให้เธอไปด้วยกัน”
ธีรนันท์ บอกน้องสาวอย่างเป็นการเป็นงานขึ้นมา
“ไปทำไมคะ” กัญญาวีร์ถามพี่ชาย
“พรุ่งนี้ต้องไปรับเพื่อนที่สนามบินสุวรรณภูมิน่ะสิ พี่อยากให้เราไปด้วย จำไม่ได้หรือไงที่บอกว่าจะมีแขกวีไอพี.ที่เฮเลน แนะนำมาให้เราต้องแทคแคร์เป็นพิเศษน่ะ”
“จำได้สิคะ แต่เย็นนี้ เกรซจะไปงานแต่งงานของเพื่อนที่ราชบุรี แล้วก็จะค้างที่นั่นด้วยค่ะ เกรซบอกพี่เก่งตั้งแต่สองวันก่อนแล้วนะคะ”
กัญญาวีร์ รีบบอกพี่ชายเป็นการเตือนความจำ
