บทย่อ
เมื่อหัวใจโบยบิน เพื่อมุ่งหาความรักคนคนนั้นจะต้องเป็นเขา************อนัญญา รักกสิกรรม ชื่อเล่น ผักกาด เธอเป็นสาวเนื้อ ขาวจั๊วะ น่าเจี๊ยะ หน้าตาพอไปวัดไปวา นิสัยตลกโปกฮา แต่ดูยังไง ๆ ก็น่ารักอิงครัต ศุการรังสฤกษ์ ชื่อเล่น เพียว หนุ่มหล่อ กล้ามโต Dark, tall, man and handsome หน้าตาดุดัน เคร่งขรึม แต่ที่นิสัยน่ารัก ใจดี เข้าได้กับทุกคน มีปมตอนเด็กคือ อ้วน ดำ หน้าตาน่าเกลียด เพราะชอบวิ่งเล่นตากแดดทั้งคู่ต่างประทับใจซึ่งกันและกัน มาตั้งแต่เด็ก มีแหวนแทนใจกันด้วย ที่เป็นของแถมจากในซองขนม ต่างสวมให้กันก่อนจาก นางเอกเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกของเธอที่มีการเจาะในเนื้อสมุดเพื่อใส่แหวนความคิดถึงที่สะสมมาตลอดเวลาที่ไม่ได้เจอกัน นางเอกคิดจะไปตามหาเขาที่ปักษ์ใต้ เมืองกระบี่ โดยที่มีเพียงแหวนเท่านั้น เป็นสิ่งนำทางจิตใจอยากเจอต้องได้เจอ เธอจะสมหวังไหมหรือว่า เป็นแผนของกามเทพ ให้ทั้งสองโคจรมาพบกัน
บทที่ 1
หวนระลึกถึงความหลัง
“คุณอนัญญา รักกสิกรรม เชิญที่ประตูทางออกหมายเลขสามสิบเอ็ดค่ะ ประกาศเป็นครั้งสุดท้าย คุณอนัญญา รักกสิกรรม เชิญที่ประตูทางออกหมายเลขสามสิบเอ็ดค่ะ เครื่องบินของท่านจะออกภายในสิบนาทีค่ะ”
หญิงสาวเจ้าเนื้อ สูงประมาณร้อยหกสิบห้า วิ่งกระหืดกระหอบพร้อมสัมภาระเต็มมือ
“อนัญญา รักกสิกรรมค่ะ” ยิ้มกว้างแบบสำนึกผิด เธอช้าเพราะดันลืมของสำคัญ สมุดไดอารี่ที่คอยจดเรื่องราวประจำวันของตัวเอง และในนั้นมันมีแหวนที่เพียวเคยให้ไว้
“ขอโทษนะคะที่ทำให้ทุกคนรอ”
“เชิญค่ะ” พนักงานภาคพื้นดินผายมือ หญิงสาวรีบเดินเข้าไปตามทาง
เมื่อไปบนเครื่องแล้ว เธอถึงกับถอนหายใจ บนเครื่องไม่มีคนมากเท่าไร จึงรีบเดินไปหาที่นั่ง ไม่นานเครื่องก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
อนัญญานั่งจับไดอารี่ที่อยู่ในกระเป๋า นึกไปถึงใบหน้าของใครคนนั้น สิบแปดปีที่ไม่ได้เจอกัน เขาจะเปลี่ยนไปแค่ไหน เขาจะไม่มีครอบครัวไปแล้วหรือ ฉันคงบ้าไปแล้วแน่ ๆ
เรื่องราวที่หอระรื่น
ตอนที่อนัญญาอยู่ปีสี่ เธอนั่งอยู่ต่อหน้าป้าระรื่น
“เป็นอะไร ดูหน้าดูตาเหมือนมีเรื่องจะถาม”
“ค่ะป้า หนูมีเรื่องจะถามป้าจริง ๆ ค่ะ”
“ว่ามา” ป้ารามือจากงานที่ทำ หันมาจ้องหน้าเธอ
“คือ หนูไม่รู้จะไปปรึกษาใครจริง ๆ ค่ะ หนูเคยได้เจอกับผู้ชายคนหนึ่ง ตอนที่หนูอายุเก้าขวบ เราสัญญาว่าจะแต่งงานกัน”
“ฮ่า...” ป้าระรื่นหัวเราะครืน
“ป้าคะ อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องเด็ก ๆ นะคะ หนูซีเรียสมากนะคะ จนป่านนี้ หนูก็ยังลืมเขาไม่ได้ หนูรู้ค่ะว่ามันเป็นแค่สัญญาของเด็ก ๆ เพียงแต่หนูอยากจะไปเจอเขาอีกสักครั้ง”
อนัญญาจ้องหน้าพร้อมกับแสดงออกถึงความไม่พอใจ
“แล้วหนูจะไม่ขัดเขินกันหรือ แปดเก้าขวบกับตอนนี้”
“อันนั้นหนูไม่รู้ค่ะ แต่หนูคิดอย่างเดียว อยากเจอเขา แค่ได้รู้ว่าเขาสบายดีแล้ว หนูก็คงโอเค” แววตาที่จริงจัง
ป้าระรื่นตบมือของนางมาที่หลังมือของอนัญญาเบา ๆ
“ชีวิตของคนเรา เราเกิดมาแค่ครั้งเดียว และตายครั้งเดียว อันไหนที่หัวใจปรารถนาที่จะทำ ก็ทำเสีย ตายไปจะได้ไม่เสียดาย อีกอย่างป้าเข้าใจหนูนะ ป้าก็เคยมีรักในวัยเด็กเหมือนกัน”
“ยังไงคะป้า เล่าสิ หนูอยากฟัง”
“เขาเป็นรุ่นพี่หนึ่งปี ตอนนั้นป้าเรียน มศ. หนึ่ง เขาอยู่ มศ. สอง ห้องเรียนของเขากับป้าติดกัน ป้าเห็นพี่เขาครั้งแรก ก็ปิ๊งเลยน่า ป้าก็เพียรแอบมอง จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้คุยกัน”
ตอนป้าที่เอ่ยถึงผู้ชายคนนั้น แววตาของป้าระรื่นเต็มไปด้วยความสุข
“ว้า... เป็นเหมือนหนูเลย” รู้สึกเสียดายแทน
“ไม่เหมือน” ป้าเปิดยิ้มกว้าง
“ยังไงคะ”
อนัญญาทำตื่นเต้น อยากรู้เรื่องต่อ เธอเขย่าป้าเบา ๆ
“ตอนที่มีงานปัจฉิมนิเทศ พี่เขาจะจบแล้ว ตอนนั้นป้าใจหายมาก คิดอยู่อย่างเดียว เป็นไงเป็นกัน อายเป็นอาย ป้าใจกล้ามาก ป้าซื้อดอกไม้ช่อหนึ่ง ใหญ่ประมาณนี้” ทำมือไปด้วย
“เป็นดอกกุหลาบสีชมพูทั้งหมด”
“ว้าว! โคตรโรแมนติกเลย ในตอนนั้นป้าคิดอะไรอยู่คะ” อนัญญานั่งทำตาซึ้ง มองเห็นความกล้าในแววตาของป้าระรื่น
“ป้าแค่คิดว่า มันเป็นโอกาสสุดท้ายที่ป้าจะได้เจอพี่เขา ที่เลือกดอกกุหลาบสีชมพู เพราะว่า ถ้าเป็นสีแดง ก็คือสารภาพรัก แต่ถ้าเป็นสีชมพูก็ยังความหมายกลาง ๆ แต่ก็สื่อได้ว่า ป้าชอบเขา”
“แล้วตอนนั้น เขาคนนั้นทำหน้าอย่างไรคะ”
“จุดที่มันน่าเขินอายไม่ได้อยู่ตรงที่ยื่นให้พี่เขาหรอก แต่จุดพีกคือ ตอนที่เดินถือช่อดอกไม้สีชมพูช่อใหญ่ เดินผ่ากลางกลุ่มคน และเพื่อน ๆ นี่สิ มันทำให้ใบหน้าของป้าแดงอยู่ตลอดเวลา”
“แต่หนูว่า ป้าโคตรเจ๋งเลยอะ”
“หัวใจของป้านะ เต้นแรงแทบทะลุออกมานอกอก มือเย็น เท้าเย็นไปหมด เหงื่อซึมออกตามใบหน้าและลำตัว ทั้ง ๆ ที่อากาศกำลังเย็นสบาย” ใบหน้าของป้าเปื้อนไปด้วยความสุข
“แล้วไงต่อคะ”
“ป้าฝ่าฝูงชนเข้าไปยื่นต่อหน้าพี่เขา แล้วป้าก็เรียกชื่อ”
“เขาชื่ออะไรคะ”
“พี่นะ ยินดีด้วยนะคะสำหรับความสำเร็จค่ะ” แม้จะเล่าในตอนนี้ แต่กิริยาที่ยื่นแขนออกไปข้างหน้า ใบหน้าของป้าระรื่นก็ยังแดง เอียงคอก้มเหมือนกำลังหลบสายตาของใครบางคน
“เขายิ้ม และที่เป็นปลื้มมาก ๆ เขายื่นมือมารับช่อดอกไม้”
“วู้!”
“เชื่อไหม มันโล่งอย่างบอกไม่ถูก ทั้งดีใจ และก็พูดไม่ออก”
“จากนั้นเป็นยังไงต่อคะ” พลางลุ้นไปด้วย
“พี่นะ ก็ถามชื่อของป้า พร้อมกับขอเบอร์โทร. ป้าก็ให้เบอร์ที่บ้านไปนะ”
“เขาโทร. มาไหมคะป้า”
ป้าระรื่นส่ายหน้าระรัว
“ไม่เคยเลยจ้า” แต่นางก็ยังยิ้ม
“ว้า... ทำไมพี่เขาใจดำแบบนี้นี่” ทำหน้าเศร้า
“ก็ดีแล้วที่ไม่โทร. มา เพราะเขาคงไม่ได้ชอบป้า”
“อีกอย่างสมัยนั้น ทุกคนจะจีบกันแบบสมัยนี้ไม่มีหรอก มันขัดเขินไปเสียหมด แต่ป้าคิดว่า ป้าไม่เสียใจแล้วแหละที่ได้ทำแบบนั้นลงไป” แววตาเต็มไปด้วยความสุข
“ตอนนี้ เขาไปอยู่ที่ไหนคะ”
“ได้ข่าวมาว่าไปอยู่หนองคาย แต่มันนานมาก ป่านนี้ พี่เขาคงไปเฝ้ารากมะม่วงแล้วมั้ง”
อนัญญาหัวเราะร่วน เธอรู้สึกดีใจที่มาปรึกษาถูกคน และเธอก็ได้คำตอบกับตัวเองแล้วว่า จากนี้เธอจะทำอย่างไรต่อไป
ในขณะนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาป้าระรื่น
“หนูมาจ่ายค่าหอค่ะ” พีชญา ที่อยู่ห้องถัดอนัญญาไปสามห้อง
“เข้ามาสิหนู”
“ป้าค่ะ ขอบคุณมากค่ะ หนูไปก่อนนะคะ” อนัญญารีบลุกขึ้น และส่งยิ้มให้กับพีชญา เธอก็ยิ้มตอบ
‘อ้วนขึ้นหรือเปล่านะ เมื่อก่อนตัวนิดเดียว ตอนนี้จะเท่าเราแล้ว อื้อ... ผู้หญิงตัวผอมบางร่างเล็ก แล้วอวบอั๋นขึ้นผิดหูผิดตาเนี่ย หรือว่า จะท้อง’
‘ไม่แน่ เมื่อวันก่อนเดินผ่านใครก็ไม่รู้ มันมืดมองไม่เห็นหน้า เอ่ยชื่อ พีซ ว่าไปนอนกับผู้ชาย หรือว่า เป็นคนนี้ และเป็นเรื่องจริง อืม... ถ้าท้องเนี่ย อายเลยนะ ที่สำคัญจะเลี้ยงยังไง’
‘ว่างมากหรือแก ไหนว่าจะรีบกลับไปทำทีซีสส่งอาจารย์ไง’
‘ไม่ว่าง แต่พร้อมเผือกเรื่องชาวบ้าน’
‘ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้ก็กลับมาคุยกับป้าใหม่สิ’
“หึ...” อนัญญาหัวเราะออกมาทางจมูก เดินลิ่ว ๆ กลับไปที่ห้องของตัวเอง
การทำทีซีส เพื่อจบเป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ จะจบหรือว่าไม่จบ ก็อยู่ที่ผลงานชิ้นนี้แหละ
อนัญญานั่งทำงานจนดึกจนดื่น
ก่อนจะนอนเธอหยิบไดอารี่ของเธอขึ้นมา ทุกคืนตลอดสิบกว่าปีที่จากกัน สิ่งแทนใจของอิงครัตน์ก็คือแหวนพลาสติกวงนี้
‘ฉันคงบ้าไปคนเดียวแน่ ๆ เลย ที่มัวแต่คิดถึงอดีต ในขณะที่ตอนนี้ ฉันไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ แต่ก็ช่างเถอะ ความคิดถึงเขาเป็นยาวิเศษ ที่ทำให้หัวใจของฉันชุ่มเย็น ขอบคุณทุกวันที่ยังมีลมหายใจได้คิดถึงเขา’
อนัญญานั่งวาดฝันถึงใบหน้าของอิงครัต
‘พ่อจ๊ะ แม่จ๋า ฝากดูแลเขาด้วยนะคะ อย่าให้ใครมาฉกเขาไปจากหนูได้ เพราะว่า เขาคือ คนเดียวที่หนูจะรัก และอยากได้เป็นสามี’
อนัญญานึกไปถึงพ่อกับแม่ที่จากไปแล้ว
คนบนฟ้าทั้งสองคนจะต้องรับรู้ และดลบันดาลให้เรื่องราวที่หญิงสาวขอมาตลอดชีวิตนั้นจงเป็นจริง

