Ep.2
“ผมเข้าใจ แล้วจะมีการประมูลคืนนี้ใช่ไหม”
“เอ่อ... ค่ะ คืนนี้เลยก็ได้ค่ะ พิเศษสำหรับคุณคิมหันต์นะคะ แต่ว่ารอสักหนึ่งชั่วโมงนะคะ ให้เจ๊โทรบอกเธอก่อน เพราะตามคิว เธอต้องมาคืนพรุ่งนี้ค่ะ”
“งั้นก็รีบโทร ผมจะดื่มรอไม่เกินหนึ่งชั่วโมง”
“ค่ะๆ จะโทรให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ แต่ว่าจะให้เด็กสวยๆสักคนมานั่งดื่มเป็นเพื่อนไหมคะ”
“ไม่ต้อง ผมอยากนั่งคนเดียว”
“ได้ค่ะ หนึ่งตามเจ๊มา”
ท้ายประโยคเจ๊หลิงหันไปมองคนที่ทำให้ลูกค้าคนพิเศษอารมณ์เสียด้วยสายตาดุนิดๆ อินทิรารีบเดินตามเจ้าของผับคนสวยไปจนถึงห้องแต่งตัว แล้วก็ต้องตกใจจนหน้าซีด เมื่อเจ๊หลิงซึ่งเป็นทั้งพ่อและแม่ของเธอหันมาบอกว่า
“ลอกคราบเด็กผู้ชายออกเสีย แล้วแต่งตัวเป็นหญิงเสียที”
“คุณแม่!” เมื่ออยู่กันลำพังสองคนอินทิราจึงเรียกคนที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่ยังเล็กด้วยคำสรรพนามที่สนิทสนม
“อินก็รู้ว่าคืนนี้ไม่มีคิวประมูล แต่อินทำให้ลูกค้าคนพิเศษของเราต้องอารมณ์เสีย อินต้องรับผิดชอบนะ”
“อย่าบอกว่าจะให้อินเป็นดาวเด่นในคืนนี้ อินทำไม่ได้หรอก อินไม่สวย ไม่เซ็กซี่ ไม่...”
“พอๆ ถึงเวลาที่เธอควรตอบแทนข้าวแดงแกงร้อนที่แม่เลี้ยงเธอมาแล้วนะ อินทิรา” หัวอกคนเป็นแม่ แม้ว่าอินทิราไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่เธอก็รักเสมือนลูกในไส้ แต่ตอนนี้อินทิราไม่มีวันเข้าใจความหวังดีของเธอหรอก
“แม่ อินไม่อยากเป็นดาวเด่น อินกลัว”
“จำได้ไหมว่าอินยอมสักลายเพื่อใคร และรู้ไหมว่าทำไมแม่ถึงให้นารีมาสอนเรื่องกามาสูตรแบบพิเศษให้ แม่เตรียมทุกอย่างไว้ก็เพื่อคืนนี้ อีกอย่างการเป็นดาวเด่นขึ้ประมูล ไม่ใช่การโปรโมทเพื่อขายตนเอง ผับของเราขายบริการไม่ได้ขายตัว ลูกค้าทุกคนเข้าใจ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเราว่าจะทนสิ่งยั่วยุได้ไหม แม่รู้ว่าอินเป็นเด็กดี และลูกของแม่สวยไม่น้อยไปกว่าใครเลย” เจ๊หลิงรู้ ว่าอินทิราแอบพอใจคิมหันต์อยู่เงียบๆ สายตาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายฤดู เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของลูกเลี้ยงมาโดยตลอด รู้ว่าอะไรที่อินทิราชอบหรือไม่ชอบ
“แล้วถ้าคนอื่นที่ไม่ใช่คุณคิมหันต์ประมูลอินได้ล่ะ ถ้าคนนั้นเป็นคนไม่ดีล่ะแม่ อินจะทำยังไง”
“อิน แม่เชื่อว่า เมื่อคุณคิมหันต์ได้เห็นอินในอีกลุคหนึ่งที่สวยเหมือนนางฟ้า คุณคิมหันต์ต้องทุ่มไม่อั้นเพื่อให้ได้อินไปแน่นอน”
“ทำไมแม่ถึงมั่นใจขนาดนั้น”
“ไม่ต้องถามอะไรอีกแล้ว โอกาสดีๆมาถึงแล้วนะลูก หากลูกไม่เสี่ยงคว้าโอกาสนี้ไว้ ลูกอาจจะไม่มีโอกาสดีๆนี้อีกเลยก็ได้นะ”
“แต่ถึงเขาประมูลได้ตัวอินไป ก็ใช่ว่าเขาจะไม่...” อินทิรายังพูดไม่ทันจบประโยคคนเป็นแม่ก็ยกมือห้ามเสียก่อน
“ลูกเป็นเด็กดี และแม่ก็หวังดีกับลูก รีบเปลี่ยนชุดซะ คุณคิมหันต์จะคอยนาน เดี๋ยวแม่จะเรียกนารีให้มาแต่งตัวให้ รับรองเลยว่าคืนนี้ อินของแม่จะเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในผับนี้”
แววตาจริงจังและบังคับกลายๆของผู้เป็นแม่ ทำให้อินทิราไม่กล้าขัดคำสั่ง เพราะคำพูดของแม่หลิง คือคำประกาศิตที่ทุกคนที่ทำงานในผับต้องทำตามคำสั่งอย่างเร่งด่วน ไม่เว้นแม้กระทั่งเธอ
“นารี มาพอดีเลย ช่วยแต่งตัวให้ลูกสาวของฉัน ให้สวยเลอค่าที่สุดในคืนนี้ อย่าลืมสวมชุดที่โชว์รอยสักด้วยล่ะ คืนนี้นายหนึ่งของฉันจะกลายร่างเป็นอินทิรา เป็นดาวเด่นที่ผู้ชายทุกคนอยากคว้าไปครอง ทำสุดฝีมือนะนารี”
“ได้ค่ะเจ๊ นารีจะไม่ทำให้เจ๊ผิดหวัง”
ภาพที่สะท้อนในกระจกเงา ทำให้อินทิราแทบจำตนเองไม่ได้ นับจากเส้นผมดำสลวยที่ทิ้งตัวเป็นแพรเงาวับยาวถึงบั้นเอว ดวงหน้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพงอย่างประณีต จนสวยใสไร้ที่ติ ผิวพรรณที่ขาวเปล่งปลั่งงามสะพรั่งดั่งกุหลาบแรกแย้มชวนให้พิสมัย ทรวงอกผุดผาดครึ่งเต้าที่โผล่พ้นออกมาจากชุดเดรสสีทองเว้าหลัง ทำให้ผู้หญิงด้วยกันมองแล้วยังน้ำลายหก และทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้องแบนราบ เรียวแขนเรียวขาที่กลมกลึง ซึ่งล้วนประกอบกันทำให้อินทิรา ดูสวยที่สุดในสายตาของเจ๊หลิง
“สวยงามมากลูกแม่ สวยเหลือเกินว่าไหมนารี”
“ค่ะเจ๊ น้องอินสวยจริงๆค่ะ”
แล้วกล่องกำมะหยี่สีแดงที่เจ๊หลิงเตรียมมาก็ถูกเปิดออก เพชรน้ำงามที่สะท้อนแสงไฟเป็นประกายระยิบระยับงามจับตา ถูกหยิบออกมาแล้วสวมลงที่ลำคอระหง ติ่งหูและข้อแขนของดาวเด่นประจำคืนนี้ทันที
เครื่องประทับราคาแพงระยับยิ่งขับให้ผิวขาวผ่องนวลเนียน เปล่งประกายออร่าชวนมองมากยิ่งขึ้น
“แล้วอินจะรีบนำมาคืนนะคะ”
“ไม่ต้องคืนหรอก แม่ให้”
นารีตาโตเท่าไข่ห่านเมื่อได้ยินว่าเจ๊หลิงมอบเพชรชุดนี้ให้กับอินทิรา ความอิจฉาริษยาเริ่มก่อขึ้นในใจของหญิงสาวทันที เธออยู่รับใช้เจ๊หลิงมานานหลายปี นานกว่าอินทิราเสียอีก แต่ไม่เคยได้อะไรจากเจ๊หลิงเลย แต่อินทิราเพิ่งเข้ามาทำงานในผับได้แค่สองปีกลับได้เพชรล้ำค่านี้ไปครองฟรีๆ
