บท
ตั้งค่า

1

1

กวินนิตาโวยวายเสียงดังเมื่อรู้ว่าตัวเองจะต้องไปทำงานที่บ้านของคุณหญิงอนุชนารถ และเป็นการทำงานเพื่อชดใช้หนี้เสียด้วย เรื่องนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่แสนจะสวยเช่นเธอ ทำไมคนสวยจะต้องไปรับใช้คนอื่น ชีวิตมันควรจะสวยหรูกว่านี้

“นิต้าไม่ยอมเด็ดขาด พ่อจะให้นิต้าไปทำงานใช้หนี้ ไม่มีทาง คนอย่างกวินนิตาจะไม่ทำงานดูแลคนแก่เด็ดขาด” หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยโฉบเฉี่ยวพูดออกมาอย่างรวดเร็ว

“ถ้าแกไม่ทำแล้วใครจะทำ” คนเป็นพ่อถามเสียงเครียด ยิ่งเห็นท่าทางของลูกสาวแล้วยิ่งไปกันใหญ่ ดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้

“ก็แม่กาฝากนภัสนั่นไง มันเป็นหนี้บุญคุณพ่อกับแม่นะคะ เพราะถ้าพ่อกับแม่ไม่อุปการะ ยายฟ้าร้องนั่นคงไม่มีวันเรียนจบและได้ทำงานดีๆ หรอก” กวินนิตาพูดพลางมองไปที่ญาติผู้พี่ที่กำลังเก็บโต๊ะอาหารอยู่อย่างจงใจ

“ถ้ายายฟ้าไปทำงานที่นั่นใครจะทำงานบ้าน แล้วไหนใครจะหาเงินมาสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ในบ้านนี้ล่ะ หรือแกจะไปทำงานนอกบ้าน” ช่อชบาถามลูกสาวเสียงเครียด กวินนิตาส่งสายตาไม่พอใจมาที่ลูกพี่ลูกน้องที่ง่วนอยู่ที่โต๊ะอาหาร แล้วตะโกนถามกลับไปว่า

“ทำงานนอกบ้านเสร็จก็มาทำงานใช้หนี้ต่อไม่ได้เหรอ”

นภัสถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย นี่ถ้าไม่ติดว่าบ้านหลังนี้เป็นของพ่อแม่ละก็ เธอจะไปแล้วไม่กลับมาอีกเลย ครั้นจะให้ครอบครัวป้าออกไปก็ทำไม่ได้ นอกจากไม่ยอมไปแล้วยังตั้งหน้าตั้งตาทวงบุญคุณเช้าเย็นจนน่าปวดหัว

“ฉันไม่ได้ขอเงินลุงกับป้าเรียนหนังสือ พ่อกับแม่ทิ้งเงินไว้ให้ส่วนหนึ่งและฉันเองก็กู้กยศ.อีกส่วนหนึ่ง ลุงกับป้าเป็นเพียงแค่ผู้ปกครองตอนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเท่านั้น แล้วอีกอย่างนะถ้าฉันทำอย่างนั้นเธอก็ต้องทำงานบ้าน ทำได้ไหมล่ะ” นภัสย้อนถามเสียงเข้ม

“งานคนใช้แบบที่เธอทำ ฉันทำไม่ได้หรอก มือนุ่มๆ ของฉันได้หยาบพอดี คนอย่างเธอเหมาะกับงานแบบนี้” กวินนิตาสวนกลับทันที

“ถ้าอย่างนั้นเธอก็ต้องไปทำงานที่บ้านคุณหญิง” นภัสพูดบ้างทีนี้

“นี่แกอย่ามาหาเรื่องเลย ลูกฉันจะทำแบบแกไม่ได้หรอกนะ นิต้าไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงานพวกนี้เหมือนแก” ช่อชบาเข้าข้างลูกสาวเต็มที่

“ใช่ คนอย่างนิต้าเหมาะที่จะเป็นคุณนายที่มีสามีหล่อและรวยเท่านั้น” กวินนิตาพูดอย่างมั่นใจ

“เอาที่สบายใจเลยแล้วกัน” คำพูดของสองแม่ลูกทำให้นภัสอ่อนใจ คนพวกนี้ไม่คิดจะทำงานทำการ วันๆ เอาแต่คิดว่าจะจับผู้ชายรวยๆ เพื่อให้เขาเลี้ยง

“คุณหญิงท่านอยู่กับหลานชาย แถมหลานชายคนนี้ยังเก่งและรวยมากนะ ที่สำคัญหล่อมากด้วย” ปกรณ์พยายามโน้มน้าวใจลูกสาว

“จริงเหรอพ่อ” กวินนิตาตื่นเต้นทันที แบบนี้ค่อยน่าสนใจขึ้นมาหน่อย

“จริง เห็นว่าหล่อและรวยมาก ไม่แน่นะ ถ้าลูกสาวพ่อไปทำงานที่นั่น ได้เจอเขา คิดดูสิ นิต้าลูกพ่อสวยขนาดนี้ เขาจะไม่มองเชียวเหรอ” ปกรณ์ค่อยๆ ตะล่อมให้ลูกสาวเคลิ้มตาม

“ถ้าเขาสนใจแกนะ นิต้า เราทั้งหมดจะสบายไปทั้งชาติ และจะไม่ต้องมาอยู่ไอ้บ้านโทรมๆ หลังนี้ด้วย” ช่อชบาเออออกับสามีทันที

ในขณะที่นภัสถอนหายใจออกมาดังๆ กับคำหว่านล้อมแบบให้ความหวังลมๆ แล้งๆ พวกนี้คิดแต่หวังจะสบายทางลัดโดยไม่หวังจะพึ่งพาตัวเองเลย ขอให้โชคดีแล้วกัน

อนิรุทธ์เดินเข้าบ้านก็พบว่าผู้เป็นยายมายืนรอก่อนแล้ว คุณหญิงยิ้มให้หลานอ้าแขนต้อนรับ ชายหนุ่มยกมือขึ้นไหว้แล้วกอดหญิงชราแน่น ภาพตรงหน้าทำให้บรรดาคนรับใช้พลอยยิ้มไปด้วย

หลังจากทักทายแสดงความคิดถึงกันมาพอสมควรแล้ว เขาก็พบว่าผู้เป็นยายเตรียมการต้อนรับหลาน ที่หายไปต่างประเทศเกือบเดือนด้วยอาหารชั้นเยี่ยมหลากหลายทำเอาชายหนุ่มยิ้มปลื้ม

“ของโปรดหลานทั้งนั้น รุทธ์” คุณหญิงอนุชนารถเรียกชื่อหลานชายแบบไทยๆ ตามความเคยชิน ท่านไม่ชอบที่จะเรียกชื่อเล่นที่เป็นภาษาอังกฤษนัก

“แม่จ๋ารู้ใจผมที่สุด แบบนี้รักตายเลย” เขาเรียกยายว่าแม่จ๋ามาตั้งแต่เล็กและเรียกจนติดปากมาจนถึงทุกวันนี้

“อย่ามาประจบคนแก่ ยายไม่ใช่สาวๆ ที่หลานควงนะ ไม่หลงง่ายๆ หรอก” คุณหญิงประชดเล็กน้อย

นางรู้เรื่องของเขาเป็นอย่างดี ข่าวคราว (คาว) เรื่องผู้หญิงเข้าหูบ่อยเสียจนน่าปวดหัว

“ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ผมจะรักมาก ได้เท่าแม่และแม่จ๋าหรอกนะครับ” อนิรุทธ์ยิ้มหวานประจบ

“ยายเริ่มจะรู้แล้วว่าทำไมผู้หญิงเหล่านั้นถึงหลงหลานนัก คารมดีแบบนี้นี่เอง เอาเถอะ ยายจะเชื่อก็แล้วกัน” คุณหญิงอมยิ้มเล็กน้อย

“ผมพูดจริงเสมอครับ แม่จ๋าที่รัก”

“กินเถอะ เดี๋ยวจะเย็นเสียหมดของโปรดทั้งนั้น ไปเมืองนอกนานๆ คงไม่ค่อยได้กินอาหารไทยคงเจอแต่พวกนมพวกเนยละสิ”

“แม่จ๋านี่รู้ใจจริงๆ”

“ไม่ต้องมาปากหวาน รู้ไหมว่าข่าวของรุทธ์กับบรรดาสาวๆ ทำให้ยายจะอกแตกตายหลายครั้ง”

“ผมน่ะหรือครับ ทำให้แม่จ๋าที่น่ารักและแสนดีอกแตกตาย” ชายหนุ่มแกล้งหยอก

“เรานี่มันทะเล้นจริงๆ รู้ไหมว่ายายอยากจับเราแต่งงานกับผู้หญิงที่เรียบร้อยสมเป็นกุลสตรีไทยจริงๆ” หญิงชราแกล้งขู่ ทำคนฟังขนลุกขึ้นมาทันที

“แม่จ๋าเลิกคิดเรื่องนั้นไปได้เลยครับ ตอนนี้ผมยังไม่อยากมีภาระ ใช้ชีวิตแบบนี้สบายกว่ามาก”

“ยายว่าเรายังไม่เจอคนที่ถูกใจมากกว่า จริงๆ ยายอยากหาให้”

ทำเป็นเล่นไป ถ้าหาให้ได้นางก็อยากหาคนดีมาเป็นศรีสะใภ้ให้หลานชายสุดที่รัก

“สมัยนี้การคลุมถุงชนมันใช้ไม่ได้แล้วครับ” อนิรุทธ์ไม่ค้านแต่ใช้เหตุผลมาอ้าง

“เอาเถอะ ยายจะไปทำอะไรได้ คนแก่แล้วพูดอะไรไปก็คงไม่ฟังหรอก” คุณหญิงชราแกล้งทำทีตัดพ้อ ชายหนุ่มยิ้มเมื่อได้ยินคำตัดพ้อนั้น

“เอาเป็นว่าผมสัญญากับแม่จ๋าไว้นะ ว่าถ้าจะมีเมียจะหาผู้หญิงที่เหมือนแม่จ๋าให้มากที่สุด ต้องเป็นผู้หญิงที่สวยสง่างามและต้องเป็นคนมีเหตุผล ที่สำคัญเสียงต้องหวานเหมือนแม่จ๋า ดีไหมครับ” เขาพูดเอาใจให้คนแก่ไม่น้อยใจเท่านั้นหรอก คุณสมบัติอย่างแม่จ๋าไม่ได้หากันง่ายๆ สักหน่อย

“ตกลง ยายจะถือว่านี่เป็นคำสัญญานะ” ได้ฟังเช่นนี้แล้วค่อยเบาใจ หาผู้หญิงดีๆ ต้องใช้เวลา แต่ถ้าได้อย่างที่พูดนานแค่ไหนนางก็รอได้

“ครับผม” อนิรุทธ์รับคำเสียงดังแข็งขัน

หาไปเถอะ ผู้หญิงอย่างแม่จ๋า ตายอีกสิบชาติก็คงไม่เจอแน่!

กวินนิตามองคฤหาสน์หลังใหญ่ด้วยความตื่นเต้น ไม่คิดว่ามันจะใหญ่โตขนาดนี้ เธอเคยเข้าออกที่นี่บ่อยแต่ไม่เคยเข้ามาด้านในเลย ถึงแม้จะไม่เต็มใจมาเพราะต้องมาทำงานขัดดอก แต่ก็ไม่สามารถขัดพ่อกับแม่ได้

สิ่งที่ดึงดูดใจให้มาก็คือ เมื่อรู้ว่าเจ้าหนี้ชรามีหลานชายสุดหล่ออยู่ด้วยจึงยอมมาในที่สุด โดยปกรณ์เป็นคนพามาส่งด้วยตัวเอง

หญิงชราวัยเจ็ดสิบมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าอย่างพิจารณา นี่คงเป็นลูกสาวคนเล็กของปกรณ์ที่จะมาทำงานขัดดอกแน่ๆ ดูจากท่าทางและการแต่งตัวแล้วทำให้ท่านถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนใจ ถึงแม้จะสวยแต่การแต่งเนื้อแต่งตัวไม่ผ่าน เสื้อที่ใส่ก็คอกว้างเสียจนน่าตกใจ กระโปรงก็สั้นนี่ถ้านั่งไม่ดีคงเห็นไปถึงไหนต่อไหน

“สวัสดีครับ คุณหญิง”

ปกรณ์ยกมือไหว้หญิงชราอย่างนอบน้อม และสะกิดลูกสาวให้ทำตามอย่างรวดเร็ว กวินนิตารู้งานรีบยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อมเช่นกัน

“สวัสดีจ้ะ นี่คงเป็นลูกสาวที่บอกว่าจะให้มาทำงานที่นี่สินะ” คุณหญิงถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ครับ นิต้าจะมาช่วยดูแลคุณหญิงครับ” ปกรณ์รับคำ

“พูดอย่างตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อมเลยนะ ความจริงฉันไม่ได้อยากได้คนมาเพิ่มหรอกแต่เพราะสงสาร มันคงเป็นบทเรียนว่าการพนันทำให้เธอเสียอะไรไปมากแค่ไหน ถ้าเธอไม่ใช่ลูกของแม่บ้านเก่าแก่ของคุณแม่ ฉันคงไม่ช่วย เรื่องโฉนดที่ดินและบ้านที่เอามาค้ำประกันนั้นคงต้องเก็บไว้ก่อน เอาไว้ครบสัญญาหรือว่าหาเงินมาคืนได้เมื่อไหร่ ฉันจะคืนให้แน่นอน”

“สุดแต่คุณหญิงจะกรุณาเถอะครับ” นาทีนี้ปกรณ์ไม่มีอะไรจะต่อรองแล้ว

“ว่าแต่เธอชื่ออะไรล่ะ แม่หนู” หญิงชราหันมาถามสาวน้อยที่มาทำงานใช้หนี้

“กวินนิตาค่ะ เรียกว่านิต้าก็ได้”

“ชื่อคนเดี๋ยวนี้มันต้องเหมือนพวกฝรั่ง เอาเถอะ มาทำงานกับฉันก็ขอให้เธอตั้งใจก็แล้วกัน งานที่นี่ไม่มีอะไรมากหรอก ที่นี่ฉันอยู่กับหลานชาย ความจริงลูกสาวกับลูกเขยฉันก็อยู่ด้วย แต่นานๆ พวกเขาจะกลับมาที่เมืองไทยเสียที”

“ค่ะ” กวินนิตาตาวาวขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินว่ามีหลานชายอยู่ด้วย

“รับรองครับ เรื่องดูแลและงานบริการลูกสาวผมเก่งมาก” ปกรณ์เชียร์ลูกสาวสุดกำลัง

“เอาเถอะ ตั้งใจทำงานก็แล้วกัน” หญิงชราตัดบท

“ถ้าอย่างนั้นผมลาเลยก็แล้วกันนะครับ นิต้า แกดูแลคุณหญิงให้ดีนะ ท่านให้ทำอะไรก็ต้องทำตามเข้าใจไหม” ปกรณ์พูดกับลูกสาวด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่แววตานั้นบอกเป็นนัยว่าทำๆ ไปเถอะ แล้วก็ขอตัวกลับทันที

“คุณหญิงมีอะไรให้หนูรับใช้คะ” กวินนิตาถามหางานแรก แต่หญิงชรายังไม่ทันจะตอบเสียงทุ้มของใครบางคนก็ดังขึ้น

“แม่จ๋า ผมจะไปเอาเอกสารที่บริษัทเสียหน่อย แม่จ๋าจะไปกับผมไหมครับ” เสียงนิรุทธ์ดังขึ้นมาก่อนที่ตัวจะมาถึง

การปรากฏตัวของชายหนุ่มทำให้กวินนิตาแทบกรี๊ด เขาช่างหล่อเหลาจนเธอแทบลืมหายใจ ขอเรียกว่าเป็นชายในฝันเลยแล้วกัน

“ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าแม่จ๋ามีแขก” ชายหนุ่มเพิ่งเห็นว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก มานั่งนี่มา รุทธ์” คุณหญิงเรียกหลานชายเบาๆ

“แม่หนูคนนี้ชื่อกวินนิตาจะมาทำงานที่บ้านเรา พ่อของแม่หนูนี้บอกยายว่าเด็กคนนี้มีความรู้ความสามารถ บางทีอาจจะช่วยงานหลานได้” คุณหญิงชราเอ่ย

“ผมว่าไม่จำเป็นนะครับ” เขาไม่ได้มองหน้าเจ้าหล่อนด้วยซ้ำ และไม่สนใจว่าจะมีความสามารถมากแค่ไหนด้วย

“จำเป็นสิหลานต้องมีผู้ช่วย อย่างน้อยช่วยจัดเรียงเอกสารก็ยังดี” คุณหญิงพยายามหางานให้กวินนิตาทำ

“ก็ได้ครับ” ชายหนุ่มตกลงอย่างว่าง่าย

ความจริงเขาอยากจะบอกปัดไปเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่อยากให้แม่จ๋าเสียความตั้งใจจึงรับปากแบบขอไปที โดยไม่ทันเห็นว่าคนได้งานทำดีใจจนยิ้มแก้มปริแค่ไหน

นภัสถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย วันนี้ตั้งแต่กลับมาจากทำงานเธอได้ยินญาติผู้น้องเพ้อถึงแต่ผู้ชายที่เป็นหลานชายของคุณหญิงอนุชนารถเสียจนน่ารำคาญ ดูเหมือนว่ากวินนิตาจะหลงใหลมากถึงมากที่สุด เหมือนพวกแฟนคลับที่คลั่งไคล้ดารา

“นี่รู้ไหมว่าเจ้านายของเราหล่อเป็นบ้าเลย อิจฉาไหมล่ะ เจ้านายของตัวเองทั้งแก่และหน้าตาขี้เหร่แบบนั้น ตัวนี่สู้เขาไม่ได้สักเรื่องนะทั้งความสวยและโชคดี” กวินนิตาพูดข่มทันทีเมื่อได้โอกาส

“จะหล่อลากดินแค่ไหนก็ต้องแก่ต้องเหี่ยว ต้องตายเหมือนกันนั่นแหละ” นภัสโต้ตอบอย่างไม่สนใจ

“ว้าย พูดจาน่าเกลียดมาก อิจฉาฉันละสิที่ได้ดีกว่าเลยพูดแบบนั้น” กวินนิตาทำเสียงเยาะเย้ย

“จะไปอิจฉาทำไม” เรื่องไร้สาระพวกนี้เธอไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ

“ก็ฉันได้เจ้านายที่ทั้งหล่อทั้งรวยน่ะสิ รู้ไหมบางทีเขาอาจจะหลงเสน่ห์ฉันนะ” ญาติผู้น้องเพ้อ

“เอาเถอะ เอาที่สบายใจเลย” นภัสตัดบทอย่างรำคาญ

กวินนิตาแทบจะบ้าเสียให้ได้ หลายวันมานี้ต้องดูแลชายหนุ่มที่ปรารถนา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเลย แถมยังใช้ให้ทำงานหลายอย่างอีกต่างหาก พอทำงานไม่ดีก็ว่าแบบไม่เกรงใจ

แต่กวินนิตาก็ไม่ยอมแพ้ เพราะถ้าจับเขาได้งานนี้มีแต่จะสบายไปทั้งชาติ ดังนั้นต้องพยายามทำให้ประทับใจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่มันดูเหมือนจะไม่ง่าย

“เป็นอะไรกลับมาหน้าบึ้งเชียว” ช่อชบาถามลูกสาวคำแรก

“ไม่เป็นอะไรมากหรอกแม่ แค่กำลังคิดว่าทำอย่างไรคุณรุทธ์ถึงจะสนใจประทับใจหนูมากกว่านี้ หนูเอาใจทุกอย่างแต่เขาไม่สนใจเลย อยากไปหาเพื่อนหนูก็ขับรถไปให้ อยากไปตีกอล์ฟหนูก็พาไป แต่เขาทำเหมือนว่าหนูไม่ใช่คนสำคัญ เมื่อวานให้เรียงเอกสารแค่สลับนิดเดียว ก็บ่นราวกับว่าทำผิดใหญ่หลวง” กวินนิตาพูดด้วยความเบื่อหน่ายแล้วกดรีโมตเปลี่ยนช่องทีวีทันที

หญิงสาวตาวาวขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้ดูละครหลังข่าวเรื่องหนึ่ง ความคิดที่บรรเจิดก็แล่นเข้ามาในหัว มันน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแน่ๆ

“หนูรู้แล้วว่าจะทำอย่างไร” กวินนิตารู้แล้วว่าจะสร้างความประทับใจอย่างไร หลังจากที่นั่งๆ นอนๆ คิดเรื่องนี้มาหลายวัน วันนี้รู้แล้วว่าจะต้องทำอย่างไร

“อาทิตย์หน้าคุณรุทธ์บอกว่าอยากไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัด ต้องทำอะไรบางอย่างให้เขาประทับใจในตัวหนู” กวินนิตาวางแผนในหัวสมองอย่างแยบยล

“แล้วแกจะทำอย่างไร” ช่อชบาถามต่อ

“แม่ดูละครไหม หนูจะให้คนลักพาตัว แล้วหนูจะเป็นคนเข้าไปช่วย เขาต้องประทับใจแน่ๆ”

“แกจะบ้าเหรอ นิต้า แกไม่รู้เหรอว่าตอนจบพระเอกไปคว้าคนที่ลักพาตัวแทน ไม่ได้คว้าเจ้าของแผนการ” คนเป็นแม่เถียง

“โธ่ นั่นมันละคร แต่เรื่องที่หนูจะทำมันไม่จบแบบนั้นแน่ แม่คิดดูนะว่าถ้าทำสำเร็จเราจะสบายไปทั้งชาติ” กวินนิตาฝันเฟื่องอย่างมีความสุข

“แล้วแกจะให้ใครเป็นโจร” ช่อชบาย้อนถาม

“ก็ยายฟ้าร้องไงแม่” หญิงสาวตอบโดยไม่ต้องคิดเลย

“มันไม่ร่วมมือกับแกหรอก” ช่อชบาส่ายหน้า เพราะรู้จักนิสัยหลานสาวเป็นอย่างดี

“ต้องร่วมสิ เราต้องทำให้มันร่วมมือกับเราให้ได้” กวินนิตาไม่ยอมให้แผนที่คิดได้ล้มไม่เป็นท่าแน่ งานนี้นภัสต้องร่วมมือกับเธอ

“แล้วถ้าเกิดเขาไปชอบยายฟ้าขึ้นมาล่ะ แกจะทำอย่างไร” ไม่วายที่ผู้เป็นแม่จะระแวงตามละครโทรทัศน์

“โธ่ แม่ ใครจะไปชอบผู้หญิงตายด้านแบบนั้น ยายฟ้ามันไม่มีเสน่ห์อะไรเลย ชอบทำตัวแข็งๆ ปากก็ร้ายแถมยังขี้บ่น ไม่มีผู้ชายคนไหนอยากอยู่ใกล้ ไม่งั้นมันคงมีแฟนไปนานแล้ว ไม่มานั่งเป็นแม่ชีบนคานแบบนี้หรอก เชื่อหนูเถอะ งานนี้ต้องเป็นยายฟ้าเพราะมันไว้ใจได้มากที่สุด” กวินนิตาพูดออกมาอย่างมั่นใจ

“ฉันไม่แน่ใจ เพราะมันคงไม่ยอมง่ายๆ” ช่อชบาส่ายหน้า

“แม่ก็ทำให้มันยอมสิ ไม่เห็นจะยากอะไรเลย” กวินนิตาพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel