บท
ตั้งค่า

บทที่8 บุรุษผู้กล้ากับสตรีใจเด็ด

เขาเสี่ยงชีวิตมาช่วยพวกนางแท้ ๆ นางจะทิ้งเขาลงอย่างนั้นหรือ นั่นมันไร้หัวใจเกินไปแล้ว พวกโจรมันมีกันตั้งหลายคน ลำพังแค่เขาผู้เดียว จะไปสู้พวกมันได้อย่างไร..อีกใจหนึ่งของนางก็คิดว่าหากเขาไม่มั่นใจในฝีมือของตนเอง ก็คงจะมิกล้ากระโดดเข้ามาช่วยนางหรอก! นางกลับไปแล้วจะช่วยอะไรเขาได้

โอ๊ย เอาวะเป็นไงเป็นกัน!!

"ถิงถิงเจ้ารีบกลับไปตามคนมาช่วยบุรุษผู้นั้นเร็ว คนนับสิบรุมคนเพียงหนึ่งอันตรายเกินไป ข้าจะกลับไปดูเขา เผื่อจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง"

"คุณหนู ท่านไปมิได้นะเจ้าคะมันอันตราย"

"นี่คือคำสั่ง ถ้าไม่อยากให้ข้าเป็นอันตราย เจ้าจงรีบไปตามคนมา!!" บัดนี้ในใจของนางว้าวุ่น เรื่องคอขาดบาดตายเช่นนี้จะมัวรอช้ามิได้ นางรู้สึกผิดที่ตอนแรกคิดหนีเขาออกมา

"เจ้าค่ะข้าจะรีบไปตามคนมาเดี๋ยวนี้" ถิงถิงไม่รอช้ารีบวิ่งไปตามทางรถม้า ในใจก็นึกให้ใครก็ได้ช่วยคุณหนูกับผู้มีพระคุณคนนั้นด้วย!

เจ้าเยี่ยนฟางวิ่งกลับมาที่เดิม บุรุษผู้มีพระคุณของนางกำลังต่อสู้อยู่กับพวกโจรอย่างดุเดือด บัดนี้พวกมันนอนหมอบกับพื้นไปเกือบหมดแล้ว บุรุษผู้นี้ช่างไร้เทียมทานยิ่งนัก

นางหลบอยู่หลังต้นไม้คอยสังเกตการณ์ จะมีสิ่งใดที่นางพอจะช่วยเขาได้บ้าง นางต่อสู้ไม่เป็น จะให้ไปร่วมสู้กับเขาก็คงจะเกินกำลังของนาง

โจรสามคนที่เหลือถูกฟันจนล้มลงนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น บุรุษผู้มีพระคุณกำลังจะหันไปจัดการกับโจรคนสุดท้าย ทันใดนั้นเอง หัวหน้าโจรก็จับดาบด้วยมือข้างซ้ายหมายจะพุ่งเข้าไปแทงข้างหลังคนที่มันฟันมือขวาของตน

ผู้มีพระคุณคนนั้นกำลังจะเสียท่าถูกลอบแทงข้างหลัง จ้าวเยี่ยนฟางไม่รอช้า สอดสายสายตามองหาสิ่งที่จะนำมาเป็นอาวุธได้ พลันเห็นก้อนหินพอเหมาะมืออยู่ไม่ไกลตน จึงรีบวิ่งไปขว้าหินก้อนนั้นขึ้นมาแล้วพุ่งทะยานเข้าไปทุ่มหินใส่หัวของโจรผู้นั้นอย่างสุดกำลัง

อั่ก!! หัวหน้าโจรร้องลั่นก่อนที่จะทรุดกายลงไปนอนกับพื้นดิน ของเหลวสีแดงสดไหลออกจากศีรษะโจรเป็นทางยาว บุรุษในชุดสีดำหันกลับมามองทางด้านหลัง เห็นหนึ่งในกลุ่มโจรนอนสลบเหมือดกับพื้นและสตรีใจกล้าที่ยืนตัวสั่น ในมือถือก้อนหินที่มีของเหลวสีแดงสดเปื้อนอยู่

ในขณะที่บุรุษผู้กล้าอึ้งกับภาพเบื้องหน้า โจรคนสุดท้ายที่เหลือสบโอกาสในยามที่อีกฝ่ายกำลังพลั้งเผลอ เงื้อดาบยาวขึ้นสูงแล้วตวัดฉับไปที่ร่างของบุรุษผู้กล้านั้นทันที ด้วยสัญชาตญาณและประสบการณ์ในเชิงรบ เขาพลิกพลิ้วเบี่ยงตัวหลบและตวัดดาบในมือฝ่าอากาศฟันฉับเข้ากับลำตัวของโจรผู้นั้นอย่างแม่นยำ

บุรุษผู้กล้าสังหารโจรตรงหน้าโดยไร้ความเมตตาและไร้ซึ่งความลังเล คมดาบยาวตัดผ่านหลอดลมของโจรทันที กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วอาณาบริเวณ ฝ่ามือหนาปาดเช็ดเลือดที่กระเซ็นมาเปื้อนใบหน้าที่โผล่พ้นผ้าออกอย่างลวก ๆ ก่อนจะหันกลับมาให้ความสนใจกับสตรีที่อยู่เบื้องหลัง

จ้าวเยี่ยนฟางเห็นคนตายต่อหน้าต่อตาก็ตกใจยิ่งนัก แข่งขาอ่อนแรง ร่างกายไร้ซึ่งแรงโน้มถ่วง ล้มพับพาบลงไปกองกับพื้นอย่างแรง บุรุษผู้กล้าค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้นางขึ้นเรื่อย ๆ นางนั่งตัวสั่นเทาแววตาสั่นไหว จับจ้องบุรุษตรงหน้าที่ก้าวย่างเข้ามายังตน แม้นจะกลัวเพียงใดแต่ก็ทำใจดีสู้เสือส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้กับคนตรงหน้า บุรุษผู้นี้ช่างน่ากลัวยิ่งกว่าโจรยิ่งนัก!

"เจ้ากลัวข้างั้นรึ เหตุใดก่อนหน้านี้ถึงได้ใจกล้า ปากกล้ายิ่งนัก" จ้าวเยี่ยนฟางได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ นางไปปากกล้าใส่เขาตอนไหนกัน

"ข้าไปปากกล้าใส่ท่านตอนไหนกัน.." นางโต้กลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เหตุการณ์ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก เกิดมาก็ไม่เคยเห็นใครตายต่อหน้าต่อตาอย่างนี้มาก่อน ใครจะไปรับมือได้ไหว

แต่เดี๋ยวก่อน..เหตุใดข้าถึงรู้สึกคุ้นกับน้ำเสียงนี้เหลือเกิน

ร่างบางพยายามจะลุกขึ้นยืนแต่ทว่าขานางกลับไม่ยอมเชื่อฟังเลย นางลุกไม่ขึ้นไม่ว่านางจะพยายามแค่ไหนแล้วก็ตาม

"เมื่อครู่ข้าได้ยินเสียงของสตรีผู้หนึ่งพ่นถ้อยคำหยาบคายออกมาเสียงดัง ระคายหูข้ายิ่งนัก" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นางไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเขาอยู่ในอารมณ์แบบไหนกัน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะได้ยินสิ่งที่นางด่าโจรสินะ..

"อะ..เอ่อข้าเพียงโกรธเท่านั้นจึงได้พูดเช่นนั้นออกไป พวกมันทำไม่ดีกับข้า ไยข้าต้องพูดจาอ่อนหวานกับพวกมันด้วย"

"ไยเจ้ามิลองใช้มารยาดูเล่า แบบที่เจ้าเคยทำไง พวกมันอาจไม่ฆ่าเจ้าก็ได้" คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความประชดประชัน แม้เขาจะเป็นผู้มีพระคุณแต่นางกลับรู้สึกไม่ชอบใจบุรุษผู้นี้ขึ้นมาเสียดื้อ ๆ

"ท่านเป็นใครกันถึงได้มาพูดจาดูหมิ่นข้าเช่นนี้ เรารู้จักกันงั้นหรือ?"

"เจ้าไม่รู้จริง ๆ หรือ" เขาตอบเสียงเรียบ

นางจ้องมองใบหน้าที่ปิดด้วยผ้าผืนสีดำของเขาด้วยความฉงนใจ และเมื่อใช้สายตามองสำรวจร่างกายกำยำของบุรุษตรงหน้าอย่างถี่ถ้วนก็พบว่า บุรุษผู้นี้มีส่วนคล้ายคลึงกับหวงตงหยางที่นางเพิ่งเจอที่โรงน้ำชา แต่มันจะเป็นไปได้หรือที่หวงตงหยางจะมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ เอาชีวิตตนมาเสี่ยงเพื่อช่วยนาง เขารังเกียจนางอย่างกับอะไรดี

จ้าวเยี่ยนฟางจ้องลึกเข้าไปยังดวงตาสีเหล็กกล้าอย่างค้นหาคำตอบเพียงเสี้ยวนาที ก่อนจะเบือนใบหน้าหนีหลบดวงตาคู่คมนั้นที่จ้องลึกเข้ามายังดวงตากลมโตที่สั่นไหวเหมือนกันอย่างหวาดหวั่น พลันสายตาก็สังเกตเห็นว่าที่ช่วงกลางอกของเขา อาภรณ์ที่เขาสวมใส่มีรอยขาดเป็นทางยาวและบริเวณนั้นมีความเปียกชุ่มอยู่ เขาคงได้รับบาดเจ็บเป็นแน่!

"ท่านบาดเจ็บนี่ ข้าขอดูหน่อย" นางค่อย ๆ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก ยืนชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเข้าไปหาบุรุษตรงหน้า

ไม่ว่าบุรุษผู้นี้จะเป็นใคร แต่เขาก็นับว่าเป็นผู้มีพระคุณ ต่อให้เขาคือหวงตงหยางที่จะฆ่านางในตอนจบ นางก็ต้องรักษาเขา

นางเดินเข้าไปหนึ่งก้าว เขาก็ถอยหลังออกจากนางหนึ่งก้าว

"ท่านจะถอยหลังหนีข้าทำไมกัน ข้าเพียงแค่จะดูแผลให้ท่านเท่านั้น"

"ข้าไม่เป็นไร แผลเท่านี้นับว่าไกลหัวใจ" แม้จะมองเห็นแค่เพียงครึ่งหน้า แต่นางก็เห็นว่า ใบหน้าของเขานั้นเริ่มซีดเซียว และบัดนี้บริเวณหน้าอกของเขามันเปียกชุ่มเป็นวงกว้างมากยิ่งกว่าเดิม

"ท่านอย่าดื้อนักจะได้มั้ย!!" นางดันบุรุษที่ตัวใหญ่กว่านางจนหลังเขาชิดติดกับต้นไม้ใหญ่ และจับไหล่ของเขาเบา ๆ ค่อย ๆ กดให้เขานั่งลง บัดนี้บุรุษที่แข็งแกร่งอย่างเขากลับถูกมือเล็ก ๆ จับไปวางตรงนั้นตรงนี้ได้อย่างง่ายดาย หากนางอยากดูนักก็ปล่อยให้นางดูให้สมใจ เขานั่งนิ่งไม่ขัดขืน และไม่เอื้อนเอ่ยสิ่งใดออกมาใช้เพียงสายตาสำเร็จมองนาง

"คุณชายข้าต้องล่วงเกินท่านแล้ว" จ้าวเยี่ยนฟางจับไปที่อาภรณ์สีดำที่โชกเลือดของเขา ก่อนจะค่อย ๆ ถอดมันออกอย่างเบามือ สำหรับนางแล้วแค่ผู้ชายถอดเสื้อมันธรรมดามาก โลกที่นางจากมา ถอดให้เห็นกันยิ่งกว่านี้เยอะ และอีกอย่างนางก็เคยเรียนหมอมาก่อน แม้จะไม่ได้ชอบนัก แต่นางก็สามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี

เขาได้แต่นั่งเงียบคอยดูการกระทำของนาง นางกล้าถอดเสื้อผ้าของบุรุษแปลกหน้าได้อย่างไร หรือจริง ๆ แล้วนางจำได้ว่าเขาคือใคร แล้วถ้าหากว่านางจำเขาไม่ได้ล่ะ ต่อให้เป็นบุรุษแปลกหน้านางก็จะทำเช่นนี้หรือ.. เหอะ! นางช่างเป็นสตรีที่ไร้ยางอายยิ่งนัก

"เจ้ามันเป็นสตรีน่ารังเกียจ"

"ยังมีแรงต่อว่าข้าเช่นนี้แสดงว่าคงยังไม่ตายง่าย ๆ" จ้าวเยี่ยนฟางหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งขึ้นมา หมายมั่นว่าจะเอามาเช็ดเลือดให้กับบุรุษตรงหน้า แต่ทว่านางกลับชะงักการกระทำนั้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

บุรุษแปลกหน้าผู้นั้นมองผ้าเช็ดหน้าในมือของนางอย่างไม่ละสายตา ก่อนสายตาดุดันจะตวัดกลับมามองหน้านางด้วยความรู้สึกหนึ่งที่อ่านได้ยาก

ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้เป็นของหลงโม่โฉว แม้ว่านางจะมิได้เอามาเช็ดน้ำตาในตอนแรก แต่นางก็ต้องซักแล้วนำไปคืนเขา จะเอามาเช็ดเลือดเช่นนี้ไม่ได้ เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางก็ลุกขึ้นทันที คนจะช่วยทำแผลให้กลับโดนด่าว่าเป็นสตรีน่ารังเกียจ นางน่าจะหนีไปเสียตั้งแต่ตอนแรก

ขณะที่นางกำลังจะหันหลังเดินออกไป กลับถูกเขาจับข้อมือไว้แน่น

"เจ้าจะไปไหน"

"ข้าจะไปหยิบผ้ามาห้ามเลือดให้ท่าน ปล่อยมือข้าได้แล้ว"

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาจึงยอมปล่อยมือจากนาง จ้าวเยี่ยนฟางเดินผ่านซากโจรที่นอนอยู่บนพื้นโดยที่มิรู้ว่าใครเป็นใครตายบ้าง นางเดินตรงไปหยิบห่อผ้าที่นางเพิ่งซื้อมา และกลับเข้าไปในรถม้าเพื่อหยิบขวดเหล้าออกมา มันเป็นเหล้าที่นางตั้งใจซื้อไปดื่มที่เรือน

ไม่รู้ว่า เหล้านี้จะนำมาล้างแผลได้มั้ย.. แต่มันก็แอลกอฮอล์เหมือนกันแหละน่า ใช้ ๆ ไปก่อน จ้าวเยี่ยนฟางเดินกลับมายังต้นไม้ ที่มีบุรุษชุดดำนั่งรออยู่ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเขาจึงลืมตาขึ้นดู พบว่านางได้หอบของพะรุงพะรังเต็มสองมือไปหมด

"ท่านมีมีดสั้นหรือไม่เจ้าคะ" นางถามเขาเพื่อจะเอามันมาตัดผ้า ลำพังแค่แรงนางคงจะฉีกไม่ไหว

"เจ้าจะเอาไปทำอะไร" เขาถามอย่างงุนงง นางคิดจะสังหารเขาด้วยมีดอย่างนั้นหรือ แต่คงไม่เป็นเช่นนั้นหรอกกระมัง

"ผ้าผืนใหญ่ขนาดนี้หากไม่ตัดแล้วท่านจะห่มเอาหรือเจ้าคะ"

"มีแต่ดาบที่เจ้าเห็นนั่นแหละ" เขาพูดก่อนจะหลับตาลงเพราะขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับนาง

จ้าวเยี่ยนฟางใช้ชายกระโปรงตัวเองเช็ดรอยเลือดที่เปื้อนดาบจากนั้นนำเหล้ามาราดเพื่อทำความสะอาด และใช้ผ้าส่วนหนึ่งเช็ดดาบให้แห้ง ก่อนจะนำดาบที่นางคิดว่าสะอาดแล้วตัดผ้าแพรผืนสีขาวอีกผืนออกเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอใช้งาน

นางใช้ผ้าชุบเหล้าแล้วเช็ดรอบ ๆ บาดแผลก่อนที่จะนำผ้าส่วนที่นางเตรียมไว้เป็นผ้าพันแผลค่อย ๆ บรรจงพันแผลให้กับเขา

บัดนี้เลือดของเขาดูเหมือนว่าจะไหลช้าลงแล้ว โชคดีที่แผลไม่ได้ลึกมาก มิเช่นนั้นอาจอันตรายถึงชีวิตได้ นางทิ้งตัวลงข้าง ๆ เขาเพื่อนั่งพัก พลางใช้ความคิดถึงการเอาชีวิตรอดจากที่นี่ หากมีหนึ่งในโจรฟื้นขึ้นมา นางจะทำอย่างไรดี

ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ตรงเข้ามาทางที่นางนั่งอยู่ และดูเหมือนว่าจะเป็นเสียงของคนหลายคน ไม่นานถิงถิงก็โผล่มาพร้อมกับทหารและรถม้าของจวน

จ้าวเยี่ยนฟางรีบลุกขึ้นไปเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ทหารฟัง หลังจากที่ตรวจสอบดูแล้วก็พบว่ามีผู้สิ้นชีพสิบห้าคน หนึ่งในนั้นรวมคนขับรถม้าของนางด้วย ส่วนกลุ่มโจรพวกนี้มีคนรอดชีวิตเพียงคนเดียว คือคนที่จ้าวเยี่ยนฟางทุบด้วยก้อนหิน..

บุรุษชุดดำที่ตอนนี้ถูกพันด้วยผ้าพันแผลเดินมายืนข้าง ๆ จ้าวเยี่ยนฟางก่อนจะใช้มือถอดผ้าปิดหน้าออก

"ตายหมดมั้ย" เขากล่าวอย่างภูมิใจในผลงานของตัวเอง จ้าวเยี่ยนฟางจึงหันไปดูว่าเขาลุกขึ้นมาได้อย่างไร ทหารหันไปมองตามที่มาของเสียงเมื่อเห็นป้ายหยกตรงเอวของเขาแล้ว ก็รีบทำความเคารพทันที

"คารวะท่านแม่ทัพ!!"

"ที่เหลือฝากพวกเจ้าจัดการด้วย" เขากล่าวอย่างเรียบง่ายก่อนจะหันหน้ามาหาสตรีตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นางได้แต่ยืนอึ้งและมึนงง นิ้วเรียวชี้หน้าเขา ทำตาปริบ ๆ ริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อเผยอออกแล้วก็หุบอยู่หลายครั้ง คลายจะพูดอะไรแต่ก็ไม่มีเสียงใดหลุดรอดออกมาจากปากนาง

บุรุษคนนี้คือ.. หวงตงหยางจริง ๆ ด้วย!!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel