
บทย่อ
เรื่องนี้นางเอกเป็นสายลับในยุคเทคโนโลยีกำลังปฏิบัติหน้าที่ปลอมตัวเป็นนางร้ายสาว แต่ต้องมาตายเกิดใหม่ในยุคจีนโบราณสวมร่างคุณหนูใหญ่...ที่มีดีแค่เปลือกนอก แถมยังเกิดมาก็กำลังร่วมรักร้อนแรง แต่ไหงกรรมจากการกระทำของร่างเดิมดันมาตกที่นางอีกเนี่ย!!
บทนำ
เสียงเพลงบรรเลงแผ่วเบาของพิณจีนคลอเคล้ากับเสียงหัวเราะแหลมของเหล่านางโลมชายหญิงดังลอดออกมาจากหอชุนเยว่ สถานนางโลมอันเลื่องชื่อในเขตเมืองหลวง ซูซิวเหยา สตรีผู้เป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลซู เดินย่ำผ่านประตูไม้ที่ประดับโคมแดงอย่างไม่ใส่ใจ สายตาที่เคยเปล่งประกายบัดนี้หม่นหมองดั่งผู้มองโลกเป็นสิ่งไร้ค่า
นางเพิ่งกลับจากการรักษาที่โรงหมอในเมืองหลวงซึ่งนางไปที่นั่นเพื่อเยียวยาอาการป่วยเรื้อรังที่รุมเร้านางมานาน แต่แทนที่จะได้รับข่าวดี นางกลับได้รับคำตัดสินชะตาแทน
“โรคของคุณหนูใหญ่นั้น…ไม่เกินหนึ่งเดือนท่านอาจสิ้นลมหายใจขอรับ พวกเราไม่มีใครสามารถรักษาได้จริง ๆ ต้องขออภัยท่านด้วย”
คำพูดนั้นเสียดแทงหัวใจ แม้ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายสำหรับนางผู้รู้สึกถึงความเสื่อมถอยของร่างกายตนเองมานาน แต่การถูกประทับตราแห่งความตายเช่นนี้ทำให้นางตัดสินใจเด็ดขาด...
ก่อนตายครั้งนี้นางจะละทิ้งทุกสิ่ง ปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการแห่งความเป็นคุณหนูใหญ่ที่ผู้คนเคารพยำเกรง สถานะที่แต่เดิมนางภาคภูมิใจ กลับกลายเป็นพันธะที่รัดคอนางจนแน่นไม่สามารถกระทำตามใจปรารถนาได้แม่แต่หนเดียว
และประการที่สำคัญระยะเวลาอีกสิบวันซูซิวเหยาที่จะถึงนี้นางต้องแต่งงานกับคุณชายจ้าวหลางจื้อ บุตรชายของตระกูลพ่อค้าที่ร่ำรวย แต่ลือกันไปทั่วว่าเขาคือบุรุษจอมเจ้าชู้ นางเคยเห็นเขาเพียงครั้งเดียวในงานเลี้ยงขุนนาง นัยน์ตาเจ้าชู้ที่ส่งมาราวกับเขากำลังประเมินราคาสินค้าทำให้รู้ทันทีว่าชีวิตหลังแต่งงานย่อมไร้ความสุขอย่างแน่นอน
“หากชีวิตข้าจะต้องจบลงเช่นนี้ ไยต้องรักษาความบริสุทธิ์ไว้เพื่อใคร คืนนี้ข้าจะลิ้มรสของการเป็นคนไร้คุณค่าให้สมบูรณ์แบบ”
ณ หอชุนเยว่ ซูซิวเหยาเลือกซื้อนายโลมชายรูปงามมาหนึ่งคนด้วยเงินจำนวนมหาศาล นางไม่คิดสนใจรายละเอียดอะไรนัก หญิงสาวเพียงต้องการปลดปล่อยตัวเองจากกรอบดั้งเดิมที่กักขังมาทั้งชีวิตก็เท่านั้น
ร่างบอบบางเดินขึ้นบันไดไม้สู่ชั้นสองของหอแห่งนี้ บรรยากาศเงียบสงบลงเล็กน้อยแตกต่างจากชั้นล่างที่ครึกครื้น ทว่าเมื่อมาถึงแถวห้องพักรับรอง นางกลับรู้สึกตื่นเต้นจนลืมหมายเลขห้องที่จองไว้ จำได้เพียงว่าคือห้องที่สามหรือสี่
ห้องไหนกันนะ
เฮ้อ เดินเข้าไปสอบถามดูคงน่าจะรู้เอง ดังนั้นหญิงสาวตัดสินใจสุ่มเลือก
ทว่ากลับเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นระหว่างที่เดินผ่านห้องหนึ่ง จู่ ๆ ประตูนั้นถูกเปิดออกและมีมือนิรนามกระชากข้อมือนางเข้าไปในห้องนั้นอย่างแรง
“เจ้าคือใคร!”
นางอุทานขณะจ้องมาบุรุษที่ฉุดนางเข้าห้องแต่ไม่ทันได้รับคำตอบ ร่างสูงในชุดคลุมไหมสีเข้มที่มีกลิ่นหอมของสุราจาง ๆ กลับรวบตัวนางไว้แน่น ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ริมฝีปากเผยอท่าทางเหมือนคนที่ร่างกายถูกเผาผลาญด้วยพิษรักร้อนแรงจนหักห้ามใจไม่ไหวเสียแล้ว
ดวงตาคมคู่นั้นมองนางด้วยสายตาเร่าร้อน ก่อนที่เขาจะกระชากเสื้อนางออกโดยไม่สนใจคำขัดขืน ซูซิวเหยารู้สึกถึงอุณหภูมิที่สูงล้ำจากผิวกายเขา
หญิงสาวหยุดชะงักไปครู่หนึ่งเพราะตกใจก่อนจะตัดสินใจปล่อยตัวตามสถานการณ์ เพราะคิดว่าเขาคือนายโลมที่นางจ่ายเงินซื้อมา
“คืนนี้…จงทำให้ข้าลืมทุกสิ่ง” นางกระซิบเสียงแผ่วเบา
แต่ค่ำคืนนี้หาได้จบง่ายดาย… ร่างกายของซูซิวเหยาที่อ่อนแอจากโรคร้ายเดิมอยู่แล้วเริ่มสั่นสะท้านเมื่อเวลาผ่านไปสองชั่วยามแล้วบทบรรเลงเพลงรักจากอีกฝ่ายยังไม่ยอมหยุด เวลาผ่านไปภายในห้องกลับทวีความร้อนเร่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด การครอบครองของบุรุษปริศนานี้รุนแรงและยาวนานจนนางหมดเรี่ยวแรง และสุดท้าย…ลมหายใจสุดท้ายของนางดับลงภายใต้แสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่างห้องเข้ามา
ชาตินี้นางคงมาถึงที่สุดเพียงเท่านี้…นางคิดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลง ทว่าทุกอย่างกลับไม่ดับสูญอย่างที่ควรเป็นในเมื่อไม่นานนักกายเปล่าไร้วิญญาณสิงสถิตจะถูกเติมเต็มด้วยอีกหนึ่งวิญญาณจากสถานที่ห่างไกลโพ้นมาสิงสู่กลายเป็นซูซิวเหยาคนใหม่
เสียงหอบหายใจหนักหน่วงดังขึ้นท่ามกลางความเงียบของห้องพักห้องหนึ่งในหอนางโลม ซูซิวเหยาสตรีที่ควรหมดลมหายใจไปแล้วเวลานี้กลับลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้งในความมืด แสงจันทร์ที่ส่องลอดเข้ามาจากหน้าต่างเผยให้เห็นประกายแววตาที่เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน
“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น” นางพึมพำ
ความรู้สึกถึงความเจ็บปวดเล็กน้อยแผ่ทั่วร่าง
ความทรงจำของนางในฐานะสายลับชั้นยอดที่ตายระหว่างปฏิบัติหน้าที่ผุดขึ้นอย่างชัดเจน ภารกิจสุดท้ายของนางในชาติที่แล้วคือการแฝงตัวสืบข้อมูลลับในแวดวงบันเทิงของประเทศแถบเอเชียโดยเยี่ยนอิงคือชื่อนางในชาติที่แล้วซึ่งกำลังสวมบทบาทเป็นนางร้ายตัวแม่แห่งวงการ แต่ภารกิจยังไม่ทันสำเร็จ นางก็ถูกลอบสังหารและเสียชีวิตลงเสียก่อน
นางตายแล้วนี่นา…แต่ความจริงกลับไม่ใช่...เหมือนนางเดินทางมาอยู่ในร่างของใครกันเนี่ย!
เมื่อดวงตาของหญิงสาวปรับเข้ากับความมืดได้จึงมองเห็นบุรุษรูปงามผู้หนึ่งนอนฟุบอยู่บนตัวนาง ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออัดแน่น ผิวกายของอีกฝ่ายกำลังแผ่ความร้อนราวกับไฟ ท่าทางไร้สติสัมปชัญญะ ร่างกายแข็งแกร่งนั้นหลังจากพักผ่อนไปหนึ่งถ้วยน้ำชาก็ยังคงไม่สิ้นความเร่าร้อนแห่งเพลิงราคะ
ยีงไม่ทันสามารถเก็บรายละเอียดสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบกายได้ถ้วนถี่ความทรงจำในร่างใหม่ก็หลั่งไหลเข้ามาอีกระลอกหนึ่งซ้อนทับกับความทรงดั้งเดิมทำให้รู้ว่า...
ร่างใหม่ของนางร่างนี้คือซูซิวเหยา...คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลขุนนางเล็กขั้นสี่ชั้นล่างที่กำลังถูกบังคับให้แต่งงานกับคุณชายจอมเจ้าชู้ ชื่อเสียงย่ำแย่ที่สุด โชคร้ายไปกว่านั้นคือร่างกายนี้เห็นป่วยหนักด้วยโรคประหลาดจนมีชีวิตเหลือเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น
ช่างเป็นชะตากรรมที่น่าเวทนาเสียจริง
“น่าสงสารนัก...เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าจะรับช่วงชีวิตของเจ้าแทน และคืนความเป็นธรรมให้กับสิ่งที่เจ้าต้องเผชิญเอง” นางพึมพำเบาราวกับปลอบประโลมวิญญาณที่จากไป
ทว่าความคิดของนางเป็นอันต้องหยุดชะงักเมื่อบุรุษตรงหน้าขยับตัวอีกครั้ง ท่าทางไร้สติที่กำลังลุกขึ้นมาร่วมรักร่างกายนี้อีกครั้งอย่างของชายหนุ่มช่างแฝงไปด้วยความรุนแรง ซูซิวเหยามั่นใจทันทีว่าเขาถูกวางยาปลุกกำหนัดชนิดรุนแรง หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปบทเพลงรักที่เพิ่งสิ้นสุดไปหนหนึ่งคงไม่จบง่าย ๆ
“ขอโทษด้วยนะ แต่ข้าไม่ยอมตกเป็นกระโถนรองรับอารมณ์ใคร่ของผู้ใดง่าย ๆ เช่นนี้หรอก”
ซูซิวเหยาคนใหม่พูดจบก็ตวัดเรียวขารัดร่างกายอีกฝ่ายให้สยบลงใต้ร่างตนก่อนใช้มือสับคอของเขาอย่างแม่นยำด้วยทักษะการต่อสู้ที่ติดตัวมาจากชีวิตก่อน อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวก็ฟุบหมดสติคาอกนางไปเสียแล้ว
หลังจากผลักร่างหนักอึ้งออกไป สายตาคมปราดมองสำรวจเขาอย่างรวดเร็ว
บุรุษผู้นี้มีใบหน้าคมคายและเครื่องแต่งกายหรูหราของอีกฝ่ายบ่งบอกสถานะสูงส่ง แต่สิ่งที่สะดุดตากว่านั้นคือบริเวณร่างกายเปลือยเปล่าส่วนล่างตรงแก่นกลางกายมีอาวุธประจำตัวของบุรุษเพศตั้งตรงยังคงไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนตัวลดลงแม้แต่น้อย
“บุรุษผู้นี้ไม่ใช่นายโลมของที่นี่อย่างที่ร่างเดิมนี้เข้าใจเป็นแน่ ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็คงมีชะตาโชคร้ายไม่ต่างกัน…เฮ้อ”
นางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนตัดสินใจพยุงร่างของบุรุษผู้น่าสงสารไปยังอ่างไม้ข้างหลังฉากกั้นไม้โปรงแสง แม้นางตัวเล็กกว่าครึ่งหนึ่งของอีหฝ่ายแต่ด้วยพลังใจอันล้นเหลือนางจึงจัดการลากเขาไปที่นั่นจนได้ในที่สุด
เมื่อร่างใหญ่ถูกวางลงในอ่างไม้ใส่น้ำที่ถูกใส่ทิ้งไว้จนเย็นเยียบซึ่งมันอาจช่วยทำให้ความร้อนรุ่มในร่างเขาคลายลงเล็กน้อย นางมองสำรวจเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่เป็นอันตราย ก่อนที่จะรีบแต่งตัวและหลบออกจากหอนางโลมแห่งนี้โดยไม่ให้ผู้ใดสังเกตเห็น
“ก่อนอื่นต้องจัดการเรื่องความปลอดภัยของร่างนี้ที่เพิ่งมีเพศสัมพันธ์ลึกซึ้งกับบุรษผู้นั้นเสียก่อน…”
นางพูดกับตัวเอง ขณะมุ่งหน้าไปยังร้านขายยาและสมุนไพรเพื่อซื้อยาห้ามตั้งครรภ์มาป้องกันปัญหาในอนาคต ก่อนจะเดินทางกลับจวนของตนเองในสภาพที่อ่อนล้าไปทั้งกาย
