บท
ตั้งค่า

ตอนที่2 กลับมาเป็นครอบครัวที่อบอุ่น

พอเข้ามาในเรือนยังไม่ทันได้นั่ง เสียงเอะอะข้างนอกก็ดังเข้ามา ว่านชิงอีกลอกตามองบนอย่างเบื่อหน่าย นางเพิ่งจะทะลุมิติมาอยู่ในยุคนี้ อยากหาเวลาปรับตัวปรับใจ กับสถานที่อยู่แห่งใหม่ แต่ก็ยังมีคนตามมาวุ่นวาย ให้นางเดาคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากบิดาผู้แสนประเสริฐและท่านย่าผู้แสนใจดี

“บุตรสาวสุดที่รักของพ่อ ได้ข่าวว่าเจ้าฟื้นแล้วจริงหรือนี่ ขอบคุณสวรรค์ๆ” ว่านจื่อหยวนพอก้าวเข้ามาเห็นว่านชิงอี ก็รู้สึกดีใจจนบรรยายไม่ถูก จึงรีบคุกเข่าคำนับฟ้าดินและขอบคุณสวรรค์ไม่หยุด เขาเชื่อแล้วว่าคำทำนายของท่านนักพรตเป็นจริง นางตายแล้วฟื้นจะมีใครทำเช่นนี้ได้ หากไม่ใช่คนที่เกิดมาพร้อมบุญญาธิการ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ยิ่งทำให้เขาปักใจเชื่อมากขึ้นเป็นร้อยเท่า ก่อนฮูหยินผู้เฒ่าจะก้าวเข้ามาอีกคน

“หลานรักของย่าเจ้าฟื้นจากความตายจริงๆ หรือ มาให้ย่ากอดหน่อย เด็กดีของย่าหมดเคราะห์เสียทีนะ” ฮูหยินผู้เฒ่ากอดว่านชิงอีพร้อมลูบหัวลูบตัวไปมา ด้วยความรักใคร่และเอ็นดู ว่านชิงอีเริ่มทำตัวไม่ถูกอยู่เหมือนกัน ได้แต่ยืนนิ่งปล่อยให้ผู้เป็นย่ากอดอยู่อย่างนั้น

“เนื้อตัวเจ้าซีดมาก ซื่อหยวนไปบอกบ่าวในจวนให้ไปตุ๋นน้ำแกงร้อนๆ ให้หลานข้าเร็วเข้า ร่างกายนางจะได้อบอุ่นเลือดลมจะได้หมุนเวียน” ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปสั่งบุตรชายที่มัวแต่ยืนไหว้ขอบคุณสวรรค์ไม่หยุด ว่านชิงอีมองแล้วก็แอบขำกับครอบครัวนี้ ที่เชื่อคำทำนายมาก จนต้องเอาใจว่านชิงอีโดยไม่ลืมหูลืมตา

“ท่านย่า ท่านพ่อ พวกท่านใจเย็นลงหน่อยเถิด ตอนนี้ข้าก็ฟื้นขึ้นมาแล้วอีกอย่างข้าก็รู้สึกสบายดีมาก ยังไม่อยากกินอะไรเจ้าค่ะ” ว่านชิงอีมองฮูหยินผู้เฒ่าด้วยความเกรงใจ และต้องรีบบอกออกไปเพราะไม่อยากให้วุ่นวาย ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นมารดา และพี่สาวอีกสองคนที่ยืนแอบอยู่ข้างประตูเพราะไม่กล้าเข้ามา ว่านชิงอีจึงส่งยิ้มไปให้อย่างผูกมิตรไมตรี ทำเอาว่านชิงหลินและว่านชิงหลาน หันมามองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ พอฟื้นขึ้นมานางก็กลายเป็นมิตรกับทุกคนเลยหรือ ปกติเย่อหยิ่งไม่เห็นหัวใคร

“พวกเจ้าสามคนเหตุใดไม่เข้ามา เป็นมารดาและพี่สาวประสาอะไรกัน ลูกและน้องฟื้นจากความตายไม่รีบมาแสดงความยินดี” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยตำหนิอย่างไม่ไว้หน้า ทำเอาว่านชิงอีรู้สึกผิดกับความลำเอียงนี้ จึงรีบเอ่ยแก้ไขสถานการณ์ทันที

“ท่านย่าอย่าได้ตำหนิท่านแม่และท่านพี่เลยเจ้าค่ะ ข้ามีเรื่องสำคัญจะบอกท่าน ช่วงที่วิญญาณของข้าออกจากร่าง ข้าได้ไปพบท่านเทพเซียนบนสวรรค์ เขาได้บอกข้าว่าหากให้ข้ากลับมา ข้าต้องรักและเอาใจใส่กับทุกคนในครอบครัว มิเช่นนั้นเขาจะมาเอาวิญญาณของข้าไปจริงๆ เจ้าค่ะ” ว่านชิงอีปั้นเรื่องขึ้นมาเพราะฮูหยินผู้เฒ่าปักใจเชื่อเรื่องนี้มาก อีกอย่างนางอยากอยู่อย่างสงบ ไม่อยากมีเรื่องกับใคร โดยเฉพาะกับคนในครอบครัวตนเอง

“หา!เจ้าได้ไปพบกับท่านเทพเซียนจริงๆ หรือ เจ้าเกิดมาช่างมีบุญวาสนาจริงๆ หลานย่า” ฮูหยินผู้เฒ่ายามนี้ได้ยินเพียงแค่ประโยคได้พบกับเทพเซียน อย่างอื่นที่ว่านชิงอีพูดนางไม่ได้ใส่ใจ

“ท่านย่า! ท่านฟังข้าดีๆ นะเจ้าค่ะ ท่านเทพเซียนบอกข้าว่า หากให้ข้ากลับมา ข้าต้องทำดี รัก และเอาใจใส่กับทุกคน มิฉะนั้น จะมาเอาชีวิตข้าอีกครั้ง” โอ้ยเหนื่อย!ว่านชิงอีเอ่ยเน้นทีละคำอย่างช้าๆ เพราะอยากให้ท่านย่าเข้าใจความหมายที่แท้จริง ที่นางต้องการจะสื่อออกไป

“ได้ๆ รักและเอาใจใส่ทุกคน ย่าเข้าใจแล้ว” ว่านชิงยกยิ้ม อย่างน้อยนางก็ยอมฟังอยู่บ้าง ก่อนว่านชิงอีจะเดินไปจับมือของว่านซูอวี้ผู้เป็นมารดาให้เข้ามาในห้อง ก่อนจะจูงมือพี่สาวทั้งสองคนให้เข้ามาในห้องเช่นกัน จากนั้นนางก็คุกเข่า ทุกคนพากันเบิกตากว้างตกใจว่านางจะทำอะไร

“ท่านแม่ พี่ใหญ่ พี่รอง ที่ผ่านมาข้าต้องขออภัยที่ทำตัวไม่ดี ยามนี้ข้าสำนึกผิดแล้ว ต่อไปข้าจะทำตัวใหม่เจ้าค่ะ” ว่านซูอวี้น้ำตาคลอด้วยความซาบซึ้งใจ ในที่สุดนางก็คิดได้แล้ว ส่วนว่านชิงหลินและว่านชิงหลาน ก็แอบน้ำตาซึมเช่นเดียวกัน นางสำนึกได้แล้วจริงหรือ?

“เอาละๆ ลุกขึ้นเถิด เจ้าเพิ่งฟื้นขึ้นจากการป่วยหนัก เดี๋ยวจะกลับไปล้มป่วยอีก” ว่านจื่อหยวนผู้เป็นบิดารีบเข้ามาประคองให้นางลุกขึ้นด้วยความเป็นห่วง แต่ว่านชิงอีก็ขืนร่างกายเอาไว้ไม่ยอมลุก

“ท่านพ่อและท่านย่าต้องรับปากข้าก่อน ว่าจะรักและให้ความใส่ใจกับท่านแม่และท่านพี่ อย่างที่ทำกับข้า”

“ได้พ่อกับท่านย่ารับปากเจ้า เอาละเจ้าลุกขึ้นมาเถิด”

“ขอบคุณเจ้าค่ะ” ว่านซูอวี้ ว่านชิงหลิน ว่านชิงหลาน ซาบซึ้งใจจนต้องร้องไห้ออกมา ว่านชิงอีนางเปลี่ยนไปแล้ว ขอบคุณสวรรค์ที่ให้นางกลับมาและยังเปลี่ยนนิสัยที่เคยเป็น ว่านชิงอีเดินเข้าไปสวมกอดมารดา อย่างฝากเนื้อฝากตัว กุมารน้อยปิงปิงยืนมองภาพนั้นด้วยความซาบซึ้งใจเช่นกัน ก่อนจะพูดกับว่านชิงอี

“คุณหนูครอบครัวนี้ก็ไม่ได้แย่ ต่อไปท่านต้องทำดีกับพวกเขาให้มากนะเจ้าค่ะ”

“อืมข้าต้องทำอยู่แล้วในเมื่อมาอยู่ร่างเขาแล้วนี่” ว่านชิงอีเอ่ยตอบกลับไปในใจ

หลังจากทุกคนแยกย้ายกันกลับไป ว่านชิงอีก็เดินสำรวจรอบๆ เรือนและมาจบที่ห้องนอนของนาง เรือนหลังนี้งดงามมาก บิดาของร่างนี้คงหมดเงินไปไม่น้อย รอบๆ เรือนยังมีต้นไม้และดอกไม้ปลูกไว้เต็มไปหมดมองแล้วสดชื่นเบิกบานใจ

“ปิงปิงเอาย่ามของพ่อข้ามาดูหน่อยว่ามีอะไรอยู่ในนั้นบ้าง เกิดมาเป็นลูกสาวเจ้าพ่อร่างทรง และพ่อหมอปราบผี แต่ดันตายและทะลุมิติมายุคจีนโบราณ ไม่ใช่ว่าจะให้ข้ามาปราบผีจีนหรอกนะ” ว่านชิงอีกล่าวติดตลก เพราะว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกใบนี้ ขนาดทะลุมิติยังเกิดขึ้นมาแล้ว

“นี่เจ้าค่ะ” ปิงปิงรีบปลดย่ามที่สะพายไว้ข้างตัว ส่งให้ว่านชิงอี นางรับมาแล้วเริ่มเปิดถุงย่ามดูว่ามีอะไรบ้าง แต่ก็ต้องแปลกใจ เมื่อพบแผ่นกระดาษที่เขียนพับไว้คล้ายจดหมาย นางจึงรีบเปิดออกมาอ่าน

“ลูกรักวันใดที่ลูกได้เปิดอ่านนั้นหมายถึงว่าลุูกได้ไปอยู่อีกโลกหนึ่งแล้ว มันเป็นโชคชะตาที่กำหนดเอาไว้ ตัวตนของลูก คือเทพผู้พิทักษ์ ลูกต้องเรียนรู้และต้องช่วยเหลือผู้คน สิ่งที่อยู่ย่ามในใบนี้ อาจช่วยลูกได้บ้าง ส่วนลูกประคำหยกเจ็ดสีลูกต้องใส่ทันที สุดท้ายพ่ออยากบอกว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน พ่อกับแม่ก็รักลูกเสมอ ปล พ่อกับแม่จะพยายามทำบุญส่งไปให้”

แสดงว่าพ่อของนางรู้เรื่องราวของนางมาโดยตลอด ว่าวันใดวันหนึ่งนางจะต้องจากไป จึงเขียนจดหมายใส่ไว้ในย่าม หากพวกเขาทำบุญส่งของมาให้นางจะได้รับหรือไม่นะ?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel