บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ตอนที่ 1

คนร้ายที่ถูกรวบตัวได้ทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปฝากขังและสอบปากคำ ซึ่งก็ได้ความว่าเป็นกลุ่มโจรที่ตระเวนปล้นไปทั่วในหลายๆ จังหวัด และมีหมายจับจากพื้นที่อื่นอยู่หลายคดีส่วนอีกคนที่โดนแทนยิงตกน้ำพบว่าเสียชีวิตแล้ว และเจ้าหน้าที่ก็งมศพขึ้นมาในคืนนั้น ชายหนุ่มไม่มีความผิดเพราะเป็นการป้องกันตัวและช่วยเหลือตัวประกัน การดูแลความปลอดภัยในไร่จึงเข้มงวดขึ้น เพราะนอกจากทรัพย์สินแล้ว การกระทำอันอุกอาจเช่นนี้ ยังส่งผลกระทบต่อชีวิตของคนในไร่ด้วย

และที่น่าเป็นห่วงที่สุดกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็คือสภาพจิตใจของเนื้อทอง เด็กหญิงที่ถูกลักพาตัวไปเป็นตัวประกันจนแทบเอาชีวิตไม่รอด

“พรุ่งนี้ฉันจะมาดูอีกทีนะคะ ช่วงที่หมอพงศ์ไม่อยู่ ถ้าอาการแย่กว่านี้ก็ต้องรีบส่งโรงพยาบาล ดูเหมือนแกจะยังมีอาการหวาดกลัว อาจต้องให้คนดูแลใกล้ชิด ตามร่างกายก็มีแต่รอยฟกช้ำรอยไม้ข่วน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ”

“...”

หล่อนมองแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มร่างใหญ่ ที่นั่งอยู่บนขอนไม้แห้งหักจากต้นพาดเป็นสะพานโค้ง ส่วนปลายตั้งขนาบไปกับพื้นรับน้ำหนักให้ไม้ใหญ่ทรงตัวมั่นคง จากระยะห่างกันเพียงไม่กี่ก้าวหล่อนมั่นใจว่าเขาได้ยิน แต่กลับคีบบุหรี่ดูดเฉยไม่สนใจอาการของเนื้อทองที่หล่อนกำลังบอกกล่าว “เนื้อทองยังเป็นเด็ก อายุไม่ถึงสิบขวบด้วยซ้ำฉันคิดว่าคุณควรพาแกไปพบจิตแพทย์นะคะ ต้องเยียวยาจิตใจแก แพทย์เฉพาะทางจะมีวิธี น่าเสียดายที่หมอพงศ์ติดงานแพทย์ชุมชน ไม่อย่างนั้นจะได้มีหมอคอยเช็คอาการตลอดเวลา” หมอพงศ์ที่กล่าวถึงคือหมอประจำที่ไร่แห่งนี้ ซึ่งแทนจ้างให้มาดูแลคนงาน ในกรณีเจ็บป่วยทั่วไป หรือตรวจอาการเบื้องต้น แต่ตอนนี้หมอมีธุระต้องเดินทางไปตามจังหวัดต่างๆ อีกหลายเดือนกว่าจะกลับ ระหว่างนี้สถานีอนามัย และโรงพยาบาลใกล้ๆ จึงเป็นที่พึ่งพาของทุกคน

และหล่อนก็เป็นพยาบาลที่แทนให้มาช่วยดูเนื้อทอง เป็นกรณีพิเศษ

หญิงสาวถอนหายใจเมื่ออีกฝ่ายยิ่งนิ่งเฉยไม่เจรจาด้วยทั้งที่สั่งคนให้พาหล่อนมาพบเพื่อรายงานอาการของเนื้อทองอย่างละเอียด

“ฉันขอตัว...” น้ำเสียงทิ้งท้ายของหล่อนบ่งบอกถึงความระอาใจ หญิงสาวส่ายหน้า ใจเริ่มขุ่นเคืองกับทีท่าของเจ้าถิ่นไม่ได้ไยดีต่อวาจาของหล่อน ร่างเล็กในชุดสีขาวสะอาดถือกระเป๋าพยาบาลหันหลังให้กับบุรุษหนุ่ม

“เดี๋ยว...” ฝีเท้าก้าวเร็วหยาบๆ เหยียบลงพื้น และถึงตัวหล่อนก่อนที่น้ำเสียงทุ้มนั้นจะเอ่ยห้ามเสียด้วยซ้ำ หญิงสาวชะงัก และก้าวถอยหลังจากร่างสูงใหญ่ซึ่งมาอยู่ตรงหน้าโดยไม่ได้ตั้งตัว เขาจ้องใบหน้าหวานเกลี้ยงเกลาชั่วขณะแล้วก็เอื้อมมือไปจับกระเป๋ายาชิงมาถือไว้เสียเอง

“ผมไปส่ง...”

“ฉันเอารถมา”

“ก็ไปส่งที่รถ” เจ้าของไร่ตอบกลับเรียบเฉยแล้วหันหลังเดินนำหน้าไป ไม่รอให้หล่อนตัดสินใจตอบรับหรือปฏิเสธ

“ดูคุณจะไม่ค่อยสนใจเนื้อทองเลยนะคะ ทั้งที่เด็กคนนั้นต้องมาเจ็บตัวในไร่คุณแท้ๆ” เจ้าหล่อนลอบถอนหายใจ สองเท้าเดินตามอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง พลางกล่าวถึงผู้บาดเจ็บเพราะรู้สึกไม่สบายใจ สภาพของเนื้อทองที่หล่อนเห็นช่างน่าสงสารนัก ทั้งยังมีเพียงบิดาซึ่งเป็นผู้ชายเป็นผู้ปกครอง ขาดแม่ ขาดความอบอุ่นทางใจโดยสมบูรณ์แบบ

“เดี๋ยวก็หายวิ่งเล่นได้เหมือนเดิมแล้ว ไอ้เนื้อทองมันแข็งแกร่งเหมือนพ่อของมัน”

“เด็กก็คือเด็ก...แกไม่มีแม่ด้วย น่าสงสาร” น้ำเสียงอ่อนลงด้วยความเอ็นดูจับใจ

“ไม่มีแม่ก็มีพ่อ ทุกคนในไร่ก็รักมันดี” เขาคุยตอบในขณะที่ยังก้าวเดินไปเรื่อยๆ ไม่ได้หันกลับมามองคู่สนทนา

“เด็กผู้หญิงนะคุณ...จะเลี้ยงให้ทโมนเป็นลิงเป็นค่างมันจะไม่งาม ไม่คิดถึงอนาคตของเด็กกันบ้างเหรอ”

“หึ คุณนี่ใจดีจริงนะ”

“คนที่มีมนุษยธรรมก็ควรคิดแบบนี้ไม่ใช่เหรอ”

“...” ร่างใหญ่ชะงักชั่วครู่ แล้วแสยะยิ้มก่อนจะย่างเท้าเดินต่อ

“คนใจดำ หึ...” เสียงเล็กกัดฟันก่นบ่นเบาๆ เหลือบตาเขม่นมองแผ่นหลังกว้างที่สวมทับด้วยเสื้อยืดสีขาวแล้วแบะปากสะบัดหน้าไม่อยากให้เขามาอยู่ในสายตา หล่อนคงออกความเห็นอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ เพราะเป็นแค่พยาบาลที่มาดูแลคนไข้ แม้จะนึกเห็นใจและเวทนาในชะตากรรมของเด็กหญิงมากเท่าใดก็ตาม

“เนื้อทองไม่มีแม่ เราก็เลี้ยงกันตามมีตามเกิดถ้าคุณถูกชะตากับมันก็มาทำหน้าที่แม่ให้มันสิผมอนุญาต”

“จะบ้าเหรอ”

“อ้าว...จะได้เลิกบ่นเลิกด่าผมเสียที” ชายหนุ่มกล่าวกลั้วหัวเราะ หล่อนคงคิดว่าเขาไม่ได้ยินคำบ่นเมื่อสักครู่ แต่ตัวเขาเองถึงแม้จะหันหลังให้และเดินห่างกันไม่น้อยแต่ก็ใจจดใจจ่ออยู่กับคนข้างหลัง จนรู้แม้กระทั่งฝีก้าวของหล่อนด้วยซ้ำ

“ฉันต้องทำงานจะให้มาเฝ้าเด็กในไร่คุณได้ยังไงกันล่ะ”

“ก็มาทำงานที่นี่เสียสิผมให้เงินเดือนมากว่าสองเท่า สนไหม...”

“...” หล่อนเริ่มรู้สึกได้ถึงความไม่ปกติ

“มาอยู่แบบไม่ต้องทำงานก็ได้นะ ยินดีต้อนรับ”

เขาหยุดเดินและเปิดประตูรถพร้อมเอากระเป๋าของหล่อนโยนเข้าไปไว้บนเบาะที่นั่ง หญิงสาวจึงได้กระจ่างใจว่าหล่อนเดินมาผิดทาง...นี่ไม่ใช่รถของหล่อน

“หมายความว่ายังไง”

“ผมไปส่ง ยังไงพรุ่งนี้คุณก็ต้องมาอีก”

“แล้วฉันจะมายังไงล่ะ ก็รถจอดอยู่ที่นี่ จะทำให้มันวุ่นวายทำไม”

“ผมก็ไปรับสิ...ไปกันเถอะฝนจะตกแล้วคุณคงไม่ชินทางในไร่เท่าไหร่ เราไม่มีถนนคอนกรีตหรอกนะ” เขาผายมือเชื้อเชิญให้หล่อนขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งคนขับ

“ฉันอยากกลับเอง”

“ผมมีเรื่องเนื้อทองอยากคุยกับคุณตั้งเยอะตั้งแยะ” อีกฝ่ายเริ่มหาจุดดึงดูดความสนใจ ซึ่งได้ผล เขาเห็นหล่อนทำท่าลังเลใจ

“ทำไมคุณต้องทำแบบนี้ด้วย” หล่อนแสดงอาการหงุดหงิดเมื่อถูกละเมิดสิทธิ์ เมื่อสักครู่หล่อนพยายามคุยกับเขาเรื่องของเนื้อทอง แต่ชายหนุ่มกลับทำเฉยไม่รู้ไม่ชี้ เขากลับฉวยโอกาสใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้เบี่ยงเบนความสนใจของหล่อนให้คล้อยตามเขา

“นี่ไม่รู้จริงๆ เหรอ” แทนเลอบยิ้มพลางเลียริมฝีปากแล้วเม้มขำ

“รู้อะไร”

“ผมอยากให้คุณมาอยู่ที่นี่”

“ฉันมีงานต้องทำ แล้วฉันก็ไม่ชอบงานในไร่ด้วยต่อให้เงินเดือนสูงแค่ไหนก็ตาม”

“ก็ไม่ต้องทำงาน...แค่ให้มาเป็นแม่นายของทุกคนมาอยู่เป็นเพื่อนเนื้อทอง...”

“...” สิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินทำให้ร่างเล็กของนางพยาบาลคนสวยนิ่งอึ้งราวกับถูกสาป หล่อนมองเขาแล้วความรู้สึกร้อนผ่าวก็ลุกลามไปทั่วใบหน้า

“ได้ไหมหม่อน...”

“คุณพูดเรื่องอะไร” หล่อนขมวดคิ้ว ใบหน้าแดงซ่านซับสีเลือด

“ก็...มาที่นี่บ่อยๆ ก็ได้ คุณจะได้ชิน เผื่อจะชอบแล้วอยากมาอยู่ถาวร” ชายหนุ่มกล่าวสั้นแล้วยิ้มให้ เขาเปิดประตูรถด้านข้างขนขับ ยักคิ้วเชื้อเชิญให้หล่อนเข้าไปนั่ง ซึ่งหม่อนดูจะไม่มีทางเลือกอื่น อีกประการก็ไม่อยากตอแยยืดเยื้อ เพราะถึงอย่างไรแทนก็คงไม่ยอมอยู่ดี

เจ้าของไร่วัยสามสิบเศษแอบยิ้มมุมปากเมื่อทุกอย่างเป็นไปดั่งใจเขา มือใหญ่จับบานประตูด้านข้างคนขับปิดอย่างเบามือ แล้ววิ่งอ้อมไปยังอีกด้านเพื่อทำหน้าที่พลขับ วันนี้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษที่มีแขกคนสำคัญนั่งหน้างออยู่ข้างๆ ถึงแม้หล่อนจะไม่สบอารมณ์กับวิธีการของเขา แต่ก็ยังทำให้หัวใจของหนุ่มชาวไร่กระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ดี

และดูเหมือนบ้านของเขาจะมีบางอย่างดึงดูดใจหล่อนให้นิ่งนอนใจไม่ได้ มันทำให้เขาเริ่มคิดหาทางให้พยาบาลสาวสวยผู้อ่อนโยนแวะเวียนมาที่นี่ได้บ่อยๆ ต่อไปในภายภาคหน้า...ไร่ทับตะวันแห่งนี้คงมีชีวิตชีวาขึ้นไม่น้อย

ไอ้เนื้อทองเด็กแสบ...ยังพอทำประโยชน์ตอบแทนเขาได้บ้างแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel