บทที่ 9 วงดนตรีลูกทุ่ง
“ฮึ “ คุณหญิงขานรับแต่สายตาจับจ้องอยู่ที่จอทีวี
“เอ่อ..ขวัญ..” พาขวัญรวบรวมความกล้าแต่ก็พูดไม่ออก
“มีอะไรก็ว่ามาแม่กำลังลุ้นนางเอก เมื่อไหร่จะบอกพระเอกเสียทีว่าตัวเองท้อง มัวแต่อ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละ พระเอกก็เหลือเกินไม่รู้รึไงว่าเมียตัวเองท้อง” สาวใหญ่ใส่อารมณ์กับละครจนลืมลูกสาว
“คุณหญิงก็ นั่นมันละครจะให้เหมือนใจเราได้ยังไงล่ะ” อรรถพลแย้งภรรยา หล่อนหันมามองค้อน
“คุณก็ดูสิ พระเอกมันซื่อบื้ออกขนาดนั้น”
“คุณพ่อคุณแม่อย่าเถียงกันเลยค่ะ เดี๋ยวขวัญไปชงกาแฟให้นะคะ คุณแม่กับคุณป้าเป็นนมอุ่นๆ รอแป๊บเดียวค่ะ ” พาขวัญพยายามจะพูดแต่เมื่อยังหาโอกาสไม่ได้จึงต้องเอาใจบิดามารดาอีกครั้ง หล่อนเดินยิ้มออกไปอย่างรวดเร็ว พรพรรณมองตามหลานสาว อรรถพลก็เช่นกันเขามองตามร่างบอบบางของลูกแล้วหันมามองพี่สาว
“วันนี้หลานพี่พรรณน่ารักจังเลยนะ รับอาสาชงกาแฟให้ด้วย”
“หลานพี่ก็ลูกเธอ” พรพรรณตอบกลับมาเพราะรู้ว่าน้องชายพูดเช่นนั้นหมายความไปถึงอะไร
“คุยอะไรกันคะ” ดวงกมลละสายตาจากจอทีวีมาที่สามี
“คุยเรื่องลูกสาวคนเก่งของคุณหญิงน่ะสิ วันนี้น่ารักมาก”
“ลูกสาวดิฉันก็น่ารักทุกวันแหละค่ะ” คุณหญิงเชิดหน้าขณะตอบสามี เขายิ้มขำกับกิริยาของหล่อน
“มาแล้วค่ะกาแฟคุณพ่อ” พาขวัญยกถ้วยกาแฟมาวางที่โต๊ะกระจกตรงหน้าบิดา
“แล้วก็นี่นมสดอุ่นๆ ของคุณแม่กับคุณป้าค่ะ” หล่อนเหลียวมารับถาดใส่แก้วนมจากวิไลที่ยกถาดเดินตามเข้ามา
พาขวัญยกแก้วนมวางให้พรพรรณและมารดาแล้วส่งถาดคืนให้วิไล สาวใช้ถอยออกไป พาขวัญจึงนั่งลงที่เก้าอี้หนังนุ่มข้างมารดา
“คุณแม่เมื่อยมั้ยคะขวัญนวดให้นะ”
หญิงสาวไม่รอคำอนุญาตจากมารดาหล่อนบีบนวดที่แขนของคุณหญิงทันที คุณหญิงหันมาจ้องหน้าของลูกสาวพร้อมคำถาม
“เอาใจแม่แบบนี้อยากได้อะไรจ๊ะ”
“คุณแม่รู้ใจขวัญอีกแล้ว” หล่อนยิ้มอ้อนแล้วโอบกอดมารดาไว้
“ไม่ต้องมากอดแม่เลย อยากได้อะไรก็บอกมา”
“คุณแม่ให้ขวัญได้เหรอคะ” หญิงสาวยิ้มดวงตาเป็นประกายด้วยความดีใจ
“ได้สิ แต่ว่าต้องไม่แพงนักนะเพราะถ้าแพงต้องให้คุณพ่อเซ็นอนุมัติ” คุณหญิงยิ้มอ่อนโยนยกมือลูบศีรษะลูกอย่างรักใคร่
“ไม่แพงเลยค่ะแล้วก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อด้วยนะคะ” พาขวัญได้ทีรีบพูด ท่าทางอารมณ์ดีของมารดาพร้อมจะรับฟังเรื่องที่หล่อนจะขอแล้ว
“ไม่ต้องเสียเงินซื้อเลยเหรอ” คุณหญิงแปลกใจ
“นั่นสิ แสดงว่าของชิ้นนี้ต้องสำคัญมากไม่งั้นลูกสาวพ่อคงไม่ลงทุนชงกาแฟรสชาติจืดชืดมาให้พ่อหรอก” อรรถพลแทรกบ้างแล้วหัวเราะ
“แหม.คุณพ่อก็ ขวัญเพิ่งเคยชงกาแฟเป็นครั้งแรกนี่คะ คราวหน้าจะชงสุดฝีมือเลยค่ะ”
“อยากได้อะไรล่ะ” พรพรรณยิ้มขณะถาม
“คุณป้ากับคุณพ่อให้ขวัญได้อยู่แล้วล่ะค่ะแต่คุณแม่นี่สิคะจะให้ขวัญได้รึเปล่า” หล่อนอ้อนมารดาด้วยการหอมแก้มซ้ายขวาหนักๆ
“นี่พอๆ จะขออะไรก็ว่ามาแม่จะดูละคร” คุณหญิงผลักลูกสาวออกห่างสายตาจับจ้องอยู่ที่ตัวละครในทีวี พาขวัญยิ้มแล้วนั่งตัวตรงสูดลมหายใจอีกครั้งก่อนจะเอ่ยขึ้น
“คือ.ขวัญจะขออนุญาตคุณแม่ออกไปหาข้อมูลมาเขียนหนังสือค่ะ”
“เรื่องแค่นี้เองทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้จะไปหาที่ไหนก็ไปเลยลูกพ่ออนุญาต” อรรถพลหัวเราะกับคำขอของลูกสาว เขายกถ้วยกาแฟขึ้นดื่ม
“คุณพ่ออนุญาต คุณป้าก็อนุญาตใช่มั้ยคะ” สาวน้อยของบ้านตาโตขณะยิ้มกับบิดาและป้า
“จ้ะ” พรพรรณตอบแล้วหันไปยิ้มกับอรรถพล
“แล้วคุณแม่ล่ะคะ” พาขวัญหันมาที่มารดาอีกครั้ง
“ไปหาที่ไหน ไปเมื่อไหร่แล้วจะเขียนหนังสืออะไร” คุณหญิงถามโดยไม่เหลียวมามอง
“ขวัญจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับชีวิตหางเครื่องค่ะ ก็เลยจะเข้าไปหาข้อมูลจริงที่วงดนตรีชาญชลธีขวัญขออนุญาตไปเป็นหางเครื่องค่ะคุณแม่”
“หา..”
เสียงอุทานดังขึ้นพร้อมกันทั้งอรรถพล คุณหญิงดวงกมลและพรพรรณ ละครทีวีที่คุณหญิงแห่งบ้านเสฏฐพงศ์กำลังดูอย่างสนุกนั้นกร่อยลงไปในทันที
“แกว่าอะไรนะยัยขวัญ” คุณหญิงหันมาจ้องหน้าลูกสาวสายตาไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“คือ..ขวัญจะขออนุญาตคุณแม่ไปหาข้อมูลในวงดนตรีลูกทุ่งค่ะ” พาขวัญยิ้มฝืด
“ด้วยการไปเป็นหางเครื่องเนี่ยนะ แกฝันไปเถอะ แม่ไม่อนุญาต” เสียงคุณหญิงเฉียบขาดใบหน้าของสาวใหญ่เครียดขึ้นมาทันที
“คุณแม่คะ” พาขวัญพยายามพูด
“แกไม่ต้องพูดอะไรอีก ถ้าจะหาข้อมูลก็บอกมา แม่จะหาให้หรือไม่ก็บอกคุณพ่อ ลูกน้องคุณพ่อเขาช่วยแกได้”
