ไม่ได้ให้อยู่ฟรี
“จะดีหรือคะ”
เธอเงยหน้าขึ้นมาถามสองแฝดอย่างกระตือรือร้นผิดจากที่เทรย์คาดไว้ น่าจะเป็นประเภทอ่อนต่อโลกสินะ
“พวกฉันไม่ค่อยได้นอนที่คอนโดนั้นหรอก นอนที่บ้านพ่อแม่บ้าง บ้านเพื่อนบ้างไม่ก็โรงแรม ส่วนคอนโดซื้อไว้หลายที่ จะค้างหรือไม่แล้วแต่อารมณ์”
คนพี่พูดขึ้นมาเสียงเข้มพร้อมกับมองหาทางหนีทีไล่เพื่อกลับรถไปที่คอนโดของพวกเขา
“นั่นสิ แล้วเงินที่พ่อให้เธอเมื่อกี้ ก็ควรเก็บไว้กินข้าวกินดีกว่าไปเช่าห้องที่อื่น”
ใช่ คนน้องพูดมีเหตุผลมาก ลำพังแค่ซื้อกับข้าวกินแต่ละวันจะพอมั้ย สามพันบาทเนี่ย ถ้าต้องเจียดเอาไปเช่าห้องอีกเธอคงต้องอดตายไปทั้งแบบนั้น แชมเปญคิดว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
เธอจึงตกลงไป และคิดว่าจะขออาศัยไม่นาน
“พวกคุณไม่ถามหรือคะว่าทำไมบ้านฉันถึงโดนแก๊งทวงหนี้มาทวงหนี้จนฉันต้องหนีออกมาแบบนี้”
ในความดีใจของสาวน้อยที่จู่ๆ ก็บังเอิญได้ที่อยู่ชั่วคราวใหม่มันก็ยังมีความสงสัยอีกมากมายในตัวสองแฝด ทำไมพวกเขาถึงใจดีและไม่เอ่ยถามเรื่องส่วนตัวเลยล่ะ ถ้าเป็นคนปกติคงจะมาซักไซ้ไม่หยุด
“อยากเล่ามั้ยล่ะ”
ทรอยเอ่ยด้วยสีหน้าทะเล้น เหมือนไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องเลวร้ายอะไร เรื่องที่สาวมหาลัยแบบเธอเป็นหนี้จนต้องหนีหัวซุกหัวซุนแบบนี้
“พวกเราไม่ค่อยชอบฝืนใจใคร รอให้เขาอยากพูดเอง”
คนพี่เอ่ยขณะมือกำพวงมาลัย แต่สายตายังจ้องมองเธอผ่านกระจกมองหลังแบบไม่วางตา
“แม่ของฉันท่านเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เลิกกับพ่อ พ่อแต่งงานใหม่ มีน้องชายคนหนึ่งแต่หมอนนั่นไม่ชอบขี้หน้าฉัน กลัวฉันแย่งความรักจากพ่อ ฉันจึงไม่ค่อยได้ไปหาท่านบ่อยนัก ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ฉันก็ไม่ได้โผล่ไปให้ท่านลำบากใจค่ะ”
“แต่บังเอิญวันนี้…”
แชมเปญไม่ได้พูดต่อ เพราะเหมือนสองแฝดก็พอจะรู้สถานการณ์ของเธอดีอยู่แล้ว
“แม่ของฉันไปกู้เงินมาสองล้านบ้านเพื่อทำธุรกิจ ฉันก็ไม่แน่ใจว่าธุรกิจอะไรแต่ท่านโดนโกงจนต้องหนีไปทำงานเก็บผลไม้ที่ต่างประเทศและส่งเงินกลับมา แต่มันก็ไม่ทันส่งดอกเงินกู้อยู่แล้ว”
“ตอนนี้ที่บ้านก็มีเจ้าพวกนั้นป้วนเปี้ยนอยู่ แล้วบ้านของฉันก็อยู่ในมือแก๊งหนี้นอกระบบด้วย”
สองแฝดฟังแล้วก็รู้สึกเห็นใจ ตัวคนเดียวแถมพ่อยังไม่สนใจอีก
แอบสงสารแฮะ
พวกเขาแสดงความสงสารออกมาทางสีหน้าอย่างเห็นได้ชัด แชมเปญรู้ว่าไม่ใช่เรื่องที่ใครจะมานั่งเห็นใจแต่ก็อดรู้สึกดีไม่ได้ที่มีคนรับฟังเรื่องเลวร้ายของเธอบ้าง
หัวใจของสาวน้อยเริ่มหวั่นไหวกับใบหน้าที่เหมือนกันอย่างกับแกะและดวงตาสองคู่ที่มองมายังเธอ
เมื่อถึงคอนโดใจกลางเมือง พวกเขาพาเธอไปดูห้องที่มี 3 ห้องนอน และมันเป็นคนละคอนโดกับที่เทรย์พาเธอไปเมื่อวันก่อน
ห้องนี้มันมีครบทุกอย่าง มันหรูจนแชมเปญกลัวที่จะเหยียบเข้าไปด้วยซ้ำ พวกเขาเลือกให้เธอนอนตรงกลางระหว่างห้องเขาพวกเขาสองคน
“ตามสบายนะ”
ทรอยพูดหลังจากวางกระเป๋าใบเล็กของเธอที่เขาถือมาลงที่เตียงของเธอ คนน้องเดินมานั่งที่เตียงเธออย่างถือวิสาสะ พลางมือก็หยิบถุงขนมมาแกะกินชิวๆ
“ไม่ได้ให้อยู่ฟรีหรอกนะ เธอต้องทำตัวเหมือนเป็นแม่บ้านของที่นี่”
เทรย์พูดเสียงเข้มและจ้องมองมาที่ตัวของแชมเปญอย่างละสายตาไม่ได้ สาวน้อยพยักหน้ารับรู้ เธอเหนื่อยเกินกว่าจะถามอะไรต่ออีกแล้ว
“แล้วเธอก็ต้องทำสรุปเนื้อหาทุกวิชาให้พวกฉัน อ่านอัดเสียงด้วย จะได้เอาไว้ฟังตอนว่าง ๆ”
คนน้องพูดขึ้นพลางหยิบขนมเข้าปาก
“ตะ แต่ว่า ถ้าไม่อ่านเอง จะเรียนไม่รู้เรื่องนะ”
เธอแย้งด้วยท่าทีหวาดกลัวนิดหน่อยแล้วหลุบตาลงต่ำเพราะกลัวโดนดุ
“แค่เรียนๆ ให้มันจบไปอ่ะ ขี้เกียจฟังป๊ากับม๊าบ่น ถ้าตกมีหวังโดนจับส่งไปอยู่มาเก๊า ไม่เอาด้วยหรอก ขนลุก”
เขาพูดพร้อมสั่นไหล่ทำท่าทีขยาดจนอีกคนแอบยิ้มออกมาไม่ได้ เป็นผู้ชายที่คุยเก่งแถมยังขี้เล่นสินะ เธอคิดแล้วยิ้มบางให้เขา
“ส่วนไอ้เทรย์มันหัวดีกว่า แต่บางทีก็ขี้เกียจ ใช่มั้ยไอ้พี่ชาย”
คนน้องเอ่ยขอความเห็นจากคนที่ยืนกอดอกพิงผนังห้อง สายตาของเขาจ้องมองแต่บั้นท้ายนวลงามของแชมเปญจนไม่ได้ฟังบทสนทนาพวกนั้นเท่าไหร่
“ความจริงก็อ่านเองได้ แต่ไม่อยากให้เธออยู่ฟรี การรับเธอมาถือซะว่ามีแม่บ้านมาดูแลห้องไม่ให้ฝุ่นจับ”
เขาพูดแล้วขยับแว่นตาใส่แชมเปญหนึ่งที
เมื่อส่งเธอเสร็จสองพี่น้องออกก็ไปเที่ยวกันต่อ แชมเปญค่อยรู้สึกโล่งอกที่ได้นอนคนเดียว
แชมเปญอยู่ที่คอนโดเตรียมเนื้อหาวิชาต่าง ๆ เพราะใกล้สอบไฟนอลแล้ว โดยสองพี่น้องจะไปตามหาเลกเชอร์ดี ๆ มาจากเพื่อน ส่วนเธอมีหน้าที่ทำความเข้าใจบทเรียน สรุปข้อมูล และอัดเสียง
ระหว่างนั้นเธอรับสอนพิเศษเด็กมัธยมไปด้วย เธอสอนออนไลน์ จึงไม่ต้องออกไปจากคอนโดบ่อยนัก
กระทั่งถึงวันแข่งรถ ซึ่งตรงกับศุกร์พอดีบวกกับความดังของพวกจตุร ทำให้มีข่าวว่าคนจะมาดูเยอะเป็นพิเศษ
แล้วครั้งนี้คนที่ลงแข็งคือคนน้องอย่างทรอยนั่นเอง
กริ๊ง เสียงมือถือของแชมเปญดังขึ้น เธอหยิบมารับพลางมือกำลังคนกาแฟอยู่ในครัว ให้ตายเถอะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่โคตรสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกโคตรเยอะ แถมยังมีแม่บ้านเข้ามาอาทิตย์ละหลายวัน เธอแทบไม่ต้องทำอะไรเลยเกี่ยวกับงานบ้าน
นี่ยังแอบสงสัยว่าเทรย์พูดเรื่องให้เธอทำงานบ้านทำไมทั้งที่ก็ยังจ้างแม่บ้านมาอยู่ดี
“ค่ะ”
เธอรับสายเสียงเรียบเมื่อรู้ว่าปลายสายคือใคร
“ฉันอยากได้คอนแท็กเลนส์ ช่วยไปหามาให้ที”
เทรย์สั่งเสียงดุ และใช่ปลายสายของเธอคือผู้ชายบ้าอำนาจและชอบออกคำสั่ง แฝดนรกคนพี่ เทรย์นั่นเอง
เทรย์โทรมาบอกว่าเขาอยากเปลี่ยนลุค ไม่อยากใส่แว่นไปดูทรอยแข่ง ให้เธอรีบหาคอนแท็กเลนส์มาให้ใส่หน่อย
