19 - เจ้าของหัวใจ
หลังจากที่เนตรอักษรวางกระเป๋าเป้สะพายหลังวางไว้ลงบนโต๊ะกระจกหน้าทีวีจอแบนขนาดใหญ่ ร่างเล็กก็ล้มลงนอนบนโซฟาตัวใหญ่ด้วยความเหนื่อยล้ามาตลอดทั้งวัน
ติ๊งต๋อง! ติ๊งต๋อง!! ติ๊งต๋อง!!!
เสียงกดออดหน้าห้องดังติดต่อกันระรัวจนทำให้คนตัวเล็กถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ใครกันนะมาหาในเวลามืดค่ำเอาป่านนี้ทั้งที่ตอนนี้จะเป็นเวลาพักผ่อนของเธอด้วยซ้ำ
เนตรอักษรแสกนลายนิ้วมือก่อนที่ประตูบานใหญ่จะถูกผลักเข้ามาจนเธอแทบหลบไม่ทัน ดวงตากลมโตลุกวาวจ้องมองผู้มาเยือนใหม่ด้วยความตกใจระคนงุนงงว่าเขาว่าได้ยังไง
“คุณคริส!”
“ยังจำชื่อผัวได้นิ!”ทันทีที่เข้ามาอยู่ในห้องของเนตรอักษรมือหนาก็เอื้อมไปกระชากตัวปัญหาที่ทำให้เขากลายเป็นคนบ้า คริสโตเฟอร์หอบอาการหึงหวงระคนโกรธเคืองมาลงที่เธอโดยเฉพาะ
“คุณคริส! ปล่อยหนูนะ”ร่างเล็กดิ้นเร้าเพื่อเป็นอิสระจากพันธนาการจากเรือนร่างสมบูรณ์แบบ คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเป็นปมเปลือกตาแทบปิดลงด้วยความอ่อนแรงบวกกับอาหารเย็นที่ไม่ทาน
“ผัวกอดทำเป็นสะดีดสะดิ้ง น้ำอุ่น! หนูอุ่น.....”คนปากร้ายสาดสุนัขออกจากปากทว่าต้องตกใจเมื่อร่างของเนตรอักษรแทบลงไปกองกับพื้น ดีที่วงแขนแกร่งของเขารองรับร่างบางไว้ได้ทัน
“หนูอุ่น!!”ด้วยความเป็นห่วงจึงเรียกขานสรรพนามอันแสนสนิทสนมโดยที่เด็กสาวไม่ได้ยินเสียงดังชัดเจน คริสโตเฟอร์รวบร่างบางขึ้นในท่าเจ้าสาวโอบอุ้มคนตัวเล็กไปยังห้องนอนของเธอเอง
“เฮ้อ~ เป็นอะไรวะเนี่ย”หลังจากวางร่างของเนตรอักษรลงบนที่นอน ชายหนุ่มก็ปัดปอยผมสวยทัดกกหูจ้องมองใบหนาแดงก่ำที่เหมือนว่าเลือดในร่างกายของเธอเดือดพล่านร้อนฉ่า
ร่างสูงลุกขึ้นยืนเดินไปหยิบกะละมังและผ้าผืนเล็กมาด้วย มือหนาปลดชุดสวยที่เจ้าหล่อนสวมใส่ออกอย่างเบามือ บรรจงเช็ดตัวให้เธอสบายตัวมากขึ้น พลันสายตาก็กวาดมองเรือนร่างอรชรเนียนกระชับอย่างโลมเลีย
“ขาวชะมัด...กินหยวกกล้วยเป็นอาหารหรือเปล่าวะ?”ถึงแม้จะหื่นกระหายในตัวของเธอมากแค่ไหน คริสโตเฟอร์ผู้บริหารสายการบินยักษ์ใหญ่ในอิตาลีก็ไม่ลักหลับผู้หญิงเป็นอันขาด
“พ่อขา~ เมื่อไหร่จะกลับบ้าน”เสียงหวานครางละเมอพร่ำเพ้อหาผู้เป็นพ่อ จิตใต้สำนึกของเธอนึกถึงแต่ผู้มีพระคุณที่เหลือเพียงคนเดียวในชีวิต
“ไม่เป็นไรนะคนดี ฉันจะอยู่กับเธอเอง”คริสโตเฟอร์ถอนหายใจอย่างปลงตก ใช้มือลูบศีรษะเล็กสวมรอยราวกับเป็นพ่อของเธอเพื่อให้เด็กน้อยหลับสบาย
“พ่อขา~ คุณคริสใจร้าย”หืม! ถึงขั้นละเมอฟ้องพ่อเชียวหรือว่าเขานั้นใจร้าย ชายหนุ่มล้มตัวลงนอนข้างเธอกกกอดเธอไว้เพื่อถ่ายทอดความอบอุ่นจากร่างบึกบึนให้เธอได้รับรู้ว่าเจ้าหล่อนไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
“ฉันยอมให้ละเมอด่าครั้งเดียวนะ ถ้าตื่นมาบอกว่าฉันใจร้ายอีกละก็...เตรียมคลานลงจากเตียงได้เลย”คริสโตเฟอร์พึมพำเบาๆ ทว่าหมายหัวคาดโทษคนตัวเล็กที่กำลังมุดหน้าเข้ากับซอกคอแกร่งของเขา
วงแขนตวัดโอบกอดรอบเอวคอดกิ่วไว้มั่น ดึงร่างแน่งน้อยให้แนบชิดกับร่างกายของตนมากขึ้น ความหอมจากเรือนผมดำเงาก็ทำให้เขาเผลอสูดมันเข้าอย่างเต็มปอด
“อืม....พี่หมีจ๋า~”อุณหภูมิในร่างกายเริ่มสูงขึ้นทำให้เนตรอักษรมุดหน้าหาพี่หมีชิลลี่บราวน์แบร์
“นอนนิ่งๆ”เสียงเข้มเอ็ดคนที่กำลังอยู่ในห้วงแห่งการนอนเพราะความอวบอิ่มเฉพาะส่วนเสียดสีกับหน้าท้องหนั่นแน่นของเขา จนทำให้เจ้าของสายการบินต้องหายใจฟึดฟาดด้วยความร้อนฉ่าในกาย
ตกดึกในคืนนั้นมีเพียงความเงียบสงัดในห้องนอนมืด มีเพียงเครื่องอากาศที่ทำงานและสองร่างที่กอดกันเกรี้ยว ทว่ามีบางอย่างผิดแผกไปนั่นก็คือคนตัวเล็กในอ้อมกอดของคริสโตเฟอร์ที่ครางในลำคอมิหนำซ้ำเนื้อตัวยังสั่นเทาด้วยพิษไข้
“อื้อ~ หนาว”เปลือกตาหนักปรือขึ้นมองคนในอ้อมกอดผ่านความมืด ร่างบางสั่นเทาราวกับเจ้าเข้าทรงทำให้คริสโตเฟอร์ยันกายขึ้นเล็กน้อยวางทาบฝ่ามือบนหน้าผากมนเพื่อให้แน่ชัดว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นเป็นจริง
“น้ำอุ่น~ ตัวร้อนจี๋เลย”ความร้อนในร่างกายของเธอทำให้คริสโตเฟอร์ตื่นตกใจ เขาไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดีเพราะเกิดมาชีวิตนี้ไม่เคยดูแลคนป่วยเลยสักครั้ง ครั้นในตอนที่เป็นก็มีแต่คุณหญิงจันทร์กระจ่างผู้เป็นแม่ดูแลมาตลอด
“ทำยังไงดีวะ!!”เท้าหนักตวัดขาลงจากเตียงล้วงโทรศัพท์มือถือในเสื้อสูทที่เขาวางไว้ข้างกายขึ้นมาต่อสายหาใครบางคนเพื่อขอความช่วยเหลือ
‘ว่าไงตัวแสบร้อยวันพันปีไม่เห็นโทรมา...’เสียงจากปลายสายคือพี่ชายคนรองเจ้าของบริษัทไอทีอยู่ที่นิวยอร์กประเทศสหรัฐอเมริกาควบคุมการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์โทรศัพท์มือถืออีกทั้งยังมีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ นามว่า ‘โคลด์สัน โดมินิก รัตนเดชา’ เจ้าของใบหน้าเคร่งขรึมนิสัยเย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็ง
“ผมทำงานน่ะพี่ อีกอย่างเดี๋ยวผมก็ต้องไปอเมริกาในอีกไม่ช้านี้อีก”
‘อืม!!....เข้าเรื่องเลยดีกว่าเพราะตอนนี้พี่ก็ไม่ค่อยว่างเท่าไหร่’เพราะตอนนี้ยังมีใครอีกคนที่กำลังทำหน้าบูดบึ้งอยู่บนที่นอนใหญ่ โคลด์สันเหลือบมองแม่บ้านตัวน้อยที่กำลังมองด้วยสงสัยว่าเขากำลังสนทนากับใครอยู่
“มีสาวอยู่บนเตียงหรือครับ”คริสโตเฟอร์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงยียวนราวกับรู้ทันทั้งที่ใจจริงเขาแค่เดาเท่านั้น พี่ชายคนนี้น่ะเสือร้ายไม่ต่างจากพี่ชายคนโตเลยสักนิด
‘สาวเสยที่ไหน....สรุปแล้วไม่มีอะไรใช่ไหมพี่จะได้วาง’
“เอ่อ...เดี๋ยวสิครับขี้งอนไปได้ คือผมอยากรู้ว่าถ้าคนเป็นไข้เราจะต้องทำยังไง”คำถามของเขาราวกับปัญหาอันใหญ่หลวงเหมือนโลกจะแตกพรุ่งนี้ก็ไม่ปาน แต่ใครเลยจะรู้ว่าตอนนี้ปลายสายเองก็ขมวดคิ้วยุ่งด้วยความหนักใจไม่ต่างกัน
‘พาไปหาหมอสิวะ....พี่ไม่ใช่ผู้รู้นะเว้ย!!’ว่าแล้วเชียวว่าจะไม่ได้เรื่องต่างกันจากเขา เพราะรายนั้นเองก็ทำแต่งานถูกเลี้ยงดูปูเสื่อมาดีเช่นกัน เขาอยากจะย้อนเวลากลับไปลงเรียนหมอดีกว่าเรียนบริหารเสียจริง
“งั้นผมไม่รบกวนแล้ว เดี๋ยวถามอินเทอร์เน็ตเอา”
“...”
“เชิญเขมือบเด็กบนเตียงตามสบาย...”คริสโตเฟอร์ทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นและไม่รอให้ปลายสายตอกกลับเช่นกันกดตัดสายในทันที ชายหนุ่มเอี้ยวตัวมองคนที่นอนอยู่บนเตียงก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
คริสโตเฟอร์เดินไปหยิบกะละมังใบเดิมที่ตนใช้รองน้ำเมื่อตอนหัวค่ำเพื่อใส่น้ำในอุณหภูมิที่ปกติ โดยไม่ลืมจูบขมับบางเบาๆ เพื่อปลอบคนที่กำลังโดนพิษไข้เล่นงาน
“นะ...หนาว!!”ชายหนุ่มบรรจงเช็ดตัวให้เธออีกครั้งทั้งที่ไม่เคยทำให้ใครมาก่อนเนตรอักษรเป็นคนแรก
“ทำไมฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยวะ”เขาพูดด้วยความหงุดหงิดใจ เขาไม่คิดว่าชีวิตของเขาจะต้องมาเจออะไรแบบนี้เลยไม่เคยต้องดูแลใครเจ้าหล่อนเป็นคนแรกจริงๆ
ผู้บริหารสายการบินแทบอยากจะเอาลิ้นกับฟันตัวเองนักเขาไม่เคยคิดเลยว่า ไม่คิดเลยว่าในชีวิตนี้เขาต้องมานั่งสนหรือแคร์ใครเหมือนกับที่ทำกับเธอตอนนี้ หัวใจดวงแกร่งเป็นอะไรกันแน่มันกำลังถูกครอบงำงั้นหรือจิตใจของเขาไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป
“พ่อขา~ น้ำอุ่นหนาว”เนตรอักษรพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพยายามบิดตัวหนีความหนาวเย็นที่กระทบกับผิวกายเนียนนุ่มของตน เนื่องจากว่าการนั่งเรียนพิเศษเพิ่มเติมในสวนสาธารณะและอากาศก็ยังแปรเปลี่ยนทำให้เด็กสาวเลือดเอเชียไม่เคยคุ้นชินมันเสียที
“อึก~ พ่อขาหนูอุ่นอยากกลับบ้าน”ถ้อยคำละเมอของคนป่วยทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปมด้วยความไม่เข้าใจ บ้านที่เธอว่าใช่บ้านเกิดบุพการีทั้งสองคนของเธอหรือเปล่านะ ทำไมกันทั้งที่บิดาของเธอก็เลี้ยงดูอย่างดีไม่ให้อดหรือลำบาก
แต่บ้าจริง~ ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านในประเทศอิตาลีที่เนตรอักษรย้ายมาเรียนที่นี่ พ่อของเธอต้องเดินทางตลอดนิ ตามรายงานปีปีหนึ่งอยู่คอนโดไม่ถึงสิบครั้งเลยด้วยซ้ำ แล้วเวลาเด็กสาวไม่สบายใครกันที่คอยดูแลเป็นห่วงเป็นใยเช็ดตัวให้เธอ
ให้ตายสิวะ! ทิ้งให้ลูกอยู่บ้านคนเดียว
“เธออยากอยู่กับฉันไหมน้ำอุ่น ให้ฉันดูแลเธอได้หรือเปล่า?”คำถามนั้นที่เปล่งออกไปทั้งที่รู้ว่ายังไงซะเจ้าหล่อนคงไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดเป็นแน่ แต่ในส่วนลึกจริงๆ คริสโตเฟอร์กับรู้สึกอยากจะดูแลเธอให้ดีเหมือนดั่งเจ้าหญิงในปราสาท
“คุณคริสขา~ อย่าทิ้งหนู”มือเล็กไขว่คว้าหาร่างหนาโดยไม่รู้ตัวว่าเขานั่นแหละยังคงนั่งเฝ้าเธอไม่ไปไหน คริสโตเฟอร์มองใบหน้าซีดเซียวผ่านแสงสลัวจากโคมไฟตั้งโต๊ะหัวเตียง
“อ้อนมากนักเดี๋ยวพ่อก็ลักหลับเสียเลยนิ!!”ปากว่าขมุบขมิบตามที่ใจอยากจะทำ ทว่าคริสโตเฟอร์ก็ขึ้นไปนอนบนเตียงอีกครั้งเพื่อให้เธอได้กอดเขาอย่างถนัดมากขึ้น
ชายหนุ่มยกหัวทุยเล็กให้นอนบนท่อนแขนด้านซ้าย กดให้ดวงหน้าหวานซุกตรงซอกคอแกร่งเพื่อให้เขาได้รับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆ รินรดกระทบผิวของเขาอยู่
เฮ้อ~ ตอนนี้เหมือนหัวใจของเขากำลังจะมีเจ้าของ....
