นางบำเรอร้อนรัก

26.0K · จบแล้ว
พฤศตะวัน /พันตะวัน /ศรสวาท
24
บท
6.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เกวลิน - รินนรี สองพี่น้องที่หนีออกจากบ้านด้วยความจำเป็น ต่างถูกยื่นข้อเสนอให้เป็นนางบำเรอในวิธีที่แตกต่างกัน ทว่าชีวิตมีเส้นทางให้เลือกเสมอ

นิยายรักดราม่าสัญญาทางรัก

ep1

แสงตะวันจัดจ้าในหน้าร้อน ช่อดอกไม้สีเหลืองจัดจ้านทิ้งพวงช่อห้อยระย้าอยู่เต็มต้น ทำให้สองข้างทางดูสว่างไสวเป็นทิวแถว เกวลินปั่นจักรยานบนถนนลูกรังสีแดงหม่นที่ประดับไปด้วยดอกลมแล้งสีเหลืองอย่างสบายใจ สองเท้าถีบปั่นเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ แม้อากาศจะร้อนจนเหงื่อซึมทำให้เนื้อผ้าบางเบาชื้นเหงื่อเปียกแนบลำตัวไปทั่วทั้งแผ่นหลัง แต่เธอกลับอารมณ์ดี เพราะได้มาเยี่ยมบ้านเกิดอีกครั้ง หลังจากที่หนีออกจากบ้านไปในคราวนั้น

ปริ๊น ปริ๊น ....

เสียงแตรรถส่งสัญญาณเตือนให้เธอหลบเข้าข้างทาง แต่เพราะผ้าซิ่นที่หยิบมาสวมชั่วคราวทำให้ไม่ถนัดในการหยุดรถเท่าที่ควร เกวลินพยายามบังคับจักรยานคันโตโบร่ำโบราณให้มันขยับเข้าข้างทาง แต่ถนนลูกรังไม่ได้สม่ำเสมอเหมือนคอนกรีต บางช่วงยังเป็นหลุมบ่อและเธอโชคร้ายที่บังคับรถหลบหลุมข้างทางไม่ได้

โครม! ว๊าย.....

“เป็นยังไงบ้างคุณ”

เสียงร้องอย่างตกใจ รีบลงมาดูอาการของหญิงสาว เขาพบว่าสภาพของเธอไม่น่าดูนัก จักรยานคันโตล้มทับร่างอรชรอ้อนแอ้นที่ขะมุกขะมอมไปด้วยฝุ่น ผ้าซิ่นเปิดเปลือยจนถึงต้นขาขาวเรียวสวย จนชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลาย แล้วหันมองไปทางอื่น

“โอ๊ย นี่คุณ ลงมาแล้วก็เข้ามาช่วยฉันหน่อยซิ ฉันเจ็บนะ”

“ครับๆ ผมช่วยเดี๋ยวนี้ละครับ”

ชายหนุ่มอีกคนที่สูงวัยกว่ารีบเข้ามากุลีกุจอ ช่วยยกจักรยานออกจากตัวหญิงสาว แล้วพยุงตัวเธอขึ้นยืน เกวลินปัดฝุ่นออกจากเนื้อตัว จัดผมเผ้าให้เรียบร้อย

แต่มันก็ยังดูสกปรกมอมแมม สีหน้าเธอจ้องชายหนุ่มที่ยืนพิงรถอย่างเอาเรื่อง โดยไม่สนใจลุงคนหนึ่งที่กำลังจูงจักรยานของเธอเข้าร่มไม้ แล้วตรวจดูความเสียหายของรถจักรยาน

“สะใจนักหรือไงที่เห็นฉันล้มลงข้างทางแบบนี้”

“เปล่านี่ครับ ผมก็เห็นว่าคุณไม่ได้บาดเจ็บอะไรบ้าง แล้วลุงชีพก็ช่วยคุณอยู่นี่ครับ”

“แต่ฉันเห็นนะสายตาคุณที่มองดูฉัน แล้วเมินออกไปยิ้มเยาะเมื่อครู่”

โอ้..ผู้หญิงคนนี้แปลเจตนาของเขาผิดเสียแล้ว ท่าทางเอาเรื่องไม่ใช่เล่น รู้จักเขาน้อยไปกระมัง

“ผมไม่ได้มีเจตนาอะไรแบบนั้นหรอก ผมจะยิ้มเยาะคุณทำไม”

“แต่ฉันเห็นนี่ ผู้ชายเสียเปล่า ทำไมไม่ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำ”

“งั้นหรือ คุณอยากให้ผมยอมรับใช่ไหมว่า ทำไมเมินร่างสวยๆ ของคุณ”

ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาเกวลินอย่างช้าๆ สายตาของเขาจับจ้องหญิงสาวราวกับเสือที่จ้องตะครุบเหยื่อ แววตาระยิบของเขาทำให้เกวลินแทบเข่าอ่อน เธอถอยหลังโดยอัตโนมัติ จนสะดุดเข้ากับพื้นขรุขระจวนเจียนล้ม แต่ถูกรวบไว้ด้วยอ้อมแขนของชายหนุ่ม

“ระวังหน่อยซิครับ”

ร่างบอบบางเต่งตึงของเกวลินถูกรวบเข้าสู่อ้อมกอดแกร่งของชายหนุ่มที่เธอยังไม่รู้ กระทั่งชื่อของเขา เกวลินเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าคมสัน จมูกโด่งเป็นสันรับกับไรหนวดบางเบาที่อยู่เหนือริมฝีปากหนา หากแต่ได้รูป นัยน์ตาสีเหล็กประกายจัดจ้ามองสบลงมา ทำให้เกวลินต้องหลบตาลงมองที่ลำแขนกำยำสีคร้ามแดด หัวใจเธอเต้นไหวระรัวจนกลัวว่าเขาจะได้ยิน

“ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันยืนเองได้”

เธอกระชากเสียงบอก กลบเกลื่อนอาการตุ้มๆต่อมๆ ของหัวใจตัวเอง แข้งขาก็พาลจะไร้เรี่ยวแรง จนเธอต้องรวบรวมกำลังใจอย่างเต็มที่ ที่จะหลุดออกจากอ้อมแขนที่ต้องมนต์นั่น

หากแต่พอเธอขยับวงแขนที่รัดรึงกลับกระชับมั่น จนอกอวบหยุ่นบดเบียดเสียดสีไปกับหน้าอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ฝ่ามือของเขาลูบขยับกระชับไปที่หนั่นเนื้อเนินสะโพก กดกระชากให้แนบแน่นเข้ามาจนรู้สึกถึงแก่นกลางที่กำลังตุ่ยตุงคับพองอยู่

“นี่คุณทำอะไร”

เกวลินตะโกนลั่น อารมณ์หวามไหวเมื่อสักครู่แปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว หวั่นระทึก

“ก็อยากรู้ไม่ใช่หรือ?....ว่าทำไมผมต้องเมินคุณ”

“ฉะ ฉันไม่อยากรู้ มันเรื่องของคุณแล้ว ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันไม่อยากรู้แล้ว”

“ไม่เอาน่า ตอนนี้ผมอยากจะบอก”