บท
ตั้งค่า

4/1

รัตติกัลยาสะบัดมือให้หลุดจากการเกาะกุม แต่ก็ไม่เป็นผล ซ้ำร้ายเธอยังถูกกระชากเส้นผมแล้วถูกตบจนลงไปกองกับพื้น เจ็บปวดจนน้ำตาไหลพรากแล้วกลั้นเสียงสะอื้นไว้ไม่อยู่ มันเป็นเวรกรรมของเธอใช่ไหม เธอหนีเสือปะจรเข้ใช่หรือเปล่า

“หยุดร้องซะ ไม่อย่างนั้นจะโดนมากกว่านี้”

“อย่านะโว้ย นายบอกอย่าให้สินค้าเป็นรอย มึงจำไม่ได้หรือวะ ถ้าราคาตกกูจะบอกนายว่าเป็นเพราะมึงไอ้ก้าง”

ผู้ชายคนหนึ่งห้าม แล้วฉุดรัตติกัลยาขึ้นก่อนจะเป็นคนพันธนาการบังคับให้เธอเดินไปกับเขา หญิงสาวร่ำไห้น้ำตาเป็นเผาเต่า ร่างบอบบางสะอื้นไปตลอดทางจนคนข้างๆ เริ่มจะหมดความอดทน

“เงียบได้แล้ว ฉันก็ไม่ได้ใจดีนักหรอกนะ ถ้าเธอไม่เงียบอย่าหาว่าฉันไม่เตือน จำไว้ว่าเธอเป็นคนยินดีขึ้นเครื่องมาเอง ไม่มีใครบังคับ จะกลับไปตอนนี้ก็ไม่ได้หรอก หันไปดูสิ”

หญิงสาวหันไปมองด้านหลัง แล้วต้องเบิกตากว้างเมื่อไม่เห็นเครื่องบินที่โดยสารมาจอดอยู่

“ทะเลทรายจะปรวนแปรไปตามทิศทางของแรงลม ถ้าเราเดินไปต่อแล้วหันกลับมามองอีกครั้ง สภาพของลอนทรายก็จะไม่เหมือนเก่า การเดินท่ามกลางทะเลทรายไม่ใช่เรื่องสนุกเลยเห็นไหม ยิ่งถ้าเราไปถึงที่พักช้า เราอาจต้องผจญกับพายุทรายที่คร่าชีวิตของพวกเราทั้งหมด แทนที่เธอจะยังมีลมหายใจหาทางพาตัวเองกลับไปบ้าน ก็สูญเปล่าเพราะต้องตายอยู่ท่ามกลางทะเลทราย”

เธอฟังไม่ผิดใช่ไหม ผู้ชายคนนี้กำลังชี้แนะแนวทางการหนีอย่างมีลมหายใจให้เธอใช่หรือเปล่า หรือเขาหลอกลวงเธอเหมือนที่จันทร์นภาเคยทำสำเร็จมาแล้ว แต่...เมื่อเธอหันไปมองเบื้องหลังอีกครั้ง ก็พบว่าเป็นจริงตามที่เขาบอก ลอนทรายเปลี่ยนแปลงไปอีกแล้ว

รัตติกัลยาก้มหน้าหมดหนทางที่จะหนี อย่างน้อยเธอก็ยังไม่อยากตายในตอนนี้ เธอจะต้องรักษาลมหายใจเอาไว้เพื่อหาทางกลับเมืองไทยให้ได้

เดินทางกันอยู่นานดวงตะวันก็ใกล้จะลับขอบฟ้า แต่เป็นช่วงที่มองเห็นสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งปรากฏชัดขึ้นทุกย่างก้าว สถานที่ที่คล้ายกับเป็นตลาดการค้า มีพ่อค้าแม่ค้าวางแผงค้าขายมากมาย บริเวณนี้ไม่ได้แห้งแล้งกันดารเหมือนที่เธอเพิ่งเดินผ่านมา มันมีบ่อน้ำสีเขียวใสแจ๋วและเธอก็รู้สึกกระหายน้ำขึ้นมาดื้อๆ

ผู้ชายคนที่เดินคุมเธอมาตลอดส่งกระติกน้ำของเขาให้ หญิงสาวอดประชดประชันเขาอยู่ในใจไม่ได้ ว่าทำไมไม่ส่งให้เธอดื่มตั้งนานแล้ว มือบางรับมาดื่มอย่างกระหายแล้วกระติกก็ถูกแย่งไปเก็บ ก่อนที่พวกผู้หญิงทั้งหมดรวมทั้งเธอจะถูกผลักเข้าไปในกระโจมใหญ่หลังหนึ่ง

เท่านั้นแหละ ที่รัตติกัลยารู้สึกว่าเธอเป็นสินค้าในโกดังเต็มตัว

นรีกระจ่างพลิกตัวกระสับกระส่ายไปมาอยู่บนเตียง แสงแดดที่ส่องเข้ามากระทบผิวทำให้เธอสะดุ้งตื่นพรวด

“ว้ายๆ กี่โมงกี่ยามแล้ว คอนเสิร์ตจะเริ่มแล้วนี่ ตายล่ะ ตายๆ”

ร่างบางกระโดดลงจากเตียงเข้าห้องน้ำจัดการกับตนจนสะอาด จากนั้นร่างบางระหงในชุดรัดกุมพร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางมีล้อก็ถูกลากลงมาจากห้องพัก

เธอโบกมือเรียกรถแท็กซี่แล้วส่งบัตรคอนเสิร์ตให้โชเฟอร์ดู ก่อนจะรีบเก็บใส่กระเป๋าเหมือนคนงกเพราะกลัวว่าจะทำหายซะก่อน

ถึงแล้วสินะอิสตันบลูจ๋า ในที่สุดยัยนรีก็มาถึงจนได้ เธอคิดยิ้มๆ แล้วกลั้นหัวเราะจนตัวสั่นเมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงแรมกับซาบิน ป่านนี้เขาคงอยากตามฆ่าเธอให้ตายหรือไม่ก็ไปโวยวายกับทางเว็บไซต์แล้วว่าถูกเธอหลอก หญิงสาวทำทีเป็นให้ซาบินไปอาบน้ำ บอกว่าชอบผู้ชายที่มีกลิ่นสบู่ติดตัวก่อนจะทายาสลบที่เธอเสาะแสวงหามาได้จากในเว็บไซต์ ลงบนเนินอก ตอนนั้นเธอใส่เกาะอกไว้อีกชั้นไม่มีทางซะล่ะที่จะให้หมอนั่นได้เห็นของสวยๆ งามๆ แล้วหมอนั่นก็หลงติดกับ แค่เขาออกจากห้องน้ำแล้วตรงดิ่งมาหาเธอ พยายามปล้ำจูบเธอแต่เธอก็เอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ไม่เสียจูบให้เขา แต่เขากลับพลาดท่าเสียทีให้เธอยกใหญ่

นรีกระจ่างได้เงินจากเขามามากโข เรียกว่าเกือบหมดกระเป๋าหากเธอไม่เหลือไว้ให้เขา 2,000 บาท เพราะสงสาร เขาคงต้องหัวเสียมากกว่านี้

หญิงสาวชาวไทยวัย 20 ปี เบียดคนนับหมื่นเข้าไปในสถานที่จัดคอนเสิร์ต ด้วยความเป็นคนร่างเล็กพกพาความสูงเพียง 160 ซม. จึงไม่เป็นปัญหาที่ต้องเบียดผู้คนมากมายเข้าไป แต่กว่าจะเข้าไปถึงชั้นที่ตนมีสิทธิ์ได้ชมก็เล่นเอาเหงื่อตก คิดว้าวุ่นว่าจะกลับออกไปโดยที่ไม่โดนเหยียบตายได้หรือไม่ โชคดีที่ทุกระดับชั้นมีเก้าอี้ไว้รอบรับจนครบจำนวนบัตร และโชคเข้าข้างนรีกระจ่างอีกเช่นกันที่เธอได้นั่งแถวหน้าสุดของระดับชั้นนั้น ราคาบัตรปานกลางไม่ถูกและไม่แพง เพราะหาเงินได้มากสุดเท่านี้อยู่บนชั้นสองของฝั่งซ้ายมือ มองลงมาเห็นเวทีใหญ่ได้ชัดเจนแต่...เธอจะได้สบตาสีฟ้าของทาดิลชัดๆ หรือเปล่าน๊อ

กว่าทาดิล ซาจานลาจะออกมาจากหลังเวที เวลาก็ล่วงเลยไปเป็นชั่วโมง แอร์เย็นเฉียบไม่ได้ทำให้หญิงสาวรู้สึกหนาวแต่เธอกลับร้อนรุ่มเพราะรอคอยนักร้องหนุ่มใจจดใจจ่อ แล้วนาทีที่ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงและสั่นระริกก็มาถึง ร่างสูงใหญ่โดดเด่นในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงยีนส์ทรงกระบอกพอดีตัวจนเกือบฟิต เสื้อเชิ้ตไม่ติดกระดุมเปิดให้เห็นเสื้อกล้ามตัวในสีเดียวกัน บนศีรษะของเขามีหมวกใบเท่ห์วางทับอยู่ วันนี้เขาดูหล่อและสง่ากว่าทุกครั้งที่เธอเห็นแค่ในทีวี หรือเพราะได้บรรยากาศและกลิ่นไอของเทพบุตรในดวงใจ จึงทำให้สาวน้อยอยากกรี๊ดออกมาจนเสียงแหบ แล้วเธอก็ทำตามที่ใจปรารถนา

“กรี๊ดๆๆ ทาดิลๆ กรี๊ดๆๆ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel