3/2
“ไม่มีใครให้แม่ติดเงินค่าเหล้าแล้วจ้ะ”
“เพียะ!!! อีห่-านี่ กูสั่งยังไงมึงก็ต้องทำตาม”
หญิงสาวเจ็บช้ำไปทั้งหน้า แม่ตบเธอจนความเจ็บปวดมันฝังรากลึกเข้าไปในหัวใจแล้ว เจ็บแทบขาดใจ แต่จะทำไงได้ในเมื่อท่านเป็นผู้ให้กำเนิด
“จ้ะแม่ ฉัน...จะไปหาเหล้ามาให้ได้”
ร่างบอบบางเดินออกไปจากบ้านด้วยซีกหน้าแดงก่ำเป็นรอยนิ้วมือประทับ คนที่เดินสวนกันไปมาต่างก็เมียงมองแต่หญิงสาวชาชินซะแล้ว น้ำตาที่เคยไหลจนตกในหากกลั่นเป็นเลือดได้ ป่านนี้คงไหลออกหมดตัว หญิงสาววิงวอนขอร้องให้เจ้าของร้านยอมให้เซ็นค่าเหล้า แล้วเธอสัญญาว่าจะหามาจ่ายแทนแม่เอง
“นะจ๊ะป้าสน ฉันทำงานร้านอาหารทุกวัน ฉันจะหาเงินมาปิดบัญชีของแม่เอง แต่ตอนนี้แม่อยากเหล้ามาก ถ้าฉันไม่ได้กลับไปคง...”
“ถูกตบอีกล่ะสิท่า เออๆ ข้าเห็นแก่เอ็งนังดาว เอาไป แต่เอ็งสัญญากับข้าแล้วนะห้ามผิดคำพูดล่ะ”
“จ้ะป้าสน ขอบคุณมากนะจ๊ะ”
รัตติกัลยาเดินถือถุงใส่ขวดเหล้ากลับบ้าน ระหว่างทางได้พบจันทร์นภา เวียงศรี เพื่อนสมัยที่เรียนมัธยมด้วยกัน ก่อนที่ต่างคนจะแยกย้ายไป จันทร์นภาได้ทำงานมีเงินมาใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายต่างจากเธอ งานเสิร์ฟในร้านอาหารเงินเดือนไม่มากมายนัก แต่ยังมีทิปจากลูกค้าบางคนที่เหลือเศษเงินทอนไว้ให้เธอ
“อ้าวดาว ต๊าย...ไม่ได้เจอกันตั้งนาน เป็นยังไงบ้าง” จันทร์นภาถามเสียงสูงต่ำ การแต่งตัวของเธอทำให้รัตติกัลยาต้องเบือนหน้าหนี ก็ชุดรัดรูปสีแดงสดสั้นจุ๊ดจู๋แค่ปิดสะโพกเท่านั้น ทำไมถึงกล้าใส่ก็ไม่รู้
“เรื่อยๆ น่ะ จันทร์ล่ะ ดูท่าจะอยู่ดีมีความสุขสินะ”
“ฉันเหรอ ดีมากเลยล่ะ นี่ก็กะว่าจะถอยรถใหม่ป้ายแดงอีกคัน ขับคันเก่าเบื่อแล้ว”
“โอ้โห...นี่เธอจะมีรถสองคันแล้วเหรอ” รัตติกัลยาตาโตเป็นไข่ห่าน เพื่อนของเธอได้งานทำเงินดีถึงเพียงนี้เชียวเหรอนี่ น่าอิจฉาจัง
“ใช่สิ แล้วนั่นแก้มเธอโดนอะไรมา”
“เอ่อ...แม่ตบน่ะ” หญิงสาวไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องโกหก จึงบอกความจริงกับจันทร์นภาไป
“นี่แม่เธอยังเหมือนเดิมหรือ แย่จังเลยนะ ฉันล่ะสงสารเธอจริง”
ว่าแล้วจันทร์นภาก็กวาดตามองไปทั่วร่างของรัตติกัลยา หญิงสาวตรงหน้าหากได้ถอดชุดเก่าๆ แล้วจับขัดสีฉวีวรรณสักหน่อยคงสวยไม่เบา หน้าหวานๆ ตาโตๆ แบบนี้ตรงสเป็คเลยทีเดียว
“ไปทำงานกับฉันมั้ยล่ะดาว งานสบายเงินดี เผลอๆ ทำครั้งเดียวก็มีบ้านมีรถเลยนะ”
“งานอะไรเหรอ”
“อ๋อ...ตอนนี้ฉันกำลังหาคนไปทำงานร้านอาหารที่เมืองนอกอยู่น่ะ รายได้งามๆ แต่ต้องอยู่ไกลบ้าน ฉันว่าเธอน่าจะทำได้นะ ไม่ต้องทนรองมือรองเท้าอยู่แบบนี้”
“ร้านอาหารที่เมืองนอกเหรอ แล้วจะไปยังไงในเมื่อฉันไม่มีเงินเลยสักบาท”
“เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา ที่ร้านนี้จะให้ค่าเครื่องบินสำหรับพนักงานใหม่ แล้วค่อยหักเงินเดือนคืนทุกเดือน ถ้าเธอสนใจก็ไปหาฉันได้ที่บ้านนะ”
“แล้ว...ถ้าฉันสนใจ จะได้เริ่มทำงานเมื่อไหร่” หญิงสาวหัวอ่อนอย่างรัตติกัลยากำลังเชื่อสนิทใจว่าจันทร์นภาจะพาเธอไปทำงานร้านอาหารจริง เพราะจากที่เคยได้ยินมีคนเคยบอกเหมือนกันว่าทำงานร้านอาหารที่เมืองนอกน่ะเงินดี แต่งานหนักคงต้องอดทนสักหน่อย สำหรับเธอแล้วถ้าได้ไปจริงๆ ต่อให้หนักแค่ไหนแล้วเงินดีล่ะก็ เธอทำได้ทั้งนั้น
“สนใจแล้วก็บอกฉัน ฉันจะส่งเธอไปกับคนอื่นเลย ตอนนี้มีกลุ่มคนงานคนอื่นที่กำลังจะเดินทางด้วย”
“งั้นเหรอ อืม...ฉันขอคิดดูก่อนนะ คือว่าก็อดเป็นห่วงแม่ไม่ได้น่ะ ถ้าฉันไม่อยู่แล้วใครจะดูแลแม่น่ะสิ”
จันทร์นภาเห็นความลังเลที่มีอยู่เพียง 30% ในดวงตาคู่สวย รอยยิ้มประหลาดประดับบนกลีบปากอิ่มของเธอก่อนจะพยักหน้ายอมรับเหมือนคนใจกว้าง
“ตามใจเธอเถอะ มีคำตอบเมื่อไหร่ก็ไปหาที่บ้านแล้วกันนะ”
รัตติกัลยามองจันทร์นภาเดินตรงไปยังบ้านของเธอจนลับตา หญิงสาวจึงเดินกลับบ้านของตัวเองทั้งที่ใจยังครุ่นคิดถึงงานใหม่ในแดนไกล เงินดีขนาดนั้นใครล่ะจะไม่สน เฮ้อ...คงต้องขออนุญาตจากแม่ก่อน ถ้าแม่ยอมก็ไปได้
“แม่จ๋า อ้าว...” เสียงหวานเงียบหายเมื่อเห็นร่างแม่นอนสลบคาขวดเหล้า หญิงสาววางของในมือแล้วออกแรงพยายามจะดึงแม่ขึ้น เพื่อเธอจะพาแม่ไปนอนในห้อง แต่ตัวอวบๆ ก็หนักเหลือทน ในที่สุดต้องปล่อยให้แม่นอนอยู่ตรงนั้น แล้วหาหมอนมารองศีรษะของแม่ไว้พร้อมห่มผ้าให้เสร็จสรรพ
ร่างบางถอนใจเฮือกก่อนจะเดินเข้าครัวเตรียมอาหารง่ายๆ ไว้รอแม่ ทุกครั้งที่แม่เมาหลับเมื่อตื่นมาจะหิวมาก เธอจะต้องทำกับข้าวไว้รอเพื่อไม่ให้แม่โวยวายและลงไม้ลงมือกับเธอ หญิงสาวเดินไปเดินมาอยู่ในครัว ทำนู่นทำนี่อยู่นานแม่ก็ยังไม่ตื่น บรรยากาศเริ่มมืดลงทุกขณะ หญิงสาวจึงปิดหน้าต่างปิดประตูกันยุงเข้ามากัด แล้วเข้าห้องเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ เธอใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำไม่นานก็ออกมาด้วยชุดใหม่ซึ่งเก่าไม่แพ้ชุดที่เพิ่งเปลี่ยน
นายศักดิ์ชายเข้ามาอยู่ในห้องเธอตอนไหนก็ไม่รู้ ตอนนี้เขายืนขวางประตูอยู่ ใบหน้าดำปนแดงจากพิษสุราริมฝีปากแสยะยิ้มตาเยิ้มอย่างน่าเกลียด ยิ่งหนวดเครารกรุงรังนั่นอีกที่ทำให้รัตติกัลยาสงสัยว่าแม่รักผู้ชายคนนี้ได้ยังไง สภาพที่เห็นมันมหาโจรชัดๆ
“ลุงศักดิ์เข้ามาทำไม ออกไปนะ นี่มันห้องของฉัน” รัตติกัลยาไล่ รู้ว่าภัยร้ายกำลังคืบคลานมาถึงตัว เธอจำได้ว่า ล็อกประตูห้องแล้วนี่นา ทำไมลุงศักดิ์ถึงเข้ามาได้อีก
“ข้าสงสารเห็นเอ็งโดนตบบ่อยๆ ก็เลยเข้ามาดูว่าเอ็งเจ็บตรงไหนบ้าง”
น้ำเสียงแม้จะยังไม่ยานคางอย่างคนเมาหนัก แต่สภาพที่ต้องยืนพิงฝาประคองร่างตนไว้ ทำให้หญิงสาวแน่ใจว่าพ่อเลี้ยงของเธอเมาปลิ้น หญิงสาวก้าวถอยหลังเมื่อร่างใหญ่นั้นสาวเท้าเข้ามาเรื่อยๆ
