
บทย่อ
ชิงเยวี่ยทะลุมิติมาเป็นนางบำเรอของแม่ทัพวิปริตผู้มีปัญหานอนไม่หลับมาหลายปีอย่างงงๆ ทว่าทุกสิ่งกลับเปลี่ยนแปลงไปเมื่ออาการนอนไม่หลับของเขาหายไปอย่างน่าพิศวงนั้นเริ่มต้นจากการร่วมเตียงกับนางโดยไม่รู้ตัว
แม่ทัพผู้โหดเหี้ยม
ในค่ำคืนที่ดวงจันทร์ลอยเด่นอยู่เหนือเมืองหลวงแคว้นไป่ เสียงกลองศึกดังสะท้อนทั่วทั้งแผ่นดิน แจ้งให้รู้ว่าแม่ทัพผู้โหดเหี้ยม มู่หลงชิง แห่งแคว้นจิ้นได้บุกเข้ามาถึงเขตเมืองหลวงแล้ว ชื่อเสียงของมู่หลงชิงนั้นเลื่องลือไปทั่วทั้งสี่แคว้นว่าเป็นผู้ที่โหดเหี้ยม วิปริตและไร้ความปรานี ศัตรูที่พ่ายแพ้แก่เขาล้วนต้องเผชิญกับชะตากรรมอันน่าสะพรึงกลัวทั้งสิ้น
ทว่าเป้าหมายของมู่หลงชิงในครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงการยึดครองแคว้นไป่เท่านั้น แต่เขามีเหตุผลที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น ดอกไม้เยวี่ยซินฮวา สมบัติล้ำค่าของแคว้นไป่ ถูกกล่าวขานว่าสามารถรักษาอาการนอนไม่หลับที่ทรมานเขามานับสิบปีได้
อีกทั้งยังล้างพิษได้ทุกชนิดหลังจากสืบทราบมาจากสายลับว่า ดอกไม้ล้ำค่านี้จะอยู่ในตำหนักเย็น เขตต้องห้ามของพระราชวัง ซึ่งเป็นที่คุมขังองค์หญิงชิงเยวี่ย สตรีผู้ถูกตราหน้าว่าเป็นตัวอัปมงคล
องค์หญิงชิงเยวี่ยถูกส่งมายังตำหนักเย็นตั้งแต่ยังเยาว์วัย หลังจากฮองเฮาสิ้นพระชนม์หลังจากนางได้ห้าขวบโดยไม่ทราบสาเหตุ ด้วยปานแดงรูปดอกเหมยสีแดงที่ประดับบนแก้มซ้ายของนาง ผู้คนเชื่อว่านางนำพาความโชคร้ายมาสู่ราชวงศ์ ฮ่องเต้จึงมีรับสั่งให้ส่งนางเข้าตำหนักเย็นในทันที
แม้จะถูกกักขังและปฏิบัติอย่างเย็นชา ชิงเยวี่ยในวัยสิบห้าปีก็ยังคงความสง่างามและจิตใจที่ดีงาม สภาพของนางในตำหนักเย็นไม่ต่างจากนักโทษ แต่ดวงตาของนางยังคงเปล่งประกายแห่งความหวังว่าสักวันนางจะออกไปจากตำหนักเย็นเสียที
“พวกมันมาแล้ว…” เสียงนางกำนัลในตำหนักเย็นพูดอย่างหวาดหวั่น เมื่อเสียงฝีเท้าทหารแคว้นจิ้นดังก้องเข้ามาใกล้
จื่อหลานนางกำนัลประจำตัวขององค์หญิงจึงคิดหาวิธีปลอมตัวเป็นองค์หญิง หวังช่วยให้องค์หญิงหนีไปได้
“องค์หญิง โปรดรีบหนีไปเพคะ!” นางกล่าวขณะมอบชุดชาวบ้านไว้ปลอมตัวให้
“แล้วเจ้าล่ะ?” องค์หญิงชิงเยวี่ยถาม น้ำเสียงของนางสั่นเครือในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัวยิ่ง
“องค์หญิงไม่ต้องกังวลเพคะ หากแลกกับอิสรภาพของท่านได้บ่าวก็จะทำ ท่านรีบหนีไปโปรดอย่าหันกลับมามอง บ่าวขอเพียงให้ท่านมีชีวิตรอด” นางกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยน้ำตา
องค์หญิงชิงเยวี่ยน้ำตาคลอเบ้า พลางกัดริมฝีปากแน่นก่อนจะพยักหน้า
“ข้าจะไม่ลืมเจ้าตลอดชีวิต!” นางกล่าวก่อนวิ่งหนีไปในความมืด
จื่อหลานที่ปลอมตัวเป็นองค์หญิงซึ่งใส่ผ้าคลุมหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ นางไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัว กลับนั่งนิ่งรอคอยการมาของแม่ทัพมู่หลงชิง
ปัง!!!
เมื่อประตูตำหนักถูกเปิดออกอย่างแรง มู่หลงชิงปรากฏตัวในชุดเกราะสีดำ เขามีผมสีดำแซมสีเงินยวง เขาสาวเท้าเข้ามามองตรงไปยังจื่อหลาน ดวงตาคมสีแดงฉานราวกับปีศาจของเขาสะท้อนประกายบางอย่างที่ยากจะคาดเดา
“เจ้าคือองค์หญิงชิงเยวี่ยใช่หรือไม่?” เขาเอ่ยถามเสียงเย็นชา
จื่อหลานเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา นางพยักหน้าตอบว่า “ใช่ ข้าคือองค์หญิงชิงเยวี่ยผู้ถูกขนานนามว่าตัวอัปมงคล… ท่านแม่ทัพต้องการสิ่งใดจากตำหนักเย็นนี้หรือเจ้าคะ?”
มู่หลงชิงเดินเข้ามาใกล้นาง ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบ ๆ ก่อนจะหยุดที่จื่อหลาน
“ดอกไม้เยวี่ยซินฮวา ข้าได้ยินว่ามันอยู่ที่นี่ เจ้า…รู้หรือไม่ว่ามันอยู่ที่ใด?”
จื่อหลานนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “เยวี่ยซินฮวาไม่ได้เป็นเพียงดอกไม้ แต่คือสิ่งมีชีวิตที่ต้องดูแลอย่างประณีต หากท่านต้องการมัน ข้าจะต้องเป็นผู้พาท่านไป…”
มู่หลงชิงขมวดคิ้ว เขามองนางอย่างสงสัยไม่คิดว่าเขาจะได้มาอย่างง่ายดายเช่นนี้ ก่อนจะตัดสินใจตอบตกลง “เช่นนั้นก็จงนำทางข้า หากเจ้ากล้าหลอกลวง ข้าจะไม่ละเว้นเจ้า!”
การเดินทางสู่สวนลับของตำหนักเย็นเริ่มต้นขึ้น จื่อหลานก้าวเดินนำหน้าแม่ทัพผู้โหดเหี้ยม ขณะที่มู่หลงชิงคิดจะกำจัดนางอย่างไรเมื่อได้ของมาแล้ว
ในสวนลับที่ซ่อนอยู่หลังตำหนักเย็น ดอกเยวี่ยซินฮวาไม่ได้บานสะพรั่งใต้แสงจันทร์อย่างที่คิด มู่หลงชิงยืนมองดอกไม้นั้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
“นี่นะหรือ ดอกเยวี่ยซินฮวาที่เจ้าว่า!!!”
“ฮ่า ๆ มู่หลงชิงท่านคิดว่าข้าจะยอมมอบมันให้ท่านง่าย ๆ หรือ ที่จริงแล้วดอกไม้นี้ได้ตายไปตั้งนานแล้วล่ะ ท่านมาเสียเปล่าแล้ว...” นางกล่าวด้วยความเย้ยหยัน
ขณะที่ช่วงสุดท้ายมู่หลงชิงได้เข้ามาประชิดบีบคอนางจนสิ้นใจ
มู่หลงชิงโมโหยิ่งนักไม่คิดว่าการมาครั้งนี้ของตนจะเสียเปล่า! และถูกสตรีหลอกลวงอีกต่างหาก!
ในค่ำคืนที่ความเงียบปกคลุมค่ายทหารของมู่หลงชิง องค์หญิงชิงเยวี่ยในชุดชาวบ้านซึ่งถูกจับกุมตัวมายังค่าย ขณะหลบซ่อนอยู่ในพงหญ้าแต่สุดท้ายไม่อาจรอดพ้นจากการจับกุม นางถูกนำตัวไปยังกระโจมของแม่ทัพใหญ่ เมื่อมาถึงนางถูกผลักให้คุกเข่าลงต่อหน้าชายผู้ที่ได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมที่สุดในแผ่นดิน
“ท่านแม่ทัพ มีสตรีที่พวกข้าจับกุมได้” ทหารคนหนึ่งรายงาน
มู่หลงชิงยืนหันหลังให้ ร่างสูงใหญ่ในชุดคลุมหลวมหลังการถอดเกราะ ยังคงแผ่รังสีเยือกเย็นและน่าหวาดกลัว เขากำลังสนทนากับทหารว่าจะแบ่งนางบำเรอที่ถูกนำตัวมาอย่างไรดี