
บทย่อ
จากผู้หญิงที่เฝ้าแอบมอง... สู่ของเล่นไร้ค่า +++++++++++++++++++++++++++++++++++ ปลายข้าว หญิงสาวที่เคยยืนอยู่ไกลๆ เพื่อแอบมองชายในฝัน แต่วันนี้เธอกลับถูกเขาลากเข้ามาในโลกมืดของเขาในฐานะ 'ของเล่น' ไม่ใช่คนรัก ไม่ใช่คนสำคัญ ไร้สถานะใดๆ ในสายตาของเขา เขาทำลายศักดิ์ศรีและฉีกพรหมจรรย์ของเธอทิ้งอย่างไร้เมตตา ทิ้งไว้เพียงหัวใจที่แตกสลาย และร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยตรวน ตราบาปที่ประทับลงโดยชายผู้ไร้หัวใจ! +++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ น่านนที?!" สีหน้าของเธอมีแววตกใจและหวาดกลัว แต่ความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ในอกของเขา มันทำให้เขาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เขาเดินเข้าไปหา กระชากเธอขึ้นมาประจันหน้า ก่อนจะเค้นเสียงต่ำที่แฝงไปด้วยความเดือดดาล "จะปล่อยให้ท้องเพื่อจับฉันงั้นเหรอ?" "ปะ เปล่านะคะ" นี่เขา ได้ยินสิ่งที่แม่พูดกับเธออย่างนั้นเหรอ? ปลายข้าวคิดอย่างตื่นตกใจ หัวใจของเธอเต้นระรัวแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก "หึ เปล่าเหรอ" "อ๊ะ!" เขาจับเธอเหวี่ยงขึ้นไปบนเตียงอย่างรุนแรงและไร้ความปรานี "จำเอาไว้นะ ต่อให้เธอท้อง ฉันก็จะไม่รับผิดชอบ" เขาคำรามเสียงเกรี้ยวกราด ขณะถอดเสื้อเชิ้ตของตัวเองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดต่อ "เพราะฉันจะให้เธอไปทำแท้ง"
ตอนที่ 1
แสงไฟสปอตไลท์สีขาวสาดส่องลงมากลางเวทีที่ถูกจัดขึ้นอย่างเร่งด่วน ภายในไพรเวทคลับสุดหรู
ทุกสายตาในห้องโถงกว้างจับจ้องมาที่ร่างอรชรในชุดราตรีสีขาวบริสุทธิ์ของ ปลายข้าว เธอยืนตัวสั่นเทาอยู่บนนั้น ในขณะที่แม่ของเธอยืนยิ้มอย่างพึงพอใจอยู่ข้างๆ
ในมุมหนึ่งของห้องโถง น่านนที นั่งเอนหลังพิงพนักโซฟาหนังสีดำสนิท ใบหน้าของเขาเรียบเฉยราวกับประติมากรรมหินสลัก
เขาไม่ได้ตั้งใจมางานนี้ แต่พอดีที่สถานที่นี้เป็นของคนรู้จัก เขาเลยแวะมาดื่มเท่านั้น แต่ทันทีที่เห็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งถูกนำขึ้นประมูล ความทรงจำในอดีตก็ย้อนกลับเข้ามา
ครอบครัวของเขากับครอบครัวของปลายข้าวไม่ลงรอยกันนัก เพราะครอบครัวของเธอมักทำเรื่องที่ผิดศีลธรรมอยู่เสมอ และนั่นก็ทำให้เขาไม่ชอบคนพวกนี้สักเท่าไหร่
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะมองไม่เห็นดวงตากลมโตของปลายข้าวที่มักจะจับจ้องมาที่เขาเสมอในทุกครั้งที่มีโอกาส
เขาจำได้ว่าปลายข้าวเคยเป็นเด็กสาวตัวเล็กๆ หน้าตาน่ารักน่าทะนุถนอม และชอบแอบมองเขาจากมุมหนึ่งในทุกครั้งที่บังเอิญพบกัน
ไม่ว่าจะในร้านกาแฟ งานแสดงศิลปะ หรือแม้กระทั่งบนท้องถนนที่ทั้งสองครอบครัวบังเอิญพบเจอกัน แต่พอเขาหันไปเห็น เธอก็รีบหลบสายตาไปอย่างรวดเร็ว และคงคิดว่าเขาไม่ทันเห็น
จนกระทั่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ความบังเอิญเจอกัน และสายตากลมโตของเธอก็ยังคงตามหลอกหลอนเขาอยู่เรื่อยๆ และนั่นทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกท้าทาย
“หนึ่งล้าน…”
เสียงเสนอราคาดังขึ้น น่านนทีไม่ได้ขยับตัว เขาแค่ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบช้าๆ อย่างไม่ใส่ใจ
“ห้าล้าน…”
เสียงที่สองดังขึ้นตามมาอย่างไม่คิดยอมแพ้
“สิบล้าน!”
เสียงทุ้มต่ำของน่านนทีดังกังวานขึ้น และนั่นก็ทำให้ทุกสายตาในห้องหันมามองเขาโดยพร้อมเพรียงกัน
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเขาไม่เคยเข้ามาร่วมวงประมูลที่ไร้สาระแบบนี้ แต่เมื่อเขาตัดสินใจแล้ว ก็ไม่มีใครกล้าสู้ต่อ
“สิบล้าน! มีใครให้มากกว่านี้ไหม?”
พิธีกรบนเวทีถามย้ำ เมื่อไม่มีเสียงใดตอบกลับ เสียงเคาะไม้ก็ดังขึ้นทันที ซึ่งเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าชะตากรรมของปลายข้าวจบลงแล้ว
“ขาย!”
เสียงเคาะไม้ดังสนั่นไปทั่วห้องโถงอีกครั้ง ปลายข้าวยืนตัวสั่นเทิ้มจนแทบทรุดลงไปกองกับพื้น ความตกใจถาโถมเข้ามาจนเธอแทบยืนไม่อยู่
นี่ไม่ใช่ความฝัน… แต่เป็นความจริงที่แสนโหดร้าย
เธอเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงที่ประมูลเธอไป และภาพที่เห็นก็ทำให้หัวใจของเธอแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ
ทำไมต้องเป็นเขา…?
ผู้ชายที่เธอแอบมองมาตลอด ผู้ชายที่เข้ามาในฝันของเธอเสมอ
เธอจำได้ดีว่า เขาคือชายในชุดสูทสีดำที่ยืนสง่างามอยู่ในร้านกาแฟที่เธอไปนั่งอ่านหนังสือเสมอ เขาคือผู้ชายที่เธอแอบมองอยู่ในมุมหนึ่งของห้องประมูลงานศิลปะที่เธอต้องไปทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยจัดงาน และเขาก็คือผู้ชายที่เข้ามาในฝันของเธอทุกค่ำคืน
แต่...
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว เขาคือผู้ชายที่เย็นชาและน่ากลัวเกินกว่าที่เธอจะกล้าเข้าใกล้ แต่ตอนนี้เขากลับประมูลเธอได้
หัวใจของปลายข้าวปั่นป่วนไปด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจ ว่าทำไมเขาถึงยอมจ่ายเงินจำนวนมากขนาดนี้เพื่อซื้อเธอ
หรือว่านี่คือวิธีของเขาที่จะเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอให้จมดิน?
เธอแน่ใจว่าน่านนทีไม่ได้รู้สึกดีกับเธอในแบบคนรักเลยสักนิด เขาก็เป็นแค่ผู้ชายเลือดเย็นที่ต้องการครอบครองและควบคุมทุกอย่างให้อยู่ในกำมือก็เท่านั้น
ในขณะที่สมองของเธอกำลังปั่นป่วน เขาก็เดินตรงเข้ามาหาช้าๆ ราวกับพญามารที่กำลังจะมาทวงวิญญาณของเธอและนำไปสู่ขุมนรก
แม่ของเธอยิ้มแย้มหน้าบาน ราวกับลืมไปแล้วว่า สองครอบครัวไม่ค่อยลงรอยกัน
“คุณน่านนที ป้าดีใจจริงๆ ที่คุณเป็นผู้ชนะ”
แม่ของปลายข้าวส่งสายตาหยาดเยิ้มให้เขาอย่างประจบประแจง
“ป้าไม่คิดเลยว่าคุณจะให้ราคาสูงขนาดนี้ ปลายข้าวโชคดีจริงๆ ค่ะที่ได้เป็นของคุณ...”
น่านนทียืนนิ่งและมองไปที่ปลายข้าวที่ยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆ มารดา
“ผมก็แค่อยากมีของเล่นชิ้นใหม่น่ะ”
น้ำเสียงของเขาราบเรียบ แต่เต็มไปด้วยความเย็นชาจนแม่ของปลายข้าวถึงกับหน้าซีด แต่เสี้ยววินาทีต่อมาก็รีบฉีกยิ้มกว้างอีกครั้ง
