บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 นับถอยหลัง

บริษัทเควินเทคโนโลยีที่ก่อตั้งโดยกวิน เป็นบริษัทเทคโนโลยีขนาดกลางที่กำลังเติบโตด้วยการบริหารแบบเจ้าของคนเดียว

ภายในห้องทำงานของผู้บริหารสูงสุด เลขานุการสาวรูปร่างบอบบางในชุดเสื้อสูทและกระโปรงเข้าชุดสีชมพูอ่อน กำลังวางกาแฟร้อนลงบนโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ พร้อมกับกระดาษโพสต์อิทสีเหลืองที่เขียนข้อความหวานซึ้งบนจานรอง ที่มุมกระดาษเขียนด้วยตัวเลข “3”

ชายหนุ่มวัยยี่สิบเก้าที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานเหลือบตามองเล็กน้อย สายตานั้นเย็นชาค่อนไปทางรำคาญ เขาหยิบกระดาษโพสต์อิทขึ้นมาขยำแล้วโยนลงถังขยะอย่างไม่ใส่ใจ

“ผมเตือนคุณกี่ครั้งแล้วว่าไม่ต้องเขียนโน้ตอะไรแบบนี้มา ทำแบบนี้มาจะสามปีแล้วแต่ผมก็ไม่เคยอ่าน ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ เห็นได้ชัดว่าหงุดหงิดกับสิ่งที่เธอทำ

พีชมนไม่ตอบ เธอเพียงแค่ยิ้มบางๆ อย่างที่ทำมาโดยตลอด

“พีชบอกแล้วไงคะว่าจะเอาชนะใจพี่กวิน” เธอพูดเพียงแค่นั้นก่อนที่จะหันหลังให้เขา

ทันทีที่หันหลัง รอยยิ้มของหญิงสาวลดลงเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่ดูเศร้า เธอสาวเท้าเดินออกจากห้องทำงานของเขาไปก่อนที่จะโดนตำหนิ ที่เธอเผลอเรียกเขาด้วยสรรพนามใกล้ชิดในบริษัท

เลขานุการสาววัยยี่สิบห้าเดินกลับไปนั่งประจำโต๊ะทำงานของเธอ พีชมนเป็นคู่หมั้นของกวินที่หมั้นกันตามสัญญาหมั้นหมายตั้งแต่วัยเยาว์ แต่คู่หมั้นหนุ่มไม่เคยที่จะรู้สึกต่อเธอเกินไปกว่าเพื่อนร่วมโลก

แม้จะมีใจให้กับเขา แต่ตอนแรกเธอเองก็เกือบจะถอดใจแล้ว ทว่าคำขอร้องของคุณยายที่กำลังป่วยหนักทำให้เธอไม่กล้าขัดใจ ท่านขอร้องให้เธออดทนและจะต้องแต่งงานเป็นสะใภ้ศรัทธานนท์ให้ได้ ประกอบกับความรู้สึกที่เธอมี หญิงสาวจึงอดทน และให้เวลาตัวเองในการพิชิตใจคู่หมั้นภายใน ‘1,000 วัน’

ตั้งแต่นั้นมา เธอเริ่มเขียนโน้ตให้เขาตั้งแต่เลข ‘1000‘ ลงบนมุมกระดาษโพสต์อิท แรกๆ เขาก็อ่านและสงสัยกับตัวเลขนั้นและเคยถามเธอว่าตัวเลขนี้หมายถึงอะไร หญิงสาวตอบเขาไปตามตรงว่านับถอยหลังวันที่เธอจะพิชิตใจเขา ตั้งแต่นั้นมาเขาก็มองว่ามันเป็นเรื่องที่ ‘ไร้สาระ’

อย่าว่าแต่จะสนใจตัวเลขที่ถอยหลังลงเรื่อยๆ เลย ตลอดสองปีกว่าที่ผ่านมาเลย ข้อความที่เธอเขียนให้กำลังใจหรือบอกความรู้สึกต่อเขาในนั้น กวินก็ไม่เคยอ่านเลยสักตัวอักษร

“อีกแค่สามวันพีชก็จะถอดใจจากพี่กวิน” เธอพูดพึมพำกับตัวเอง ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้สึกต่อเขาแล้ว แต่การที่ต้องวิ่งตามอยู่ฝ่ายเดียวเป็นเวลานานขนาดนี้ มันก็ทำให้เธอหมดความอดทนและรู้สึกท้อแท้จนถอดใจได้เหมือนกัน

“ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง” คำถามเมื่อครู่ที่เขาถามวนในหัว

‘เหนื่อยสิคะ เหนื่อยจนจะขาดใจอยู่แล้ว’ เธอได้แต่ตอบคำถามนั้นในใจด้วยความเจ็บปวด หากถึงเวลายุติการไขว่คว้าความรักจากเขา หญิงสาวได้แต่หวังว่าคุณยายที่ป่วยอยู่จะเข้าใจเธอ

เมื่อนึกถึงใบหน้าและแววตาที่เต็มไปด้วยความหวังของคุณยาย ที่อยากให้เธอตบแต่งกับหลานชายของเพื่อนสนิทอย่างคุณย่าจันลา เธอก็ลำบากใจไม่น้อย หากจะต้องบอกคุณยายตามความจริงว่าหลานสาวของท่านไม่เคยถูกรัก

เวลา 997 วัน ที่ผ่านมา เธอทำทุกอย่างเพื่อที่จะดึงความสนใจจากเขา บางทีก็คิดว่านี่เธอกำลังทำอะไรอยู่ เคยดูแต่ละละครที่เห็นนางเอกอ่อนแอและโง่เขลา เอาแต่วิ่งไล่ตามผู้ชายเพื่อที่จะได้มาซึ่งความรักและการแต่งงาน ตอนนี้เธอเองก็ไม่แตกต่างกัน เพียงแต่ในบทสรุปของละคร นางเอกนั้นสมหวัง แต่เธอใช้เวลามาเก้าร้อยกว่าวันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเขาจะรู้สึกต่อเธอเลยสักนิด

แต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็อดทนมาโดยตลอด แต่ตอนนี้เหลือเวลาแค่สามวัน เธอพอที่จะเดาผลลัพธ์ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้น พร้อมแล้วที่จะยุติทุกอย่างลงและจะมีชีวิตเป็นของตนเองเสียที

ขณะที่เธอกำลังคิดเรื่องราวต่างๆ ด้วยความกังวล ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงของเพื่อนร่วมงาน

“คุณพีชครับ สัปดาห์หน้าก็จะเป็นงานวันเกิดของคุณกวิน ธีมงานที่คุณกวินจะจัดก็จะเป็นธีมงานเลี้ยงธุรกิจ รายชื่อแขกผมรบกวนให้คุณพีชส่งให้ผมด้วยนะครับ แล้วเรื่องอาหารและเตรียมงานให้คุณพีชจัดการได้เลย ผมว่าคุณน่าจะรู้ใจคุณกวินมากที่สุด” ภาณุผู้ช่วยมือขวาของกวินเดินเข้ามาพูดกับเธอด้วยความสุภาพ ทั้งบริษัทมีเขาคนเดียวที่รู้ว่าเธอคือคู่หมั้นของเจ้าของบริษัทแห่งนี้

“ได้เลยค่ะคุณภาณุ เดี๋ยวพีชจัดการให้” หญิงสาวตอบรับด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร

สัปดาห์หน้าก็จะเป็นวันเกิดเขาแล้ว ในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้เธอก็จะยุติการเป็นเลขานุการของเขารวมถึงสถานะคู่หมั้น งานนี้เป็นงานสุดท้ายที่เธอจะทำให้ก่อนจากไปก็แล้วกัน

เมื่อภาณุเดินจากไปหญิงสาวก็เลื่อนลิ้นชักโต๊ะทำงานออกมา ซองสีขาวที่เธอเก็บไว้ลึกสุดในลิ้นชัก ข้างในเป็นใบลาออกที่มีลายเซ็นของกวิน ที่เขาเซ็นเอาไว้ตั้งแต่วันแรกที่เธอย่างก้าวเข้ามาในบริษัทแห่งนี้

“นี่ใบลาออก ผมอนุมัติให้ล่วงหน้า วันไหนที่คิดได้ก็อย่าลืมเขียนแล้วส่งให้ฝ่ายบุคคลล่ะ” ในตอนนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

นอกจากลายเซ็นของเขาในช่องผู้อนุมัติแล้ว ยังมีข้อความที่เขียนด้วยลายมือว่า ‘ให้ลาออกได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ถึงสิ้นเดือนหรือหาคนมาทำงานแทน’ เห็นแล้วเธอก็รู้สึกว่าเขาช่างเกลียดชังเธอเหลือเกิน แม้แต่จะให้เธออยู่สอนงานก่อนออกไปเขาก็ไม่ต้องการ

ตลอดเวลาที่เป็นเลขานุการใกล้ชิดกับเขา กวินไม่มีเรื่องผู้หญิงมาเกี่ยวข้อง เธอจึงมีความหวังมาตลอดรอจนถึง วันนี้

‘ในเมื่อพี่กวินไม่มีใครแล้วทำไมไม่เปิดใจให้พีชบ้าง’ หญิงสาวได้แต่คิดอย่างไม่เข้าใจ

/////////////

หลังเลิกงาน พีชมนมองดูที่ประตูห้องทำงานของกวิน จนกระทั่งมันเปิดออก ผู้บริหารหนุ่มเดินออกจากห้องด้วยท่าทางที่สง่าผ่าเผย หลังยืดตรง ใบหน้าของเขาสุขุมและเต็มไปด้วยความสงบเยือกเย็น ตามแบบฉบับนักธุรกิจ

เขาวางตัวชัดเจน ทิ้งระยะห่างจากเธอ ไม่เคยพูดจากับเธอให้ใครเข้าใจผิด เขาไม่เคยให้อภิสิทธิ์ใดๆ แก่เธอในฐานะคู่หมั้น หรือทำให้คนยอื่นระแคะระคายเรื่องความสัมพันธ์เลยแม้แต่น้อย

แต่อย่างน้อยเขาก็น่าจะผูกมิตรกับเธอ รอให้ผ่านช่วงเวลาที่เธอขอเอาไว้ จากนั้นก็ค่อยแยกกันด้วยดี เท่านี้ไม่ได้เชียวหรือ เหตุผลไหนที่ทำให้เขาต้องเย็นชาใส่เธอ หรือว่าเขารังเกียจผู้หญิงที่เอาแต่ไล่ตาม

ใช่ เธอเป็นผู้หญิงที่เอาแต่ไล่ตามเขา คนอื่นไม่รู้ว่าเธอมีสถานะใด แต่ทุกคนก็ดูออกว่าเธอเอาใจเขาเกินกว่าหน้าที่เลขานุการ จนเกิดข่าวลือไปทั่วว่าเลขานุการอย่างเธอใฝ่สูงคิดจะปีนสู่ตำแหน่งภรรยาเจ้าของบริษัท แต่ก็ไม่มีความสามารถ

และเธอก็ไม่ได้แก้ต่างแต่อย่างใด เพราะทุกคนพูดถูก เธอไม่มีความสามารถที่จะพิชิตใจเขาได้จริงๆ

เมื่อเจ้านายกลับไปแล้วเลขานุการอย่างเธอก็หมดหน้าที่ หญิงสาวเก็บแฟ้มเอกสารเข้าตู้ ปิดคอมพิวเตอร์แล้วตรวจสอบทุกอย่างเป็นอย่างดี ก่อนที่จะคว้ากระเป๋าสะพายของเธอแล้วเดินไปยังลิฟท์ที่อยู่ด้านหน้าประตูกระจกบ้านใหญ่

เมื่อลงไปถึงลานจอดรถเธอก็ขึ้นไปนั่งในรถของตัวเอง ก่อนที่จะหลับตาลงด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้าและอึดอัดใจอย่างน่าประหลาด

สักพักน้ำใสๆ ก็ไหลพรากลงมาตามมาด้วยเสียงสะอื้น พีชมนก้มหน้าร้องไห้กับพวงมาลัยอย่างเหลืออด

ยิ่งใกล้วันนับถอยหลังเป็น ‘0’ เธอก็ยิ่งรู้สึกใจหาย

อยากหลุดพ้นจากการวิ่งไล่ตามความรักที่ไม่มีวันไขว่คว้าได้สำเร็จ แต่อีกใจก็รู้สึกว่าตนไม่อยากยอมแพ้

หัวใจมันอ่อนแอ แต่สมองกลับเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าเธอจะเสียเวลาทำไม เท่านี้ก็เพียงพอคุณยายยอมรับการตัดสินใจของเธอแล้วว่า การแต่งงานนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพราะความรักของฝ่ายหญิงเพียงฝ่ายเดียว

“เลิกหาเหตุผลมารั้งตัวเองเอาไว้สักทีพีช อีกแค่สามวันก็จะครบกำหนด ถ้ารู้ว่าจะต้องทุกข์ใจขนาดนี้ ทำไมตอนนั้นเธอไม่บอกแค่ว่าร้อยวันแทนเล่า เอาความมั่นใจมาจากไหนว่าเขาจะรักเธอภายในไม่กี่วัน เป็นยังไงล่ะ วิ่งตามผู้ชายเหมือนคนบ้ามาเก้าร้อยกว่าวัน สุดท้ายแล้วเธอก็เหนื่อยเปล่า” หญิงสาวพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่เจือสะอื้น

เวลาผ่านไปพักใหญ่กว่าที่เธอจะตั้งสติและปาดน้ำตาออก วันนี้เธอรู้สึกอ่อนแอเกินไปแล้ว

ต่อไปนี้เธอจะต้องทำตามคำสั่งของสมองมากกว่าความต้องการของหัวใจ ชีวิตเธอถึงหลุดพ้นจากความเจ็บปวดนี้

********************

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel