บท
ตั้งค่า

มังกรตัวที่ 5 : รางวัลที่ได้

น่าเบื่อ...มันคือคำที่วนไปวนมาในหัวของเทเชียแม้เจ้าตัวจะนั่งรอรับรางวัลอยู่ก็ตาม อันที่จริงแล้วเทเชียจะต้องสู้กับไคร์ในรอบชิงแต่เพราะว่าวันนั้นเจ้านักรบตัวดีดันบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู่ก่อนเข้ารอบชิง แถมไม่ได้สติอยู่วันหนึ่งเต็มๆทำให้เจ้าตัวหมดสิทธิแข่งต่อ ไคร์จึงได้ที่สองไปแทน

ส่วนเขาก็ได้รางวัลที่หนึ่งมาครองโดยไม่ต้องประลองรอบชิง แต่จนแล้วจนรอดไคร์ก็ยังไม่ยอมบอกอยู่ดีว่ารางวัลที่เจ้าตัวตื่นเต้นนักตื่นเค้นหนามันคืออะไร

เด็กหนุ่มผมฟ้านั่งมองไปรอบๆอย่างเบื่อหน่ายโดยมีเจ้านักรบตัวดีนั่งลุ้นอย่างตื่นเต้นอยู่ข้างๆ ต่อให้เขารู้ว่าของรางวัลมันคืออะไรแต่เขาก็ยังตื่นเต้นนะเพราะเขายังไม่รู้เลยว่าเพื่อนใหม่จะทำหน้ายังไงเมื่อได้รับของรางวัล

“นี่หัดตื่นเต้นเหมือนคนอื่นบ้างดิ” ไคร์กล่าวแล้วถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นท่าทางของคนเป็นนักเดินทาง ช่วยมีอารมณ์ตื่นเต้นร่วมกับเขาหน่อยได้ไหม

ดวงตาสีฟ้าสวยหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆก่อนจะละออกไปอย่างเบื่อหน่ายเช่นเดิม เขามีความอดทนในการรอ แต่การที่ต้องมารอเพราะกรรมการยึกยักเพื่อปล่อยให้ทุกคนตื่นเต้นแบบนี้ก็ทำให้ความอดทนของเขาหมดลงได้เช่นกัน

“ไม่” เสียงราบเรียบเอ่ยออกมาอย่างไร้อารมณ์สุดๆและมันถึงกับทำให้ไคร์ปลงตกเลยทีเดียว มีเพื่อนอย่างนี้ตัวเองจะแข็งตายรึเปล่าเนี่ย

“ได้เวลาประกาศรางวัลแล้ว” เสียงของกรรมการที่ดังมาเรียกดวงตาสีฟ้าและสีเขียวของผู้ชนะอันดับหนึ่งและอันดับสองให้หันไปสนใจ คนหนึ่งถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ส่วนอีกคนตื่นเต้นจนแทบนั่งนิ่งๆไม่ได้อยู่แล้ว

“รางวัลที่หนึ่งของผู้ชนะเลิศ....” เทเชียยังคงนิ่งเป็นไคร์เสียอีกที่ตื่นเต้นแทน เขาอยากรู้ท่าทางของหมอนี่นี่นะ

“สามารถเข้าศึกษาในโรงเรียนเซเทอร์เรียฟรีพร้อมเงินรางวัล” เสียงพิธีกรประกาศออกมาก่อนเว้นไปนิด “ส่วนรางวัลที่สองสามารถศึกษาต่อโรงเรียนเซเทอร์เรียได้เลยโดยไม่ต้องไปสอบข้อเขียน”

เสียงประกาศรางวัลต่อๆมาไม่ได้เข้าหูเทเชียเลยสักนิดเพราะตอนนี้เด็กหนุ่มร่างบางถึงกับนิ่งอึ้งไปแล้วเมื่อได้ยินรางวัลที่ตนเองได้รับ ในใจสรรหาถ้อยคำที่จะมาด่าไอ้เพื่อนคนข้างๆเต็มไปหมด

ไอ้เวรเอ๊ย...ชีวิตเขาชักจะยุ่งไปหมดแล้ว เขาแค่มาอยู่ที่นี้ชั่วคราวไม่ใช่ถาวร แล้วอะไรคือการจับเขายัดเข้าโรงเรียนไม่ทราบ

เขาไม่ควรจะอยู่ที่นี่...ไม่ควรเลยจริงๆ เพราะปีศาจไม่มีวันอยู่รวมกับมนุษย์ ยิ่งกว่านั้นเขาเป็นแค่สวะ...สวะที่เป็นแค่ส่วนเกินระหว่างมนุษย์และปีศาจ

สายเลือดทั้งสองที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายนั้นน่าขยะแขยงพอกัน ใช่แล้ว...มันคือสายเลือดที่ไม่มีวันรวมกันได้ถ้าสองเผ่าพันธุ์ยังไม่กลับมาปรองดองกันเสียที

“เฮ้ย!! ดีใจจนช็อกเลยหรือเพื่อน” ไคร์ถามออกมาอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นเพื่อนคนข้างๆนิ่งเงียบไป

ไอ้นักรบบ้า แบบนี้เนี่ยนะดีใจ ดวงตาสีฟ้าเย็นเยียบราวแช่แข็งหันไปมอง และดูเหมือนมันจะเย็นขึ้นเรื่อยๆจนไคร์ต้องลอบกลืนน้ำลาย ทำไมมันน่ากลัวจังฟะ

“เฮ้ย...ดีใจหน่อยสิโว้ยอุตส่าห์ได้เรียนโรงเรียนอันดับหนึ่งของวาเดนเลยนะ” ไคร์ยังคงทำใจดีสู้เสือแล้วถามเสือน้ำแข็งกลับ

ความจริงเขามีเรื่องที่ไม่คิดจะบอกเทเชียออกไปเป็นอันขาด นั่นคือของรางวัลของการประลองในครั้งนี้จะมีการตกลงกันตั้งแต่ก่อนการประลองจะเริ่มขึ้น และความจริงก็คือตอนที่ใส่ชื่อประลองไคร์ก็เขียนทั้งของตนเองและของเทเชียว่ารางวัลคือต้องการเข้าศึกษาที่โรงเรียนเซเทอร์เรีย ต่อให้ตายเขาก็จะไม่บอก

“ดี...ดีมาก” เทเชียเค้นเสียงประชด ในใจกำลังนับหนึ่งถึงร้อยเพื่อยั้งมือของตนเองไม่ให้จับดาบขึ้นมาแล่เนื้อไคร์ทิ้งเสียตรงนี้

“เนาะ...ใครก็อยากเรียนที่เซเทอร์เรียกันทั้งนั้น” แต่เจ้านักรบตัวดีดันเข้าใจผิดไปนู้น

“ต้องทำยังไงต่อ” เทเชียถามออกมาเสียงเรียบหลังจากใช้เวลาทำใจและใช้เวลาตัดสินใจอยู่นาน เรื่องที่จะไม่กลับไปเขาจะส่งจดหมายไปบอกกับท่านแม่เอง

“ก็แค่เอาใบสมัครไปยื่น แล้วเข้ารับการทดสอบแค่นั้นก็จบ” ไคร์อธิบายอย่างนึกแปลกใจว่าคนข้างๆเป็นนักเดินทางจริงๆหรือเปล่า แค่การสมัครสอบเข้าที่โรงเรียนเซเทอร์เรียซึ่งเป็นโรงเรียนอันดับหนึ่งก็ยังไม่รู้ รางวัลในครั้งนี้ถึงจะบอกว่าสามารถเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเซเทอร์เรียได้ก็จริงแต่ก็เป็นเพียงแค่ได้สิทธิไม่ต้องสอบข้อเขียนเท่านั้น ทว่าความจริงพวกเขายังต้องทดสอบเรื่องอื่นต่อ

เด็กหนุ่มผมฟ้าถอนหายใจยาว ดวงตาสีท้องนภามองไปข้างหน้าอย่างเลื่อนลอยทั้งที่ไม่เคยเป็น ความจริงแล้วที่เขาตัดสินใจจะเข้าโรงเรียนเพราะที่นั่นมีบางอย่างที่เขาสนใจ

เซเทอร์เรียคือโรงเรียนอันดับหนึ่งของวาเดน...คือโรงเรียนที่ผลิตนักรบมังกร สิ่งที่เขาสนใจที่สุดก็คือการฝึกบนหลังมังกร มีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม่มีในแดนปีศาจและเป็นเรื่องเดียวที่เขาพยายามศึกษาด้วยตนเองมาตลอด บางทีการเข้าเรียนที่นั่นเขาอาจจะได้หลายสิ่งหลายอย่างกลับมาก็ได้

กรี๊ซ!!

เสียงฟ็อกที่เกาะอยู่บนบ่าของเทเชียร้องออกมาเหมือนเตือนเขาให้หลุดออกจากภวังค์ เทเชียมองเจ้ามังกรตัวน้อยก่อนละออกไป

นั่นสินะไม่ว่าข้าจะอยู่ที่ไหน ข้าก็ยังมีเจ้านี่นะ ฟ็อก...

•.★*... ...*★.•

โรงเรียนแห่งนักรบมังกร...โรงเรียนที่ผลิตนักรบแห่งมังกร...โรงเรียนที่ทุกคนแย่งกันเข้า...โรงเรียนอันดับหนึ่งของวาเดน นั่นคือโรงเรียนเซเทอร์เรีย

ดวงตาสีฟ้าของนักเดินทางหนุ่มสำรวจไปทั่ว โรงเรียนนี้ดูร่มรื่นและน่าอยู่ มังกรเป็นร้อยในโรงเรียนทั้งมีเจ้าของและไม่มีเจ้าของทั้งบินและเดินกันขวักไขว่ แน่นอนว่าตัวที่มีเจ้าของคนเป็นเจ้าของส่วนมากก็จะอยู่ใกล้ๆกับมังกรตัวเอง

ดวงตาสีเพลิงของอัศวินแห่งรัตติกาลกวาดมองไปรอบๆอย่างตื่นเต้นผิดกับเจ้าของลิบลับเพราะมีไม่กี่ครั้งหรอกที่ฟ็อกจะได้เห็นมังกรมากมายขนาดนี้ ที่แดนปีศาจไม่มีใครเลี้ยงมังกรนอกจากนายน้อยของมัน ถึงจะมีมังกรป่าไปอาศัยอยู่ประปรายแต่ก็ไม่ได้มากมายตระการตาเท่านี้

เด็กหนุ่มก้าวเดินไปอย่างไม่รีบเร่ง ส่วนคนข้างๆที่เดินอยู่ด้วยกันจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไคร์ที่มีเฟร่าเกาะอยู่บนบ่า แน่นอนว่าเฟร่าเองก็ตื่นเต้นที่ได้เห็นเพื่อนๆมังกรของมัน

เด็กหนุ่มทั้งสองเดินเข้าไปยื่นใบสมัครที่ได้จากการประลอง เพียงไม่นานหญิงสาวที่รับใบสมัครก็บอกให้ทั้งสองไปรวมอยู่ที่ป่าด้านหลังโรงเรียนเพื่อทำการทดสอบแยกหอ เทเชียมองหน้าไคร์เพราะไม่คิดว่าจะมีการทดสอบอีกแต่เจ้าตัวก็ไม่คิดจะพูดอะไรออกมานอกจากสาวเท้าเดินไปตามทางที่หญิงสาวบอก

•.★*... ...*★.•

เด็กหนุ่มมองไปรอบด้านเพื่อสำรวจตามนิสัยหวาดระแวงของตนเอง ป่าด้านหลังโรงเรียนเป็นผืนป่าที่กว้างใหญ่และรกชัฏไปด้วยต้นไม้ ภายในป่ามีเสียงร้องของทั้งมังกรและสัตว์อื่นมากมาย เทเชียลองเอียงหูฟังและใช้จิตของตนเองแผ่ออกไปดูก็พบว่าในป่ามีทั้งมังกร สัตว์ที่มีพลังเวทและก็มีสัตว์ที่สร้างมาจากเวทนตร์

ในป่าด้านหลังโรงเรียนมีนักเรียนที่มาสมัครมากกว่าที่คิด นักเรียนเหล่านี้น่าจะมาจากคนที่ผ่านการสอบข้อเขียนมาแล้วและที่ทุกคนต้องมารวมตัวกันที่นี่ก็เพราะต้องมาทดสอบแยกหอ ทว่าไม่ใช่ทุกคนที่ผ่านข้อเขียนจะสามารถเข้าเรียนที่นี่ได้ นั่นก็เพราะว่าถ้าพวกเขาทดสอบและไม่มีคุณสมบัติจะอยู่หอไหนเลย พวกเขาก็ถือว่าไม่ได้เข้ามาเป็นนักเรียนของโรงเรียนเซเทอร์เรีย

“สวัสดีทุกคน” เสียงของอาจารย์หนุ่มดังขึ้นก่อนร่างของเขาและมังกรคู่ในจะปรากฏตัวขึ้นในอากาศเพื่อให้ทุกคนเห็นกันชัดๆ

“กฎมีง่ายๆ” อาจารย์หนุ่มกล่าวอย่างสบายๆ แน่สิว่ามันต้องง่ายเพราะเขาไม่ได้เป็นคนลงมาทดสอบนี่

“แค่จับฉลากแบ่งว่าใครได้ลำดับที่เท่าไหร่ หลังจากนั้นเราจะเรียกทีละคน ให้คนที่ถูกเรียกเลือกถ้ำแล้วเดินเข้าไป” คนเป็นอาจารย์เอ่ยออกมาแล้วชี้นิ้วไปยังถ้ำที่อยู่ถัดไป เทเชียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเพราะว่าในตอนแรกเขาไม่เห็นถ้ำเนื่องจากมีเด็กหลายคนยืนบังอยู่นั่นเอง

“ทุกคนไม่ต้องทำอะไรมากก็แค่ต้องหาโดมให้เจอ ภายในป่าจะมีแค่ห้าโดมเท่านั้นและภายในโดมจะมีพวกรุ่นพี่คอยพวกเธออยู่ ใครหาโดมไม่เจอก็เก็บของกลับบ้านได้เลย และสุดท้ายขอให้พวกเธอโชคดี” อาจารย์หนุ่มพูดออกมาราวกับมันเป็นเรื่องที่ง่ายดายทั้งที่ความจริงแล้วในป่านั่นกว้างมากและโดมเหล่านั้นก็จะปรากฏให้เฉพาะคนที่คู่ควรจะเรียนที่นี่เท่านั้นด้วย

เพียงไม่นานการจับฉลากก็เริ่มขึ้น บริเวณนี้จึงยิ่งดูวุ่นวายขึ้นไปอีก เมื่อเทเชียจับฉลากได้แล้วเจ้าตัวก็ค่อยๆหงายป้ายในมือขึ้นและเมื่อมองลงไปดูมันคือเลข...สิบสอง

•.★*... ...*★.•

ดวงตาสีฟ้าแสนเย็นชาจับจ้องเด็กหนุ่มและเด็กสาวคนแล้วคนเล่าที่ทยอยเดินออกไปตามเสียงประกาศเรียกชื่อ พวกเขาเหล่านั้นต่างเลือกถ้ำและพากันเดินเข้าไปด้วยท่าทางที่มั่นใจ บ่งบอกได้เลยว่าคนที่สามารถผ่านมาถึงตรงนี้ได้คงมีฝีมือไม่น้อยเลยทีเดียว

“เทเชีย” ชื่อของเด็กหนุ่มถูกประกาศทำให้เทเชียเดินไปข้างหน้าพลางมองถ้ำทั้งสี่ด้วยดวงตาที่เรียบเฉย ฟ็อกมองเจ้านายของมันนิดนึ่งก่อนจะกระพือปีกพาร่างเล็กจิ๋วบินผ่านเข้าไปในถ้ำที่สองจากซ้ายมือ เด็กหนุ่มผมฟ้าถอนหายใจก่อนจะเดินตามร่างนั้นเข้าไปติดๆ

“นายชอบถ้ำนี้หรือฟ็อก” เทเชียถามเพื่อนร่วมทางที่ตอนนี้ดวงตาสีเพลิงกวาดมองไปรอบด้านอย่างระแวง โรงเรียนนี่ก็ช่างหาวิธีสอบได้ดีจริงๆ

ดวงตาสีฟ้ายังคงเรียบเฉยแม้ความคิดต่อมาจะดังขึ้นในหัว มันคงมีสัตว์ที่เตรียมพร้อมที่จะขย้ำเหยื่อของมันเต็มไปหมดเลยมั้งในที่แห่งนี้

แต่ไม่นานเทเชียก็ต้องพบกับความแปลกใจ เพราะเมื่อเดินออกจากถ้ำมามันคือป่าที่กว้างใหญ่ ถ้ำทุกถ้ำคงเป็นตัวเชื่อมกับป่าทั้งหมด งั้นจะให้เลือกทำไม... ทว่าไม่นานเธอก็ได้คำตอบเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังเวทจากถ้ำที่ตนเองเดินผ่านเข้ามา มันคือเวทอุโมงค์มิติ

เวทอุโมงค์มิติคือเวทที่จะทำให้เราสามารถเดินทางจากที่แห่งหนึ่งไปยังที่แห่งหนึ่งได้โดยการย่นระยะทางให้สั้นลง แต่ถึงจะบอกว่าย่นระยะทางแล้วถ้าที่ที่จะไปอยู่ไกลมากก็ยังต้องใช้เวลาในการเดินทางอยู่ดี ผิดกับเวทย้ายสถานที่เพราะเวทบทนั้นจะสามารถนำเราไปยังที่ที่ต้องการได้แค่พริบตาเดียวแม้ว่าที่ที่เราต้องการไปนั้นจะอยู่ไกลมากแค่ไหนก็ตาม แต่น่าเสียดายที่เวทย้ายสถานที่ไม่ใช่ว่าคิดจะใช้ก็ใช้ได้ คนที่สามารถใช้เวทนี้ได้ต้องมีพลังเวทมนตร์ที่สูงมาก ซึ่งคนแบบนั้นมีไม่กี่หยิบมือหรอก ต่อให้เป็นจอมเวทที่เก่งกาจแค่ใช้เวทย้ายสถานที่กับคนแค่สองคนก็ต้องพักฟื้นไปสี่ห้าวันเลยทีเดียว

เทเชียมองไปรอบๆอีกครั้งก่อนจะปล่อยจิตของตนเองออกไป เมื่อไม่มีกับดักหรือสัตว์ร้ายอยู่แถวนี้เจ้าตัวก็หันกลับมามองมังกรของตน

“ถ้าเดินเท้าคงเสียเวลาสินะ” เด็กหนุ่มเปรยขึ้นเสียงเย็น นอกจากเสียเวลาแล้วยังอาจจะโดนสัตว์ร้ายและกับดักที่อยู่บนพื้นดินอีก

“ขี่นายไปน่าจะเร็วกว่า” เมื่อเป็นความต้องการของเจ้านายฟ็อกที่เกาะอยู่บนบ่าก็รีบกรีดร้องออกมาอย่างตอบรับก่อนมันจะบินลงจากบ่าไปยืนด้านหน้า ไม่นานร่างเล็กของอัศวินแห่งรัตติกาลก็ขยายขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายมันก็กลับมาอยู่ในร่างใหญ่ยักษ์ซึ่งเป็นร่างจริงของมัน

กรี๊ซ...!!

มันกรีดเสียงร้องออกมาดังลั่นป่าราวกับจะให้ทุกสรรพสิ่งรับรู้การมาเยือนของมัน ซึ่งนี่เป็นการข่มขวัญทั้งมังกรและสัตว์ที่อ่อนแอกว่าเพื่อไม่ให้เข้ามาขวางทาง

“ไปหาโดมกัน” ผู้เป็นเจ้าของพูดแล้วถีบตัวขึ้นไปยืนบนหลังฟ็อก โดยไม่ให้เสียเวลาอัศวินแห่งรัตติกาลรีบสยายปีกออกก่อนจะถีบตัวทะยานขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว

ดวงตาสีแดงเพลิงดูน่ากลัวกำลังสำรวจทุกที่ที่ตนเองบินผ่าน ดวงตาที่ตัดกับเกร็ดสีดำของลำตัว ปีกสีดำคู่ยักษ์กำลังขยับขึ้นลงเพื่อพยุงและส่งให้ร่างยักษ์พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

แต่ความเร็วนั้นไม่ได้ทำให้เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่บนหลังโคลงเคลงเลยสักนิด แถมเจ้าตัวยังสามารถคุมมังกรของตนเองให้ไปในทิศทางที่ต้องการอย่างดีเยี่ยม การกระทำนั้นมันบอกได้ดีถึงฝีมือของเจ้าตัวที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่าดี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel