บท
ตั้งค่า

Chapter 22

ปรมัตถ์ยอมรับว่ายังมีความกังวลพอสมควร สายตาของเขามองมาที่หลี่ชิงชิง ซึ่งเธอบาดเจ็บพอสมควรแต่ถึงกระนั้น เขาก็เคารพความเป็นนักรบที่อยู่ในตัวหลี่ชิงชิง ดังนั้นปรมัตถ์ทำได้แค่ใช้พลังฟีนิกซ์รักษาบาดแผล เพื่อให้เธอสามารถต่อสู้กับคลั่งรองคลุ้มคลั่งได้ ด้านฝั่งคลั่งใหญ่บ้าคลั่งที่ต้องการสะสางกับปรมัตถ์ มันก็ไม่รอช้ารีบพุ่งตรงไปที่ปรมัตถ์และเหวี่ยงกำปั้นใส่ร่างยุวชนทหาร เดชะบุญปรมัตถ์ก้มหลบทันท่วงที พร้อมโต้กลับด้วยฝ่ามือขวาอัดเข้าหน้าท้อง 

คลั่งใหญ่บ้าคลั่งปลิวกระเด็นไปชนกับรถบรรทุกคันหนึ่ง แรงกระแทกทำให้เกิดรอยยุบขนาดใหญ่บนตัวรถ มันเซเล็กน้อยแต่ก็ไม่ถึงกับล้ม แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายมีร่างกายที่ทนถึกแค่ไหน ปรมัตถ์ที่เห็นแบบนั้นก็ถึงกับอดอุทานออกมาไม่ได้ว่า "ทนยิ่งกว่าควายฉิบหาย" ทว่าเขาก็ไม่หวาดหวั่นและวิ่งตรงเข้าไปเผชิญหน้ากับคลั่งใหญ่บ้าคลั่ง ซึ่งฝั่งศัตรูร่างสูงกำยำก็รอจะสู้กับเขาอยู่แล้ว 

"เข้ามาเลย ! ไอ้หนู" 

และแล้วทั้งสองต่างก็วิ่งชนเข้าหากัน ต่างใช้ท่อนแขนดันชนกันเพื่อประชันด้านพละกำลัง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าปรมัตถ์เสียเปรียบ เท้าทั้งสองที่พยายามช่วยดันแรง ก็เริ่มค่อย ๆ ถอยรูดไปด้านหลังทีละนิดทีละนิด สีหน้าของคลั่งใหญ่บ้าคลั่งแสดงถึงความมีชัยเหนือกว่า จนกระทั่งสองนาทีต่อมามันก็พบว่าคิดผิดที่ชะล่าใจ พริบตานั้นในตอนที่ตาของปรมัตถ์กลายเป็นสีฟ้า จู่ ๆ เรี่ยวแรงอันมากมายที่ไม่รู้มาจากไหน และเริ่มดันคืนศัตรูร่างใหญ่กำยำ สร้างความฉงนให้กับคลั่งใหญ่บ้าคลั่งไม่น้อย

มันพูดด้วยเสียงฉงนว่า "มันไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกัน" สิ้นคำไม่ถึงสองนาทีหรืออาจสั้นกว่านั้น ปรมัตถ์เปลี่ยนจากการดันแรง มาเป็นการจับทุ่มร่างคลั่งใหญ่บ้าคลั่งแทน มันกระแทกเสียงพื้นดังสนั่น และเกิดแรงสั่นสะเทือนจนรถที่จอดนิ่ง ถึงกับส่งเสียงจากเครื่องกันขโมยดังขึ้นระงมทั่วบริเวณ เล่นเอาบรรดาเด็กสาวที่หลบซ่อนตัวพากันเอามือปิดหู ขณะเดียวกันทางฝั่งทีมร้อยเอกหลิวเสี่ยวเสี่ยว ซึ่งกำลังไล่จัดการศัตรูอยู่ ก็ถึงกับผงะจากการต่อสู้ และหันไปมองด้านนอก

"เสียงกันขโมยรถนี่..." เธอพึมพำเบา ๆ

ร้อยโทกู้เจิ้นหนานวิ่งตามมาสมทบ "หัวหน้า ตอนนี้เราสามารถจับกุมพวกแก๊งขวานซิ่ง และพวกตำรวจเลวได้แล้ว" ทหารหนุ่มสังเกตสีหน้าของหัวหน้าก่อนจะรู้ว่า มีเสียงสัญญาณกันขโมยดังจากด้านนอก 

ร้อยเอกหลิวเสี่ยวเสี่ยวไม่รอช้าและหันมาพูดกับร้อยโทกู้เจิ้นหนาน "ไปด้านนอกเร็วเข้า !"

และเธอก็วิ่งนำลูกทีมในทันที

+++++

บุญธรเซถอยหลังชนกับถังขยะดังโครม แต่เขาไม่ยอมล้มลงง่าย ๆ แม้จะรู้สึกชาไปทั้งร่างกายก็ตาม ยุวชนทหารสะบัดแขนและขาพอดีกับที่ศัตรูปรากฏตัว คลั่งสามเพ้อคลั่งตามประวัติในแฟ้มอาชญากร มันเป็นเด็กถูกทิ้งให้กลายเป็นเด็กเร่ร่อนก่อนจะโดนส่งไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า ซึ่งตามกฎหมายประเทศฟรอนเทียร์ เหล่าเด็ก ๆ ที่อยู่บ้านกำพร้า มักจะได้รับสัญชาติโดยอัตโนมัติเพราะว่า บ้านเด็กกำพร้ามีรัฐบาลคอยดูแล อีกทั้งรัฐบาลยังมีนโยบายอีกว่า หากมีครอบครัวพลเรือนรับเด็กกำพร้าไปดูแล จะได้รับการลดหย่อนจ่ายภาษีประมาณสิบห้าเปอร์เซ็น

ทว่าน่าเสียดายที่สามคลั่งดันหนีออกจากบ้านเด็กกำพร้า ก่อนจะเข้าระบบของรัฐบาล ป่านนี้คงได้ใส่ชุดทหารแทนที่จะเป็นอาชญากร บุญธรตั้งท่าเตรียมสู้และสายตา ยังคงมองไปที่นวมเหล็กติดหนามของคลั่งสามเพ้อคลั่ง อาวุธร้ายนี้ฆ่าสังหารชีวิตผู้คนไปมาก ซึ่งบุญธรต้องระมัดระวังอย่างมาก ขณะเดียวกันวิทยุไร้สายก็ดังขึ้นเป็นเสียงของร้อยโทกู้เจิ้นหนาน ที่กำลังตามมาสมทบแต่เขาไม่อาจตอบรับได้

เพราะกำลังสู้วัดชี้ชะตากับศัตรูอยู่ ที่สำคัญบุญธรไม่ต้องการให้คลั่งสามเพ้อคลั่ง ล่วงรู้ความเคลื่อนไหวของฝ่ายเขา ฝั่งคลั่งสามเพ้อคลั่งที่มั่วแต่สนใจบุญธร คงไม่ได้เอะใจกับเสียงการสู้รบปรบมือภายในคาสิโน ที่มันกับพี่ชายมันคุ้มครองได้เงียบลงแล้ว ศัตรูร่างใหญ่แรงช้างแต่มันสมองเล็กยิ่งกว่าเม็ดเกลือ จ้องมองบุญธรเหมือนสัตว์กระหายเลือดมองเหยื่อ ใจมันคิดเพียงสิ่งเดียวก็คือนวมเหล็กตุ้มหนามต้องได้ดื่มเลือดศัตรูตรงหน้า

"มึงหนีไม่รอดหรอก ไอ้หนู" คลั่งสามเพ้อคลั่งกล่าว

"ใครบอกว่า กูจะหนี !" บุญธรสวนกลับทันควัน

จากนั้นสองฝ่ายต่างก็วิ่งตรงเข้าปะทะกันทันที คลั่งสามเพ้อคลั่งใช้ทักษะมวยที่เน้นกำปั้น ไล่หวดบุญธรด้วยนวมเหล็กตุ้มหนาม อาวุธสุดภาคภูมิใจของมัน ถึงเเม้มันจะไม่ค่อยใช้ขาแต่ในจังหวะการเคลื่อนไหว ก็ถือว่ารวดเร็วจนบุญธรหาโอกาสเตะเจาะยาง หรือเตะท่อนขาไม่ค่อยได้แถมยังต้องคอยปัดป้อง หลบหลีกนวมเหล็กตุ้มหนามของคลั่งสามเพ้อคลั่งอีก ทว่าท้ายที่สุดเขาก็เห็นจังหวะตอบโต้ บุญธรไม่รอช้าและอาศัยช่วงที่คลั่งสามเพ้อคลั่ง เหวี่ยงหมัดขวาใส่ข้างลำตัวซึ่งเขาหลบได้พร้อมกับพุ่งเข้าระยะประชิด และหมัดซ้ายของบุญธรก็อัดกระแทกใส่ข้างลำตัวศัตรูได้สำเร็จ

แรงหมัดทำเอาคลั่งสามเพ้อคลั่งถึงกับทรุดฮวบลงกับพื้น บุญธรไม่รอให้มันลุกขึ้นยืนได้ จึงเหวี่ยงแข้งขวาอัดเข้าหน้ามันสุดแรง คลั่งสามเพ้อคลั่งถึงกับหงายหลัง ยุวชนทหารตั้งใจจะเข้าไปซ้ำอีกรอบ ทว่าศัตรูร่างใหญ่กลับลุกขึ้นและนวมเหล็กตุ้มหนาม ก็กระแทกใส่ข้างลำตัวบุญธรจนได้ เขาเซไปชนกับกองขยะอีกกองด้วยความจุก เดชะบุญที่มันถูกเสื้อเกราะไม่อยากนั้น เขาลุกไม่ขึ้นแน่ ๆ ด้านคลั่งสามเพ้อคลั่งที่ยังตั้งหลักไม่ได้ ถึงกับต้องยอมรับว่าบุญธรเป็นศัตรูที่รับมือยากมากพอสมควร 

ฝั่งบุญธรซึ่งลุกขึ้นมาได้ก็วิ่งตรงไปหาคลั่งสามเพ้อคลั่ง และกระโดดเหวี่ยงแข้งขวาใส่ศีรษะของมัน ทว่ามันเบี่ยงหลบได้ทันควันแถมสวนกลับ ด้วยการเหวี่ยงหมัดขวาตรงไปที่บุญธร เสี้ยววินาทีนั้นยุวชนทหารได้กระทำสิ่งที่ ไม่มีใครคาดคิดแม้แต่ตัวเขาเอง พริบตานั้นบุญธรใช้หมัดขวาพุ่งสวนอัดตรง ๆ กับหมัดนวมเหล็กตุ้มหนามของคลั่งสามเพ้อคลั่ง สองพลังสุดขั้วปล่อยคลื่นระเบิดรุนแรงส่งผลให้ ทั้งบุญธรและคลั่งสามเพ้อคลั่งต่างปลิวกระเด็นถอยหลัง มันใช้นวมเหล็กตุ้มหนามทุบลงพื้น เพื่อชะลอการไถลของความแรง เช่นเดียวกับบุญธรทว่าเขาก็พบว่าหมัดขวาของเขา มีรอยเลือดที่ถุงมือทหารที่เขาสวมใส่อยู่

[โดนจนได้] บุญธรสบถในใจ

ขณะเดียวกันคลั่งสามเพ้อคลั่งซึ่งแม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่มันก็พบความเสียหายของนวมเหล็กตุ้มหนามข้างขวา บริเวณหนามเกิดรอยยุบพอสมควรพร้อมมีคราบเลือดติดอยู่ มันเงยหน้ามองไปที่มือของบุญธร เลือดหยดไหลลงพื้นแต่สีหน้าของอีกฝ่ายกลับเรียบเฉย ราวกับคุ้นชินกับการบาดเจ็บแบบนี้แล้ว สำหรับคลั่งสามเพ้อคลั่งแล้วมันยอมรับว่าไม่เคยเจอศัตรู ที่บ้าบิ่นถึงขั้นกล้าชนกำปั้นใส่นวมเหล็กตุ้มหนามแบบนี้ ยิ่งทำให้มันพึ่งพอใจมากจนถึงกับฉีกยิ้มออกมา

บุญธรที่เห็นก็พูดใส่อีกฝ่ายว่า "ยิ้มเหี้ยอะไรของมึง ! กูเป็นญาติมึงหรือไง" คำด่าของบุญธรเสมือนน้ำร้อนสาดใส่หน้า คลั่งสามเพ้อคลั่งถึงขั้นหุบยิ้มของมันไม่ทัน

"ปากดีนะมึง" คลั่งสามเพ้อคลั่งโพล่งใส่อย่างเดือดดาล

"เออ คนมันหล่อนี่หว่า" บุญธรพูดยั่วยวนกวนประสาท "พูดอะไรก็ย่อมดูดี เป็นของธรรมดา"

การยั่วยุอารมณ์ของบุญธรได้ผล คลั่งสามเพ้อคลั่งเดือดดาลขีดสุด มันพุ่งเข้าโจมตีใส่ยุวชนทหารตรงหน้าทันที "ไอ้หน้าส้นตีน !" มันเหวี่ยงหมัดฮุดซ้ายเล็งไปที่ข้างลำตัว บุญธรเลือกที่จะไม่หลบแต่แค่ยกเข่าขึ้นมากันไว้ นวมเหล็กตุ้มหนามกระแทกกับม่านพลัง ซึ่งไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แรงกระแทกส่งผลให้คลั่งสามเพ้อคลั่งเสียหลักเล็กน้อย บุญธรไม่รอช้ารีบกระโดดขึ้นสูง โดยอาศัยใช้ขาตนเหยียบขาที่ง้อของศัตรูเป็นแรงส่ง เมื่ออยู่ในระยะที่ต้องการแล้วบุญธรจัดการเหวี่ยงหมัดขวา อัดกระแทกเข้าที่หน้าของคลั่งสามเพ้อคลั่งเต็มหมัด ชายร่างใหญ่เซถอยหลังแต่ยังไม่เสียหลักมากนัก 

บุญธรไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือ เขาเหวี่ยงแข้งขวาเจาะยางขาของคลั่งสามเพ้อคลั่ง แรงเตะรุนแรงจนคลั่งสามเพ้อคลั่งรู้สึกเหมือน โดนค้อนทุบขามากกว่า ชายร่างใหญ่ทรุดลงกับพื้นแต่ไม่ยอมล้ม และสวนกลับด้วยหมัดขวาใส่ขาซ้ายของบุญธร หนามจากนวมเหล็กทิ่มเข้าผิวเนื้อต้นขาลึกพอสมควร ทำเอาบุญธรสะดุ้งเฮือกเล็กน้อย แต่เขาก็ตอบโต้ทันควันด้วยท่าฟันศอกขวาเข้าที่หน้าของคลั่งสามเพ้อคลั่ง ปลายศอกอันแหลมคมเฉือนผิวตรงปลายคิ้ว มันแตกเหมือนดินที่แห้งจนแข็งแล้วถูกบดขยี้ ตามด้วยเลือดที่ไหลเป็นทาง 

"มึง !" คลั่งสามเพ้อคลั่งเดือดดาล และลุกขึ้นหันมาจู่โจมใส่บุญธร

ทว่าบุญธรเบี่ยงหลบแม้จะยังบาดเจ็บที่ขา และพอได้จังหวะในการโต้กลับ เขาไม่รอช้าคว้าคอของศัตรูได้ก็จัดการ เอาหัวเข่าซ้ายทิ่งเข้าหน้าของคลั่งสามเพ้อคลั่ง มีเสียงบางอย่างแทรกเข้ามาในโสตประสาทรับเสียง ซึ่งตามความเข้าใจของบุญธร มันคงเป็นเสียงกระดูกจมูกหัก ผลที่ได้คือเลือดไหลออกจากรูจมูก ชายร่างใหญ่หน้าเละเทะยิ่งกว่าหน้าปกติเสียอีก มันเซล้มลงนอนกับพื้นและบุญธร ก็ขึ้นมานั่งทับร่างของคลั่งสามเพ้อคลั่ง พร้อมกระหน่ำรัวกำปั้นขวาอัดใส่หน้าอีกรอบสอง

คลั่งสามเพ้อคลั่งฝืนทนความเจ็บปวด เหวี่ยงนวมเหล็กตุ้มหนามใส่ศีรษะบุญธร ทว่าเดชะบุญที่เขายกแขนขวาขึ้นมากันไว้ แต่ก็ต้องแลกกับการถูกคลั่งสามเพ้อคลั่ง สลัดเขาออกไปจากตัวได้สำเร็จ บุญธรม้วนกลิ้งมาตั้งหลักพลางมองดูสภาพแขนขวา ที่โดนหนามเหล็กทิ่มแทงจนเป็นรูที่มีเลือดซึมออกมา ส่วนคลั่งสามเพ้อคลั่งก็ถมน้ำลายสีแดงออกจากปาก และใช้แขนเสื้อเช็ดเศษดินกับคราบเลือดออก หากศัตรูยังไม่ยอมศิโรราบก็เท่ากับการต่อสู้ยังไม่จบ บุญธรเร่งพลังไฟธาตุอัคคีออกมา สองกำปั้นลุกโชนด้วยไฟสีแดง เขาตั้งท่าต่อสู้จับจ้องไปที่คลั่งสามเพ้อคลั่งไม่วางตา

++++

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel