บท
ตั้งค่า

ตอนที่5. วันนั้น

เช้านี้หลังจากรดน้ำต้นไม้แล้ว ธันวายังคงแต่งชุดเรียบร้อยออกจากบ้านแม้จะเป็นวันอาทิตย์ก็ตาม ป้าอุ่น-เพื่อนบ้านใกล้เคียงอดถามไม่ได้

“ไปเรียนพิเศษครับป้า” ธันวาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม ก็มีป้าอุ่นที่ใจดีอยู่ใกล้ๆ ทำให้ถึงไม่รู้สึกว่าอยู่ตัวคนเดียว

“ธันวาเรียนเก่งจะตายยังไปเรียนพิเศษอีกหรือ ขยันจริงๆ ไม่เหมือนตาอู๊ดเลยขี้เกียจตัวเป็นขนแล้ว”

“ไม่หรอกครับ แค่ทำตามที่พ่อสั่งเท่านั้นเอง” ธันวายิ้มเหงาๆ “พี่อู๊ดก็เก่งนะครับ เป็นนักกีฬาของโรงเรียน ได้ยินว่าได้โควต้าเข้ามหาวิทยาลัยไม่ใช่เหรอครับ”

“ไอ้เรื่องนั้นมันก็ดีหรอก แต่อยากให้มันเก่งสักครึ่งของธันวานะสิ วันข้างหน้าไม่ได้เล่นกีฬาแล้วก็ยังมีความรู้หางานทำได้”

“ผมไปเรียนก่อนนะครับ เดี๋ยวจะสาย”

“โทษทีๆ ป้าก็ชวนคุยเพลิน ไปเถอะลูก”

ธันวาอยากอยู่คุยด้วยแต่เขาก็ไม่อยากกลั้นความน้อยใจของตัวเองไว้ ซึ่งมันอาจกลายเป็นหยดน้ำตาเปื้อนแก้มก็ได้

พี่อู๊ดที่พูดถึงหมายถึงลูกชายคนดีของป้าอุ่นที่เรียนอยู่ ม.6 อยู่คนละโรงเรียนกับเขา ความจริงก็เปรียบเสมือนญาติคนหนึ่งของธันวาด้วย ป้าอุ่นเป็นพี่สาวของพ่อปลูกบ้านใกล้กัน แต่ครอบครัวของทั้งสองแตกต่างกันมากนัก ครอบครัวของป้าอุ่นทำร้านอาหารเป็นร้านไม่ใหญ่นักแต่เพราะฝีมือป้าอุ่นกับสามีทำให้มีคนติดใจกันมาก เคยมีรายการโทรทัศน์มาสัมภาษณ์ แต่พี่อู๊ดไม่สนใจเรื่องทำอาหารและไม่คิดจะสืบทอดกิจการ จึงไปเอาดีด้านกีฬาฟุตบอลแทน ธันวาฝากท้องกินข้าวด้วยบ่อยๆ บ้านที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะโหวกเหวกโวยวายแต่ไม่เหงา ผิดกับบ้านของเขาที่หลังใหญ่โตแต่วังเวง

ธันวาไม่ได้ไปเรียนพิเศษ แต่เขาเดินมาที่โรงเรียนของตัวเอง โรงเรียนของธันวาเป็นศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนด้วย ธันวาตั้งใจมาหาหนังสืออ่านแก้เบื่อ ว่ากันตามจริง บ้านเขามีหนังสือเรียงอัดแน่นเต็มชั้นแต่เขาไม่รู้สึกอยากอยู่บ้าน การได้พาตัวเองอยู่ในห้องสมุด ได้กลิ่นกระดาษและเสียงพัดลมเพดาน มันทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายสบายใจ แล้วเขาก็ไม่ชอบไปเดินห้างสรรพสินค้าด้วย ซ้ำยังไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทที่จะไปนั่งเล่นอีกต่างหาก ธันวาก้มหน้าก้มตาเดิน ซึ่งมันแทบจะเป็นบุคลิกของเขาไปแล้ว แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น สายตาของธันวาเห็นผู้ชายผมสีน้ำตาลแดงเข้มคนนั้น

“อย่าทำหน้าหมดหล่อแบบนี้สิวะ สอบตกก็สอบใหม่ได้เพื่อน เรียนกศน.วิชาไม่กี่บาทเอง” เพื่อนอีกคนพูดแล้วตบไหล่เบาๆ

“ตกรวดหมดแบบนี้พูดว่าไม่เป็นไรนี่นะ” คนฟังแค่นยิ้มฝืนทำตลก ทำเอาเพื่อนซึมตามไปด้วย

“ไม่เอาน่า...เดี๋ยวเลี้ยงเบียร์เอาม่ะ ปลอบใจ”

“ไม่เอา กูกินไม่ลง”

คนตอบเดินก้มหน้ามาทางธันวาที่ยืนขวางทางอยู่แบบไม่ตั้งใจ ธันวาเองก็เดาไม่ออกว่าเด็กหนุ่มหน้าฝรั่งคนนี้เชื้อชาติไหน เพราะสำเนียงคนไทยชัดเจน

“ขอ...ขอโทษครับ” เขาเอี้ยวตัวจะหลบทางให้ อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาสบตาด้วยนิ่งและนาน จนรู้สึกร้อนวูบที่ใบหน้า

“วันนั้นเจ็บหรือเปล่า”

“ครับ?” ธันวาแปลกใจที่อีกฝ่ายจำเขาได้ หรือเพราะท่าทางเชยๆ ที่เขาจำได้

“ผมชนคุณ...ขอโทษแล้วก็ขอบคุณที่ช่วย”

“ครับ...” ธันวาพูดได้แค่นั้นนึกคำพูดอะไรไม่ออกไม่เคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้

“โกรธผมเหรอ” เขาถามตรงๆ ดวงตาอ่อนโยนดูเศร้าลงทันที

“เปล่า” ธันวารีบส่ายหน้าไปมา แต่ก็ทำให้อีกฝ่ายยิ้มออกมาได้ แม้ว่าที่มุมปากจะยังมีรอยเจ็บก็ตาม

“ผมให้คุณเป็นการขอโทษ”

เขาปลดสร้อยเงินจากคอของตัวเองมาสวมใส่ให้ธันวา ความเย็นของสร้อยทำให้ธันวาสะดุ้งก่อนที่จะก้มลงมอง เต่าทองสีเงินเป็นมันเงาวาว ธันวาพลิกดูไปมาอย่างงุนงง เขาไม่เคยรับของจากคนแปลกหน้า จะถอดคืนก็กลัวให้อีกฝ่ายเสียน้ำใจ

“ตกลงคุณหายโกรธผมนะ ผมชื่อบิลลี่ฮะ”

“ครับ” จนแล้วจนรอดธันวาก็เอ่ยอยู่คำเดียว

“ไม่ชอบเหรอฮะ” เขาถามกลับ น้ำเสียงน้อยใจจริงๆ

“เปล่า” ธันวาส่ายหน้าไปมา “ผมชอบมาก”

“ชื่อธันวาเหรอฮะ” เขายิ้มกว้าง ชี้นิ้วไปที่อกเสื้อของอีกฝ่ายที่ปักชื่อและนามสกุล ดวงตาพราวระยับไปหมด ดูอ่อนโยนจนไม่น่าเชื่อ ว่าจะไปมีเรื่องที่หน้าโรงเรียนเมื่อ 3-4 วันก่อนได้

“ผมคงรบกวนธันวามากไปแล้ว แต่หวังว่าเราคงได้เจอกันอีกนะฮะ”

เขาเอ่ยเมื่อเพื่อนเขามาสะกิดแขนเบาๆ เขากำลังจะเดินสวนทางจากไป ธันวานึกถึงเรื่องที่จะสนทนาเมื่อครู่ที่บังเอิญได้ยิน เพียงเสี้ยวนาที ธันวาก็ตัดสินใจเรียกเขาไว้

“เพื่อเป็นการขอบคุณที่ให้เต่าทองตัวนี้ ผมจะช่วยติววิชาที่อ่อนให้เอาไหมครับ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel