ตอนที่2. คนคุ้นตา
เสียงรถกระหึ่มอยู่นอกร้านมินิมาร์ท เรียกสายตาของทั้งชินกฤตและธันวาให้หันไปมองที่หน้าร้าน ธันวาขยับแว่นสายตาด้วยความเคยชิน มองกลุ่มคนแปลกหน้าจอดรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์หลายคันรวมทั้งสปอร์ต เฟอรารี่สีดำสนิทที่ขับตามมาทีหลัง สาวสวยแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดเดินนำเข้ามาในร้านก่อนที่คนอื่นๆ จะเดินตามมาพร้อมเสียงหัวเราะเฮฮาธันวาระบายลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ในเมืองเล็กๆ นี้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมามากนัก เป็นทางผ่านมากกว่าเป็นเป้าหมายหลัก เขาแอบภาวนาในใจขอให้คนกลุ่มนี้เป็นแบบนั้นเช่นกัน
“หวงแฟนเหรอน้อง”
หนึ่งในกลุ่มนั้นถาม เขาทำผมทรงประหลาดหลากสีชะโงกหน้าข้ามเคาน์เตอร์มาทางชินกฤต ชินกฤตมองด้วยสายตาไม่พอใจของอีกฝ่าย แม้จะเป็นลูกค้าก็ตาม
“อย่าห่วงเลยน้อง หน้าแบบนี้ไม่มีใครเหลียวหรอก”
เสียงหัวเราะสนุกตามออกมาดังลั่น ชินกฤตขบกรามแน่นจนเป็นสันนูน เขาไม่ชอบให้ใครมาล้อเรื่องพวกนี้ แต่ธันวาเข้ามาสะกิดแขนเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่เตือนให้รู้ว่าเขาเองไม่ใส่ใจเรื่องพวกนี้ แม้ความจริงทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน ชินกฤตเขาจึงคิดเงินค่าเบียร์หลายกระป๋องตรงหน้าและเหล้าอีกหลายขวด
“ต๊าย! ดูมองเข้าซิ”
เสียงหัวเราะแหลมสูงเหมือนจงใจ สายตาของชินกฤตที่มองคนกลุ่มนี้ไม่พอใจนัก ยังไม่ไร เจ้าตัวซนขนสีน้ำตาลก็กระโดดไปตะปบหน้าคนพูด เพราะการดูแลอย่างดีของธันวาทำให้เจ้ากระรอกตัวป่วนเล็บมันสั้นสะอาดขนนุ่มน่าสัมผัส แต่คนถูกกระรอกหยอกกลับหวีดร้องราวกับถูกตุ๊กแกยักษ์เกาะเอา ธันวาตะลึงจนพูดไม่ออก กว่าจะได้สติขยับเท้ามาด้านหน้าเคาน์เตอร์เพื่อจับเจ้าตัวก่อกวนที่ซนไปเกาะคนโน้นคนนี้ แถมยังเลือกเกาะเอาแต่สาวสวย ทำให้ในร้านวุ่นวายเป็นการใหญ่ ราวกับมาปาร์ตี้ระบำแซมบ้าของสาวเปรี้ยวที่เต้นเร่า เพราะตกใจเจ้ากระรอกขนสีน้ำตาล เหมือนกับเจ้าตัวซนรู้ตัวว่าถูกจับได้คราวนี้ ต้องถูกลงโทษด้วยการงดอาหารเป็นแน่ มันเลยวิ่งไม่ยอมหยุด ประตูถูกเปิดออก เป็นโอกาสให้มันได้วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ธันวาเร่งเท้าให้ตามทันแต่กลับชนกับร่างสูงที่เดินเข่ามาใหม่ในร้าน เขาเซจนล้มลงและเจ็บแปลบที่ข้อเท้าซ้ายขึ้นมากะทันหัน แต่ธันวาไม่สนใจว่าคนที่ชนนั้นเป็นใคร เพราะใจอยู่กับที่สัตว์เลี้ยงตัวเดียวที่อยู่เป็นเพื่อนมานาน ถึงรู้ดีว่าเพื่อนตัวเล็กขนสีน้ำตาลทางกลับห้องพักเองได้ แต่เขากลัวว่าเจ้ากระรอกจะวิ่งตัดหน้ารถ
“เป็นไงบ้าง”
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม มือใหญ่เอื้อมมาจับที่ข้อเท้า ธันวาเจ็บจนต้องหลับตาเพื่อข่มความเจ็บปวด แต่เมื่อลืมตาอีกครั้ง เขาตกใจจนเผลอตะโกนออกมา
“บิลลี่!กลับมา!”
ธันวาตะโกนสุดเสียง เมื่อเห็นมอเตอร์ไซด์ขนาดใหญ่คันหนึ่งวิ่งตรงมาและกระรอกน้อยกำลังหยุดอยู่กลางถนนพอดี สายตาหลายคู่หันมาทางเดียวกัน เสียงเบรกดังลั่น เจ้าของรถมอเตอร์ไซค์หยุดนิ่งอยู่กลางถนน แล้วถอดหมวกกันน็อกออก คนซ้อนท้ายก้าวลงจากรถ ดึงกระโปรงที่ร่นขึ้นให้ลงมา เจ้ากระรอกสีน้ำตาลถูกหิ้วคอขึ้นตัวลอยโดยเจ้าของรถสปอร์ไบค์ที่เป็นคนหนุ่มตัวสูงร่างบึก แล้วว่างมันลงตรงอุ้งมือของธันวาที่ยังนั่งอยู่กับพื้นถนนหน้าร้าน
“จับทำกระรอกย่างได้แล้วมั้ง ทำเจ้าของจะหัวใจวายตายเสียก่อน”
คนพูดหัวเราะสนุกเมื่อเห็นหน้าซีดเผือดของญาติรุ่นน้อง แล้วหันหลังไปเข็นรถมาจอดที่หน้าร้าน เด็กสาวปรายตามองกลุ่มคนในร้านก่อนที่จะพยุงเพื่อนของพี่ชายขึ้นยืน คนกลุ่มนั้นทำทางจะเอาเรื่อง แต่ชินกฤตแกล้งโทรศัพท์จะแจ้งตำรวจคนกลุ่มนั้นเลยทยอยออกจากร้านไป ยกเว้นผู้ชายตัวสูงโปร่ง ผมสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาสีเดียวกับเส้นผมทอดสายตามองนิ่งนานที่คนที่เขาชนอย่างไม่ตั้งใจ แม้เขาอยู่ในทีท่าเย็นชา แต่หัวใจกลับตื่นฟื้นจากหุบเหวน้ำตา หัวใจที่ด้านชากลับอ่อนนุ่มขึ้นมาทันใด
“ไปเถอะบิลลี่ เสียฤกษ์หมด” เจ้าของรถเฟอรารี่เรียกแล้วหันหลังให้
นาทีนั้นธันวาสะดุ้ง เมื่อได้ยินชื่อเมื่อครู่ เพียงแค่หันกลับไปมองจะเห็นเพียงเสี้ยวหน้าของอีกฝ่าย เพียงแค่นั้นเขาก็จำได้ดี
ผ่านมากี่ปีก็ตาม คนๆ ยังดูเหมือนเดิม แม้ว่าผมสีน้ำตาลเข้มนั้นจะยาวระต้นคอก็ตาม
เพียงเท่านั้น น้ำตาของเขาก็รื้นเอ่อคลอดวงตาทั้งสองข้าง
