4.ไม่ใช่หรอก
ชีวิตไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิดเอาไว้ และฉันเองก็ยังอยากให้เมลลี่มีชีวิตในฐานะเลดี้ชนชั้นสูงต่อไป
ไม่ว่าอย่างไรฉันจะต้องรักษา บรรดาศักดิ์ยศท่านเคาน์ซารังต์เอาไว้ให้ได้
“หากอยากแต่งงานก็จะต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงสิคะท่านเคาน์เตส จริงอยู่ที่ชื่อเสียงของท่านไม่สู้ดีเท่าไหร่นักแต่เหล่าบุรุษพวกนั้นย่อมอยากเป็นท่านเคาน์ด้วยกันทั้งนั้น”
อารีเอนกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้แก่โรวีนา เธอไม่ชอบใจความงดงามที่เจิดจรัสนั้นเท่าไหร่นัก แต่ก็ปฏิเสธเสน่ห์อันล้นเหลือของเคาน์เตสซารังต์ไม่ได้เลย เธอไม่ชอบที่ท่านเคาน์เตสมีความงดงามมากกว่าเธอ แต่ก็ดันหลงใหลไปกับความงามนั้นจนน่าหงุดหงิด
นี่ฉัน..มาปรึกษาเรื่องสำคัญผิดคนรึเปล่านะ ฉันมองเห็นแววตาที่ไม่เป็นมิตรผ่านสายตาของเลดี้แรนเซล แต่นั่นก็ไม่เป็นอะไรหรอก คนอย่างโรวีนาเองก็ไม่ใช่คนดี จริงอยู่ที่ก่อนหน้าที่จะคลอดเมลลี่ โรวีนาไม่มีชู้และไม่เคยชายตามองบุรุษคนไหน แต่ทว่าหลังจากที่คลอดเมลลี่ออกมา เธอกลับลักลอบมีชู้กับบุรุษที่พึงใจ โรวีนาเป็นพวกเกลียดชังบุรุษที่หน้าตาดีเพราะว่าอิไลนั้นหล่อเหลาและนางชอบอิไลเพราะความหล่อเหลากับความอ่อนโยนของเขา
ในใจจึงจดจำและฝังใจถึงเรื่องนั้น สายตาของโรวีนาจึงไม่ขอมองบุรุษหล่อเหลาผู้ใดอีกเลย นางจะนอนกับพวกต่ำศักดิ์ยิ่งเป็นชาวบ้านหรือว่าคนสวนนั้นจะชื่นชอบมากเป็นพิเศษ เพราะมันเท่ากับว่าโรวีนากำลังตบหน้าสามีของตัวเองอยู่
การประชดแบบนั้นมันดีซะที่ไหนกัน เชื่อเถอะว่าคนมีสมองส่วนใหญ่ไม่น่าจะทำกันแต่อย่างว่า..โรวีนาไม่ค่อยมีความคิดเท่าไหร่ อาจจะเพราะนางยังเด็กจึงยังตกตะกอนความคิดได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก
“วันพรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงในคฤหาสน์เวลลิงตันเพื่อเลี้ยงฉลองที่ท่านเจโรมสามารถทำยารักษาโรคกามได้สำเร็จ..ท่านเคาน์เตสเองก็ควรจะไปที่นั่นนะคะ หากว่าท่านต้องการหาบุรุษที่จะแต่งงานด้วย”
นั่นสินะ หากอยากแต่งงานก็จะต้องออกไปตามหาว่าที่เจ้าบ่าวของเธอ
ข้อแรกต้องเป็นสามัญชน ข้อสองเรื่องหน้าตาเอาธรรมดาๆ ก็พอเพราะว่านี่คือสัญญาการแต่งงานธรรมดาๆ ข้อที่สาม ต้องไม่สะดุดตา เธอไม่อยากให้มีคนกล่าวถึงตระกูลซารังต์ในทางที่ไม่ดี ข้อที่สี่อันนี่สำคัญมากจะต้องไม่มีทายาทระหว่างเธอและว่าที่สามี เพื่อป้องกันการแย่งชิงตระกูลที่ควรจะเป็นของเมลลี่
“ขอบคุณเลดี้มากนะคะที่แนะนำ เดิมทีข้าคือคนจากทางใต้จึงไม่เข้าใจเรื่องธรรมเนียมของเมืองหลวงมากนัก”
อารีเอนมองหน้าของเคาน์เตสซารังต์อีกครั้งหนึ่ง ที่ผ่านมาที่ไม่ค่อยออกงานและปฏิเสธบัตรเชิญของเธอ ไม่ใช่เพราะว่าหยิ่งแต่เพราะไม่รู้ธรรมเนียมของที่นี่งั้นเรอะ!
อันที่จริงงานเลี้ยงของตระกูลเวลลิงตันมีกฎอยู่คือจะต้องสวมชุดเดรสสีน้ำเงินเข้ม..
หากว่าเธอไม่บอกเคาน์เตสจะต้องเป็นตัวตลกในงานอย่างแน่นอน ซึ่งมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรก็เธอเลยนี่
อย่าไปสนใจแล้วปล่อยให้เคาน์เคสอับอายไป..
“สะ..สีน้ำเงินค่ะ”
โรวีนาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเพื่อเอ่ยถามอารีเอน
“ข้าหมายถึงสีชุดที่จะต้องใส่เข้าร่วมงาน..หากท่านใส่สีอื่นไปคงจะกลายเป็นตัวตลกแน่ๆ”
คราแรกฉันคิดว่าคุณหนูคนนี้จะเป็นพวกคนนิสัยแย่ๆ ซะอีก แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เลวร้ายอะไรเลยนี่
“เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะเลดี้แรนเซล”
...................
“แหมท่านเจโรม ทางคาราวานสินค้าของเราจะกล้านำยามาขายในเมืองหลวงได้อย่างไรกันครับ ไม่ต้องพูดถึงการที่ข้าจะส่งสตรีมาประมูลแข่งกับท่านเลยด้วย ข้ารู้ดีว่าในจักรวรรดิแห่งนี้ใครเป็นผู้มีอำนาจ..”
ลัคเซลเจ้าของคาราวานสินค้าก้มหน้าลงด้วยความนอบน้อม ใครเลยจะกล้าแข็งข้อกับตระกูลเวลลิงตัน
“เช่นนั้นแล้วสตรีที่กล้าหลอกเงินของข้าไปพันเหรียญนางคือใครกันเล่า..หานางให้เจอแล้วส่งนางมาให้ข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะไม่ให้คณะคาราวานของเจ้าเหยียบย่างเข้ามาหากินในจักรวรรดิอีกเลย!”
ลัคเซลพยักหน้าเร็วๆ ด้วยความประหม่า เขารีบเดินออกไปจากงานเลี้ยงเพื่อไปตามสืบหาสตรีที่แอบอ้างชื่อคาราวานสินค้าของเขา
“อารมณ์เสียอะไรกัน วันนี้คือวันดีของเจ้ามิใช่หรือ”
เจโรมยกมือขึ้นมาเสยผมไปทางด้านหลัง เขารู้สึกอารมณ์เสียมากกว่าเดิมอีกเมื่อเขามองเห็นดยุคฮาสคลาวกำลังส่งยิ้มให้เขาอย่างอารมณ์ดี
“ไม่มีอะไรหรอกครับท่านดยุค ข้าก็แค่..หงุดหงิดที่เมนูที่สั่งไปไม่ได้ดังใจก็เท่านั้น ยินดีต้อนรับเข้าสู่งานเลี้ยงของตระกูลเวลลิงตันนะครับ”
ฟลอยด์ยกแก้วสุราขึ้นมาดื่ม เขาพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปในงาน เขาได้ยินเรื่องที่เจโรมถูกหลอกและนั่นคือสิ่งเล็กๆ ที่ทำให้เขาอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก
แม้แต่เขายังไม่ได้เบาะแสของสตรีผู้นั้นเลย แล้วคนอื่นได้หาเธอเจอได้อย่างไร เธอมีน้ำเสียงที่ก้องกังวานราวกับเสียงของระฆังแก้วและมีทักษะการพูดที่พูดฟังอดไม่ได้ที่จะถูกโน้มน้าว
เขาชอบนะ ประทับใจจนอยากร่วมงานกับเธอเลย..ฟลอยด์กำลังเดินเข้าไปในสวนเขาต้องการหามุมเงียบๆ เพื่ออยู่คนเดียว ทว่าในช่วงเวลานั้นมันเหมือนกับเวลากำลังเดินช้าลงเมื่อเขามองเห็นเจ้าของเรือนผมสีชมพูที่กำลังนั่งอยู่ในสวนก่อนแล้ว เธอแหงนหน้าเพื่อมองดูดวงจันทร์ก่อนจะยกแก้วสุราขึ้นมาดื่มราวกับกำลังเรียกความกล้าหาญให้กับตัวเอง
สตรีที่งดงามจนละสายตามิได้ผู้นั้น..ไม่มีใครไม่รู้จักนาง
โรวีนา ซารังต์
หญิงหม้ายที่ทำตัวไร้ค่า..ความงดงามที่ฉาบเอาไว้เพียงเปลือกนอก ตระกูลซารังต์กำลังจะถูกเรียกคือบรรดาศักดิ์และการที่นางมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อมาหาบุรุษสักคนที่ต้องการครอบครองความงดงามนั้นและเต็มใจยอมเป็นท่านเคาน์ซารังต์เพื่อให้นางยังคงอยู่ในตำแหน่งของเคาน์เตสต่อไปได้
น่าขยะแขยงจริงๆ ..สตรีที่มีดีแค่ความงดงามแต่ไร้ซึ่งปัญญา จะนำไปตั้งโชว์เอาไว้ในคฤหาสน์ก็รู้สึกอับอายเมื่อผู้คนผ่านมาเห็น..นางคงมีค่าแค่นำไปประดับเอาไว้บนเตียงนอน
“ทำได้สิวะ!..ต้องทำได้สิ แค่เดินเข้าไปหยิบแก้วสุราขึ้นมาดื่มเล็กน้อยเท่านั้นเอง หากมามัวนั่งอยู่ที่นี่ตอนนี้จะหาคนมาแต่งงานด้วยยังไงกันเล่า..ไหนๆ ก็ไหน อุตส่าห์มาที่นี่แล้วต้องกล้าๆ หน่อยสิ!!”
แววตาสีโทแพซของฟลอยด์เต็มไปด้วยความฉงนเมื่อเขาได้ยินเสียงของหญิงหม้ายผู้นี้
ไม่ใช่หรอก ถึงจะคล้ายกันแต่ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก เคาน์เตสซารังต์ไม่น่าจะมีความสามารถขนาดนั้น นางจะกล้าหลอกลวงตระกูลเวลลิงตันได้อย่างไรกัน
เขาคงคิดมากไปเอง เพราะเขาต้องการตามหาตัวของสตรีในคืนนั้นมากเกินไปจนรู้สึกสับสนไปหมด
