The Follow Love 6. เขิน
The Follow Love 6.
เขิน
“ไปกันเลยไหม?” ติณภัทรเดินออกมาจากห้องทำงานแล้วเอ่ยถามเลขาที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“ค่ะ” เกษมณีตอบรับแล้วลุกขึ้นยืน
“พี่ฝากงานด้วยนะน้องพราว” จากนั้นเธอก็หันไปฝากงานกับพราวมุกต่อ
“ได้ค่ะพี่เกด” พราวมุกตอบรับด้วยรอยยิ้ม
“อ้าว แล้วไม่ได้ไปด้วยกันเหรอ?” ติณภัทรเห็นอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วและถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ไม่ค่ะ เกดให้น้องทำงานอยู่ที่บริษัท” เกษมณีส่ายหน้าและตอบเจ้านายไป
“นึกว่าจะได้ไปด้วยกัน” ติณภัทรพูดขึ้น ทั้งสีหน้าและแววตามีความเสียดายไม่น้อย
“อ๋อ ร้านข้าวข้าง ๆ น่ะ อร่อยนะ ตอนเที่ยงถ้ากินแถวบริษัทพี่แนะนำร้านนั้น” เกษมณีมองติณภัทรสายตาดุ ๆ จนเจ้าตัวต้องหลบสายตา เธอจึงหันมาพูดกับพราวมุกเพื่อแนะนำร้านอาหารที่อร่อยแถวนี้
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ” พราวมุกยิ้มรับ เพราะเธอเองก็กะจะกินข้าวแถวนี้อยู่แล้ว ดีที่เกษมณีแนะนำมา
จากนั้นติณภัทรและเกษมณีก็เดินออกมาพร้อมกัน
“กันซีนเก่ง” ติณภัทรพูดขึ้นเบา ๆ ในตอนที่ทั้งคู่ยังอยู่ในลิฟต์ด้วยกัน
“อะไร?” เกษมณีหันไปถามและจ้องหน้าเขาเขม็ง
“เปล่า” ติณภัทรส่ายหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“อย่านะติณ” เกษมณีเอ่ยย้ำอีกครั้งเพื่อเตือนเขาไม่ให้ยุ่งกับพราวมุก
“เออน่า” ติณภัทรก็ตอบรับไปส่ง ๆ
“ไม่น่าไว้ใจเลย แกน่ะ”
“แล้วนี่เรื่องที่จะเสนอไปห้างพี่เตรียมหรือยัง?” เมื่อถูกจ้องมองอย่างไม่ไว้หน้า ติณภัทรจึงทำทีเปลี่ยนเรื่องคุย
“เตรียมแล้ว ก็รอนัดทางนั้นอย่างเดียว” เกษมณีจึงกลับเข้ามาสู่โหมดจริงจังกับงานอีกครั้ง
“คิดว่าจะผ่านไหม?” ติณภัทรถามขึ้น
จากนั้นทั้งคู่ก็คุยกันไปตลอดทางถึงแผนงานต่าง ๆ ที่วางไว้หลังจากนี้
การคุยงานผ่านราบรื่นไปได้ด้วยดี
“เดี๋ยวมานะ” หลังจากที่คุยงานเสร็จ ติณภัทรและเกษมณีก็เตรียมตัวจะกลับ แต่ระหว่างทางที่เดินไปยังลานจอดรถ ติณภัทรก็หันมาบอกเกษมณีแล้วขอตัวเดินออกไป
เกษมณีจึงยืนรออยู่แถว ๆ นั้น ไม่นานเจ้านายของเธอก็เดินกลับมา พร้อมกับในมือมีถุงขนมเจ้าดังของที่นี่ติดมาด้วย เกษมณีขมวดคิ้วสงสัยแต่ไม่ได้ถามอะไรออกไป
“กลับกันเถอะ” เกษมณีพูดขึ้น
จากนั้นทั้งคู่ก็เดินทางกลับบริษัทกันทันที
“เป็นยังไงบ้าง งานเสร็จไหม” เมื่อขึ้นมาถึงหน้าห้องทำงาน เกษมณีก็เอ่ยถามพราวมุกถึงงานที่มอบหมายให้ทำทันที
“เรียบร้อยแล้วค่ะ” พราวมุกตอบแล้วก็ยื่นเอกสารให้เกษมณีดู
พราวมุกเหลือบสายตาไปมองติณภัทรเล็กน้อยก็เห็นว่าเขากำลังยืนจ้องหน้าเธออยู่ก็ก้มหน้างุดทันที
“อะนี่ ซื้อมาฝาก” ติณภัทรกระตุกยิ้มแล้วยื่นถุงขนมในมือให้พราวมุก แต่ยังคงวาดมาดท่านรองประธานเอาไว้ทุกกระเบียดนิ้ว
“คะ?” พราวมุกเงยหน้าขึ้นแล้วทำหน้างง
“ซื้อมาให้ กินอะไรหรือยัง?”
“เอ่อ ยังค่ะ”
“อื้ม นี่ไง ซื้อมาฝาก” ติณภัทรพูดแล้วยื่นถุงขนมในมือให้แก่พราวมุกอีกรอบ
“เอ่อ” พราวมุกจึงหันไปมองหน้าเกษมณีอย่างเกรง ๆ
“รับไว้เถอะจ้ะ” เกษมณีเหลือบสายตาไปมองติณภัทรแล้วส่ายหน้าเอือมระอา เธอหันมาบอกให้พราวมุกรับไว้
“ขอบคุณนะคะ” พราวมุกจึงกล้าหันไปรับและเอ่ยขอบคุณเจ้านายเสียงหวาน
“ครับ” ติณภัทรตอบรับและยิ้มละมุน
พราวมุกจ้องตาติณภัทรอย่างเขินอาย
“ไปทำงานได้แล้วค่ะคุณติณ มีเอกสารที่ต้องเซ็นให้เสร็จก่อนบ่ายด้วยนะคะ” เกษมณีพูดขึ้นเสียงเข้มและทำตาดุส่งไปด้วยในเวลาเดียวกัน
“ครับ” ติณภัทรตอบรับแล้วเดินเข้าห้องทำงานของตนเองไป และก็ยังมีแอบบ่นถึงพี่สาวข้างบ้านที่กันซีนเขาเก่งเหลือเกิน
“เจ้าที่แรงว่ะ”
“พี่เกด คือ..” พราวมุกหันมามองเกษมณีอย่างลำบากใจก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกัก
“รับไว้เถอะ แต่พี่ขอเตือนในฐานะรุ่นพี่นะพราว คนนั้นน่ะ ไม่ได้หรอก” เกษมณีจึงพูดเตือนรุ่นน้องของตนเองด้วยความหวังดี
“ทำไมเหรอคะ?”
พราวมุกถามขึ้นด้วยความสงสัย ทำให้เกษมณีหรี่ตามองเธออย่างจับผิด
“พราวก็แค่ถามน่ะค่ะ” พราวมุกจึงเอ่ยแก้ตัวออกไปอย่างติด ๆ ขัด ๆ
“คุณติณน่ะเจ้าชู้ อยู่นานไปเดี๋ยวก็เข้าใจเองจ้ะ” เกษมณีพูดขึ้น และไม่ใช่การดิสเครดิตของติณภัทรแต่อย่างใด เพราะมันคือความจริงล้วน ๆ ที่เธอเตือนก็เพราะว่าหวังดีกับคนตรงหน้า ไม่อยากให้ตกเป็นเหยื่อเสือร้ายอย่างติณภัทร
พราวมุกพยักหน้าเข้าใจแล้วนั่งลงจัดเอกสารต่อ
เกษมณีมองตามก็ได้แต่ทอดถอนใจ เพราะเธอรู้ดีว่าความรู้สึกของคนมันห้ามกันไม่ได้ เธอเองก็ได้แต่เตือน หวังว่าพราวมุกจะไม่ตกหลุมพรางของติณภัทรก็แล้วกัน
จนใกล้เวลาเลิกงาน พราวมุกช่วยเกษมณีเคลียร์เอกสารจนเสร็จ
“เดี๋ยวพี่เอาเอกสารไปส่งที่ห้องท่านประธานก่อนนะ” เกษมณีหันไปบอกพราวมุกที่กำลังนั่งจัดเรียงเอกสารให้เธออยู่ที่โต๊ะข้าง ๆ ซึ่งโต๊ะนี้เธอได้ให้ทางพนักงานมาจัดไว้ให้พราวมุกโดยเฉพาะ จะได้สะดวกเวลาทำงาน
“ให้พราวไปส่งให้ไหมคะ?” พราวมุกเงยหน้าขึ้นมาอาสาไปส่งเอกสารให้เกษมณี
“เอาไว้คราวหน้าดีกว่า เดี๋ยวจะพาไปแนะนำให้เลขาท่านประธานรู้จักเราด้วย แต่วันนี้พี่ต้องไปคุยงานด้วยตนเองน่ะ” เกษมณีส่ายหน้าปฏิเสธและอธิบายไป เพราะครั้งนี้เธอต้องไปคุยงานกับอีกฝ่ายโดยตรง ครั้งหน้าค่อยพาพราวมุกไปแนะนำให้รุ่นพี่ของเธอที่เป็นเลขาของท่านประธานรู้จักดีกว่า เผื่อเวลาที่เธอไม่ว่างจะได้ไหว้วานให้พราวมุกไปแทน
“ได้ค่ะ” พราวมุกพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย
เกษมณีเดินถือแฟ้มเอกสารออกไป พราวมุกจึงก้มหน้าทำงานต่อ
ด้านในห้องทำงาน
ติณภัทรเซ็นเอกสารแผ่นสุดท้ายหลังจากอ่านเสร็จ เขาปิดแฟ้มลงแล้วยกมือขึ้นมานวดคอตนเองด้วยความเหนื่อยล้า จากนั้นก็ยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าใกล้เวลาเลิกงานแล้วเขาจึงลุกขึ้นเก็บของทุกอย่างเตรียมกลับ เพราะตอนนี้คงไม่มีงานอะไรแล้ว
ติณภัทรเดินถือแฟ้มเอกสารที่เพิ่งจะเซ็นเสร็จออกมาจากห้องทำงาน และเจอเข้ากับพราวมุกที่ก้มหน้าทำงานอยู่ แต่ไม่เห็นเกษมณี
“คุณเกดล่ะ?” ติณภัทรเดินเข้าไปถามหาเลขาของตนเองกับหญิงสาวเบื้องหน้า
“ไปส่งเอกสารที่ห้องท่านประธานค่ะ” พราวมุกเงยหน้าขึ้นมองแล้วตอบเสียงใส “คุณติณภัทรมีอะไรหรือเปล่าคะ?” จากนั้นก็ถามขึ้นเผื่อว่าเจ้านายจะมีธุระด่วนอะไร เธอจะได้ไปตามให้
“เปล่า ฝากนี่ให้คุุณเกดด้วยนะ” ติณภัทรส่ายหน้าแล้วยื่นเอกสารในมือให้กับพราวมุก
“ค่ะ”
“เป็นยังไงบ้าง? ฝึกงานวันแรก” หลังจากที่พราวมุกรับเอกสารไปแล้วติณภัทรก็ถามขึ้นเสียงนุ่ม
“ยังไม่ค่อยชินค่ะ แต่ก็พยายามเข้าใจอยู่” พราวมุกหันมาตอบแล้วยิ้มแหยเล็กน้อย เธอยังไม่ชินกับงานเอกสารแบบนี้ แม้จะเป็นภาษาที่เธอเรียนมา แต่การบริหารเธอกลัวว่าจะทำได้ไม่ดี กลัวว่าจะทำให้งานของติณ¬ภัทรผิดพลาด
“เรียนอะไรมา เลขาเหรอ?” ติณภัทรถามเพื่อหาเรื่องคุยกับหญิงสาวหน้าหวานตรงหน้าด้วยความสนใจ แม้จะบอกว่าตนเองเป็นสมภารไม่กินไก่วัด แต่กับพราวมุกมันเหมือนมีอะไรมาดึงดูดเขาแปลก ๆ ทำให้เขากล้าที่จะเล่น
“พราวเรียนภาษามาค่ะ” พราวมุกตอบกลับเสียงอ้อมแอ้ม กลัวติณภัทรจะว่าที่เธอเรียนมาไม่ตรงสายแต่ก็ยังมาทำงานให้กับพวกเขา
“อ๋อ” ติณภัทรพยักหน้ารับรู้และไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเดี๋ยวนี้งานมันสอนกันได้ เรียนมาไม่ตรง แต่มีความสามารถเขาก็ไม่ได้ติดขัดอะไรอยู่แล้ว อีกอย่างคนตรงหน้ามาจากการพิจารณาของเกษมณี แสดงว่าอีกฝ่ายก็คงจะมั่นใจในตัวเธอไม่น้อย เขาจึงไม่ก้าวก่ายอยู่แล้ว
“ตั้งใจทำงานนะ” ติณภัทรหันไปมองที่หน้าลิฟต์ก็เห็นเกษมณีกำลังเดินมาไกล ๆ เขาจึงหันไปบอกพราวมุกแล้วเดินไปที่ลิฟต์ ระหว่างทางก็เจอเข้ากับเกษมณีที่หรี่ตามองเขาอยู่ แต่ติณภัทรทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เดินหนีไป
“พี่เกด คุณติณภัทรฝากเอกสารให้ค่ะ” เมื่อเกษมณีเดินมาถึงโต๊ะทำงาน พราวมุกก็ยื่นเอกสารให้กับเธอทันที
“อ๋อ ขอบใจจ้ะ ส่วนเราน่ะเก็บของเถอะ ได้เวลาเลิกงานแล้ว”
เกษมณีพยักหน้ารับรู้และรับเอกสารมา เธอกำลังจะเอ่ยปากถามเลยว่าติณภัทรมาทำอะไรที่โต๊ะทำงานของพวกเธอ จากนั้นก็บอกให้พราวมุกเก็บของ เพื่อที่จะกลับบ้านกันได้แล้ว
“ค่ะ” พราวมุกพยักหน้ารับแล้วเคลียร์เอกสารจนเสร็จ จากนั้นทั้งคู่ก็ลงมายังชั้นหนึ่งเพื่อที่จะกลับบ้าน ระหว่างทางก็มีพนักงานยกมือไหว้ทักทายพวกเธอเป็นระยะ เล่นเอาพราวมุกทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว
“ว่าแต่เรากลับยังไงจ๊ะ?” เกษมณีหันมาถามพราวมุกและมองเธอด้วยความเอ็นดู
“พราวนั่งวินกลับค่ะ” พราวมุกจึงตอบไปยิ้ม ๆ เพราะตอนค่ำเพื่อนไม่ว่างมารับ เธอจึงต้องนั่งวินมอไซค์กลับเอง
“บ้านอยู่ไกลไหม?” เกษมณีขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วถามขึ้น
“พราวพักที่หอค่ะ อยู่ไม่ไกลมาก”
“เดี๋ยววันนี้พี่ไปส่งก็แล้วกัน จะได้รู้ไว้ ต่อไปถ้ามีธุระด่วนจะได้ไปรับถูก” เกษมณีจึงอาสาไปส่งพราวมุกเอง
“ขอบคุณค่ะพี่เกด” เมื่อได้ฟังเหตุผลของเกษมณีพราวมุกจึงตอบรับอย่างว่าง่าย ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด
