บทที่ 5 ราตรีที่เปลี่ยนชะตา
บทที่ 5 ราตรีที่เปลี่ยนชะตา
หลี่เลี่ยงหรงนั่งเขียนจดหมายเกือบครึ่งคืน กระดาษกองแล้วกองเล่าเต็มไปด้วยถ้อยคำที่ถูกขีดฆ่า นางได้ยินเสียงคนเฝ้ายามผลัดเวรอยู่ด้านนอก แต่เพียงปรายตามองแล้วกลับก้มเขียนต่อ
ทว่าจดหมายที่สำคัญที่สุดกลับเขียนไม่ออก ชื่อของหลิงจงอยู่บนนั้น แต่ไม่รู้จะบอกอะไรดี รักแรกและรักเดียวของนาง นางอยากเขียนคำลา แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน
เสียงกุกกักดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครานี้เมื่อเอ่ยถามออกไปแม้แต่เสียงด้านนอกก็เงียบสนิท
นางลุกขึ้นเดินไปที่ประตู
“มีใครอยู่ไหม” ไร้เสียงตอบกลับ
เมื่อหันกลับมาที่โต๊ะ นางชะงัก ชายหนุ่มที่นางคิดถึงมากที่สุดยืนอยู่ตรงนั้น มิหนำซ้ำเขายังถือจดหมายที่นางกำลังจะเขียนถึงเขาอยู่อยู่ในมือแต
“หากมีอะไรก็พูดกับข้าเสียตอนนี้” หลี่เลี่ยงหรงเม้มปาก ไม่รู้จะเอ่ยอะไรดี ก่อนตัดสินใจพูดเพียงสิ่งเดียวที่สำคัญที่สุด สิ่งหนึ่งที่นางสามารถให้เขาช่วยได้แล้วเขาคงเต็มใจ
“ก็คงมีแต่เรื่องของท่านพ่อนั่นแหละที่ข้าอยากจะให้คุณชายช่วย”
หลิงจงยกคิ้ว
“เรียกข้าเช่นนี้ได้ด้วยหรือ ไม่นึกว่าจะเรียกหลิงจง ๆ เหมือนแต่ก่อน”
“วันเวลาผ่านไป ข้าเข้าใจแล้วว่าเราต่างกันเพียงใด”
“ก็แค่ลมปาก หากเจ้ารู้ว่าบิดาเจ้าร้องขอให้ข้าช่วยอะไร เจ้าคงดีใจนัก”
“ไม่ว่าท่านพ่อจะเอ่ยอะไร ท่านก็อย่าได้ใส่ใจเลย แค่จากนี้ช่วยดูแลท่านหน่อยก็แล้วกัน อย่างไรท่านพ่อก็เป็นอาจารย์ของท่าน ทำในส่วนของศิษย์ คงไม่ถือว่าเป็นคำข้อร้องที่มากไป”
“แล้วเหตุใดเจ้าไม่อยู่ดูแลเองเล่า”
“พูดล้อเล่นแล้ว อีกไม่กี่วันข้าก็ต้องทำหน้าที่ของตนเอง”
หลิงจงจ้องนางครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยช้า ๆ “แค่เจ้าตกลง ข้าก็ช่วยเจ้าได้”
“เช่นไรหรือ”
“เป็นของข้า...นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้ารอคอยหรือ แค่เพียงเจ้านอนกับข้าตัดเยื่อพรมจารีของเจ้า เท่านี้เจ้าก็จะไม่ถูกบูชายันแล้ว”
หลี่เลี่ยงหรงหัวเราะเบา ๆ เสียงนั้นเต็มไปด้วยความสมเพชตนเอง
“สายเกินไปแล้ว...” นางเอ่ยอย่างเลื่อนลอย ราวหมดแรงต่อต้าน ดูเหมือนนางไม่คิดจะหนีแล้วจริง ๆ
หลิงจงก้าวเข้าใกล้ สายตานั้นแข็งกร้าว ปลายนิ้วเขาแตะจุดสำคัญ ทำให้นางหมดสติไปทันที
“ช่วยไม่ได้ ในเมื่อเจ้าไม่ยินดี ข้าก็ต้องใช้วิธีอื่น”
หลี่เลี่ยงหรงลืมตาขึ้นอีกครั้ง รู้สึกมึนงงและไม่รู้ว่าตนอยู่ที่ใด ลำคอแห้งผากทำให้นางมองหาน้ำ
“หิวน้ำหรือ” เสียงคุ้นเคยดังขึ้น หลิงจงนั่งอยู่ตรงหน้า
“นี่ท่าน ที่นี่…ที่ใด”
“ข้าเองแล้วทำไมหรือ” หลี่เหลี่ยงหรงมองไปรอบ ๆ มันไม่ใช่ที่ที่นางถูกให้กักตัว แต่เป็นที่ใดนั้นนางไม่อาจจะรู้ได้
“ไม่ต้องห่วง เจ้าไม่อยู่ที่ศาลแล้ว”
“พาข้ามาที่นี่ทำไม” น้ำเสียงของนางแข็งขึ้น ไม่ใช่เพราะใจไม่หวั่นไหว แต่เพราะนางไม่อยากให้เขาเห็นความกลัวนาง
นานนับสิบปีตัดใจไม่ได้ แต่ยามนี้เมื่อเหลือเวลาอยู่เพียงไม่กี่ชั่วยามหากนับเป็นวันนางกลัวว่ามันจะดูรันทนจนเกินไปจึงเอ่ยปลอบใจตนเองเช่นนั้น และในทุกชั่วยามนี้ นางจะไม่สนใจคนที่ทำให้นางต้องใช้ชีวิตไร้ค่าอยู่นับสิบปี
“เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก หากเจ้าไม่เรียกร้อง นี่น้ำของเจ้า” หลี่เหลี่ยงหรงเอื้อมมือมาเทน้ำลงในจอกก่อนจะดื่มเข้าไปเต็มที่เพราะรู้สึกหิวน้ำ แต่เมื่อดื่มนางก็แทบสำลักเพราะมันไม่ใช่น้ำแต่กลับเป็นสุรา
“นี่มัน...”
“อะไรหรือ” ไม่เพียงแค่เป็นสุรา แต่หลี่เหลี่ยงหรงกลับรู้สึกแปลก ๆ
“ท่านใส่อะไรลงไปในกานี้”
“ก็แค่สุราเรื่องชื่อของโรงเตี๊ยมในเมือง” หลิงจงพูดพลางเทเขายกขึ้นดื่มเองอย่างไม่ใส่ใจ ท่าทางร้อนรนของหลี่เหลี่ยงหรงแม้เพียงนิด
“เจ้าดื่มไม่ได้หรือ”
“ข้าต้องการดื่มน้ำ หาได้ต้องการดื่มสุรา” เหลี่ยงหรงพูดจบก็ลุกขึ้นคล้ายจะมองหากาน้ำชาแต่ก็ไม่พบแม้สักหยด
หลิงจงถอนหายใจ คล้ายเสียเวลาไปมากแล้ว ก่อนจะยกกาสุราขึ้นกรอกปากตนเอง แล้วดึงหญิงสาวเข้ามาประกบจูบ บังคับให้นางดื่มผ่านริมฝีปากเขา
ไม่ใช่แค่หนึ่งครั้ง หรือสอง แต่ครั้งแล้วครั้งเล่า จนกาสุราหมดเกลี้ยง หลี่เหลี่ยงหรงที่ไม่คุ้นชินกับการดื่มสุราถึงกับตัวอ่อนราวร่างไร้กระดูก
ชายหนุ่มเห็นว่านางไม่ต่อต้านแล้วเขาก็อุ้มนางไปยังเตียงที่ปูผ้าขาวเอาไว้อย่างจงใจ
“อย่าโทษข้าเลยนะ” ชายหนุ่มค่อย ๆ ก้มลงบรรจงจูบไปที่ริมฝีปากที่เผยอออกด้วยเพราะความร้อนในร่างกาย
มือเรียวที่เผลอไผลเอื้อมไปรั้งคอของชายหนุ่มเอาไว้ตามใจของตน ทั้งสองต่างตอบสนองกันอย่างไม่มีใครห้ามใคร กว่าจะมีใครรู้ว่าเทพธิดาที่พวกเขาหมายใจจะใช้บูชายันไม่มีคุณสมบัติพร้อม ราตรีก็เลื่อนหาย และดวงอาทิตย์ก็โผล่พ้นขอบฟ้าแล้ว
ข่าวลือกระจายทั่วเมือง
“เทพธิดาหายไป” เสียงของคนจากศาลโวยวายไปทั่ว พวกเขาตรวจพบว่าเมื่อวานมีคนบุกเข้ามาแต่กลับไม่รู้ว่าเป็นใคร
คนของศาลหลักเมืองวิ่งพล่าน ตรวจสอบทั่วทั้งเมือง
แม้แต่เรือนบัณฑิตหลี่ก็ไม่เว้น แต่พบเพียงความว่างเปล่า บิดาของนางกำลังนั่งขอพรอยู่ที่วัด เพื่อขอให้มีอะไรสักอย่างเปลี่ยนแปลงชะตาของบุตรสาวในครั้งนี้
เมื่อรายงานถึงจวนเจ้าปกครองเมือง ทุกคนไม่คาดคิดเลยว่า ธิดาเทพจะปรากฏตัวอยู่ในที่แห่งนั้น…
