บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2

ดาหวันทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นหญ้า แผ่นหลังพิงกับกำแพงเย็นเฉียบ หัวใจปวดร้าวทรมาน นี่ถ้าไม่จำเป็นต้องหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว หล่อนคงลาออกจากที่นี่ไปแล้ว

หยาดน้ำตาไหลรินออกมาอาบแก้มนวล หญิงสาวไม่ได้คิดจะเช็ดมันแม้แต่น้อย หล่อนยกมือขึ้นปิดหน้าและร่ำไห้หนักยิ่งขึ้น หนักมาก... จนกายสั่นเทาน่าสงสาร

ความปวดร้าว ความทุกข์ทรมานแผดเผาหัวใจจนมอดไหม้ไม่เหลือชิ้นดี

หล่อนเจ็บ...

หล่อนทรมาน...

หล่อนไม่อยากเผชิญหน้ากับเพื่อนร่วมงานแบบนี้เลย แต่กลับไม่มีทางเลือก

หญิงสาวยกเข่าขึ้นมาชันเอาไว้ และซบหน้าลงไป ร้องไห้คร่ำครวญเงียบๆ แต่ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

หล่อนรีบเอามือป้ายน้ำตาลวกๆ และเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะเผยอปากค้างเติ่ง

ผู้ชายตัวสูงยืนค้ำตระหง่านอยู่ตรงหน้า ในมือใหญ่สีขาวสะอาดของเขามีผ้าเช็ดหน้าสีน้ำเงินขลิบขอบด้วยสีขาวยื่นมาให้

“ให้ยืม”

รอยยิ้มของผู้ชายผู้เป็นเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรเบื้องหน้า ทำให้ลมหายใจของหล่อนชะงักกึก รู้สึกร้อนผะผ่าวแปลกประหลาด

“ไม่... ไม่เป็นไรค่ะ”

เมื่อตั้งสติได้ หล่อนก็ขยับตัวลุกขึ้น และแน่นอนว่าต้องเดินหนี แต่เขาก้าวมาขวางหน้าเอาไว้ พร้อมกับยื่นผ้าเช็ดหน้าผืนที่หล่อนปฏิเสธมาให้อีกครั้ง

“ผมไม่คิดเงินหรอก ให้ยืมซับน้ำตา”

“ขอบคุณค่ะ แต่ฉัน... เช็ดมันแห้งแล้วค่ะ”

“ยังไม่แห้งเลยครับ”

หล่อนยืนนิ่งราวกับถูกสาปให้เป็นก้อนหิน ยามที่มือใหญ่จับผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาบนแก้มนวลให้

“แห้งแล้ว”

ผู้ชายแปลกหน้าระบายยิ้มให้กับหล่อน ก่อนจะยัดผ้าเช็ดหน้านั้นใส่มือของหล่อน

“ซักแล้ว ค่อยเอามาคืนนะครับ”

“เอ่อ... เรา... ไม่รู้จักกัน คุณมาทำแบบนี้ทำไมคะ”

รอยยิ้มของบุรุษนิรนามช่างน่ามองนัก หัวใจของหล่อนเต้นแรงจนต้องยกมือขึ้นกดเอาไว้เลยทีเดียว

“ผมเห็นคุณมานั่งร้องไห้ตรงนี้มาหลายปีแล้วครับ แต่ก็ไม่ได้เข้ามาทักทายสักที”

“นี่คุณ... ทำงานที่นี่เหรอคะ”

ดาหวันเริ่มใช้สายตาสำรวจผู้ชายตรงหน้าอย่างจริงจัง หลังจากที่มองผ่านๆ มาสักพัก

เขาอยู่ในชุดสูทสีเข้มพอดีตัว ผมเผ้าก็ตัดแต่งไร้ที่ติ ผิวพรรณก็ขาวสะอาด ปากแดงราวกับเพิ่งไปดื่มเลือดสดๆ มา แต่หล่อนมั่นใจว่าเขาไม่ได้ทาลิปสติกอย่างแน่นอน

ท่าทางของคู่สนทนาที่หยิบยื่นไมตรีจิตให้นั้นช่างดูสง่างามและทรงเสน่ห์นัก จนหล่อนไม่คิดว่าเขาจะเป็นแค่พนักงานธรรมดาเช่นตนเอง

“คุณ... เป็นลูกค้าของที่นี่หรือคะ”

“ผมเหรอ”

“ใช่... ใช่ค่ะ”

ความสงสัยในตัวตนของเขา ทำให้หล่อนลืมความทุกข์ใจจากการถูกบูลลี่ของเพื่อนร่วมงานไปได้ชั่วขณะ

หล่อนเห็นเขานิ่งไปเล็กน้อย แต่รอยยิ้มไม่ได้จางหายไปจากใบหน้าหล่อจัดแม้แต่วินาทีเดียว

“ผมก็เป็นพนักงานเหมือนกับคุณนั่นแหละครับ”

“พนักงาน...? เหมือนฉันเหรอคะ”

“ใช่ครับ”

เขาหัวเราะเบาๆ

“ท่าทางของผมเหมือนลูกค้ากระเป๋าหนักตรงไหนเนี่ย”

ดาหวันรู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย เพราะรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของผู้ชายตรงหน้า

“ท่าทางของคุณเหมือนทั้งลูกค้ากระเป๋าหนักและผู้บริหารเลยค่ะ”

ศีรษะทุยสวยของเขาส่ายไปมา

“ผมเป็นเชฟในห้องอาหารของโรงแรมนี่แหละครับ”

“เชฟ?”

“ใช่ครับ”

หล่อนเห็นเขาตอบรับด้วยรอยยิ้มขบขัน

“ท่าทางผมไม่เหมือนเชฟหรือครับ”

ดาหวันลืมตัวหัวเราะออกมา

“เดี๋ยวนี้เชฟเขาใส่สูทผูกไทปรุงอาหารกันแล้วเหรอคะ ฉันตกข่าวอีกแล้ว”

“อ๋อ... ไม่ใช่หรอกครับ แต่ผมน่ะเป็นคนชอบใส่สูทออกจากบ้าน นี่ยังไม่ได้เข้าไปทำงาน ก็เลยยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นชุดเชฟน่ะครับ”

ยิ่งคุยกับผู้ชายคนนี้ หล่อนก็ยิ่งรู้สึกผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“แบบนี้ แสดงว่าคนที่บ้านของคุณจะต้องไม่รู้ว่าคุณเป็นเชฟใช่ไหมคะ”

เขายิ้มได้อย่างน่ามองอีกแล้ว

“ก็น่าจะประมาณนั่นแหละครับ”

ดาหวันเชื่อคำพูดของผู้ชายตรงหน้าอย่างสนิทใจเลยทีเดียว

“ครอบครัวของคุณคงอยากให้คุณทำงานออฟฟิศใช่ไหมคะ”

หล่อนเห็นเขาไหวไหล่ที่กว้างมากๆ ของตนเองเล็กน้อย

“ก็คงงั้นมั้งครับ”

“คุณคงอึดอัดแย่เลยที่ต้องโกหกคนในครอบครัว”

“ก็ไม่ได้อึดอัดอะไรมากหรอกครับ ผมก็แค่พูดความจริงไม่หมดเท่านั้นเอง”

“แต่นั่นมันก็เหมือนการโกหกอยู่ดีนั่นแหละค่ะ”

หล่อนเห็นเขาอมยิ้ม และมองหล่อนด้วยสายตาเป็นมิตร ซึ่งในโรงแรมนี้ ไม่มีเพื่อนร่วมงานคนไหนหยิบยื่นมันให้กับหล่อนมาก่อนเลย

“โกหกเพื่อรักษาความรู้สึกของคนที่เราแคร์เอาไว้ มันไม่น่าจะผิดนักหรอกค่ะ” เขาอมยิ้ม และพูดต่อ “ว่าแต่คุณเถอะ มีความสุขบ้างไหมที่ทำงานที่นี่น่ะ”

เมื่อถูกวกถามเข้ามาในเรื่องอ่อนไหวของตนเอง ดาหวันก็ถึงกับหน้าเจือน แต่ก็ยังฝืนยิ้มบางๆ

“ฉันไม่มีความสุขหรอกค่ะ แต่ฉันต้องการเงิน ครอบครัวของฉันยังต้องใช้เงินอีกเยอะ ฉันก็เลยต้องอดทนต่อไป”

“ชื่อเสียงของคุณไม่ดีนัก ในโรงแรมนี้”

“คุณ... รู้ด้วยเหรอคะ”

เขาพยักหน้ารับเล็กน้อย

“ก็พอได้ยินมาบ้างครับ”

หล่อนยิ้มเศร้าหมอง

“แล้วคุณไม่รังเกียจฉันเหรอคะ”

“ทำไมผมต้องรังเกียจคุณล่ะครับ คุณเป็นคนไม่ดีหรือ”

หยาดน้ำตาเออคลอเบ้าตาของดาหวัน แต่ก็รีบกะพริบไล่มันจนแห้ง

“ฉันรู้ว่าตัวเองเป็นคนดีค่ะ ฉันไม่เคยคิดร้าย หรือทำร้ายใคร แต่คนอื่นคิดว่าฉันเป็นคนไม่ดี กล่าวหาว่าฉันจะแย่งสามีของพวกเขา”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel