ตอนที่5 เข้า-กัน-ได้
"ทะ...ทำอะไรของคุณคะ!"
"ฉันต่างหากที่ต้องถาม ถ้าเธอขยับอีกนิดฉันอาจเป็นหมันได้เลยนะ"
สิงหราชตอบกลับ เขาใช้สายตาบอกให้รู้ว่าเข่าของเธอมันสัมผัสกับอะไร ๆ ที่มันอยู่ใต้กางเกงของเขาอยู่
ถึงไม่โดนเต็มที่ แต่ก็มีเฉียดไปส่วนหนึ่งแล้ว
กระดูกเข่าแข็ง ๆ กดทับลงเนื้อนิ่มหยุ่น...มันให้ความรู้สึกแปลกเป็นบ้า
"อุ๊ย!"
เจ้าจันทร์ตาเบิกกว้าง พยายามใช้มือยันเพื่อขยับตัวลุกขึ้น แต่ใครจะไปคิดว่าเธอจะซวยซ้ำซวยซ้อน รองเท้าส้นสูงที่สวมอยู่ดันส้นหักทำเธอล้มกลับลงไปอีกรอบ
เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังเผลอใช้มือขวาของตัวเองตะปบคว้าไปยังเป้ากางเกงของเจ้านายเอาไว้อีก!
"เฮ้ย!"
สิงหราชร้องเสียงหลงในขณะที่เจ้าจันทร์ก็ร้องออกมาด้วยความตกใจยิ่งยวด มือของเธอสั่นระริกหลังจากสัมผัสได้ถึงความใหญ่โตที่คับแน่นฝ่ามือขึ้นมากะทันหัน
"คุณสิงหราช! ไอ้คนโรคจิต!" หญิงสาวต่อว่าเสียงดัง รีบร้อนลุกขึ้นแม้ว่าจะโซซัดโซเซไปบ้างเพราะตั้งตัวไม่ทันก็ตาม
จากที่ตั้งใจจะเอ่ยขอโทษ ตอนนี้เธอกลับมีแต่ความโมโหจนอยากจะต่อว่าใส่อีกฝ่าย
"ใครกันแน่ที่โรคจิต คุณมาจับมันเองนะ"
สิงหราชเองก็ไม่พอใจเช่นกัน เธอมาจับของเขาเองแท้ ๆ ยังมีหน้ามาว่าเขาโรคจิตอีก
อีกอย่าง ใครจะไปคิดว่ามีที่ให้คว้ามากมายเธอกลับไม่คว้า ดันไปคว้าเอาเสาค้ำสวรรค์ของคนอื่น พอมันแข็งตั้งคามือจะมาต่อว่าเขาได้อย่างไร
"คุณมันหื่นกาม!"
"เออ! ฉันก็เพิ่งจะหื่นกามใส่เธอคนแรกนี่แหละ!" เขาสวนกลับทันที พูดออกไปแล้วถึงคิดขึ้นได้ว่าเผลอพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมา
เจ้าจันทร์ได้ยินดังนั้นก็คล้ายจะปะติดปะต่อเรื่องราวขึ้นมาได้
เปลี่ยนผู้หญิงบ่อย
หายเข้าห้องไปกับผู้หญิงแค่ไม่ถึงชั่วโมงก็แยกย้าย
ข่าวซุบซิบที่ว่าเขามักจะหมดอารมณ์หลังจากใช้นิ้วให้กับผู้หญิงที่เขานอนด้วย
และไหนจะที่ห้องน้ำในวันนั้นอีกเล่า เขาไม่ได้หมดอารมณ์เพราะถูกขัด แต่เขาหมดอารมณ์เพราะ…
"นี่คุณอย่าบอกนะว่า…"
"ไม่ใช่ว่าเธอรู้อยู่แล้วหรือไง" สิงหราชหงุดหงิดเหลือเกิน
"เดี๋ยวนะ คุณ…ไม่สิ เมื่อกี้มันก็ปกติดีนี่คะ" เจ้าจันทร์เผลอชี้เจ้าส่วนนั้นกับใบหน้าหล่อเหลาของเจ้านายสลับกันไปมาอย่างลืมตัว "ไม่อยากจะเชื่อ คุณต้องล้อฉันเล่นแน่ ๆ"
"จะดูเอกสารทางการแพทย์ด้วยไหมล่ะคุณเลขา"
"..."
"เฮอะ คิดว่าผมจะเอาเรื่องคอขาดบาดตายมาแกล้งคุณเล่นหรือไง ช่วยคิดหน่อยเถอะ"
สีหน้าของเจ้าจันทร์คล้ายกับคนถูกทุบหัว เดี๋ยวย่นหัวคิ้ว ประเดี๋ยวอ้าปากพะงาบอย่างไม่รู้ว่าควรแสดงสีหน้าอย่างไรดี
ภาพนั้นทำให้สิงหราชถึงกับมองเธอค้าง จากที่หงุดหงิดแทบบ้า คราวนี้เขากลับยกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมาหลังจากคิดขึ้นมาได้ว่า ส่วนนั้นของเขามันเพิ่งจะตื่นตัวเพราะถูกมือเธอสัมผัส
อ่าาา...ช่างน่าดีใจอะไรเช่นนี้!
เจ้าน้องชายของเขาที่มันใช้การไม่ได้ตั้งแต่หลังเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนนี้กลับแข็งตัวจนคับแน่นอยู่ภายใต้กางเกง
ไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าจันทร์ใช้วิธีไหน แต่ถ้ามันตื่นได้เพราะเธอละก็…
"สนใจมาเป็นพาร์ทเนอร์ส่วนตัวให้ผมไหม แลกกับที่ผมจะทำตัวเป็นเด็กดี ไม่ให้คุณเดือดร้อนเพราะข้อตกลงพิเศษที่คุณทำไว้กับพ่อของผม อ่อ ผมแถมเงินพิเศษให้ด้วยก็ได้"
เจ้าจันทร์นิ่งไปทันทีเมื่อได้ยิน ไม่คิดว่าเขาจะรู้ถึงเรื่องที่เธอกับท่านประธานคนก่อนมีข้อตกลงกัน
มันเป็นโบนัสพิเศษที่ตัวเธอจะได้หากสามารถควบคุมพฤติกรรมของคนคนนี้ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง
และโบนัสอีกก้อนสำหรับผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นในแต่ละไตรมาสของบริษัท
เงินจำนวนหลักแสนต่อเดือนที่เธอจะได้รับ… ถ้าสิงหราชเกิดจงใจทำให้มันพังละก็...เธออาจต้องแย่แน่
"นี่ อย่าทำหน้าเหมือนผมบังคับให้คุณขายตัวได้ไหม คุณไม่รู้จักหรือไง Friend with benefit น่ะ"
"สำหรับคุณมันคงเป็นเรื่องง่ายที่จะตัดสินใจ แต่สำหรับฉันมันไม่ง่ายขนาดนั้น"
เจ้าจันทร์ตอบกลับพลางจ้องหน้าเขาอย่างไม่พอใจ
"ต่อให้บอกว่าเป็นพาร์ทเนอร์กัน แต่ข้อเสนอที่คุณบอกมามันก็ไม่ต่างจากการบอกให้ฉันขายตัวหรอกนะคะ"
"ได้ ถ้าอย่างนั้นข้อเสนอทั้งหมดนั่นผมจะทำเองโดยไม่นับอยู่ในข้อตกลงของเรา ผมจะไม่ทำอะไรที่จะกระทบต่อข้อตกลงที่คุณรับมาจากพ่อของผม ต่อให้คุณจะตกลงหรือไม่ก็ตาม"
"คนอย่างคุณจะยอมง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ" เจ้าจันทร์ยังคงไม่ไว้ใจ นักธุรกิจอย่างเขาหรือจะยอมเสียผลประโยชน์ให้เธอขนาดนั้น
"มันก็แค่ดีลที่ผมอยากทำให้คุณพอใจ คุณรู้ความลับผม แถมเป็นคนเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกได้ในรอบสิบกว่าปี คุณอาจไม่เข้าใจว่ามันทรมานขนาดไหน แต่สำหรับผมมันแย่มาก ดังนั้นมันไม่แปลกอยู่แล้วที่ผมจะลดแลกแจกแถมเพื่อให้คุณยอมรับข้อเสนอของเรา"
"…"
"ว่ายังไงครับ ถ้าพูดกันแบบตรงๆ ผมอยากได้คุณมาเป็นพาร์ทเนอร์ โดยที่ผมและคุณสามารถบอกอีกฝ่ายได้ในเวลาที่อยากทำ"
เจ้าจันทร์ยังคงมีความลังเล แล้วนักเจรจาชั้นยอดอย่างเขาก็ไม่อยากปล่อยให้โอกาสหลุดมือ
"ที่สำคัญ คุณสามารถปฏิเสธได้เมื่อรู้สึกไม่ต้องการ ไม่มีการบังคับฝืนใจ ทุกอย่างแล้วแต่คุณเลย แบบนี้...คุณจะว่ายังไงล่ะ"
เจ้าจันทร์คิดตามสิ่งที่สิงหราชพูดมาทุกคำ เธอไม่มีปัญหากับเรื่องพาร์ทเนอร์อะไรนั่น ต่อให้ไม่ใช่กับคุณสิงหราชแต่เป็นผู้ชายคนอื่น ถ้าเธอรู้สึกโอเคกับคนคนนั้นเธอก็ตกลงอยู่แล้ว
แต่ที่ต้องคิดมากสำหรับข้อตกลงนี้มันคือเรื่องของผลประโยชน์ต่างหากล่ะ
เธอไม่ต้องการถูกมองว่าขายตัวแลกผลประโยชน์ ถ้าเธอจะมีเซ็กซ์ ก็ให้มันเกิดขึ้นเพราะความอยาก ไม่ใช่ยอมมีเพราะต้องการเงินจนคนอื่นเอามาว่าเธอลับหลังได้
อีกประเด็นหนึ่งคือ หลังจากยุติการเป็นพาร์ทเนอร์กัน เธอไม่ต้องการให้มีช่องว่างแม้เพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่จะทำให้คนอย่างสิงหราชเอาเธอไปพูดได้ว่าเธอยอมนอนกับเขาเพราะข้อตกลงเหล่านี้ ไม่ต้องการให้เขามาดูถูกเธอไม่ว่าทางใดก็ตาม
"ฉันต้องการให้คุณร่างสัญญา"
"สัญญา?"
"แน่นอนสิคะมันต้องมีสัญญา"
ทั้งสองสบตากัน และเป็นสิงหราชเองที่พ่ายแพ้ต่อดวงตากลมโตที่คมคล้ายดั่งมีดโกนนั่น
"เอาสิ อยากได้สัญญาก็เอา"
เพราะเขาพูดเห็นด้วยอย่างนั้นเจ้าจันทร์ก็เริ่มร่ายยาวออกมาเป็นชุด
"สัญญาจะต้องมีรายละเอียดและข้อตกลงชัดเจน อย่างเช่น สิ่งที่ห้ามทำหรือทำได้ในขณะมีเซ็กซ์ เรื่องกฎของการเป็นพาร์ทเนอร์ และเพิ่มจุดที่บอกว่าหากคุณพูดถึงฉันในแง่ไม่ดีหลังจากนี้ หรือนำเรื่องการเป็นพาร์ทเนอร์ของเราไปเปิดเผย คุณต้องยอมจ่ายสิบล้านโดยไม่มีข้อแม้ คุณกล้าหรือเปล่า?"
"ทำไมผมจะต้องกลัวด้วย"
"ก็ไม่รู้สิคะ" เจ้าจันทร์ยืนกอดอกเชิดหน้าขึ้นอย่างท้าทายอำนาจของอีกฝ่าย
ผู้ชายมากเล่ห์ล้วนไว้ใจไม่ได้ เรื่องอะไรที่เธอจะต้องยอมอ่อนข้อให้เขา
"นี่คุณเลขา ผมมั่นใจว่าตัวเองมีความเป็นสุภาพบุรุษมากพอที่จะไม่เอาเรื่องของคู่นอนไปพูดลับหลัง ผมให้คุณร้อยล้านก็ยังได้ถ้าผมทำแบบนั้นจริงๆ แต่ก่อนจะทำสัญญา ผมอยากแน่ใจซะก่อนว่าเราจะ…"
สิงหราชบิดมุมปากขึ้น เขายิ้มไปถึงดวงตาขณะเอ่ยมาว่า
"เข้า-กัน-ได้"
