บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

เพราะเพลียจากการเดินทางข้ามทวีป เนื่องจากก่อนหน้านั้นอชิระทำงานหามรุ่งหามค่ำไม่ได้หยุดลากยาวมาเป็นอาทิตย์ๆ เวลานี้เขาจึงอยากอาบน้ำแล้วพักผ่อนเต็มที

แต่พอสายตาเหลือบไปเห็นบรั่นดีสีส้มแกมทองอำพันเข้มที่ส่งตรงมาจากฝรั่งเศสพร้อมแก้วทรงสวยวางอยู่ก็ลังเลเล็กน้อย ก่อนจะคว้าแก้วใบนั้นมาถือไว้ในมือแล้วรินบรั่นดีรสเยี่ยมลงไปจากนั้นก็ยกขึ้นมาดื่ม รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของมันช่วยสร้างความผ่อนคลายให้เขาได้เป็นอย่างดี

อชิระใช้ปลายนิ้วคลึงปากแก้วไปมาขณะที่สมองก็กำลังใช้ความคิดไปด้วย จู่ๆ เขาก็ถูกพี่ชายเรียกตัวให้กลับมาเมืองไทยอย่างเร่งด้วย ถามถึงเหตุผลว่าเพราะอะไรก็ไม่ยอมบอกท่าเดียว

“คงไม่ใช่เบื่อแล้วอยากวางมือเหมือนในละครอะไรพวกนั้นหรอกนะ” เสียงทุ้มเอ่ยกับตัวเองพร้อมกับจิบบรั่นดีในแก้วไปด้วย เขาเพียงแค่สันนิษฐานเท่านั้น

เพราะที่ผ่านมาเขาก็เคยเบื่อแล้วอยากวางมือจากงานที่ทำอยู่ อยากออกไปสูดโอโซนรอบโลกดูสักครั้ง แต่เอาเข้าจริงก็ยังทำอย่างที่คิดไม่ได้แต่อนาคตก็ไม่แน่

หลังจากนั่งจิบบรั่นดีพร้อมกับปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปกับรสชาติของมันได้สามสี่แก้ว อชิระก็หยุดดื่มจากนั้นก็เดินกลับเข้าห้องนอนเพื่ออาบน้ำเตรียมพักผ่อน โดยถือแก้วทรงสวยที่ยังมีบรั่นดีเหลืออยู่เข้าไปด้วยแล้ววางมันลงบนโต๊ะหัวเตียง

แม้จะรู้สึกร้อนวูบวาบข้างในแปลกๆ แต่ก็คิดเองว่าร่างกายอาจกำลังประท้วงที่เขาโหมงานหนักติดต่อกันมาหลายวัน ชายหนุ่มส่ายหน้าแรงๆ แล้วเดินตรงเข้าห้องน้ำไป ไม่กี่อึดใจเสียงน้ำจากฝักบัวก็ดังขึ้น

ทันทีที่ได้ยินเสียงน้ำอดุลย์กับกรรวีที่รออยู่นอกห้องก็ค่อยๆ เปิดประตูเข้ามาในส่วนที่เป็นห้องนอน เหตุผลที่เข้ามาได้เพราะอดุลย์มีคีย์การ์ดสำรองอยู่ในมือ ซึ่งประธานอย่างตุลย์ให้มาไว้เผื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน

“พาเข้ามาๆ เร็วๆ” อดุลย์กวักมือบอกให้กรรวีรีบเข้ามา

“มาช่วยพยุงกันก่อนสิค่ะคุณอดุลย์” กรรวีประท้วงเล็กๆ นั่นเพราะเธอคนเดียวจะพยุงหญิงสาวที่ทำท่าจะล้มไม่ล้มขณะนี้ไหวได้ยังไง อดุลย์จึงรีบเข้ามาช่วย

ทั้งสองรีบพาไวน์รสหวานไปวางบนเตียง อดุลย์เอ่ยบอกให้กรรวีปลดเปลื้องเสื้อผ้าของคนบนเตียงออกให้หมดซึ่งเลขาส่วนตัวก็รีบจัดการทันทีนอกจากเสื้อผ้าแล้วเธอยังถอดเครื่องประดับออกให้ด้วย จากนั้นก็คว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างกายเปลือยเปล่านั้นไว้

“โอเค เท่านี้ก็เรียบร้อย” อดุลย์ยิ้มกริ่มพอใจกับแผนการครั้งนี้ของเขา ก่อนเข้ามาเขาเห็นปริมาณบรั่นดีในขวดที่วางอยู่ตรงห้องนั่งเล่นหายไปพอสมควรแสดงว่าอชิระดื่มมันไปแล้ว แบบนี้รับรองได้ว่าทุกอย่างต้องเรียบร้อยแน่นอน

เมื่อจัดแจงอะไรเสร็จอดุลย์และกรรวีก็รีบกลับออกไปทันที

แม้จะรู้สึกมึนๆ แต่อชิระก็ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานพอสมควร บ่อยครั้งที่สมองของชายหนุ่มคิดไปถึงเรื่องเซ็กซ์เพราะพอสมองคิดร่างกายบางจุดมันก็พลันตื่นตัว

อชิระกลับออกมาจากห้องน้ำโดยนุ่งผ้าขนหนูเพียงแค่ผืนเดียว ผมที่พึ่งสระยังคงหมาดๆ และมีหยดน้ำหยดลงบนแผ่นหลังบ้าง ชายหนุ่มใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กคอยเช็ดผมพร้อมกับเดินมายังเตียงนอนเพื่อจะทิ้งตัวลงนอน ทว่าสิ่งที่เห็นกลับทำให้เลือดในร่างกายสูบฉีด

“กล้าขัดคำสั่งกันแบบนี้ คงอยากถูกไล่ออกกันนักใช่ไหม” อชิระพึมพำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นั่นเพราะไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงนอนเปลือยอยู่บนเตียงแบบนี้ ชายหนุ่มส่ายหน้าแรงๆ ไล่ความรู้สึกบางอย่างออกไปแล้วตรงเข้าไปหาหวังจะปลุกเธอให้ตื่น

ทว่าปลุกเท่าไหร่อีกฝ่ายกลับไม่รู้สึกตัวแถมยังปัดป่ายตามเนื้อตามตัวเขาไปมาคล้ายไม่ได้สติอีกต่างหาก ยิ่งเธอขยับร่างกายเขาก็ยิ่งเห็นความสวยงาม ใบหน้ากึ่งหลับกึ่งตื่นทำไมถึงได้น่าดึงดูด ยิ่งเมื่อสายตามาหยุดอยู่ตรงหน้าอกคู่สวยด้วยแล้วอชิระก็ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ

เขารู้ว่าเกิดความไม่ปกติกับตัวเอง เวลานี้ความรู้สึกต้องการเซ็กซ์ก็มากมายจนไม่อาจต้านทานได้ ในขณะที่หญิงสาวตรงหน้าก็ยั่วยวนเหลือเกิน ไม่รู้เลยหรือไงว่านั่นยิ่งทำให้ตบะของเขาแตก ในที่สุดอชิระก็ปล่อยให้อารมณ์นำพาชายหนุ่มโน้มตัวลงไปซุกไซ้และจูบเธออย่างดูดดื่ม

“ปะ…ปล่อย” เสียงแผ่วเบาดังมาจากสัมปันนีซึ่งมันเบามากจนอีกคนจับใจความไม่ได้ด้วยซ้ำ สติของเธอรางเลือนเหลือเกินไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นความจริงหรือความฝันกันแน่

แต่ถ้าเป็นความฝันทำไมเธอถึงฝันแบบนี้แล้วถ้าเป็นความจริงเธอคงกำลังตกนรกอยู่ใช่ไหม ทำไมนรกถึงได้เสียวซ่านจนหายใจไม่ทั่วท้อง

สัมปันนีทั้งผลักไสและโอนอ่อน สัมผัสที่เกิดขึ้นทำให้เธอรับมือไม่ได้แม้แต่น้อย ปากอิ่มถูกครอบครองครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนที่จะสะดุ้งวาบเมื่อหน้าอกถูกดูดดุนด้วยปากร้อนชื้น สัมปันนีบิดเร้าร่างกายเปลือยเปล่าไปมาพร้อมเสียงครางกระเส่าที่ดังเป็นระยะๆ

เสียงครางของเธอกระตุ้นอารมณ์ของอชิระให้ยิ่งลุกโชน ชายหนุ่มกำลังเพลิดเพลินกับหน้าอกคู่สวยที่เขาทั้งจูบสลับดูดเลียทั้งบีบคลึงจนเม็ดยอดสีชมพูแข็งเป็นไต ก่อนจะวกขึ้นมาจูบปากอิ่ม จูบที่เต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนาจึงยากจะมีใครต้านทานได้

แม้สติของสัมปันนีจะถูกบั่นทอนด้วยยาที่ถูกมอมมาก่อนหน้านี้ ทว่ามันเทียบไม่ได้กับรสจูบอันหนักหน่วงที่กำลังเกิดขึ้นด้วยซ้ำ จูบแรกของเธอกำลังเกิดขึ้น จูบแรกที่ทำให้สมองเธอเกิดความพร่าเบลอมึนงงเต็มไปหมด ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะผลักไสได้เลยด้วยซ้ำ

อชิระส่งปลายลิ้นร้อนชื้นเข้าไปชอนไชเกี่ยวรัดกับปลายลิ้นนุ่มๆ ที่ไม่ประสาของเธอด้วยความชำนาญ คนที่ไร้ประสบการณ์อย่างสัมปันนีมีหรือจะรับมือได้ เธอจำต้องปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นแม้จะรู้ว่าเธอไม่ได้สมยอมก็ตาม ในขณะที่อชิระก็ปล่อยให้อารมณ์ควบคุมทุกอย่าง

เขากลืนกินเธอ เฝ้าครอบครองและเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ยอมรับว่าผู้หญิงที่ลูกน้องหามาให้หอมและหวานไปทั้งตัวจนยากจะปล่อยเธอไป เพราะแบบนั้นเขาจึงยังคงเฝ้าจูบเฝ้าสัมผัสร่างกายของเธออย่างดื่มด่ำ เพื่อดูดซับความหอมหวานจากทุกๆ ส่วนให้พอใจ

แสงไฟภายในห้องทำให้อชิระมองเห็นใบหน้าของเธอได้อย่างชัดเจน รวมถึงรูปร่างของเธอที่เหมือนยังไม่เคยผ่านมือใครมาก่อนด้วยซ้ำและเขาก็คิดถูก

“เจ็บ” หญิงสาวใต้ร่างอุทานออกมาทันทีเมื่อถูกเขาครอบครองพร้อมกันนั้นก็ยังได้ผลักร่างเปลือยของชายหนุ่มให้ออกห่าง แม้สมองจะเบลอแต่ทว่าร่างกายก็ยังรับรู้ถึงความเจ็บนั่นได้

“ให้ตายสิ ยังเวอร์จิ้นอย่างนั้นเหรอ” อชิระครางกระหึ่มอยู่ในลำคอ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย แต่จะให้เขาหยุดทุกอย่างตอนนี้คงทำไม่ได้แน่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel