ท่านประธานขาอย่าดุหนู

90.0K · จบแล้ว
Tharyn
30
บท
3.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เขาติดใจเธอ! และหาทางล่อลวงให้เธอมาหลงเสน่ห์เขา ทำให้เธออยากได้เขาเหมือนกับที่เขาต้องการครอบครองเธอ "เวลาพูดกับผมให้แทนตัวเองว่าหนู”

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันประธานโรแมนติกผู้ชายอบอุ่นนักศึกษาฟินๆ

1#งานใหม่

“สองแสน!! แค่เอากันอาทิตย์ละครั้งเนี่ยนะ” ใบเฟิร์นเพื่อนของเธอตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้รู้ค่าตัวที่ใครคนหนึ่งเสนอราคาผ่านมาทางพี่พอลล่ารุ่นพี่คนสนิท

“ใบเฟิร์นรับงานนี้เองได้ไหมพี่พอลล่า” ใบเฟิร์นส่งสายตาออดอ้อนไปให้รุ่นพี่คนสนิท

แป๊ะ!

“นี่แน่ะ เขาไม่ได้อยากเอาแก เขาอยากได้น้องลัล” นิ้วมือใหญ่ดีดลงบนหน้าผากกลมของใบเฟิร์น พร้อมกับน้ำเสียงแหบห้าวแบบผู้ชายทว่ากิริยาแบบผู้หญิง อีกทั้งยังส่งสายตาค้อนปะหลับปะเหลือกไปให้รุ่นน้องคนสนิทอย่างหมั่นไส้คนอยากได้งานนี้อย่างออกนอกหน้า

“ลัลไม่ทำหรอกค่ะพี่พอลล่า” ลัลณ์ลลินบอกปัดรุ่นพี่คนสนิทออกไป ทั้งๆ ที่ภายในใจกลับกำลังสับสนเมื่อสมองกำลังคิดประมวลผลเงินเดือนก้อนโตกับงานที่พี่พอลล่าเสนอมา

‘ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราทำอะไร แค่เอาใจเขาอาทิตย์ละครั้ง แค่เดือนละสี่ครั้งเท่านั้น แลกกับเงินเดือนตั้งสองแสนเลยนะ ลัลเอาไปคิดดูก่อนก็ได้’

พอลล่ารุ่นพี่คนสวยและผู้จัดการร้านเหล้าที่เธอไปทำงานพาร์ทไทม์บอกเมื่อเห็นลัลญ์ลลินลังเลกับข้อเสนอที่มีใครคนหนึ่งบอกผ่านมาทางเจ้านายเธอ

งานพิเศษที่พี่พอลล่าบอกก็คืองานที่ทำให้เธอได้ในสิ่งที่เธอมีสิทธิ์แค่เพียงฝัน แต่งานนั้นกลับทำให้ความฝันเป็นจริงได้โดยที่เธอไม่ต้องรอนาน ทั้งเงินเดือนก้อนโต มือถือราคาแพงรุ่นใหม่ล่าสุดและเครื่องประดับราคาแพงที่เขามอบให้เป็นของขวัญในคืนที่เธอทำให้เขาพึงพอใจ

‘งานก็คือ…แค่เอากันอาทิตย์ละครั้ง เสร็จแล้วก็แยกย้ายแบบนี้เหรอพี่พอลล่า’ ใบเฟิร์นเพื่อนของเธอเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้นในคืนนั้น

ใช่! นั่นแหละคืองานของเธอ งานที่ทำให้ลัลณ์ลลินหัวใจเต้นระรัวนับวันรอที่จะได้ไปเจอกับเขาอีกครั้ง โดยที่ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อของเขา แต่ทุกคืนที่ได้ไปเจอเขามันกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เขินอายและประหม่าในคราเดียวกัน

งานพิเศษของลัลณ์ลลินได้เริ่มต้นขึ้นในคืนหนึ่งก่อนที่เธอจะจบจากรั้วมหาวิทยาลัย หลังจากที่เธอรับงานพาร์ทไทม์ที่ร้านเหล้าชื่อดัง ซึ่งมีรุ่นพี่ที่รู้จักกันเป็นผู้จัดการร้าน

“เจอกันที่ร้านคืนนี้นะลัล”

เสียงของเพื่อนสาวหันมาบอกก่อนที่จะก้าวขาขึ้นรถเมล์ที่เข้ามาจอดหน้าป้ายรอรถเมล์ ‘ร้าน’ ที่ใบเฟิร์นบอกคือร้านเหล้าที่เขารับพนักงานเสิร์ฟชั่วคราวในช่วงใกล้ปีใหม่เพราะเป็นช่วงที่ลูกค้าแน่นจนพนักงานเสิร์ฟในร้านให้บริการไม่ไหว

ลัล ลัลณ์ลลิน อินทนา เด็กสาววัย 21ปี ลูกครึ่งที่ตัวเธอก็ยังไม่แน่ใจในสายเลือดของตัวเองว่าเป็นเชื้อชาติไหน เพราะแม่ที่คลอดเธอแล้วทิ้งเธอไว้กับคุณยายได้ขาดการติดต่อและหายไปจากชีวิตของเธอและยายตั้งแต่คลอดเธอออกมาได้เพียงแค่ไม่กี่วัน

เด็กสาวโตมากับคุณยายในบ้านหลังเล็กๆ ซึ่งคุณยายได้กัดฟันเจียดเงินเดือนผ่อนบ้านเพียงเพราะอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองหลังจากที่เช่าอยู่มาทั้งชีวิต การเป็นเพียงแม่บ้านของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เงินเดือนก็ไม่ได้มากมายนัก ทำให้ลัลณ์ลลินต้องดิ้นรนด้วยการหางานพิเศษทำเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง

รถเมล์สายที่ผ่านหน้าบ้านกำลังแล่นเข้ามาจอดบริเวณป้ายรถเมล์ พอประตูรถเปิดออกเธอจึงก้าวขึ้นไปยืนบนรถเมล์ที่แออัดยัดเยียดนั้นเพื่อกลับบ้าน

ทันทีที่รถเมล์จอดหน้าปากซอยทางเข้าบ้านเธอต้องลงไปนั่งมอเตอร์ไซค์วินเข้าไปข้างในอีกห้ากิโลเมตรจึงจะถึงตัวบ้าน

“วันนี้กลับไวจังหนูลัล” เสียงลุงวินเจ้าประจำที่รับส่งกันมาหลายปีตั้งแต่เธอย้ายเข้ามาอยู่ในซอยนี้ถามขึ้นอย่างคนรู้จักมักคุ้น

“พอดีวันนี้ลัลต้องไปทำงานที่ร้านเหล้าเปิดใหม่ค่ะลุงชาลี ก็เลยกลับไวกว่าทุกวัน ว่าแต่ลุงชาลีก็ยังไม่เลิกงานเหรอคะ” ลัลณ์ลลินเอ่ยถามพลางก้าวขาขึ้นนั่งท้ายเบาะมอเตอร์ไซค์

“วันนี้ลูกค้าประจำของลุงให้ออกมาส่งปากซอย ลุงก็เลยกะจะรอหาผู้โดยสารกลับเข้าไปในซอยด้วยจะได้ไม่เสียเที่ยว ลุงก็เจอหนูลัลพอดีเลย” เสียงลุงชาลีบอกก่อนจะสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ออกไป

มอเตอร์ไซค์คันเก่าๆ แล่นเข้ามาจอดหน้ารั้วบ้านชั้นเดียวหลังเล็กในซอยหมู่บ้านกลางเก่ากลางใหม่ ลัลณ์ลลินหยิบเงินส่งให้ลุงวินก่อนจะเปิดประตูรั้วเข้าไปในบ้าน

ประตูบ้านที่เปิดทิ้งไว้ทำให้เรียวคิ้วสวยยกขึ้นด้วยความประหลาดใจ เพราะเวลานี้ปกติยายควรจะยังไม่ได้กลับมาที่บ้าน กว่างานแม่บ้านที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จะเลิกก็ค่ำมืดไปเสียทุกวัน

ลำพังเงินเดือนตำแหน่งแม่บ้านก็น้อยนิดจนคุณยายจะต้องทำงานล่วงเวลาตลอดทั้งสัปดาห์จึงจะพอมีเงินเหลือเก็บเล็กๆ น้อยๆ หรือพอที่จะใช้จับจ่ายซื้อของที่อยากจะได้เป็นพิเศษ

ทันทีที่เข้ามาในตัวบ้านก็พบกับร่างผอมบางของผู้เป็นยายนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก

“วันนี้ยายไม่สบายหรือว่าวันหยุดของยายคะ” ลัลณ์ลลินเอ่ยถามแล้วเดินเข้าไปนั่งลงใกล้ๆ ปลายเท้าของยาย

“ลัลเลิกเรียนแล้วเหรอลูก วันนี้ยายปวดหัวนิดหน่อยก็เลยขอลางานเจ้านายวันนึงจ้ะ” เสียงยายที่บอกว่าปวดหัวแค่นิดหน่อยฟังดูอิดโรยและอ่อนแรงจนหลานสาวรู้สึกได้

มือเล็กนุ่มเอื้อมไปแตะข้างแก้มเหี่ยวย่นของคุณยายแล้วต้องรีบถอนมือออกเพราะพิษไข้ร้อนระอุสัมผัสกับฝ่ามือเธอทันที

“ยายเป็นไข้สูงมากเลยค่ะ ตัวร้อนจี๋เลยกินยาหรือยังคะ”

ลัลณ์ลลินเอื้อมฝ่ามือเล็กไปลูบไล้ตามต้นแขนและขาของยายก่อนจะเดินเข้าห้องไปหยิบผ้าห่มมาห่มคลุมให้

“ยายกินยาแก้ไข้ไปแล้ว นอนพักหน่อยเดี๋ยวก็ดีขึ้น” เสียงยายของเธอยังคงฟังดูอ่อนแรง ใบหน้าซีดเซียวเพราะพิษไข้

“ไม่ไปหาหมอซักหน่อยเหรอคะยาย เดี๋ยวลัลจะออกไปเรียกแท็กซี่ดีไหมคะ”

“ไม่เป็นไรหรอกลูกเดี๋ยวก็หาย ว่าแต่ลัลกินอะไรมาหรือยัง ยายยังไม่ได้ทำอะไรไว้ให้เลย” คนป่วยที่อาการไม่ค่อยจะดียังแสดงความเป็นห่วงเป็นใยหลานสาว

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะยายเดี๋ยวลัลจะต้องออกไปแล้ว วันนี้มีงานเสิร์ฟที่ร้านเหล้า ลัลคงจะกลับดึกหน่อยค่ะ ว่าแต่ยายอยู่คนเดียวไหวหรือเปล่าคะ” ลัลณ์ลลินเอ่ยถามยายด้วยความเป็นห่วง

“ทำงานเสิร์ฟร้านเหล้าเหรอ ปกติลัลไม่รับทำไม่ใช่เหรอลูก เห็นบอกว่าคนเมาเยอะแล้วมันก็อันตราย แล้วทำไมวันนี้ถึงอยากไปทำล่ะ”

“งานนี้ใบเฟิร์นบอกว่าเป็นร้านเหล้าที่ไว้ใจได้ค่ะ เพราะเห็นบอกว่าเป็นร้านของคนรู้จักกัน ใบเฟิร์นก็ไปด้วย ลัลก็เลยสบายใจที่จะไปทำค่ะ”

“อีกอย่างเขาจ่ายหนักด้วยนะคะยาย คืนนี้ลัลได้ค่าจ้างตั้งสามพันแน่ะ พอดีมือถือลัลมันพังด้วยก็เลยอยากหาเงินซื้อมือถือเครื่องใหม่ค่ะ”

“อืม ถ้าอย่างนั้นก็ระวังตัวด้วยนะลูก คนสมัยนี้อันตราย ยิ่งร้านแบบนั้นก็ยิ่งมีแต่คนเมา”

ยายสมพรมองหลานสาวตัวน้อยด้วยความสงสารและภาคภูมิใจในตัวหลานสาวอยู่ในที

ภูมิใจที่หลานสาวเป็นเด็กดีและตั้งใจเรียนได้เกรดดีๆ มาให้เธอได้ชื่นใจมาตลอด แล้วยังขยันหารายได้พิเศษมาช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกระเป๋าเงินเธออีกด้วย

ในขณะเดียวกันก็สงสารที่ลัลณ์ลลินเกิดมาก็ถูกแม่ของเธอซึ่งเป็นผู้หญิงใจแตกในวัยแรกรุ่น ใช้ชีวิตในวัยหลังจบมัธยมต้นอย่างเต็มที่ควงผู้ชายไม่ซ้ำหน้าและไม่ค่อยกลับมานอนบ้าน จนเช้าวันหนึ่งในขณะที่ยายสมพรตื่นมาในเช้าวันหยุดก็ได้เห็นลูกสาวหอบเด็กน้อยหน้าตาน่ารักน่าชัง ดวงตากลมโตสีหวานผิวขาวอมชมพูในวัยเดือนเศษๆ มาทิ้งไว้ให้ แล้วก็หายหน้าไปขาดการติดต่อนับแต่นั้น

เธอเลี้ยงหลานสาวจนเติบโตมาอย่างไม่ได้สุขสบายมากนัก งานแม่บ้านทำความสะอาดในโรงแรมเล็กๆ ใกล้บ้านในตอนนั้นทำให้เธอมีเงินพอที่จะซื้อนมผงมาเลี้ยงหลานสาวให้เติบโตมาจนถึงเข้ามัธยมต้น ด้วยความโชคดีมีคนรู้จักชักนำให้เข้าไปทำงานในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังเพราะความขยันและฝีมือในการทำงานเรียบร้อย

และงานนั้นก็ทำให้สมพรมีเงินเดือนที่มั่นคงพอที่จะกู้ซื้อบ้านหลังเล็กๆ พอที่จะอยู่กันได้อย่างไม่ลำบากมากนักตามประสายายหลาน

ด้วยความที่ลัลณ์ลลินเป็นลูกครึ่งจึงมีใบหน้าสวยโดดเด่น ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกลมโต แพขนตาดกหนา ถึงแม้จะมีรูปร่างไม่ได้สูงมากนัก แต่ด้วยความสูง 160 ก็ทำให้เธอดูสวยโดดเด่น แขนขาเรียวยาว เอวบางสะโพกผายกลมมน ผิวพรรณขาวผุดผาดอมชมพู

ซึ่งนั่นมันยิ่งทำให้ยายสมพรรู้สึกเป็นห่วงหลานสาวยิ่งขึ้นเมื่อลัลณ์ลลินเข้ามาบอกว่าคืนนี้จะไปทำงานในร้านเหล้า

ลัลณ์ลลินหยิบเสื้อผ้าสำรองที่จะนำไปเปลี่ยนตอนเข้างานใส่กระเป๋าใบเล็ก ส่วนตัวเองอาบน้ำเปลี่ยนมาใส่เสื้อยืดกางเกงยีนสีซีดเตรียมตัวออกจากบ้าน

เธอเดินเข้าไปห้องนอนยายเพื่อดูอาการไข้ของยาย แต่เมื่อเห็นว่ายายหลับอยู่จึงใช้หลังมือเล็กแตะลงแผ่วเบาที่ข้างแก้มคุณยาย ความร้อนที่ผิวหน้าของยายเริ่มผ่อนลงจากเมื่อบ่ายทำให้เธอวางใจลงได้บ้าง

@ Sugar Beat Pub

เพราะเป็นการมาร้านนี้เป็นครั้งแรกลัลณ์ลลินจึงเลือกที่จะนั่งแท็กซี่มาลงที่หน้าร้าน เธอกลัวว่าถ้านั่งรถเมล์จะมาไม่ทันเวลาเตรียมตัวก่อนเปิดร้าน

“ลัลนี่พี่พอลล่าผู้จัดการร้านที่ใบเฟิร์นบอกไง” ใบเฟิร์นแนะนำให้ลัลณ์ลลินรู้จักกับรุ่นพี่ที่สนิทซึ่งเป็นชายร่างสูงใหญ่แต่งตัวด้วยชุดกระโปรงสวยสีดำเข้ารูป พูดจาท่าทางดีน่านับถือ

“สวัสดีค่ะพี่พอลล่า” ลัลณ์ลลินยกมือไหว้ผู้จัดการร้านที่รูปร่างสูงใหญ่แต่น้ำเสียงกลับบีบเล็กตรงกันข้ามกับขนาดตัว

“สวัสดีค่ะน้องลัลเหรอคะ สวยสมกับที่ใบเฟิร์นโม้จริงๆ ด้วย ดีแล้วคืนนี้เรามีแขกพิเศษของร้านจะให้น้องลัลกับใบเฟิร์นเป็นคนดูแล ไปแต่งหน้าแต่งตัวได้แล้วจ้ะ ดึกแล้วเดี๋ยวเพื่อนคุณกันต์กวินท์มาถึงจะได้ไปดูแลทันที” คุณกันต์กวินท์ที่พอลล่าพูดถึงก็คือเจ้าของร้านเหล้าสุดหรูแห่งนี้นั่นเอง

ลัลณ์ลลินมาทำงานร้านเหล้าเป็นครั้งแรกหลังจากที่ปฏิเสธข้อเสนอของใบเฟิร์นมาตลอดเพราะเธอกับยายรู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัยสำหรับเธอ

แต่คืนนี้เธอรับปากมาทำงานเสิร์ฟครั้งแรกเพราะว่าใบเฟิร์นบอกจะมาทำเป็นเพื่อนแถมยังเป็นร้านที่มีรุ่นพี่คนสนิทกันเป็นผู้จัดการร้านด้วยก็คงไม่น่าจะมีเรื่องอะไรที่น่ากังวล และที่สำคัญที่สุดคือเธออยากจะได้มือถือเครื่องใหม่มาแทนเครื่องเก่าที่กำลังจะพังมิพังแหล่ด้วย

ลัลณ์ลลินเดินมายังบริเวณหลังร้านพร้อมๆ กับใบเฟิร์นเพื่อเปลี่ยนชุดไปใส่ชุดกระโปรงสีดำเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของร้านที่มืดสลัว

“ลัลใส่ชุดนี้นะ ใบเฟิร์นเอามาให้ลัลใส่จะได้เข้ากับบรรยากาศในร้าน” ใบเฟิร์นยื่นชุดเดรสสั้นสีดำที่เว้าลึกด้านหน้าและเปิดโล่งแผ่นหลังมาให้

“ลัลไม่กล้าใส่หรอกมันโป๊เกินไป ลัลเอาชุดมาเองแล้วจ้ะ ใบเฟิร์นใส่เถอะจ้ะ” ลัลณ์ลลินบอกปฏิเสธพร้อมกับหยิบชุดเดรสสีดำเรียบๆ ที่ได้เตรียมมาจากบ้านออกจากกระเป๋า

“หืม ชุดนี้มันเรียบร้อยเกินไป ไม่เหมาะ! นี่มันร้านเหล้าไฮโซนะจ๊ะ ลัลใส่ชุดที่ใบเฟิร์นเอามาให้นั่นแหละ คนสวยๆ ใส่ชุดสวยๆ รับรองว่าคืนนี้ลัลจะต้องเป็นดาวเด่นของร้านแน่นอนจ้ะ”

“แต่เรามาทำงานจะมาเป็นดาวเด่นอะไรกันล่ะ ใบเฟิร์นก็พูดแปลก” ลัลณ์ลลินบอกเพื่อนพลางหัวเราะ

“คืนนี้เราไม่ใช่เด็กเสิร์ฟธรรมดานะ เราเป็นเด็กเสิร์ฟเหล้าสุดเอ็กซ์คูลซีพ เรามาเป็นคนดูแลเพื่อนเจ้าของร้านเลยนะ” ใบเฟิร์นหันมาบอกพร้อมทำหน้าทำตาที่แสดงถึงความภาคภูมิใจพลางหัวเราะคิกคักอย่างสดใสตามนิสัยของเธอ

“ซึ่งนั่นหมายความว่าเราจะต้องได้ดูแลพวกคนรวยๆ ไม่แน่นะบางทีคืนนี้เราอาจจะได้ผู้ชายหล่อๆ รวยๆ เป็นแฟนก็ได้ ใครจะไปรู้” ใบเฟิร์นบอกพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ทำให้ลัลณ์ลลินได้แต่ส่ายหัวกับความแก่นเซี้ยวของเพื่อน พร้อมกับถือชุดที่ใบเฟิร์นขอร้องให้ใส่เข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ

“สวยมาก!” เสียงใบเฟิร์นดังขึ้นทันทีที่ลัลณ์ลลินเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับชุดที่เธอขอร้องให้ใส่ ชุดสีดำสุดเซ็กซี่บนเรือนร่างที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจนขับกับผิวขาวผุดผาดเนียนละเอียด ผมสีน้ำตาลอ่อนถูกม้วนดัดเป็นลอนอ่อนๆ ยาวลงไปถึงเอว

“ลัลไม่มั่นใจเลยใบเฟิร์น มันโป๊ไปไหม” ลัลณ์ลลินผู้ไม่เคยสวมชุดแบบนี้มาก่อนจึงรู้สึกประหม่าและขาดความมั่นใจ

“โอ้โห! สวยมากค่ะน้องลัล” พอลล่าที่เพิ่งจะเดินเข้ามาสมทบด้านหลังร้านพูดขึ้นมาพร้อมชมเธอด้วยความจริงใจ

“ลัลไม่มั่นใจค่ะพี่พอลล่า มันไม่ดูโป๊มากไปหน่อยเหรอคะ”

ลัลณ์ลลินพยายามจัดชุดให้เนื้อผ้าเข้ามาปกปิดส่วนที่เนินเนื้อโผล่พ้นเนื้อผ้าออกมาให้ได้มากที่สุด

“ไม่โป๊หรอกค่ะ เหมาะกับน้องลัลจะตาย แล้วนี่แต่งหน้าแต่งตัวเสร็จกันหรือยังจ๊ะ แขกของคุณกันต์กวินท์ทะยอยมาถึงร้านแล้ว เราสองคนต้องออกไปได้แล้ว”

“ขอเติมหน้านิดนึงค่ะพี่พอลล่าเดี๋ยวใบเฟิร์นกับลัลจะรีบออกไปหาพี่พอลล่าค่ะ ขอเวลาอีกสิบห้านาทีนะคะ”

ใบเฟิร์นหันไปบอกพี่พอลล่าผู้จัดการร้าน ทำให้คนไม่มั่นใจในตัวเองหมดเวลาเป็นกังวลเรื่องชุดแล้วลงมือเติมแต่งใบหน้าบางเบาเพื่อจะได้ไม่ดูซีดเซียวจนเกินไป แล้วกลับเข้าไปข้างในร้านเพื่อเริ่มงานของเธอในคืนนี้ เพื่อมือถือเครื่องใหม่ซึ่งเธอยังต้องการเงินอีกสักสองพันกว่าบาท ถ้ารวมกับเงินเก็บที่สะสมไว้บางส่วนแล้วก็คงพอที่จะได้มือถือใหม่เพื่อมาแทนเครื่องเดิมที่กำลังจะพังได้