ตอนที่5 เพราะมีคนรัก
“มันเป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะคุณมีคนรักแล้วผมถึงได้เลือกคุณ”
ประโยคที่พอเรียบเรียงดูดีๆ แล้วมันเป็นประโยคที่ถูกและเข้าใจได้อย่างง่ายดายเลย มันแปลความหมายได้ว่า เพราะเธอมีคนรักแล้วเขาเลยเลือกเธอจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องชู้สาวระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง ซึ่งเธอควรจะคิดแบบนั้น
แต่ไม่รู้ทำไมน้ำเสียงและแววตาของนำทัพในตอนนั้นทำให้ปิ่นปักติดใจกับคำนี้จนเอาออกจากหัวไม่ได้ ทำให้เธอได้แต่ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่ามีตรงไหนที่ผิดพลาดหรือเธอคิดมากไป
หาไม่เจอ
แต่กลับปล่อยวางไม่ได้ด้วยเหมือนกัน
แกร็ก!
เสียงประตูห้องนอนถูกเปิดในเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ ได้ ทำให้ปิ่นปักที่ยังไม่หลับขยับตัวลุกขึ้นมองไปยังสามีของเธอที่วันนี้ส่งข้อความบอกเธอล่วงหน้าแล้วว่าเขาจะกลับดึก
“กลับมาแล้วเหรอคะ” ปิ่นปักทักทายสามีขึ้นพร้อมกับมองเขาผ่านแสงไฟสีส้มสลัวของโคมไฟไปยังสามีที่มีใบหน้าแดงเล็กน้อย
เขาคงดื่มเหล้ามาสินะ
“จะอาบน้ำไหมคะ” ปิ่นปักเห็นแบบนั้นก็ลุกจากที่นอนเข้าไปช่วยประคองสามีแล้วถามขึ้นเป็นการดูแลเขา
“อืม” ครามตอบรับออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำในลำคอ
“ยืนไหวไหมคะ” เธอถามเขาอย่างเป็นห่วงหลังจากเข้ามาใกล้และได้กลิ่นแอลกอฮอล์ที่เข้มข้นมาก
“อืม” เขายังคงตอบรับสั้นๆ โดยไม่ขยับร่างกายไปไหนและหลุบตามองภรรยาตัวเองนิ่ง
“เดี๋ยวปิ่นช่วยค่ะ” ปิ่นปักเห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วยกมือขึ้นถอดเนคไทของเขาออกก่อนจะปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตสีขาวที่เขาสวมใส่อยู่อย่างไม่ได้คิดอะไร
ก็จริงว่าเธอกับเขายังไม่เคยมีอะไรกันแม้จะอยู่ด้วยกันมาเกือบจะครึ่งปีแล้ว แต่เธอกับเขาก็ไม่ได้ไร้เดียงสามากขนาดที่จะไม่เคยเห็นเขาเปลือยอกอยู่ในผ้าขนหนูผืนเดียว ไม่ใช่ว่าเธอจะหอบเสื้อผ้าเข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำเวลาอาบน้ำสักหน่อย
แต่เพราะว่าเคยเห็นแค่อกเปลือยเท่านั้นหลังจากเธอถอดเสื้อเชิ๊ตออกให้เขาพร้อมกับปลดเข็มขัดที่เอวออกเธอก็หยุดทำเพียงแค่นั้น
“ไปอาบน้ำเถอะค่ะ” ปราการที่เธอถอดออกพาดอยู่ที่แขนก่อนเธอจะพูดขึ้นแล้วตั้งใจจะเดินเข้าไปโซนแต่งตัวเพื่อเตรียมชุดนอนให้เขา
แต่เขากลับไม่ขยับไปไหนทำให้ร่างกายที่หนักอึ้งของเขาอยู่กับที่โดยที่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากช้อนสายตาขึ้นไปมองสบตากับเขา
“มีอะไร...อื้ม!” คำถามที่ยังไม่จบประโยคถูกกลืนลงคอและแทนที่ด้วยเสียงร้องครางอย่างไม่ได้ตั้งตัวกับจูบที่เร่าร้อนของเขา จูบที่มาพร้อมกับกลิ่นและรสชาติแอลกอฮอล์คลุ้งในปากของเธอจนเริ่มจะมึนงงไปกับเขา
เพราะรสชาติของเหล้าหรือรสชาติของจูบกันแน่นะ
ตุบ!
เธอไม่รู้อะไรเลย รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่แผ่นหลังสัมผัสกับที่นอนนุ่มๆ ไปแล้วหลังจากถูกมอมเมาด้วยจูบแรกในชีวิตจนหัวสมองขาวโพลนไปหมด
หลังจากเขาจูบเธออย่างเนิ่นนานปากร้ายกาจก็เปลี่ยนตำแหน่งซุกซอกคอของเธอให้ได้พักหายใจพร้อมกับทิ้งรอยจูบสีแดงไว้ที่ต้นคอของเธอแล้ววกกลับไปจูบอีกครั้ง ส่งลิ้นร้อนสากเข้าไปเกี่ยวพันกับลิ้นของเธออย่างเป็นผู้นำที่ดีทำให้ผู้ตามไม่มีวี่แววของการปฏิเสธเลยสักนิด
แต่ไม่เพียงแค่จูบเท่านั้นที่เขากำลังครอบครองเธออยู่ ตอนนี้มือของเขากำลังส่งเข้าไปในเสื้อนอนของเธอแล้วไต่ขึ้นไปจนเจอกับก้อนเนื้อนุ่มพร้อมกับเคล้นคลึงอย่างไม่เบามือนัก
“อืม” ปิ่นปักห้ามตัวเองไม่ได้จนครางออกมาในลำคออย่างสุดแสนจะทนไหวต่อความกระสันที่กำลังถูกปลุกเร้าอย่างไร้ประสบการณ์
แต่แม้จะไร้ประสบการณ์แต่จิตใจของเธอกลับไร้การต่อต้านสามีของตัวเอง ร่างกายทำงานอัตโนมัติพยายามตอบสนองกลับไปเท่าที่จะทำได้ ฝ่ามือบางลูบไล้แผ่นหลังเปลือยเปล่าของเขาและเผลอจิกบ้างเป็นครั้งคราวกับความเสียวสะท้านเมื่อปลายนิ้วบี้คลึงยอดปทุมถันของเธอจนขนอ่อนลุกชันทั่วกายสาว
เธอให้เขาทำทุกอย่างที่อยากทำด้วยความเต็มใจและสติที่พร่ามัวจากหัวสมองที่ขาวโพลนไร้ซึ่งความคิดใดจนกระทั่งร่างกายของเธอกับเขาเปลือยเปล่าไปอย่างให้ความร่วมมือต่อกันอย่างดี
เขายกเธอขึ้นไปกลางเตียงก่อนจะเหม่อมองใบหน้าสวยใต้ร่างด้วยดวงตาพร่าเบลอด้วยสติที่ไม่รู้เลยว่ามีมากน้อยแค่ไหนกัน
รู้แค่ว่าเขาจ้องมองเธอด้วยดวงตาคมที่หรี่เรียวก่อนมุมปากจะยกยิ้มขึ้นมาอย่างอบอุ่นอ่อนโยนในเวลาต่อมา ริมฝีปากบางเฉียบของเขาเผยอออกก่อนเสียงแผ่วเบาแต่ดังเต็มสองหูปิ่นปักจะดังขึ้น
“ชา”
