ตอนที่ 9 หลบหน้า
EP09
ตี้ด !
นิวาสะดุ้งตกใจกับเสียงตวาดดังลั่นเธอรีบกดตัดสายในทันใด ขืนคุยต่อก็มีแต่จะทะเลาะกันเปล่าๆ มือเล็กบีบสายกระเป๋าแน่นด้วยอาการประหม่า เธอไม่อยากกลับห้องตอนนี้ เพราะกลัวคนใจร้ายคอยดักหาเรื่องรังแกอีก...
“มีเรื่องอะไรรึป่าว ทำไมดูหน้าซีดๆ”
“ปะ...เปล่า นิเลือกหนังสือต่อดีกว่า”
“นี้เธอไม่รู้รึไงว่าช่วงนี้มันกลางเทอมอ่านไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ถ้าไม่รอสอบเข้าปีหน้าแทน”
“อ้าว...” นิวาหยุดเลือกหนังสือแล้วหันกลับไปมองอิฐที่ยืนหลุดขำออกมา แล้วที่เกรียงไกรบอกเธอล่ะว่าอนุญาตให้เรียน หญิงสาวนึกว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ทุกคนสมัครสอบกันซะอีกเลยเตรียมตัวมาหาหนังสือไปอ่าน ทวาเธอก็ลืมหาข้อมูลมาเสียสนิท “หรอคะ นิลืมดู..”
“ซื่อบื้อจริงๆเลยเธอนี่” อิฐยื่นมือมายีผมเธอด้วยความนึกเอ็นดู ใบหน้าหวานจึงก้มหงุดยกมือขึ้นเกาแก้มแก้เก้อรู้สึกเขินอายที่เรื่องแค่นี้เธอยังไม่รู้
“ขอบคุณนะคะที่บอกนิก่อน ไม่งั้นนิคงเอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือไม่เป็นอันทำอะไรแน่...”
“ไม่เป็นไร ยัยบื้อ”
“งั้น....นิขอตัวกลับก่อนนะคะ” ร่างเล็กถอยห่างออกมาเว้นระยะแล้วฉีกยิ้มเจื่อนไปให้ ที่จริงเธอไม่ได้จะกลับอย่างที่บอก แต่ต้องการหาอะไรทำฆ่าเวลาไปก่อน เพราะยังไงตอนนี้เธอก็ไม่ยอมกลับบ้านเล็กแน่นอนเพราะทิศเหนือยังอยู่ห้องเธออยู่ นิวาไม่อยากให้คนใจร้ายรังแกทั้งที่เมื่อคืนเขาพึ่งเอากับคนอื่นให้เธอเห็น ยิ่งคิดหัวใจดวงน้อยก็เจ็บแปลบขึ้นมา...
“ฉันอุตส่าห์ตามเธอมาเพื่อต้องการชวนกินข้าวเย็นด้วย จะชิ่งหนีกลับไปก่อนแบบนี้เลยหรอ” อิฐย่อตัวลงคุยกับคนตัวเล็ก สายตาออดอ้อนปรากฎบนใบหน้าหล่อเหลา ต่างกับครั้งแรกที่เจอกันอย่างสิ้นเชิง
“เอ่อ...แต่อย่าเข้าร้านแพงนะคะ นิต้องเก็บไว้เงินไว้ใช้หลายอย่าง”
“เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง”
“ออกคนละครึ่งดีกว่าค่ะ”
“ฉันเป็นคนชวน เดี๋ยวเลี้ยงเอง และเธอก็ต้องห้ามปฏิเสธ” ปลายนิ้วแกร่งแตะลงที่กรีบปากบางเป็นเชิงไม่ให้เธอพูดอะไรออกมา นิวาจึงค่อยๆยกข้อมือขึ้นแล้วจับข้อมืออิฐออกอย่างแผ่วเบา
“เอาเป็นว่าตกลง” อิฐสรุปเองเสร็จสับแล้วเดินล้วงถุงกางเกงนำเธออกมาจากร้านหนังสือ นิวาจึงตัดสินใจเดินตามร่างหนาออกมา ไหนๆก็ได้ออกมานอกบ้านแล้วเธอลองกินอาหารข้างนอกดูก่อนก็แล้วกันค่อยหาที่พักสำหรับคืนนี้...
“เราจะกินอะไรกันหรอคะ”
“ตามใจเธอก็แล้วกัน เลือกเลย”
“แล้วถ้าไม่กินในห้างได้มั้ย?”
“ไปกินบนห้องฉันมั้ยละ..”
“…” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างตกใจกับคำพูดของอิฐ ก่อนที่ชายหนุ่มจะหลุดยิ้มออกมา พร้อมกับกลั้นขำ
“ฉันล้อเล่น เห็นเธอหน้าเครียดๆ”
“นิตกใจหมดเลย”
“แล้วตกลงเธออยากกินอะไร” สองหนุ่มสาวคุยกันในขณะที่เดินลัดเลาะตามห้างขนาดใหญ่ อิฐคอยสร้างเสียงหัวเราะให้เธอด้วยการหยอดจนตอนนี้หญิงสาวจึงลืมเรื่องของทิศเหนือไปเสียสนิท...
......
“ตั้งแต่แกมีแฟนมาดูมีชีวิตชีวาขึ้นมามากเลยนะ ยิ้มไม่หุบ” อดิเทพคุยกับลูกชายเพียงคนเดียวในห้องนั่งเล่นของบ้านด้วยรอยยิ้ม เมื่อไฟนอลกลับมาเยี่ยมผู้เป็นพ่อ แล้วจะกลับคอนโดในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
“ก็คนมันมีเมียน่ารัก ช่วยไม่ได้นิครับ”
“ให้แต่งก่อนเถอะค่อยเรียกเมีย ไปเรียกแบบนี้แฟนแกเสียหายแย่”
“ไม่ใช่แค่เสียหายอย่างเดียว เสียตัวด้วย..” ไฟนอลยักคิ้วให้ผู้เป็นพ่อด้วยท่าทียียวนกวนประสาท พร้อมกับยกยิ้มมุมปาก
“ขอโทษครับท่าน คุณเกรียงไกรมาขอพบครับ” ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่เลขาคนสนิทก็เดินเข้ามาบอก
“เชิญคุณไกรเข้ามา แล้วหาอะไรมาต้อนรับแขกด้วย”
“ครับ” ชายวัยกลางคนขานรับแล้วเดินกลับไปเรียกเกรียงไกรที่แวะมาบ้านของอดิเทพเพื่อคุยธุระ เพราะเดิมทีทั้งสองเคยพบปะกันเนื่องลูกชายทั้งคู่อยู่แก๊งเดียวกัน..
ในวินาทีต่อมาเกรียงไกรและดนัยก็เดินเข้ามาในบ้านด้วยรอยยิ้มทั้งสองยกมือไหว้ทักทายกันรวมถึงไฟนอล
“เชิญนั่งก่อนครับ มาซะมืดเชียว”
“พอดีผมยุ่งๆหน่ะครับ แต่นึกออกว่ามีเรื่องสำคัญที่ต้องมาคุยเลยต้องมาเวลานี้ รบกวนด้วยนะครับ”
“สบายมากคุณไกร แล้วเรื่องที่ว่านั่นอะไรหรอครับ?” ทักทายกันเสร็จสับเกรียงไกรก็หย่อนตัวนั่งลงบนโซฟา ก่อนที่แม่บ้านจะเดินเอาของว่างและเครื่องดื่มมาเสริฟ
“พอดีผมอยากจะฝากให้คุณเทพช่วยเอาคู่หมั่นตาเหนือเข้าเรียนทีได้มั้ยครับ เธออายุพึ่งจะสิบแปดย่างสิบเก้าผมไม่อยากให้เธอจบช้าเกินกำหนด เลยอยากวานคุณเทพหน่อย” เกรียงไกรพูดพร้อมกับหยิบกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงร่างกายจากต่างประเทศมาวางไว้บนโต๊ะ
“คู่หมั้นได้เหนือเป็นเพื่อนกับลูกพีชเอง พ่อรับไว้ก็ดีนะ เมียผมจะได้มีเพื่อน เมียผมน่าจะถูกชะตากับเธอเอามาก”
“แกไม่ต้องบอกฉันก็ยินดีช่วยอยู่แล้ว คนกันเอง” อดิเทพหันไปพยักหน้าให้เกรียงไกร
“ขอบคุณ คุณเทพมากนะครับ”
“เรื่องแค่นี้เอง ผมจะให้คนจัดการเรื่องทุกอย่างให้ครับ” ทั้งสองตกลงกันเสร็จสับก็หาอะไรคุยกันเรื่อยเปื่อย พร้อมกับอยู่ทานของว่างด้วยกันจนเกือบชั่วโมง..
“ร้านนี้หรอ?” อิฐหันไปถามคนข้างกายที่มองร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางด้วยสายตาทอประกาย เพราะตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาบ้างแล้ว
“ค่ะ เราไปกันดีกว่าเดี๋ยวโต๊ะจะเต็ม ร้านนี้สูตรเด็ดเลยนะคะ” นิวาหันมาพูดหลังจากที่บอกทางร้านก๋วยเตี๋ยวร้านโปรดซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้างมากขับรถไม่กี่นาทีก็ถึง
“จะอร่อยสักแค่ไหนกันเชียว”
“ลองดูแล้วจะติดใจแน่นอนค่ะ ถูก สะอาด อร่อยด้วย”
“รอไร ลุยดิ” อิฐตอบแล้วเปิดประตูลงจากรถตามด้วยนิวาที่เดินตามลงมาติดๆ คนตัวเล็กเดินนำมาที่หน้าร้านอย่างคล่องแคล่วเพราะเธอแอบออกจากบ้านเล็กมาพักใจที่ร้านนี้บ่อย
“ของนิเอาเหมือนเดิมค่ะป้า คุณอิฐเอาไรคะ”
“ฉัน...สั่งไม่เป็น”
“เอาเหมือนหนูก็แล้วกันค่ะ” เสียงใสเอ่ยสั่งแล้วเดินนำชายหนุ่มที่เป็นเป้าสายตาของทุกคนภายในร้านมานั่งยังโต๊ะที่ว่างอยู่ ไม่นานเด็กเสริฟก็เอาน้ำและผักสดมาวางไว้ให้
“คุณอิฐไม่เคยกินใช่มั้ยคะ”
“ก็ ไม่”
“นิขอโทษค่ะ ที่พามาร้านที่คุณไม่เคยกิน แต่นิอยากให้คุณลองนะ”
“ฉันไม่ได้ว่าอะไรเธอสักหน่อย บอกแล้วไงว่าตามใจเธอทุกอย่าง” นิวาเม้มปากแน่นเธอหลุดยิ้มออกมาอย่างลืมตัว
“หน้านิเศร้าขนาดนั้นเลยหรอคะ ขยันหยอดจัง นิไม่ได้เป็นอะไรจริงๆค่ะ ไม่ได้เศร้าแล้ว” นิวาที่เข้าใจว่าที่อิฐพูดหยอดเพราะอยากเห็นเธอยิ้มและหายเศร้าพูดออกมา แต่ความเป็นจริงใครจะไปรู้ว่าสิ่งที่ชายหนุ่มพูดออกมาเป็นอย่างที่บอกนิวา หรือมันมาจากความรู้สึกข้างในกันแน่...
หลายนาทีต่อมา....
“ขอบคุณนะคะที่มาส่งนิ”
“วันหลังเธอต้องเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวฉันคืนนะ”
“สบายมากค่ะ นิไปแล้วนะคะ” นิวาโบกมือลาอิฐเธอคิดว่าตอนนี้ทิศเหนือน่าจะกลับไปแล้ว จึงให้อิฐมาส่งที่บ้านใหญ่แทน ใจจริงเธอก็ปฏิเสธอิฐไปแล้วเพราะความเกรงใจ ที่เขาก็ยังดึงดันมาส่งเธอ นิวาจึงยอมให้อิฐมาส่ง ก่อนที่ร่างเล็กจะเดินลงมาจากรถ...
“อ้าวนิวา ไปไหนมา หื้ม?” เกรียงไกรและแพรพรรณที่ออกมาเดินเล่นนอกบ้านสูดอากาศเจอเข้ากับเด็กสาวพอดี แพรพรรณจึงเอ่ยถามขึ้นในจังหวะนั้นอิฐที่เหลือบไปเห็นเธอทำกระเป๋าตังตกไว้บนเบาะก็คว้ามันขึ้นมาแล้วเปิดประตูรถลงไป..
“นิ ลืมกระเป๋าตังไว้บนรถ” เสียงของอิฐที่ดังมาจากข้างหลังทำให้นิวาหันกลับไปมอง เธอยื่นมือรับเอาไว้แล้วฉีกยิ้มขอบคุณ
“นินี่มันซุ่มซ่ามจริงๆ”
“พากันไปไหนมาล่ะนิวา” เกรียงไกรเอ่ยถาม
“นิไปแวะเดินเล่นที่ห้างค่ะ เราบังเอิญเจอกันเลยไปกินข้าวกันต่อ”
“ว่างๆก็แวะมาทานข้าวที่นี้ได้นะตาอิฐ” แพรพรรณชวนด้วยรอยยิ้ม
“ครับ ถ้าอย่างงั้นผมลานะครับ คุณลุงคุณป้า” อิฐยกมือไหว้ลาผู้ใหญ่ทั้งสองแล้วเดินกลับเข้าไปในรถพอรถของอิฐลับตา เกรียงไกรจึงเดินเข้ามาหาเด็กสาว
“เดี๋ยวพรุ่งนี้มาหาฉันที่บ้านใหญ่ด้วยนะ ฉันมีหลายเรื่องที่อยากจะบอกหนู”
“ได้ค่ะคุณไกร”
“นิกลับมาเหนื่อยๆไปพักก่อนนะลูก”
“ค่ะ ฝันดีนะคะ” นิวาโบกมือลาผู้มีพระคุณทั้งสองท่านแล้วเดินเลี่ยงมายังบ้านเล็กด้วยรอยยิ้มที่มีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อย มีคนเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวอีกทั้งพรุ่งนี้เธอคิดว่าเกรียงไกรต้องบอกเธอเรื่องที่เรียนแน่นอน ส่วนคนที่เธอกลัวก็น่าจะกลับไปแล้ว...
แกร๊ก !
“ไง ไปร่านที่ไหนมา ถึงได้มีความสุขขนาดนี้”
“คะ...คุณเหนือ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างรอยยิ้มหุบในทันใด เธอกำลังจะปิดประตูหนีและวิ่งไปยังห้องของสีจันทร์แต่กลับถูกคนตัวโตโถมเข้ามากระชากแขนเธอกลับเข้ามาในห้องซะก่อน มือหนาจัดการล็อกกลอนเอาไว้แล้วสะบัดร่างเธอเข้ากับผนังห้องด้วยความรุนแรง..
ปึก !
“ทำไมคุณยังอยู่ห้องนิอีก...” นิวาเอ่ยถามออกไป มือเล็กพยายามจับข้อมือที่กำลังบิดคอเสื้อเธอจนมันรัดคอแน่นด้วยความยากลำบาก
“ฉันต้องถามเธอมากกว่า ว่าไปเอากับใครมา..” ใบหน้าหล่อเหลายื่นเข้าไปเค้นเสียงลอดไรฟันถามเธอ ตามท่อนแขนเกิดเส้นเลือดขึ้นปูดโปนเมื่อเขาออกแรงทั้งหมดบีบขย้ำคอเสื้อตัวบางเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบ ทวาคนถูกกระทำแทบหายใจไม่ออก..
“อึก…นิ...หายใจไม่ออก”
“....”
พรึบ ! มือหนาปล่อยคอเสื้อเธอ แล้วเปลี่ยนเป็นกดเรียวแขนคู่สวยกับผนังห้องแทน นิวาจึงรีบหอบหายใจเข้าปอด มองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกไม่พอใจ..
“นิไปทำธุระมา ถ้ารู้แล้วก็ช่วยปล่อยนิด้วย...”
“ธุระอะไร ธุระนอนถ่างขาให้ผู้ชายเอา?”
“คุณ!”
.
.
.
Next…
“หุบปากเถอะนิวา คำพูดของเธอแม่งโคตรตอแหลว่ะ…”
