ตอนที่ 6 เกลียด
EP06
ชายหนุ่มตะคอกอออกมาเสียงดังแล้วเดินกระแทกเท้าขึ้นมายังชั้นสองของบ้าน เขาโมโหที่เกรียงไกรเอาดวงเนตรเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทั้งที่เธอก็เสียชีวิตไปนานแล้วกลับถูกคนใจร้ายดึงเข้ามาให้เขาบังคับแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก..
“ทำไมว่ะ!”
ผลั๊วะ! ผลั๊วะ!
ทิศเหนือซัดหมัดใส่ผนังห้องด้วยอารมณ์ที่ควบคุมไม่อยู่ มือหนายกขึ้นลูบหน้าตัวเองลวกๆแล้วทิ้งตัวนอนลงบนเตียงความรู้สึกมากมายวนเข้ามาพร้อมกันจนเขาอึดอัดแทบอกแตกตาย..
“คุณเหนือว่ายังไงบ้างคะ...” นิวาที่พึ่งไปล้างตัวเสร็จเดินกลับมา ศรีษะเธอเปียกปอนไปด้วยหยดน้ำ ใบหน้าหวานหมองเศร้าอย่างเห็นได้ชัดเจน
“ยังไงมันก็ต้องหมั้นกับหนูอยู่ดี...ขอบคุณนะที่หนูยอมช่วย”
“มันเป็นข้อตกลงของเรานิคะ”
“นิวา..” เกรียงไกรก้าวเท้าเข้าไปหาเด็กสาวแล้วยื่นมือแตะที่บ่าเธอเบาๆเป็นเชิงให้กำลังใจ เขารู้ดีว่านับต่อจากนี้นิวาต้องเจอกับอะไรบ้างเพราะทิศเหนือเองก็ได้ประกาศออกไปแบบนั้นว่าจะทำให้เธอตายทั้งเป็น แต่ทุกอย่างมันมาถึงขนาดนี้แล้วจะหยุดก็คงไม่ได้เพราะข้อตกลงระหว่างทั้งสองจะได้รับผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
“คะ”
“ต่อไปนี้เกิดอะไรขึ้นฉันขอให้หนูอดทนและรับมือให้ไหว”
“นิเป็นคนเลือกเอง นิรู้ค่ะว่าต่อไปนี้จะต้องเจออะไรบ้าง”
“อดทนเข้าไว้นะ”
“ค่ะ”
“งั้นเรากลับกันดีกว่า ตัวเปียกหมดแล้ว”
“...คุณไกรกลับก่อนนิเลยค่ะ นิจะทำความสะอาดก่อนปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีแน่”
“เอางั้นหรอ”
“ค่ะ เดี๋ยวหนูนั่งแท็กซี่กลับเอง คุณไกรรีบไปทำงานเถอะนะคะ” นิวาฝืนฉีกยิ้มให้คนตรงหน้า เธอเกรงใจเกรียงไกรที่ต้องวนรถกลับไปส่งเธอที่บ้านอีกเพราะทางทำงานอยู่คนละฟากกันไหนเธอจะต้องเก็บกวาดคราบอาหารที่ทิศเหนือเป็นคนทำอีก
“โอเค งั้นฉันฝากด้วยนะ” เกรียงไกรเหลือบมองนาฬิกาข้อมือที่บ่งบอกถึงเวลาไกล้ประชุมเขาจึงต้องจำใจหมุนตัวกลับทั้งที่แอบเป็นห่วงนิวาอยู่บ้างแต่งานตรงหน้าก็สำคัญ พอลับร่างของทั้งสองนิวาจึงหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องครัวแล้วหยิบผ้าชุบน้ำมาปั้นหมาดๆเพื่อเช็ดทำความสะอาดพื้น...
ตึก ตึก ตึก ตึก...
ในขณะที่เธอกำลังก้มเช็ดทำความสะอาดจนเสร็จเรียบร้อยเสียงฝีเท้าของใครบางคนก็เดินเข้ามาในบ้าน ร่างเล็กจึงแอบสอดส่ายสายตามองก่อนจะเห็นร่างของยิหวาในชุดเดรสรัดรูปโชว์เนื้อหนังมองหาร่างของเจ้าของบ้านก่อนที่สายตานั้นจะมาหยุดที่เธอ..
“เธอเป็นใคร?”
“คู่หมั้นพี่เหนือค่ะ”
“อะไรนะ!?” ยิหวาแสดงสีหน้างุนงงแล้วเดินเข้ามาหาเธอนิวาจึงหยัดกายลุกขึ้นแล้ววางผ้าลง เธอเหลือบมองสายตาดูถูกที่มองตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า “จืดชืดแบบนี้ เหนือไม่มีวันตาต่ำเอาเธอทำเมียหรอก”
“แต่สวยๆแบบคุณก็ไม่ได้คบไม่ใช่หรอ?”
“แน่ใจได้ยังไงว่าฉันไม่ได้คบ”
“ก็เพราะว่าคุณกำลังจะแต่งงานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ายังไงละคะ กรุณากลับไปด้วยค่ะ”
“อย่าทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขาหน่อยเลย เพราะว่าเมื่อคืนเรายังแนบแน่นกันอยู่เลย ถ้าเขาหมั้นกับเธอจริงๆเขาคงไม่มาหาฉัน...” คำตอบของยิหวาทำเอาใบหน้าหวานชาวาบ เมื่อคืนเขายังไปเอากับคนอื่นต่อทั้งๆที่ข่มเหงเธอจนไม่เหลือชิ้นดี แต่เธอก็ต้องฝืนแกล้งเล่นละครต่อไป เพื่อให้ยิหวาเลิกยุ่งกับทิศเหนือ
“ไม่ละอายบ้างหรอคะ ที่มาบอกฉันว่าตัวเองเสียตัวให้ผู้ชาย หรือว่าภูมิใจมากที่แอบเอาอยู่ที่อื่น ตัวจริงเขาไม่ต้องแอบหรอกนะคะเขาทำกันที่บ้าน ไม่ได้ออกไปทำข้างนอกเหมือนผู้หญิงที่...”
“หยุดนะ!”
“ทำไมหรอคะ หรือว่ารับความจริงไม่ได้?”
“ยัย...”
“เชิญค่ะ” นิวาผายมือเป็นเชิงให้ยิหวาออกไป หญิงสาวจึงกัดฟันแล้วเดินสะบัดผมด้วยอารมณ์หงุดหงิด พอได้อยู่คนเดียวนิวาจึงเอนหลังพิงเคาท์เตอร์บาร์เธอถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อย ยังไม่เริ่มหมั้นยังมีเรื่องให้เธอมาปวดหัวไม่หยุด..
หลายนาทีผ่านไปนิวาก็จัดการทำความสะอาดบ้านทุกซอกทุกมุมจนเสร็จเรียบร้อย ก่อนที่ร่างเล็กสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงจะเดินเอาอุปกรณ์ไปเก็บพร้อมกับยกมือขึ้นปาดเหงื่อออกจากหน้าผากมนแล้วทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา
.
.
.
-ทิศเหนือ-
“เป็นห่าไรของมึง สูบขนาดนี้มึงไม่แดกเข้าไปเลยล่ะ” เชี้ยเพิร์ธมันพูดขึ้นดึงสติ ในขณะที่ผมกำลังตอกอัดสารนิโคตินเข้าปอดในห้องชมรมที่ประจำของพวกเรา ที่สูบจัดขนาดนี้แม่งเพราะเรื่องยัยตัวซวยนั้นยังไงล่ะ หลังจากที่พ่อมาบอกว่าผมต้องหมั้นกับยัยนั้นผมก็แทบอยากจะบ้าตายได้แต่ละบายความโกรธใส่ผนังห้องจนมือเป็นแผลหมด ดีที่วันนี้มีเรียนบ่ายเลยมีเวลาระงับอารมณ์ ไม่งั้นคงต้องตามไปลงกับเจ้าตัวถึงบ้าน
“แดกได้กูแดกนานแล้ว”
“เป็นห่าไร” เสียงไอ้ดินถามขึ้นมันนั่งกระดกเบียร์อยู่โซฟาตัวกันข้ามกับผม
“พ่อแม่งให้กูหมั้นกับคนรับใช้ในบ้าน”
“กูไม่ได้หูฝาดใช่มั้ย”
“เออ”
“แล้ว?” เชี้ยดินเลิกคิ้วถาม
“ก็กูไม่ได้รัก กูจำเป็นต้องหมั้นทำห่าไร”
“แต่พ่อก็เสือกบังคับมึงจนได้”
“เออสัส”
“ยอมไปก็จบ” ไอ้เหี้ยดินนี่มันก็พูดง่ายเนาะ ลองมาเป็นผมดูแล้วจะรู้สึก ตั้งแต่รู้จักกับยัยนี้มาไม่มีวันไหนที่ชีวิตผมจะไม่ฉิบหาย ไหนจะมีพ่อประสาทแดกอีก วุ่นวายเชี้ยเหี้ย
“ยอมเหี้ยไร ให้ฟรีกูก็ไม่เอามาทำเมีย”
“สวยป่ะ?”
“เอาเหี้ยไรมาสวย” ผมตอบด้วยความหงุดหงิด คนอื่นอาจจะมองว่าเธอสวย แต่สำหรับผมยัยนั้นไม่มีวันอยู่ในสายตาผมหรอก
“ไหนเอารูปมาดูดิ”
“ไม่มี”
“กักนี่หว่า”
“จะดูให้มันได้อะไรขึ้นมา” ผมเลิกคิ้วถามมันแล้วอัดควันเข้าปอดอีกครั้ง อีกไม่กี่วันแม่งก็ถึงงานหมั้นแล้ว ยิ่งคิดยิ่งเกลียดขี้หน้ายัยนั้น หมั้นกับใครไม่หมั้นเสือกจับผมหมั้นกับคนรับใช้ในบ้านตาต่ำฉิบหาย แถมยังเป็นคนที่ผมอยากให้ออกไปจากชีวิตที่สุด คิดแล้วเริ่มเล่นงานยัยนั้นวันนี้เลยเป็นไง เอาให้ทนไม่ได้แล้วไปถอนหมั้น แต่ถ้าทนได้คงทนแบบตายทั้งเป็น...
“ก็อยากดูว่าที่เมียของเพื่อน”
“กวนตีน”
“หยอกเล่นหน่า คืนนี้ตี้ป่ะเผื่อจะอารมณ์ดีขึ้น”
“มาดิ บ้านกู”
“จริงจัง?”
“ของฟรีไม่ชอบ?”
“เค กูไป” ไอ้เพิร์ธมันตอบด้วยรอยยิ้มนึกสนุก “เชี้ยดินมึงต้องมา ห้ามปฏิเสธ” มันชี้หน้าบังคับไอ้ดิน
“อืม”
-END-
ครืดดดดด~ ครืดดดดด~
นิวาที่สารวนอยู่กับการล้างจานมื้อเย็นเพียงลำพังวิ่งไปรับโทรศัพท์มือถือที่สั่นเครือบนโต๊ะ เรียวคิ้วคู่สวยขมวดพันกันยุ่งเธอแปลกใจกับเบอร์ที่โทรมาก่อนจะตัดสินใจกดรับสาย
“สวัสดีค่ะ ใครคะ?”
( คิดว่าใครล่ะ )
“คุณเหนือ...มีเบอร์นิได้ยังไงคะ”
( ทำไมฉันจะมีเบอร์เธอไม่ได้ )
“เปล่าค่ะ”
( ออกมาที่บ้านฉัน วันนี้เพื่อนฉันจะมาปาร์ตี้ที่นี้ )
“แต่วันนี้นิต้องอ่านหนังสือสะ..”
( ถ้าฉันไม่เห็นเธอโผล่หัวออกมา ฉันบุกถึงเตียงแน่.. )
“คุณเหนือ..”
( ตี้ด... )
ไม่ทันที่นิวาจะพูดจบปลายสายก็ถูกตัดไป ใบหน้าหวานเจื่อนลงเล็กน้อย เธอกำลังจะเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเพราะตอนนี้เกรียงไกรก็เริ่มโอนเงินก้อนแรกให้แล้ว และเธอก็ปรึกษาทุกคนเรียบร้อยยกเว้นซะแต่ทิศเหนือที่ยังไม่รู้เรื่องนี้...
หลังจากที่เก็บข้าวของเสร็จนิวาก็พาตัวเองมาหยุดยืนอยู่หน้าบ้านของทิศเหนือมือบางเปิดประตูเข้าไป ดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆก็ปรากฏรถคันหรูมากมายที่จอดเรียงกันอยู่ ท้าวเล็กจึงเดินไปที่บริเวณริมสระที่ตอนนี้หนุ่มๆสามคนกำลังจัดสถานที่กันอยู่..
“ใครว่ะไอ้เหนือ?" เพิร์ธที่สะดุดตากับคนมาไหม่หันไปถามทิศเหนือที่จ้องมองเธอไม่วางตา
“คนรับใช้”
“ใช่คนที่มึงพูดถึงไหม”
“อืม”
“กูขอทักหน่อยดิ”
“จะทำห่าไรก็เชิญ” ชายหนุ่มตอบเสียงห้วนมือหนาที่คีบมวลบุหรี่อยู่พ้นควันออกมาแล้วเดินเลี่ยงไปที่อื่น มองการกระทำของนิวาอยู่ห่างๆ
“หวัดดี พี่ชื่อเพิร์ธนะครับ เป็นเพื่อนไอ้เหนือ”
“สวัสดีค่ะ นิวานะคะ” นิวาฉีกยิ้มให้คนตรงหน้าอย่างเป็นมิตร เธอคิดว่าตัวเองควรผูกมิตรกับเพื่อนทิศเหนือเข้าไว้
“พี่ฝากท้องมื้อหนึ่งนะ ขอเมนูเด็ดๆ”
“ได้เลยค่ะ”
“ยินดที่ได้รู้จักนะครับ” มือหนายื่นมาหวังจะจับทำความรู้จักกับเธอ นิวาจึงชั่งใจอยู่ซักแป๊ปก่อนจะยื่นมือออกไปแต่ทวากลับมีมือของใครบางคนมาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กอย่างรุนแรง
หมับ !
“อ๊ะ?”
“....” สายตาเรียบนิ่งมองเธอด้วยความรู้สึกไม่พอใจแล้วออกแรงลากนิวาเดินเข้ามาในบ้าน ก่อนจะผลักร่างเล็กไปชิดกับเคาน์เตอร์บาร์ “ฉันให้เธอมาทำอาหารไม่ได้ให้มาอ่อยผู้ชาย..”
“นิอ่อยตรงไหน” นิวาพยายามปัดมือหนาที่บีบอยู่คางมนออก ใบหน้าหวานเบ้เมื่อความเจ็บปวดเพิ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ที่ยิ้มให้มันแล้วยังเสือกให้มันจับมืออีกไม่เรียกว่าอ่อย?”
“มันไม่ใช่แบบนั้น..”
“แล้วมันแบบไหน!?”
“ทำไมต้องตะคอกด้วย นิแค่ผูกมิตร..”
“ผูกมิตรเหี้ยอะไร มันหน้าของเธอรึไง!” มือหนาผละออกจากคางมนแล้วเปลี่ยนเป็นกระชากคอเสื้อนิวาแทน จนร่างเล็กแทบลอยขึ้นจากพื้น
“โอ๊ย!”
“อยู่แค่ในครัวถ้าฉันไม่เรียกใช้อย่าเสอาะออกมา” ทิศเหนือเค้นเสียงรอดไรฟัน ก่อนจะซุกหน้าเข้าที่ลำคอระหงริมฝีปากร้อนดูดเม้มเนื้อเนียนอย่างมูมมามจนเกิดรอยหลายจุดพอสะใจเขาก็ผละออกแล้วสะบัดร่างเล็กจนนิวาเกือบเซล้มแล้วเดินออกจากห้องครัวไปโดยไม่ยอมฟังอะไรจากเธอเลยสักนิด เอาแต่คิดไปเองและทำร้ายความรู้สึกเธอ…
.
.
.
Next…
“กูจำเป็นต้องอายใคร ถ้ารับไม่ได้ก็ไปตายดิ”
