บท
ตั้งค่า

1.1 เซียนฝึกหัด

สูงขึ้นไปยังยอดเขาสูงหากแต่ไม่แตะโดนผืนฟ้าคราม เหล่าเซียนฝึกหัดกำลังขะมักเขม้นในการทบทวนตำราเรียน เพราะอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะถึงวันสอบเลื่อนขั้นเป็นเซียนชั้นสูง จึงต้องเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งร่างกายและจิตใจ จะให้เกิดข้อผิดพลาดจนทำให้เสียโอกาสมิได้เป็นเด็ดขาด

เจียวซือ เป็นเซียนหนุ่มที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่ม หากแต่มีความเฉลียวและใบหน้างดงามชวนมอง โดดเด่นกว่าเพื่อนร่วมชั้น อีกทั้งกิริยายังอ่อนน้อมถ่อมตน แม้จะสอบได้ที่หนึ่งมาตลอดก็หาได้ทะนงตัวแต่อย่างใด

“เจ้าจะอ่านตำราไปไย เห็นๆ กันอยู่ว่าผู้ใดจะครองตำแหน่งที่หนึ่งในการสอบครั้งนี้”

ผู้ถูกทักลดตำราในมือลงพลางเหลือบมองไปยังต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล บุรุษท่าทีสง่างามเอนกายพิงลำต้นพฤกษาอย่างสบายอารมณ์ ดวงตาสีเขียวอ่อนทอประกายดั่งแสงอาทิตย์เจิดจ้า ยามมุมปากยกขึ้นให้ความรู้สึกราวกับความทุกข์มลายหายสิ้น

“ไม่แน่หรอก การสอบครั้งนี้ ข้าจะเอาชนะเจ้านั่นให้ได้” ฟาหยางกล่าวบอกสหายของตนด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย หากแต่หางตาก็เหลือบมองคู่แข่งอย่างเจียวซืออยู่เป็นระยะ

แม้เจียวซือจะเกิดมาพร้อมพรสวรรค์อันยากเกินหาใครเทียม แต่บุรุษผู้นี้หาได้มีความสุขไม่ เขารู้สึกโดดเดี่ยวและอ้างว้างอยู่ตลอดเวลา ครั้นหันมองไปทางใดก็ไร้ที่พึ่งพา กระทั่งสหายสักคนก็ไม่มี

ทุกคนต่างรังเกียจและไม่อยากเข้าใกล้เขา

เจียวซือรับรู้ถึงสายตาที่มองมาอย่างดูแคลน เขาจึงค่อยๆ ยืนตัวตรง และก้าวเท้าไปยังลำธารใสเบื้องหน้า ที่ที่มีศาลาร่มรื่นเงียบสงบตั้งตระหง่านอยู่

เจียวซือมักใช้ศาลานี้เป็นที่พักใจและหลบซ่อนจากผู้คนที่คิดจะเข้ามารังแกเขา ขณะร่างที่เหนื่อยล้าค่อยย่อตัวลง ก็พลันปรากฏร่างของชายในอาภรณ์สีดำดูน่าเกรงขามพร้อมเมฆหมอกหนาทึบปกคลุมไปทั่วบริเวณ

“องค์ชาย!?” เจียวซืออุทานออกมาอย่างตกใจพร้อมตั้งท่าเตรียมจะวิ่งหนี หากแต่ถูกมือใหญ่คว้าแขนของเขาเอาไว้ได้ทัน

“ทำไมเจ้าต้องหนีข้าด้วย” เสียงทุ้มต่ำกล่าวถาม

“มิกล้าองค์ชาย เพียงแต่สถานที่แห่งนี้ ไม่เหมาะนักที่เราจะพบเจอกัน”

ผู้มาเยือนเผยรอยยิ้มขบขัน เขาโน้มใบหน้าลงเข้าหาอีกฝ่าย จ้องมองดวงตาที่สั่นไหวนั่นอย่างคิดถึง “เจ้านี่ช่างซื่อบื้อเสียจริง เห็นว่าเป็นที่หนึ่งของชั้น คิดว่าจะมีไหวพริบมากกว่านี้เสียอีก”

เจียวซือขมวดคิ้วแน่น “องค์ชายรู้ได้อย่างไรว่า... หรือทรงจับตาดูกระหม่อมหรือ”

“เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปง่ายๆ หรืออย่างไร” ร่างสูงตอบพลางแตะจมูกของตนลงบนจมูกของอีกฝ่ายเบาๆ “เจียวซือ... กลับบ้านของเรากันเถอะนะ”

เซียนหนุ่มนิ่งงันไปครู่หนึ่งก่อนจะรีบผลักคนตรงหน้าให้ออกไปไกลตัว แววตาของเขามีความสับสนอยู่สองส่วนและโกรธเคืองอยู่หนึ่งส่วน

องค์ชายรัชทายาทแห่งเผ่าปีศาจหรือที่รู้จักในนามหมิงยู่ เขาเป็นดั่งสหายและพี่ชายของเจียวซือ ทั้งสองเติบโตมาด้วยกัน สู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาหลายครั้งหลายครา สำหรับหมิงยู่แล้ว ชายตรงหน้าเป็นเหมือนคนในครอบครัว เป็นคนพิเศษ ที่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องปกป้องเอาไว้ให้ได้

“องค์ชายกลับไปเสียเถิด” เจียวซือตอบเสียงสั่นเครือ “กระหม่อมเลือกทางเดินนี้แล้ว ไม่อาจถอยกลับไปได้อีก”

“ข้าถึงได้มารับเจ้าอย่างไรเล่า อยู่ที่นี่ไม่เห็นเจ้าจะมีความสุขแต่อย่างใด มิสู้กลับไปกับข้าไม่ดีกว่าหรือ”

ไม่ว่าจะที่นี่หรือที่นู่น ก็คงไม่มีใครยอมรับบุตรแห่งเทพและปีศาจได้หรอก

เจียวซือเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของแม่ทัพห่ายกู่ แม่ทัพใหญ่ของเผ่าปีศาจ

บิดาของเขาพบรักกับหญิงสาวผู้หนึ่ง โดยหารู้ไม่ว่านางเป็นเทพจากสวรรค์ชั้นฟ้าที่ลงมาผ่านเคราะห์กรรมบนโลกมนุษย์ มารดาของเจียวซืออยู่เลี้ยงดูเขาได้ไม่นานก็สิ้นอายุขัยและกลับไปยังแดนสุขาวดี อีกทั้งยังลืมสิ้นความทรงจำที่ลงมายังโลกมนุษย์ ลืมบิดาของเขา ลืมความรักที่พวกเขามีให้แก่กัน และลืมว่าตนเคยให้กำเนิดเจียวซือ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel