บท
ตั้งค่า

ข้าจะแต่ง 2

ข้าจะแต่ง 2

บนเนินเขา สาวชาวบ้านสี่คนยังหัวเราะคิกคัก ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย ว่าข้างพุ่มไม้มีบุรุษผู้หนึ่งแอบฟังอยู่

“จ๋อม!” เสียงก้อนหินถูกขว้างปาลงน้ำ เมิ่งจื่อนั่ง กอดเข่าอยู่บนชะง่อนหิน นี่เป็นจุดเดียวกับที่นางคิดสั้นคราก่อน แต่ครั้งนี้เปลี่ยนไปแล้ว นางไม่คิดตายอีก เพียงแต่เจ็บปวดใจที่ถูกรังแก

ทั้งๆที่มิใช่ความจริง แต่นางกับเถียงไม่ออก เมิ่งจื่อไม่เคยสู่คนมาก่อน พอถูกด่าทอก็ตอบโต้ไม่เป็น แม้แต่คำพูดจะอธิบายยังคิดไม่ทัน

เซียวเฟิงซุ่มฟังคำติฉินนินทาจนพอใจ เขาก็ใช้เวลาครู่ใหญ่เดินกลับบ้านสกุลเมิ่ง เวลานั้นก็เป็นจังหวะเดียวกับพี่สาวน้องชายกลับเข้าบ้านพอดี หากแต่ทั้งสองฝ่ายราวกับมิได้สนใจกัน ตอนเดินผ่านประตูรั้วบ้าน แม้แต่หน้าเมิ่งจื่อก็ยังมิเงยขึ้นมอง

“เจ้าหนุ่ม ไปช่วยข้าวางกับดักหน่อยสิ”

ตะวันคล้อยบ่าย เมิ่งผู้พ่อเห็นผู้มาใหม่ก็เอ่ยปากใช้งาน เซียวเฟิงก็ถามว่าต้องทำยังไงบ้าง เพราะเขาจำมิได้ว่าตนเคยวางกับดักมาก่อน

เมิ่งไท่อี้เดินเข้าไปตบไหล่บอกว่า “มา มา เดียวข้าสอนเจ้าเอง” จากนั้นชายเคราครึ้มพาชายหนุ่มแปลกหน้าไปหยิบจับเครื่องมือในห้องเก็บของ แล้วเดินออกจากบ้านหัวเราะฮ่า ฮ่า ฮ่า ตะโกนเป็นภาษาท้องถิ่นว่า บุรุษที่แท้จริงต้องจับหมูป่าได้วันละสิบตัว

ตลอดทางขึ้นเขา เมิ่งผู้พ่อคุยโม้อย่างสนุกสนาน โอ้อวดว่าสมัยหนุ่มๆ เขาจับหมูป่าวันเดียวได้ถึงสิบตัว!

เซียวเฟิงที่โง่งมกับหลงเชื่อ ตอบรับท่านลุงหน้าโหดว่า “สุดยอดไปเลยขอรับ”

“…”

ภายในกระท่อมของเมิ่งจื่อ เพียงเปิดประตูเข้ามาก็จะพบเตียงนอนอยู่ด้านซ้าย โต๊ะตัวน้อยอยู่ด้านขวา ข้าวของนางมีไม่มาก ทั้งห้องหับยังคับแคบ แต่ก็มากพอให้นางใช้ชีวิตอยู่คนเดียว สาวน้อยเช่นนางเองก็ชอบ นับตั้งแต่ท่านพ่อปลูกกระท่อมหลังนี้ให้ นางก็ตกแต่งด้วยของใช้เล็กๆน้อยๆที่หาได้ ใช้เศษผ้ามาตัดเย็บผ้าม่าน ย้อมด้วยสีชมพูหวานแหวว

นางเมิ่งซือพบเห็นบุตรสาวกลับเข้าเรือน จึงติดตามเปิดประตูโดยไม่เคาะ ภาพที่เห็นทำให้นางสงสารลูกสาวมาก เมิ่งจื่อสะอื้นกระซิกกระซิกบนเตียง มองแต่ไกลก็รู้แล้วว่านางร้องไห้

“จื่อจื่อ แม่มีบางอย่างต้องพูดกับเจ้า”

เมื่อเข้ามาในห้อง นางเมิ่งซือก็นั่งลงที่ข้างกายบุตรสาว กล่าวปลอบโยนนางอยู่นานสองนาน จนเมิ่งจื่อสงบลงนางค่อยเข้าเรื่อง บอกว่าหาคนที่เหมาะสมแต่งกับนางได้แล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องถูกแม่สื่อนำไปเร่ขายอีก

หัวใจเมิ่งจื่อตกวูบ นางไม่ฟังต่อแม้กระทั่งต้องแต่งกับใคร คิดในใจว่าเรื่องเลวร้ายพวกนี้ต้องจบได้แล้ว นางยอมแต่งก็ได้ ต่อให้แต่งกับหมานางก็ยินยอม!

“แต่ง! แค่แต่งงานก็จบแล้วใช่หรือไม่ ฮือ! ฮือ!”

เมิ่งจื่อฟุบหน้ากับผ่าห่มอีกครั้ง ร้องไห้โฮออกมา

สิบกว่าวันมานี้นางถูกเร่ขายไปทั่ว แม่สื่อนำนางไปเสนอกับคนทั้งอำเภอ รับเงินค่าติดตามถามไถ่ แม้จะปฏิเสธไปทุกครั้ง แต่อนาคตข้างหน้าผู้ชายดีๆที่ไหนจะมาสู่ขอนาง

ชื่อเสียงย่อยยับป่นปี้ แต่งกับใครก็คงจะเหมือนกัน หญิงชาวบ้านอายุสิบห้าสิบหกก็เป็นมารดาคนแล้ว เมิ่งจื่อไหนเลยไม่แต่งสามีได้

นางเมิ่งซือกล่าวปลอบอีก บอกว่า จำได้หรือไม่ แม่เองก็ได้แต่งกับพ่อเจ้าเพราะสถานการณ์บีบบังคับ ต่อมาก็มีเจ้ากับน้องสองคนออกมา มิใช่รักใคร่กลมเกลียวกันดีหรือ

สมัยก่อนเกิดศึกสงคราม นางเมิ่งซือเป็นลูกอนุของขุนนางเล็กๆผู้หนึ่ง ที่เป่ยจิงทิศเหนือ ท่านพ่อนางพาครอบครัวหลบหนี แต่พอเดินทางมาถึงส่านซีทรัพย์สินก็หมดสิ้น สุดท้ายขายนางให้กับนายพรานผู้หนึ่ง แลกกับข้าวสารเพียงสิบชั่งเท่านั้น

นายพรานผู้นั้นย่อมเป็นพ่อสามีนางเอง เมิ่งไท่อี้ในวัยสิบห้ายินดียิ่ง เขากระโดดโลดเต้นโห่ร้องว่าตนจะมีภรรยาแล้ว ถึงแม้ต้องรออีกหลายปีถึงจะใช้งานได้ก็ตามที

“…”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel