ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า

229.0K · จบแล้ว
เสี่ยวเทีย
91
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

กู่ซิงอีเป็นคนรักสันโดษ ยึดอาชีพหมักสุราหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เพราะไม่ชอบวุ่นวายกับใครในชีวิตนี้คบหาสหายเพียงคนเดียวนามว่าเซี่ยลู่หลินที่เป็นบุตรสาวพ่อค้าคนใหญ่คนโตของเมืองจาง เขาใช้ชีวิตอย่างราบลื่นปกติสุขไม่เคยมีเรื่องกับใคร เอ่อ...ยกเว้นกับต้นพลับโง่ๆ ต้นนั้นที่ไม่เคยออกลูกสักครา! คืนนั้นในสารทฤดูกู่ซิงอีนอนอาบแสงจันทร์พร้อมไหสุราอย่างเคย พลางคิดว่าว่าชีวิตต่อจากนี้คงจะสงบสุขสมอย่างใจหวัง แต่ไหนเลยจะเป็นเช่นนั้น ราวกับโชคชะตาเล่นตลกกับคนที่เพิ่งมองโลกในแง่ดีไป เช้าวันต่อมาสหายคนสนิทก็วิ่งหน้าตั้งมาหา ทุบประตูบ้านเสียจนแทบจะพัง เอ่ยร้องขอให้กู่ซิงอีช่วยตนถอนหมั้นกับว่านฟู่เฉิง ผู้นำตระกูลพ่อค้าอันดับต้นของเมืองจาง! กู่ซิงอีให้ใจใครยากก็จริง แต่เมื่อได้คบหาใครเป็นสหายแล้วย่อมมอบความจริงใจที่ตนมีทั้งหมดให้อีกฝ่ายโดยไม่อิดออด ดังนั้นจึงยอมทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือสหายถอนหมั้นให้จงได้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีดีถึงขั้นที่ว่า 'เป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยมาก เงินทองมีให้ใช้ไม่หมด' 'รูปงามหาผู้ใดเปรียบมิได้' 'เอาการเอางานยิ่งกว่าผู้ใด' ก็ตามเถอะ แล้วผู้ใดเล่าจะคาดการณ์ได้ว่าการยกเลิกงานหมั้นครั้งนี้ค่าตอบแทนสูงยิ่งนัก “ครั้งนั้นเจ้าใช้สตรีมาล่อลวงข้าไม่ใช่หรือไร ไยเจ้าไม่ล่อลวงข้าเสียเองเล่า” ว่านฟู่เฉิงได้กล่าวไว้ #คนหมั้นไม่ได้แต่งคนแต่งไม่ได้หมั้น #มายกเลิกงานหมั้นเขาตัวเองแต่งแทนเฉย!

นิยายรักโรแมนติกนิยายจีนโบราณนิยายYaoiประธานเลขารักหวานๆจีนโบราณโรแมนติกแต่งงานแทนนิยายย้อนยุค

แนะนำเนื้อเรื่อง + แนะนำตัวละคร

"เขาไม่รูปงามหรือ" กู่ซิงอีถามสหายคนสนิท

"รูปงามยิ่งนัก!" เซี่ยลู่หลินกล่าวด้วยความจริงจัง

คราที่ฟังมิได้ทันคิด หากแต่ได้ยลอีกฝ่ายแล้ว คำพูดของสหายก็หวนมาอีกครา

'รูปงามยิ่งนัก!'

กลิ่นอายรอบกายสูงส่งดั่งหยก แววตาเฉยเมยไร้สิ่งใดที่สามารถสั่นคลอนคนผู้นี้ได้

ภาพตรงหน้า...สลักลึกฝังลงในใจ

กู่ซิงอีเป็นคนรักสันโดษ ยึดอาชีพหมักสุราหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เพราะไม่ชอบวุ่นวายกับใครในชีวิตนี้คบหาสหายเพียงคนเดียวนามว่าเซี่ยลู่หลินที่เป็นบุตรสาวพ่อค้าคนใหญ่คนโตของเมืองจาง

เขาใช้ชีวิตอย่างราบลื่นปกติสุขไม่เคยมีเรื่องกับใคร เอ่อ...ยกเว้นกับต้นพลับโง่ๆ ต้นนั้นที่ไม่เคยออกลูกสักครา!

คืนนั้นในสารทฤดูกู่ซิงอีนอนอาบแสงจันทร์พร้อมไหสุราอย่างเคย พลางคิดว่าว่าชีวิตต่อจากนี้คงจะสงบสุขสมอย่างใจหวัง

แต่ไหนเลยจะเป็นเช่นนั้น ราวกับโชคชะตาเล่นตลกกับคนที่เพิ่งมองโลกในแง่ดีไป เช้าวันต่อมาสหายคนสนิทก็วิ่งหน้าตั้งมาหา ทุบประตูบ้านเสียจนแทบจะพัง เอ่ยร้องขอให้กู่ซิงอีช่วยตนถอนหมั้นกับว่านฟู่เฉิง ผู้นำตระกูลพ่อค้าอันดับต้นของเมืองจาง!

กู่ซิงอีให้ใจใครยากก็จริง แต่เมื่อได้คบหาใครเป็นสหายแล้วย่อมมอบความจริงใจที่ตนมีทั้งหมดให้อีกฝ่ายโดยไม่อิดออด ดังนั้นจึงยอมทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือสหายถอนหมั้นให้จงได้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีดีถึงขั้นที่ว่า 'เป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยมาก เงินทองมีให้ใช้ไม่หมด' 'รูปงามหาผู้ใดเปรียบมิได้' 'เอาการเอางานยิ่งกว่าผู้ใด' ก็ตามเถอะ

แล้วผู้ใดเล่าจะคาดการณ์ได้ว่าการยกเลิกงานหมั้นครั้งนี้ค่าตอบแทนสูงยิ่งนัก

“ครั้งนั้นเจ้าใช้สตรีมาล่อลวงข้าไม่ใช่หรือไร ไยเจ้าไม่ล่อลวงข้าเสียเองเล่า” ว่านฟู่เฉิงได้กล่าวไว้

#คนหมั้นไม่ได้แต่งคนแต่งไม่ได้หมั้น #มายกเลิกงานหมั้นเขาตัวเองแต่งแทนเฉย!

นิยายเรื่องนี้เป็นแนวฟีลกู๊ดฟีลใจ ไม่ดราม่า ปมมีเท่าหางอึ่ง แต่เนื้อเรื่องยาวเท่าหางว่าว เน้นมาดูคนรักกันฉ่ำ ๆ ค่ะ พระเอกสายธงเขียว

อุปสรรคที่ขวางกั้นก็มีเพียงแค่ว่าในยุคจีนโบราณบุรุษชอบพอกันยังไม่เป็นที่ยอมรับ และตัวนายเอกที่ไม่ค่อยมีเพื่อนเลยไม่รู้ถึงความสัมพันธ์และความรู้สึกในใจของตนเท่าไหร่นัก (เป็นการดำเนินเรื่องค่อยข้างสมจริง ไม่เน้นแบบรวบรัดแบบชอบกันแล้วบอกรักทันที ใครรอไม่ไหวต้องขออภัย)

ใครอ่านแล้วชงโพผิดไปต่อแถวไหมเคอะ!

เรื่องอื่นอาจมีผัวออกสาว เรื่องนี้เมียออกผัวแทนจ๊ะ @_@ สายแบกผัวออกเที่ยวป่าเที่ยวเขาเที่ยวลำน้ำด้วยกัน 5555 ตอนเขียนยังกลัวนักอ่านเข้าใจผิด เพราะลูกเรามันสายสตรองค่ะ

แนะนำตัวละคร

กู่ซิงอี : เด็กกำพร้าที่ถูกผู้เฒ่าเจ้าของโรงเตี๊ยมเก็บมาเลี้ยงดู เลี้ยงชีพโดยการหมักสุราขาย เป็นคนรักสันโดษ ใช้ชีวิตอยู่เขตชานเมือง แต่พอได้สนิทกับใครแล้วยอมมอบใจให้ทั้งหมด ช่างสังเกต ยิ้มเก่ง นิสัยร่าเริงมองโลกในแง่ดี ฉลาดและมีไหวพริบ

ว่านฟู่เฉิง : ผู้นำตระกูลว่าน ซึ่งเป็นตระกูลพ่อค้าที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ของแคว้นเหว่ย สมัยวัยเยาว์มีเหตุทำให้พิการไม่สามารถเดินได้จำต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นตลอด เป็นคนเจ้าอารมณ์ ขี้หงุดหงิด เอาแต่ใจ แต่ก็พยายามรักษาท่าทีสูงศักดิ์ไว้ได้อย่างดี ทำงานเก่ง รักหน้ารักตาไม่ชอบตกเป็นที่ติฉินนินทา ไม่ชอบให้ใครถูกเนื้อต้องตัว ไม่ชอบสายตาผู้คนที่มองมายังตัวเอง จึงไม่ค่อยออกไปไหน

หลี่เซียว : คนสนิทของว่านฟู่เฉิง ติดตามเจ้านายมาตั้งแต่เด็กเพราะเกิดและเติบโตมาในตระกูลว่าน คอยสังเกตทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือเจ้านายตนเองอยู่ข้าง ๆ เสมอ นามเต็มคือ จูหลี่เซียว

เซี่ยลู่หลิน : คุณหนูรองตระกูลพ่อค้าที่ร่ำรวยพอ ๆ กับตระกูลว่าน เป็นสหายคนสนิทของกู่ซิงอี นิสัยร่าเริง ทำอะไรไม่เป็น ไม่ค่อยฉลาด แต่เป็นสหายที่ดีคนหนึ่ง

เซี่ยหลี่จวิน : บิดาของเซี่ยลู่หลิน เห็นแก่เงินทองมาก่อน จึงไม่ค่อยชอบกู่ซิงอีที่เป็นเด็กกำพร้า

หวังเฉียว : คนนำส่งสุราและมีหน้าที่นำสุราไปขายให้กู่ซิงอี

ผู้เฒ่าเว่ย : เจ้าของโรงเตี๊ยมที่หมู่บ้านกง ซึ่งเป็นคนเก็บกู่ซิงอีมาเลี้ยงดู เป็นเหมือนบิดาของกู่ซิงอีและเป็นคนที่สอนทั้งการคิดบัญชี การคำนวณ การทำอาหาร การใช้ชีวิตให้กู่ซิงอีทั้งหมด นิสัยขี้งกชอบโก่งราคาค่าห้องพัก นามเต็ม ‘กู่เว่ย’ แต่กู่ซิงอีรู้ว่านามนี้มิใช่ชื่อเดิม

(ซึ่งหนึ่งที่ไม่ได้กล่าวถึงในนิยาย ผู้เฒ่าเว่ยคือบัณฑิตคงแก่เรียนท่านหนึ่งที่ไม่สนใจโลก หนีไปใช้ชีวิตที่หมู่บ้านเล็กๆ ดังนั้นจึงสามารถสอนทุกอย่างที่ตนเองได้เรียนรู้มาให้กู่ซิงอีได้ทั้งหมด)

ความหมายของชื่อ

ว่านฟู่เฉิง ร่ำรวยประสบความสำเร็จ

กู่ซิงอี คนดีและมีความสุข

เซี่ยลู่หลิน หยกอันงดงาม