แม่
ปิ่นคณางค์ฆ่าเวลาแสนน่าเบื่อ ภายในห้องพักหรูโดยการกดโทรหาแม่ แม่ถามว่าทำอะไรอยู่ หญิงสาวไม่รู้จะบอกแม่อย่างไร จึงจำใจโกหกแม่ไปว่ากำลังทำโอทีเพราะช่วงนี้งานมันเยอะ แม่ต่อว่าจนหูชา เรื่องเดิมๆ คือเธอนั้นโง่เง่า ทำงานงกๆ ทั้งที่แม่มีเงินให้ใช้จ่ายอย่างสะดวกสบายแล้ว “แต่ไม่ใช่เงินของเรานะแม่” ปิ่นคณางค์พูดตามที่คิด
“ของคุณลุงก็ของแม่ ลุงตรัยหลงแม่แกก็รู้แกต้องกอบโกยให้เยอะเข้าไว้สิ นี่อะไร้ หนีไปพักที่อยู่สับปะรังเคเสียนี่ แถมทำงานหามรุ่งหามค่ำแบบนี้”
“แม่จะกลับจากเกาะเมื่อไหร่คะ” ปิ่นคณางค์รีบเปลี่ยนเรื่องเสียเพราะไม่อยากฟังเรื่องที่แม่เอ่ยอีก
“ใครอยากทำงานงกๆ อย่างแกล่ะ ฉันอยู่ต่ออีกหลายวัน เดลจะจัดปาร์ตี้ร่วมกับคุณตรัยที่นี่”
เสียงแม่สดชื่นเมื่อเอ่ยถึงผู้ชายคนนั้น ปิ่นคณางค์เสียใจนัก ความเสียใจเรื่องเดิมๆ เพิ่มพูนเข้ามาอีก ผู้ชายคนนั้นอยู่ซิซิลีกับแม่และคุณลุงด้วยเหรอ แม่นะแม่ ไม่น่าเลย “แม่ค่ะ คุณลุงดีกับพวกเรามาก แม่ดูแลคุณลุงด้วยนะคะ” หญิงสาวเอ่ยออกไป ได้ยินเสียงแม่ต่อว่า “อย่ายุ่งน่า ไม่ใช่เรื่องของแก และไม่ต้องบังอาจมาสั่งสอนฉัน” ก่อนสายจะตัดไป
หญิงสาวจมอยู่กับความสงสารคุณลุงตรัย รู้สึกผิด
ปิยา คือซินเดอเรอร่าวัยสิบห้าปี ในสายตาเพื่อนฝูงของตรัย ทุกคนคิดแบบนั้นเพราะตรัยไม่เคยเชิดชูผู้หญิงคนไหนนอกจากภรรยาที่ตบแต่งเท่านั้น ปิยาเดินเกาะแขน ตรัย อัครพิภพ ชายวัยใกล้หกสิบใบหน้ายิ้มแย้ม แม้ไม่ชื่นชอบงานสังสรรค์เพราะวัยไม่เอื้ออำนวยทั้งโรคภัยที่รุมเร้าแต่ตรัยยอมตามใจนั่งดึกดื่นเป็นเพื่อนคนข้างกาย ปิยานั้นแสนรำคาญคนแก่เมื่อเจอคนที่สนองเรื่องเพศรสได้ดีกว่า แต่ก็ต้องแสร้งยิ้มหวานเมื่อตรัยยื่นเครื่องดื่มให้ ทั้งต้องทำดีให้มากไว้เพราะถึงตรัยจะตามใจตนเองแทบทุกอย่าง แต่เรื่องสำคัญที่ปิยาต้องการที่สุดยังไม่สมหวัง นั่นคือทะเบียนสมรส การพูดคุยของเพื่อนฝูงยังคงดำเนินต่อไป ทว่ายิ่งดึกดื่นจำนวนแขกยิ่งลดน้อย เมื่อแขกเกือบคนสุดท้ายจะอำลา ปิยาชักชวนให้ตรัยเพื่อไปพักผ่อน
“คุณเหนื่อยไปพักก่อนดีกว่านะคะ หลายคืนแล้วที่คุณนอนดึก” ปิยาแกล้งเอาใจ จับมือชายแก่ลูบเบาๆ ตรัยพยักหน้าลุกขึ้นไม่ลืมหันไปอำลาเพื่อนสนิทที่ถูกคอกับปิยาและดูจะกลายเป็นเพื่อนกันไปแล้ว
ปิยานำพาตรัยไปยังห้องนอนซึ่งอยู่ภายในบ้านพักหรูริมชายหาดบนเกาะแสนสวย เมื่อถึงเตียงนุ่มตรัยหลับไปทันที ปิยายิ้มด้วยความดีใจ
“ดูแลคุณตรัยหน้าห้องนะ อย่าไปไหน” ปิยาสั่งคนติดตามตรัย จากนั้นเดินไปหาคนที่ตนเองกำลังหลงใหลจนยากจะถอนตัว
เดล ชายวัยใกล้สี่สิบ รูปร่างใหญ่หน้าตาหล่อเหลา แววตาออกแนวเจ้าชู้ประตูดินไม่ซ่อนเร้นหัวเราะพอใจเมื่อผู้หญิงของเพื่อนเล่าเรื่องราวแสนไร้น้ำยาของฝ่ายนั้น ปิยายิ้มวงหน้าซุกอยู่ที่อกอุดมด้วยไรขนของเดล ความร้อนแรงของปิยาทำให้เดลก้มลงตอบสนอง ใครจะเฉย เฉยก็โง่เต็มทน เดลคิดแบบนั้น
คนที่ทำผิดศีลธรรมไม่สนใจสิ่งใดต่างตักตวงความสุขที่ต้องการเหมือนกันไม่ระลึกผิดชอบชั่วดี ปิยามองเดลด้วยความเสน่หาหมดหัวใจ ผู้ชายคนนี้ให้ความสุขให้ตนเองได้จนแทบล้นเอ่อ ปิยาวาดฝันสักวันหนึ่งได้เคียงข้างกันอย่างเปิดเผย ทว่าเดลมองปิยาเพียงผู้หญิงร้อนแรงที่เขาจะเพิกเฉยไม่ได้ เมื่อหล่อนยื่นสะพานแห่งความสุขมาให้จำเดินข้ามไปหยิบจับตอบสนองเพื่อไม่ให้เสียเชิงชายก็เพียงเท่านั้น ทุกครั้งที่เดลสุขสมใบหน้าสาวน้อยลูกสาวคนใต้ร่างดันลอยมาให้เห็นเสมอ เขาต้องการผู้หญิงคนนั้น เดล คิดฝันถึงสิ่งที่ต้องการด้วยหัวใจเพ้อคลั่งรุนแรง จะดีแค่ไหนนะถ้านกน้อยแสนสวยมากรีดร้องครางใต้ร่างของตน...และคงไม่นานเกินรอฝันนั้นคงจะเป็นจริง
เช้าตรู่ตรัยได้รับการปรนนิบัติจากปิยาอย่างดีเหมือนทุกวัน แววตาชื่นชมจึงมองคนดูแลไม่ปิดบัง “คุณไม่ต้องการเด็กมาดูแลใกล้ชิดจริงหรือ คุณดูแลผมคงเหนื่อยน่าดู ผมเป็นห่วง” ตรัยถามเรื่องที่เคยคุยกันอีกครั้ง
ปิยาปิดตู้เสื้อผ้าเมื่อแต่งตัวให้ตรัยเรียบร้อย ชม้อยสายตา “ขอบคุณค่ะ คุณอย่าลำบากเลย คุณก็รู้ฉันเต็มใจดูแลคุณ”
จำต้องปฏิเสธแม้ต้องการความสะดวกสบายที่จะเพิ่มขึ้นเหลือเกิน สาเหตุเพราะตนเองนั้นมีความลับใหญ่หลวงที่ไม่อยากให้ใครล่วงรู้ได้นั่นเอง คนจงรักภักดีนั้นหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ปิยาจึงไม่มีวันเชื่อใจใครง่ายๆ ตรัยยิ้มในความมักน้อยของผู้หญิงตรงหน้า จากนั้นปล่อยให้ปิยานอนพักผ่อนเพราะเมื่อคืนตรัยทราบว่าปิยานั้นคงดึกเป็นแน่เพราะนั่งชมวิวสวยๆ อยู่นอกบ้านพัก ตรัยออกจากห้องไปแล้วกับคนติดตาม ปิยาได้แต่อารมณ์เสียเมื่อนึกความต้องการตนเองในเรื่องที่ปฏิเสธตรัยไป เมื่อก่อนนี้เพราะต้องการให้ปิ่นคณางค์มารับใช้ดูแลจึงกลับไปรับให้มาอยู่ด้วยกัน แต่สุดท้ายจำต้องปล่อยยายลูกนอกสายเลือดให้ออกไปอยู่ข้างนอกเพราะไม่ต้องการให้เด็กคนนั้นมารู้เรื่องความลับของตนและเดล เริ่มหงุดหงิดปิยาไม่อยากจะพักผ่อนจึงออกมารับลมนอกระเบียงมองดูทะเลแสนสวย เดลชู้รักก็ไม่อยู่เขาบอกว่าวันนี้มีธุระออกไปทำ เมื่อเซ็งท้องทะเลสวยๆ ที่เห็นคงทำให้ความเหงาความเครียดทุเลาลงได้บ้าง อย่างน้อยจนกว่าเดลจะกลับมานั่นเอง
ปิ่นคณางค์ดีใจเมื่อปรินทรอนุญาตให้ตนเองออกมาเปิดหูเปิดตาในย่านชอปปิงทาวน์ซึ่งอยู่ไม่ไกลที่พัก เงินจำนวนมากคนร่ำรวยวางไว้บนโต๊ะภายในห้องนอน ปิ่นคณางค์ก็ไม่ได้ตาลุกวาวอยากได้ ทำไมชายหนุ่มเข้าใจเรื่องนี้สักทีนะ ที่เป็นอยู่ก็อกไหม้ไส้ขมพอแล้ว ปิ่นคณางค์ไม่อยากเป็นคล้ายผู้หญิงอย่างว่าที่ใช้ร่างกายแลกเงิน ไม่ได้ดูถูกคนที่ทำอาชีพนี้หรอก แต่วิถีชีวิตคนเรานั้นแตกต่างกัน ชีวิตที่พบเจอในช่วงที่ผ่านไม่นานทำให้หญิงสาวได้คิดอะไรมากขึ้นกว่าแต่เก่าก่อน…
ตั้งแต่ก้าวเดินปิ่นคณางค์ไม่รู้เลยว่าทุกก้าวย่างของตนเองมีคนของปรินทรมองดูแลอยู่ตลอดเวลา
เดินชมโน่นนี่ได้สักพักเริ่มหมดแรงเดินจึงนั่งพักตรงร้านกาแฟบรรยากาศดี ระหว่างดื่มน้ำสอดส่ายสายตารอบๆ ถนนซึ่งผู้คนพลุกพล่าน พรุ่งนี้ปรินทรคงไม่ว่าหากเธอมาเดินชมเมืองชมของสวยๆ งามๆ อีก คิดว่าจะไปยังโบสถ์ยอดแหลมที่ต้องการเห็นมากเมื่อดูในภาพ แต่วันนี้ขอเดินชมแฟชั่นสวยๆ ก่อนแล้วกัน
…แฟชั่นของเมืองแห่งนี้ไม่น้อยหน้าอีกหลายที่ในโลกดูจากหน้าค่าตานักช๊อปหลายเชื้อชาติ สำหรับตนเองปิ่นคณางค์ไม่มีปัญญาซื้อของพวกนี้หรอก ที่สำคัญหญิงสาวเสียดายเงินหากจะต้องสูญเสียไปอยู่ในรองเท้าเพียงคู่เดียวซึ่งเทียบเท่าเงินเดือนสองสามเดือนของตนเองเลยทีเดียว หากเป็นเมื่อก่อนเธอคงไม่คิดมากเช่นนี้
อดไม่ได้เปรียบเทียบชีวิตอดีตกับปัจจุบันอีกครั้ง
กระทั่งคิดเพลินเสียงหนึ่งดังขึ้น จึงหันหน้าไปตามเสียง “ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าคุณมาทำอะไรที่นี่ บังเอิญจังเลย”
ได้ยินเสียงไม่ตกใจเท่าเห็นหน้าและแทบสำลักน้ำที่ยังอยู่ในปาก
เดล ! อย่าบอกนะว่าแม่มาด้วย จึงแหงนมองด้านหลังชายตัวสูงสีหน้ากรุ้มกริ่ม หากไม่เห็นแม่ใจที่อัดแน่นด้วยความกลัวมลายไป หลังจากนั้นจึงลุกขึ้น ไม่ลืมจ่ายค่าเครื่องดื่ม และคำนับให้คนที่ทักทายเพียงนิด แต่ก็อดคิดไม่ได้ เธอจะทำแบบนั้นทำไมกันนะ
“เดี๋ยวสิครับ” เดลยังตื้อไม่เลิก ถือวิสาสะจับแขนเธอเอาไว้
“ปล่อยนะ !” ปิ่นคณางค์จึงแหวใส่ นัยน์ตาบอกให้เดลรู้ว่าตนไม่พอใจ ไม่ต้องการให้เขาทำเช่นนั้น
“หยุดก่อนสิคุณ ผมแค่อยากคุยด้วยนะครับ”
“ฉันมา...ทำงานและตอนนี้ต้องขอตัว กรุณาปล่อย”
หญิงสาวตัดบทเดินไปอีกทางที่ผู้คนพลุกพล่าน และโล่งใจเหลือเกินที่ครั้งนี้ตนทำได้สำเร็จ เดลมองคนที่พึงใจสุดสายตา วันนี้สาวสวยที่หมายปองปล่อยผมยาวดำขลับเต็มกลางหลัง เรือนร่างบางได้สัดส่วนอกอวบ เอวคอดเล็ก สะโพกผาย ยิ่งมองยิ่งน่าชมชิด สายตามันวาวจ้องเก็บภาพร่างแน่งน้อยไว้ ยังไงตนเองก็ต้องได้เชยชมแม่พยศคนนี้ หนุ่มนักรักหมายมาดยกยิ้ม ว่าตนเองจะไม่พลาด
คนต้องการเที่ยวเพื่อลบความไม่รื่นรมย์ในหัวใจหมดสนุก รีบเดินกลับที่พัก ใบหน้างอเพราะอดคิดไม่ได้ว่าจะทำอย่างไรให้แม่ถอยห่างจากนายชีกอคนนี้ ความคิดแวบหนึ่งวิ่งเข้ามาเมื่อจำสายตานายนั่นที่มองตนเองได้ดี แต่หญิงสาวจำตัดออกไปเพราะคิดว่ามันจะยุ่งยากมากไปหากต้องทำแบบนั้น ให้หมดสิ้นหนทางก่อนเถอะปิ่นคณางค์แล้วค่อยเดินทางนั้นก็แล้วกัน
