EP.12 | เธอมันลูกเมียน้อย! แตกหัก (ห้ามพลาด)
วันต่อมา
ชฎาพรพามุกรดาไปยังตึกเก่าตามที่ธนัญญานัดหมายเอาไว้ โดยอ้างว่ามีธุระจะไปพบเจอกับเพื่อนเก่าแถวๆ นั้น
แน่นอนว่ามุกรดาก็ยอมเชื่อโดยไม่ได้เอะใจเลยว่าความสัมพันธ์ของเธอและจิราเมธกำลังจะถูกทำลายลงในอีกไม่ช้า
เมื่อวานหลังจากมีอะไรกับเขาเสร็จ ชายหนุ่มก็ขับรถมาส่งเธอหน้าปากซอย ก่อนจะกลับแม่เขาก็โทรเข้ามาพอดี ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรืออะไรที่เมื่อวานธนัญญาก็เรียกให้เขากลับไปนอนที่บ้านเหมือนกัน
ทั้งคู่ไม่ได้เอะใจเลยว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับพวกเขา รู้เพียงแค่ว่าโชคดีที่จิราเมธต้องกลับบ้านเพราะเขาจะได้ไม่ต้องนอนเหงาอยู่คนเดียว
หารู้ไม่ว่ามันคือหลุมพรางที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของเธอและเขาต้องเปลี่ยนแปลงไปตลาดกาล
“เพื่อนแม่นัดแม่มาทำอะไรในที่แบบนี้เหรอคะ” เธอถามพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความขนลุก ตึกร้างแห่งนี้มีสภาพที่น่ากลัวและทรุดโทรมมาก
“คะ…คือแม่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันจ้ะ…เห็นบอกว่ามีเรื่องสำคัญเขาผ่านมาแถวนี้พอดีเลยนัดเจอแม่ที่นี่” ชฎาพรสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะตอบ เธอมีอาการเลิ่กลั่กและประหม่าอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ได้อยากทำแบบนี้เลย แต่เธอทนเห็นลูกถูกสังคมประนามเหมือนเธอไม่ได้
“แต่เราก็นั่งรถมาไกลมากเลยนะคะเนี่ย” มุกรดาไม่เข้าใจว่าเหตุใดถึงไม่นัดกันในที่ที่ดีกว่านี้ เธอไม่ได้อะไรหรอก แค่รู้สึกไม่ประทับใจนิดหน่อย อุตส่าห์นั่งรถมาเกือบสามชั่วโมงแต่ดันมานัดเจอในที่แบบนี้น่ะหรือ
“เอาหน่าลูก ไม่นานหรอก” ผู้เป็นแม่พยายามประโลมลูกสาว ยิ่งเห็นแบบนี้ก็ยิ่งรู้สึกผิด เธอไม่เคยอยากทำร้ายหัวใจของลูกเลยสักครั้ง ทว่าครั้งนี้เธอไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ
ครืด~ ครืด~
โทรศัพท์ของชฎาพรดังขึ้นเมื่อมีข้อความใหม่ถูกส่งเข้ามา เธอหยิบมันขึ้นมาดูก็พบว่าธนัญญาเป็นคนส่ง
ธนัญญา : ออกมาได้ละ ลูกฉันมาถึงแล้ว
ชฎาพรผวาจนหน้าเสียเมื่อความบรรลัยเริ่มใกล้เข้ามาทุกนาที ร่างกายเธอสั่นเทา ลมหายใจติดขัด สายตาหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา
“แม่เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าซีดแบบนี้ล่ะคะ” มุกรดาเริ่มสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ เธอถามด้วยความเป็นห่วง บอกตามตรงว่ารู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย
แม่ของเธอดูแปลกไปตั้งแต่เมื่อวาน ถึงจะไม่ได้พูดแต่ก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะไม่เห็น เพียงแค่ไม่อยากซักถามให้แม่ลำบากใจเพราะคิดว่าถ้าท่านพร้อมท่านก็จะบอกกับเธอเอง
เธอกับแม่ไม่เคยมีความลับต่อกันอยู่แล้ว ไม่สิ เธอนี่แหละที่มี…
“ปะ…เปล่าลูก…มะ…แม่แค่ร้อนน่ะ”
“จะเป็นลมหรือเปล่าคะ”
“ไม่จ้ะ เอ้อมุก มุกรอแม่อยู่ตรงนี้ก่อนนะเดี๋ยวแม่จะเดินออกไปโทรหาเพื่อนสักหน่อยว่ามาถึงไหนแล้ว”
“ให้มุกเดินไปเป็นเพื่อนไหมคะ เผื่อแม่เป็นลมขึ้นมา” มุกรดาเป็นห่วงแม่มากเพราะชีวิตนี้เธอเหลือแม่เพียงแค่คนเดียว หากท่านเป็นอะไรขึ้นมาเธอคงจะอยู่อย่างไม่เป็นผู้เป็นคน
“ไม่เป็นไรลูกมุกรออยู่นี่แหละ แม่ไปแป๊บเดียว” ชฎาพรยิ้มจืดๆ พลางลูบต้นแขนลูกเบาๆ ก่อนจะปลีกตัวเดินออกไป
มุกรดามองตามแผ่นหลังของผู้เป็นแม่ไปสักพักแล้วดึงสายตากลับมาโฟกัสกับบรรยากาศโดยรอบ ระหว่างรอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหมายจะส่งข้อความหาจิราเมธ
ทว่า…
“มุก…นั่นมุกใช่ไหม?” เสียงคุ้นเคยของคนรักดังขึ้นใกล้ๆ ทำให้มุกรดารีบเงยหน้าขึ้นมอง เธอเบิกตาเล็กน้อยด้วยความดีใจปนความงุนงง เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็คือคนที่เธอกำลังนึกถึงเขาพอดี
จิราเมธ…
“พี่เมฆ นี่พี่เมฆมาที่นี่ได้ไงคะเนี่ย”
“พี่ต่างหากที่ต้องถามมุกมากกว่า ไหนเมื่อเช้าบอกว่ามีธุระกับแม่ไง”
“ก็นี่แหละค่ะธุระที่มุกบอก แม่บอกว่านัดเจอเพื่อนเก่าที่นี่น่ะค่ะเลยให้มุกมาเป็นเพื่อน”
“จริงเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็เหมือนพี่เลยน่ะสิ”
คำพูดของเขาทำเอาหัวคิ้วของเธอขมวดเข้าหากันเป็นปม
“เหมือนยังไงเหรอคะ?”
“แม่พี่ก็มาหาเพื่อนที่นัดไว้ที่นี่เหมือนกัน บังเอิญจังเลย” จิราเมธตอบยิ้มๆ เพราะคิดว่าจะถือโอกาสที่ได้เจอกันในวันนี้แนะนำให้เธอได้รู้จักกับครอบครัวเขาเสียเลย
ซึ่งผิดจากมุกรดาที่มีสีหน้าคิดไม่ตก ลางสังหรณ์บางอย่างบอกเธอว่ากำลังจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า
อย่าบอกนะว่าคุณแม่พี่เมฆก็มาที่นี่…
“มะ…หมายความว่ายังไงคะ”
“แม่พี่ก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน ดีจังเลยพี่จะได้ถือโอกาสนี้แนะนำให้มุกรู้จักกับแม่พี่” สีหน้าของจิราเมธยังคงรื่นเริง ไม่ได้สังเกตเห็นถึงความกลัวและความกังวลของแฟนสาวเลยสักนิด
“คะ…คือมุกไม่สะดวกน่ะค่ะ…ขอตัวกลับก่อนนะคะ” เธอรีบพูด ก่อนจะตัดบทสนทนาแล้วหันหลังเตรียมตัวจะเดินกลับออกไป ทว่าเธอกลับต้องชะงักอยู่กับที่เมื่อเส้นเสียงหนึ่งที่ไม่ได้ยินมาหลายปีดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“อ้าว คุณลูกสะใภ้จะรีบไปไหนเหรอจ๊ะ?” ร่างของธนัญญาที่นั่งอยู่บนรถวีแชร์ปรากฏขึ้นพร้อมกับธนันธรณ์ที่เป็นผู้เข็น
“คุณแม่มาพอดีเลย เมฆมีคนจะแนะนำให้รู้จัก” เขาคลี่ยิ้มแล้วเดินไปหามุกรดา จับมือเธอแล้วหมุนร่างเล็กให้หันหน้ากลับมาหาผู้เป็นแม่
“นี่มุกแฟนของผม ส่วนมุกนี่แม่พี่นะ”
มุกรดายืนตัวแข็งทื่อจนเกือบจะหยุดหายใจ เธอค่อยๆ เลื่อนฝ่ามือสั่นเทาขึ้นมาประนมไหว้อดีตนายจ้าง ดวงตากลมเคล้าน้ำตาแสดงออกถึงความหวาดกลัว
“สะ…สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีจ้ะ…นังลูกเมียน้อย!” ธนัญญาทำท่าเหมือนจะพูดดี ทว่าก็กลับกระแทกเสียงใส่เธอในประโยคหลัง ทั้งยังจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น
หัวใจของมุกรดากระตุกอย่างรุนแรง เธอหวิวโหวงในอกราวมันกำลังว่างเปล่า ภายในหัวอื้อตันจนคิดอะไรไม่ออก รู้แค่ว่าตอนนี้เธอไม่ควรอยู่ที่นี่ ทว่าก็กลับก้าวขาไม่ออก
“แม่! นี่แม่พูดอะไรครับ” จิราเมธหันไปขึ้นเสียงถามมารดาอย่างไม่พอใจ รู้ว่าแม่มีปมเรื่องเมียน้อย แต่แม่จะมาเที่ยวไล่ด่าคนอื่นแบบนี้ไม่ได้
“แม่ก็พูดความจริงน่ะสิตาเมฆ นังเนี่ยมันเป็นลูกของอีพรเมียน้อยพ่อแกที่ทำให้แม่ต้องพิการไปตลอดชีวิตนี่ไง!”
“ใช่ เมฆจำไม่ได้แล้วเหรอว่าครอบครัวนั้นทำอะไรกับเราเอาไว้บ้าง” ธนันธรณ์พูดเตือนสติน้องชาย
“ผมจำไม่เคยลืม แต่แม่กับพี่ฟ้านั่นแหละที่มั่ว เอาอะไรมาพูดว่ามุกเป็นลูกของนังเมียน้อยนั่น!” ชายหนุ่มระเบิดอารมณ์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งคำพูดของเขาทำเอามุกรดาสะเทือนใจอย่างรุนแรง
ชัดเจนแล้วว่าเขายังคงเกลียดแม่ของเธอมาก ความกลัวเพิ่มขึ้นทุกนาทีที่เธอยืนอยู่ตรงนี้ หากเขารู้ความจริงว่าเธอคือลูกเมียน้อยที่เขาเกลียด เขาจะยังรักอยู่หรือไม่…
“ถ้าเมฆไม่เชื่อ เมฆก็ลองถามมันดูสิ”
“มุกเคยบอกผมแล้ว ซึ่งผมไม่เชื่อ ผมรู้ว่าแม่กับพี่ฟ้าต้องบังคับให้เธอพูด”
“พี่เมฆ…แม่พี่กับคุณฟ้าไม่ได้บังคับมุกหรอกค่ะ…” น้ำเสียงของเธอเริ่มสั่นเครือ เมื่อหยดน้ำใสๆ ตีรื้นขึ้นมาคลอเต็มสองเบ้า
“หมายความว่ายังไงมุก” จิราเมธเริ่มสับสนและชักไม่แน่ใจแล้วว่าสรุปเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไรกันแน่
ทำไมเธอถึงได้อยากจะเป็นลูกเมียน้อยคนนั้นนัก หรือความจริงแล้วเธอไม่ได้ ‘อยาก’ แต่เธอ ‘เป็น’ จริงๆ
“ก็หมายความว่ามุกรดาคือลูกสาวของฉันยังไงล่ะคะ” เมื่อถึงเวลา ชฎาพรที่หลบอยู่หลังกำแพงก็เดินออกมาประกาศความจริงเพื่อย้ำเขาอีกครั้ง
“นังเมียน้อย! เธอมาเสนอหน้าหาผัวอะไรที่นี่!” ชายหนุ่มกัดฟันกรอด เผลอหลุดปากเรียกแม่ของเธอจากก้นเบื้องของความโกรธ
เพียะ!!
มุกรดาเดินเข้าไปตบหน้าของแฟนหนุ่มอย่างรุนแรง
“พี่เมฆคะ! นี่แม่มุกนะ” แม้แม่เธอจะเคยเป็นเมียน้อยพ่อเขาจริงๆ แต่นั่นมันก็แค่อดีต แล้วอีกอย่างแม่เธอก็แก่กว่าเขามาก อย่างน้อยๆ ก็น่าจะให้เกียรติกันบ้าง
“มุก! นี่มุกกล้าตบพี่เหรอ!” เขาหันขวับกลับมามองเธออย่างไม่พอใจ ความโกรธเกรี้ยวทวีเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
“มุกจะทำมากกว่านี้อีกถ้าพี่ยังต่อว่าแม่มุกไม่เลิก!”
“หมายความว่ามุกเป็นลูกของผู้หญิงคนนี้จริงๆ ใช่ไหม!”
“ใช่ค่ะ! มุกเป็นลูกแม่ แม่ที่เคยเป็นเมียน้อยพ่อของพี่!!”
“มุก!!” จิราเมธยกมือขึ้นกุมหน้าอก เพราะรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจอย่างรุนแรงราวกับถูกเธอเหยียบขย้ำมันด้วยเท้า เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามุกรดาจะเป็นลูกของนังเมียน้อยนี่จริงๆ
ทีแรกก็คิดว่าแค่ขำๆ แต่พอมีการออกมายืนยันรวมไปถึงการที่เธอออกตัวปกป้องชฎาพรมันก็ชี้ให้เห็นชัดแล้วว่า เธอคือลูกเมียน้อย ของพ่อเขาจริงๆ
“ขอโทษนะคะที่ทำให้พี่เมฆต้องผิดหวัง แต่มุกเป็นลูกของแม่จริงๆ ค่ะ” เธอพูดเสียงแผ่วลง เพราะถึงแม้จะโกรธที่เขาต่อว่าผู้เป็นแม่แบบเสียๆ หายๆ ทว่าในขณะเดียวกันก็เข้าใจหัวอกของเขา
เธอเองก็เสียใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดน้อยไปกว่าเขาเลย
“มุก! ทำไมต้องเป็นแบบนี้วะ!!” เขาตรงเข้าไปเขย่าร่างเธออย่างรุนแรงด้วยความผิดหวังเสียใจ “ทำไมต้องเป็นแบบนี้วะ!! ทำไม!!” ชายหนุ่มแทบจะคลุ้มคลั่ง บาดแผลในครั้งนี้ทั้งลึกทั้งใหญ่จนใจเขาแทบรับไว้ไม่อยู่
“มุกขอโทษ…ฮึก…มุกขอโทษจริงๆ” หยดน้ำตาของหญิงสาวหลั่งไหลออกมาเป็นสาย เธอปวดร้าวจนเจ็บหน่วงในอก มันทรมานเหมือนใจจะขาดเสียให้ได้
“เก็บคำขอโทษของเธอเอาไว้เถอะมุกรดา ต่อไปนี้ฉันกับเธอเราไม่เคยรู้จักกัน สำหรับฉัน…เธอก็มันแค่ลูกเมียน้อย!!” กล่าวจบจิราเมธก็รีบก้าวฉับๆ เดินไปขึ้นรถ ก่อนจะบึ่งออกไปด้วยความเร็วที่เกินมาตราฐาน
มุกรดาพยายามวิ่งตามไป ทั้งๆ ที่รู้ว่าตามอย่างไรก็ตามไม่ทัน ทว่านาทีนี้เธอไร้สติเกินกว่าจะตรองอะไรให้ดี
“ทำไมวะ ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้!!” จิราเมธสบถอย่างโกรธจัด เขามองทางข้างหน้าก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนเบาะข้างคนขับ มันแผดเสียงร้องเพราะเธอโทรมาไม่ยอมหยุด
“จะโทรทำไมนักหนาวะ!” เขาหยิบมันขึ้นมากดตัดสายแล้วปิดเครื่องทันที จากนั้นก็เงยหน้ากลับขึ้นมองเส้นทางถนน
ชายหนุ่มเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเมื่อพบว่ามีรถใหญ่กำลังเลี้ยวออกมาจากซอยข้างหน้า เขารีบเหยียบเบรกสุดแรงเกิด ทว่าทุกอย่างก็สายเกินกว่าที่จะแก้…
“เฮ้ยยยยยยย!!”
ปี๊ดดดดดดดด!! โครม!!
