บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 ชนแก้ว!

ฝ่ามือใหญ่ถูกปิดลงมาบนใบหน้าของอริณทันทีที่เดินเข้ามาในห้องนอน คินต์ต้องรีบเอาตัวเองบังพี่สาวข้างบ้านเอาไว้ คนในห้องต่างตื่นตกใจที่มีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาในห้อง

“ริณ!” สองที่อยู่บนเตียงนอนรีบคว้าเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นขึ้นมาสวมใส่

“มึงไม่ต้องเข้ามาใกล้!” คินต์ชี้หน้าสองอย่างเอาเรื่อง ลำแขนข้างหนึ่งสวมกอดอริณเอาไว้แน่น รับรู้ได้ถึงความสั่นสะเทือนจากร่างบางที่อยู่ในอ้อมแขน

“ริณ! ริณฟังพี่ก่อนนะครับ! ริณ!” สองพยายามเดินเข้ามาใกล้เพื่อจะคว้าเอาตัวของแฟนสาว

สายตาของคินต์มองสำรวจไปรอบ ๆ ห้อง กลิ่นบุหรี่และกลิ่นยาเสพติดที่เขาเคยได้สัมผัสไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรบ้างขึ้นในห้องนี้ คนในห้องมากกว่าสี่คนกำลังนั่งอยู่คนละมุม บนเตียงนอนใหญ่ยับยู่ยี่ไม่ต้องบอกก็พอรู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น

“พี่อยากกลับแล้ว” อริณซุกหน้าลงที่อกของคินต์ เธอร้องไห้แต่ไม่มีเสียง ไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองเจอในวันนี้...ช่างเจ็บปวดเหมือนถูกมีดกรีดลงมากลางหัวใจ

“เรากลับกันนะ ผมจะพาพี่กลับ” เขาสวมกอดเธอเอาไว้แนบอกอย่างหวงแหน

กระเป๋าเงินสีดำถูกโยนลงไปบนพื้น ก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกมาจากห้อง แม้สองจะรั้งให้อยู่พูดคุยให้เข้าใจกันก่อน อริณก็ไม่ยอมอยู่ต่อเพราะภาพด้านหน้านั้นช่างบาดตาบาดใจของเธอเหลือจะรับไหว

“พี่ต้องทำไงต่อ...” เธอหันมองน้องชายข้างบ้านพร้อมกับดวงตาที่แดงก่ำ “ไม่คิดเลยว่า...จะเจอแบบนี้ ฮื้อ ๆๆๆ” เธอร่ำไห้ออกมาเมื่อนั่งอยู่บนรถสองต่อสองกับคินต์

“เรากลับกันก่อน เรื่องอื่นพี่ค่อย ๆ คิดแล้วกัน” เขาขับรถออกจากคอนโดของสองอย่างรวดเร็ว

ภายในรถมีเสียงร้องไห้ดังขึ้นมาอยู่ต่อเนื่อง คินต์กลับนั่งเงียบปล่อยให้อริณร้องไห้จนกว่าจะพอใจ เขาไม่บอกให้เธอหยุดร้องและเลิกเสียใจกับความรักในครั้งนี้ เพราะเขาเคยผ่านมันมาแล้วจึงรู้ดีว่า...แม้คำพูดปลอบใจจะสวยหรูมากเพียงใด สุดท้าย...มันก็ไม่ได้ทำให้ความเจ็บปวดลดน้อยลง

“เรากลับบ้านกันดีไหม” อยู่ ๆ คินต์ก็เอ่ยขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้อริณที่กำลังร้องไห้อยู่รีบเช็ดน้ำตา “กลับบ้านกัน ที่ร้านก็มีพนักงานอยู่พี่ไม่ต้องห่วงหรอก”

“แต่คินต์ต้องเข้าเรียนไม่ใช่เหรอ” เธอปาดน้ำตา

“แค่พี่บอกว่าอยากกลับ ผมก็พร้อมจะพาพี่กลับ เรื่องเรียนไม่ต้องห่วงช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงสอบสักหน่อย” เขาหันมายิ้มก่อนจะหันกลับไปมองทางข้างหน้า ที่ตอนนี้มีเพียงรถยนต์ของเขาวิ่งอยู่เพียงคันเดียว

“ไม่กลับหรอก ถ้ากลับก็ถูกคนที่บ้านถาม” เธอส่ายหน้าปฏิเสธอย่างเอาเป็นเอาตาย

“ผมปล่อยให้พี่อยู่คนเดียวไม่ได้หรอก อย่างน้อย ๆ กลับบ้านก็ยังมีคนอยู่ด้วย มีเพื่อนดีกว่าอยู่คนเดียวนะครับ ไม่งั้นคืนนี้ผมจะอยู่เป็นเพื่อนพี่เอง ผมเป็นห่วงพี่จริง ๆ นะ”

“ก็ได้” เธอพยักหน้าตอบรับ “นายว่า...นี่เป็นอีกเหตุผลหรือเปล่า ที่เขาไม่เคยทำอะไรพี่เลย”

“ก็อาจใช่” ภาพของสองในห้องนอน และความเร่าร้อนกับเพศเดียวกันฉายชัดขึ้นมาในหัวทันที “คาดไม่ถึงจริง ๆ เนอะ” เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าแฟนของอริณจะมีรสนิยมแบบนี้

“นายยังคาดไม่ถึง ฉันยิ่งกว่าอีก มันพูดไม่ออกเลยมันจุกอยู่ตรงนี้” เธอใช้มือทุบลงไปที่อกด้านซ้าย

“พอได้แล้วครับ พี่จะทำร้ายตัวเองทำไม” เขารีบตีไฟเลี้ยวเข้าข้างทาง “พี่มีผมอยู่นะ ผมจะอยู่ข้าง ๆ พี่ไม่ไปไหน อย่าทำร้ายตัวเองเลยนะครับ พี่เจ็บ...แต่ผมเจ็บกว่า...”

“......” อริณมองหน้าของเขาพร้อมกับน้ำตานองใบหน้า

คินต์จอดรถใต้คอนโดของตัวเอง เขาไม่รู้ว่าอริณพักอยู่ที่ไหนเพราะเธอไม่เคยให้เขารู้ที่อยู่ เขาเองก็ไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเองเธอเช่นกัน เพราะอยากให้พี่สาวข้างบ้านสบายใจ และเชื่อว่าพวกเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก

เขาอุ้มเธอที่กำลังนอนหลับเอาไว้ในอ้อมแขนก่อน อุ้มตรงขึ้นไปบนห้องขนาดกลาง ที่เป็นอะพาร์ตเมนต์ที่ดูใหม่เหมือนพึ่งสร้างเสร็จเมื่อไม่นาน ภายในห้องมีเตียงนอนขนาดหกฟุต ตู้เสื้อผ้าและเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ที่จำเป็น พื้นที่ในห้องก็ไม่ได้คับแคบมากนัก เหมาะสำหรับพักอยู่ลำพังหรือไม่เกินสองคน

ร่างบางถูกวางลงบนเตียงนอนอย่างนุ่มนวล คินต์มองใบหน้าที่เปื้อนด้วยคราบน้ำตา เขากัดฟันอย่างเคืองโกรธเมื่อนึกถึงใบหน้าชายคนรักของอริณ แต่อีกด้านในส่วนลึกของจิตใจกลับกำลังลิงโลดดีใจ

“คินต์” อริณลืมตาขึ้นช้า ๆ “ที่ไหนเหรอ?”

“ห้องผมเอง พี่นอนหลับผมเลยไม่อยากปลุก ไปอาบน้ำก่อนไหม เดี๋ยวผมหาเสื้อผ้าให้เปลี่ยน พี่หิวหรือเปล่าเดี๋ยวผมลงไปซื้อของกินให้ ข้างหน้ามีร้านสะดวกซื้อ”

“ขอเบียร์สักกระป๋องได้ไหม” เธอเอ่ยเสียงเบา

“แค่กระป๋องเดียวจะเมาได้ไง ตอนนี้ที่ไหนจะมีขาย แต่ที่ห้องผมมีอย่างอื่นที่แรงกว่านะ” เขายิ้มแล้วเดินไปเปิดตู้เย็น ด้านในมีน้ำดื่มหลายขวดพร้อมกับเหล้าที่เปิดเอาไว้แล้วถูกโยนเข้ามาแช่ในตู้เย็น

“อันนั้นก็ได้” เธอชี้ไปที่เหล้าข้างฝาตู้เย็น

“อันนี่เหรอ?” คินต์ยกมันขึ้นมาถามว่าเขาหยิบถูกขวดหรือเปล่า “ไม่มีโซดานะ มีแต่น้ำเปล่า หรือจะดื่มแบบไม่ต้องผสม” เขาไม่เอ่ยห้ามเพราะสภาพจิตใจของอริณคงแย่มากจนอยากพึ่งพาสิ่งเหล่านี้

“แบบไหนก็ได้” เธอไม่เรื่องมากขอแค่กลืนมันลงท้อง ทำตัวเองให้เมาจะได้นอนหลับอย่างไม่ต้องกังวลในคืนนี้

“งั้น...ผมลงไปซื้อของแล้วกันพี่จะเอาอะไรเพิ่มไหม?” เขาวางขวดเหล้ากลับเข้าตู้เย็นตามเดิม หากเป็นเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ร้านสะดวกซื้อก็คงขายในเวลานี้

“ไม่เอา...” เธอตอบแล้วส่ายใบหน้า สายตาดูเหม่อลอยอย่างเห็นได้ชัดเจน

“งั้นพี่อาบน้ำรอผมแล้วกัน นี่เสื้อผ้าเปลี่ยน ผ้าเช็ดตัวในห้องน้ำที่หยิบใช้ได้เลยนะ” เขาพูดจบแล้วรีบหันหลังเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ไม่อยากปล่อยให้อริณอยู่เพียงลำพัง

สายน้ำเย็นจากฝักบัวไม่ได้ทำให้ร่างกายดูสดชื่นขึ้น เธอยังคงปล่อยน้ำตาแห่งความเสียใจออกมาปะปนกับสายน้ำ อริณได้ยินเสียงเคาะประตูห้องน้ำจากด้านนอกจึงขานตอบออกไป แล้วรีบอาบน้ำให้เสร็จก่อนจะพบกับคินต์ที่กำลังจัดของเข้าตู้เย็น

“ซื้ออะไรมาเยอะแยะ จะกินหมดเหรอ” เธอมองของที่วางอยู่บนโต๊ะ

“ของพี่ทั้งหมด ถุงนี้ของใช้พี่ ผมซื้อเท่าที่ผมคิดออก” เขายื่นถุงไปตรงหน้าของอริณ เมื่อเปิดออกดูก็พบกับของใช้ที่ใช้ในชีวิตประจำ “ผมซื้อผิดเหรอ แต่ผมแน่ใจนะว่าซื้อมาถูก”

“รู้ได้ไง นายเข้ามานั่งในหัวพี่เหรอ” แน่ใจว่าไม่เคยบอกเล่าเรื่องเหล่านี้ให้เขาได้รู้

“เรื่องของพี่...ผมรู้ทุกอย่างแหละ แม้กระทั่งไซซ์เสื้อในพี่ผมยังรู้เลย แต่ตอนนี้ผมชักไม่แน่ใจว่ามันใหญ่ขึ้นกี่ไซซ์?” เขายิ้มกวน ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วมาใส่น้ำแข็ง ชงเหล้าให้เธออย่างชำนาญ

“ชนแก้ว!” เธอยื่นแก้วเหล้าไปตรงหน้าของคินต์ เสียงแก้วกระทบกันดังขึ้นอยู่หลายครั้ง อริณยกซดเหมือนคนกระหายน้ำติดต่อกันถึงสองแก้วรวด ไม่มีเสียงเอ่ยห้าม

“เมาแล้วระวังผมจับปล้ำนะ” คินต์พูดเล่น แต่อีกฝ่ายกลับหรี่ตามองแล้วใช้มือฟาดลงมาที่แขนของเขา

“นายไม่ทำหรอก ฉันเป็นพี่สาวนะ น้องชายกับพี่สาว...ไม่มีวันร๊ากก กานนนได้หรอกกก” เสียงของอริณเริ่มยืดยาน แสดงออกอาการบอกว่าตอนนี้เธอกำลังมีสติไม่เต็มร้อย

“เราคนละพ่อละแม่ จะเป็นพี่น้องกันจริง ๆ ได้ไง แต่เวลาพี่เมาก็น่ารักนะ แถม...น่าเอาด้วยแหละ” เขามองไปยังคอเสื้อยืดที่กว้างจนเห็นร่องนมขาว ๆ ของเธอ ในอกมันเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน คงเพราะฤทธิ์ของเหล้าแน่ ๆ เลือดในกายถึงได้ร้อนแบบนี้!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel