บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

“ไม่ดีกว่าจ๊ะ พอดีว่าคืนนี้พี่ต้องไปทำธุระให้นายเขาในเมืองน่ะ ขวัญเองก็อย่าลืมลงกลอนล็อคประตูให้แน่นหนาด้วยล่ะ อยู่กันแค่สองคนแม่ลูกแบบนี้มันอันตราย พี่เป็นห่วง” ชัยเอ่ยบอกหญิงสาวอย่างอดห่วงไม่ได้ ไม่รู้ว่าทำไมเจ้านายของเขาต้องให้สองแม่มาลำบากลำบนอยู่กันตามลำพังเอาแบบนี้

ทั้งๆ ที่น่าจะพาทั้งสองคนไปอยู่ที่บ้านใหญ่ด้วยกันก็สามารถทำได้ตลอดเวลาเลยแท้ๆ แต่เจ้านายของเขาก็กลับไม่ทำ

“จ๊ะพี่ ขับรถดีๆ นะจ๊ะ” มิ่งขวัญเอ่ยตอบก่อนจะมอบรอยยิ้มสดใสให้ชายหนุ่มไป ซึ่งเธอไม่อาจรู้เลยว่าภาพที่กำลังส่งยิ้มหลานละมุนไปให้ชายอื่นอยู่นั้นถูกจับตามองด้วยใครอีกคนที่ได้แต่ยืนนิ่งอยู่บนระเบียงไม้ชั้นสองของตัวบ้านด้วยท่าทางไม่พอใจอย่างถึงที่สุดกับภาพตรงหน้าที่บังเอิญมาเห็นเข้า

ชายหนุ่มสบถได้เพียงไม่นานก็ต้องกระตุกยิ้มเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นไฟเลี้ยวจากรถของแขกที่เขาเอ่ยชวนมารับประทานอาหารค่ำด้วยกันอยู่ไม่ไกล ไม่นานจึงส่งเสียงเรียกสาวใช้ให้เข้ามาหาพร้อมกับเอ่ยปากสั่งบางสิ่งบางอย่างออกไป

อีกด้านหนึ่ง

“มะ...เมื่อกี้พี่แววว่ายังไงนะจ๊ะ!” มิ่งขวัญเอ่ยย้อนถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูเมื่อจู่ๆ สาวใช้อย่างแววดาวจากบ้านหลังใหญ่ข้างๆ ก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหากันพร้อมกับเอ่ยบอกบางสิ่งที่เจ้านายผู้กุมอำนาจของทุกสิ่งๆ ที่นี่ฝากให้มาบอกเธอและลูกสาว

ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เธอไม่คาดคิดเลยว่ามันจะมีวันนี้เกิดขึ้น ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยินจนต้องร้องถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้เผลอฟังผิดพลาดไป

“ก็คุณวีน่ะสิ ใช้ให้พี่มาตามขวัญกับน้องพลอยไปทานข้าวที่บ้านหลังใหญ่ด้วยกัน รีบเข้าเถอะประเดี๋ยวแกจะเปลี่ยนใจขึ้นมา ขานั้นเขายิ่งอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ด้วย” มิ่งขวัญพยักหน้ารับอย่างรวดเร็วก่อนจะหันไปปลุกลูกสาวให้ตื่นขึ้นเพื่อไปรับประทานอาหารเย็นกับผู้เป็นพ่อที่ไม่รู้ว่าวันนี้เขาเผลอไปกินอะไรผิดสำแดงมารึเปล่าถึงได้ให้คนมาตามเธอกับลูกไปทานข้าวด้วยกันแบบนี้ ทั้งๆ ที่ปกติแล้วเขาไม่เคยจะเหลียวแลกันเลยสักนิดว่าเธอจะกับลูกอยู่กันยังไงหรือวันๆ หนึ่งจะมีอะไรตกถึงท้องกันบ้าง

“เรากำลังจะไปไหนกันเหรอคะคุณแม่” เด็กน้อยเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อพบว่าตัวเองกำลังถูกจูงไปยังที่ไหนสักแห่งแทนที่จะได้นั่งทานข้าวเย็นกันสองคนแม่ลูกในบ้านหลังน้อยเหมือนกับทุกวันที่ผ่านมา

“เรากำลังจะไปทานข้าวกับคุณพ่อค่ะลูก น้องพลอยต้องทำตัวดีๆ ไม่ดื้อนะคะ คุณพ่อจะได้รัก” เด็กสาวพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเดินตามแรงจูงของผู้เป็นแม่ไปจนถึงบ้านหลังใหญ่ของผู้เป็นพ่อในเวลาต่อมาด้วยความตื่นเต้นดีใจเพราะไม่บ่อยนักที่เธอและแม่จะได้รับอนุญาตให้มาที่นี่

ที่ที่มีชิงช้าของเล่นสุดโปรดถูกวางเอาไว้อยู่ตรงทางเข้าบ้าน

รอยยิ้มที่เคยปรากฏลงบนใบหน้าของมิ่งขวัญเลือนหายไปแทบจะทันทีที่มาถึงแล้วพบว่าทัดเทพนั้นไม่ได้ชวนแค่เธอกับลูกสาวมาทานอาหารด้วยกันเท่านั้น แต่ข้างกายของเขาในตอนนี้ยังมีรุ้งมณีกับหนูน้อยหยกฟ้าแม่ม้ายลูกติดเจ้าของไร่ส้มข้างๆ นั่งเคียงคู่อยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวถึงได้เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้ให้คนไปตามเธอกับลูกมาที่นี่ มาเพื่อที่จะได้เห็นเขาทำดีกับคนอื่นแต่กลับเมินเฉยต่อคนของตัวเองเหมือนที่ชอบทำอยู่เสมอๆ

“มาถึงแล้วก็หาที่นั่งสิ! จะมัวยืนเฉยกันอยู่ทำไม!!” เสียงเข้มต่อว่าเมื่อหันมาเห็นสองแม่ลูกยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง และเสียงนั้นมันก็ดังพอที่จะเรียกเอาสติของมิ่งขวัญให้วกกลับเข้าที่ก่อนหญิงสาวจะกล่ำกลืนฝืนใจพาลูกสาวไปหาที่นั่งที่ทั้งหมดเหลือว่างเอาไว้ให้เธอและลูกสาวอย่างเงียบเชียบ

“มากันครบแล้วก็สั่งเด็กให้ยกอาหารออกมาได้เลยแวว หนูหยกหิวข้าวจะแย่แล้วไม่เห็นรึไง!” ทัดเทพหันไปสั่งสาวใช้ข้างกายก่อนจะหันกลับไปให้ความสนใจหยกฟ้าลูกติดสามีเก่าของรุ้งมณีเมื่อพูดจบ ภาพของชายหนุ่มที่กำลังเอื้อมมือไปลูบหัวเด็กสาวที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเด็กอีกคนที่ได้แต่นั่งมองดูภาพตรงหน้าตาละห้อยนั้นสร้างความปวดหนึบเข้าที่กลางใจของมิ่งขวัญได้เป็นอย่างดี

หญิงสาวละสายตาจากออกมาก่อนจะหันกลับมาส่งยิ้มให้ลูกสาวตัวเองพลางให้กำลังใจ ทั้งๆ ที่ลึกๆ แล้วกำลังภาวนาให้การรับประทานอาหารจบสิ้นลงไปไวๆ เพื่อที่เธอจะได้พาตัวลูกสาวหลบไปให้ไกลจากคนใจร้ายที่ชอบตีค่าความรู้สึกของคนอื่นเป็นเพียงของเล่นแสนสนุกของตัวเองพวกนี้เสียที!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel