ตอนที่ 1 ใจของคน
“ใครมาหาปันน่ะ” ไพรภูมิเดินเข้ามาในบ้าน เขาเห็นหลังของคีรยาไว ๆ หล่อนคงจะตั้งใจหลบหน้าของเขาแน่ ๆ
คีรยารู้ดีว่าไพรภูมินั้นไม่ค่อยจะชอบหน้าเธอสักเท่าไรหรอก จะไปทางค่อนข้างเกลียดด้วยซ้ำ
“แยมค่ะ” สีหน้าของปันฐิตาบอกกับไพรภูมิว่า คีรยามาหาคงจะนำพาเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจมาให้ภรรยาของเขาอีกแน่ๆ
“มาขอยืมเงินหรือ”
“เอ่อ” ท่าทีที่อ้ำอึ้งอึกอัก ทำให้ไพรภูมิเข้าใจผิดไปกันใหญ่
“มายืมเงิน” สายตาของไพรภูมิเต็มไปด้วยความดูถูก
คีรยามีฐานะที่ต่ำต้อย และมาจากครอบครัวที่ไม่มีอันจะกิน ทำให้ไพรภูมิอดที่จะดูถูกคีรยาไม่ได้
“แยมไม่ได้มาสร้างปัญหาอะไรทั้งนั้นค่ะ พี่เชนอย่าเข้าใจผิด”
“หึ-หึ เข้าใจผิดอย่างนั้นหรือ พี่คิดว่าพี่เข้าใจถูกมากกว่า แม่ผู้หญิงเห็นแก่เงินคนนั้น ปันทำเหมือนไม่รู้ว่าหล่อนคนนั้นเห็นปันเป็นบ่อเงินบ่อทอง เหมือนปลิงที่คอยดูดเอาเงินจากปัน”
“พี่เชนคะ พี่พูดให้ร้ายเพื่อนของปันเกินไปแล้วนะคะ แยมไม่ได้เป็นคนแบบนั้น” แววตาดูเศร้าและสลดลงไป
“ออกตัวแทนเพื่อนอีกแล้ว เพื่อนดี ๆ ที่เขาขอเงินปันใช้ พี่ขอถามเหอะ จะมาอ้างว่าเป็นเพื่อนเล่นอยู่ข้างบ้านกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ มันไม่ใช่อะ”
ภรรยาได้แต่ส่ายหน้า ความอคติที่ไพรภูมิมีต่อคีรยาหนักหนาสาหัสยิ่งนัก คงยากที่จะทำให้เขาเปลี่ยนใจ
“เอาเถอะ ถึงปันจะพูดยังไง บอกพี่ว่าแยมไม่ได้มายืมเงิน พี่ก็เชื่ออย่างนั้นอยู่ดี ถ้าพี่เชนสบายใจที่จะคิดแบบไหน ก็ให้พี่คิดไปแบบนั้นแหละค่ะ เปล่าประโยชน์ที่ปันจะแก้ตัว” เธออิดหนาระอาใจ การต้องมานั่งคอยให้ไพรภูมิสอบปากคำแบบนี้ มันน่าเบื่อเหมือนกัน
“นี่ปันโกรธพี่เหรอ” เขาจ้องมองใบหน้าของภรรยาที่หงิกงอ และมองเขาแบบไม่ชอบใจ
“เปล่าค่ะ เพียงแต่เมื่อไรพี่จะมองแยมให้ดีขึ้นได้บ้างคะ”
“ไม่มีวัน” ไพรภูมิเสียงแข็ง เขายังคงคิดว่าคีรยาจะมายืมเงิน แต่เรียกว่ายืมก็คงไม่ถูก เพราะไม่เห็นเคยคืนมาให้ หลายต่อหลายครั้งที่ภรรยาของเขาได้หยิบยื่นเงินทองแก่คีรยา น่าจะมากกว่ายี่สิบครั้ง เขาจึงค่อนข้างมั่นใจว่า ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน
“ทำการทำงานอะไร ถึงได้ไม่มีเงินเหลือ เจอทีไร คือมาทำให้ปันเดือดร้อนทุกที พี่เกลียดนักเกลียดหนา ก็ยังมาให้เห็นหน้าอีก โธ่... แถมยังมาเช่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ กันกับเรา ห่างไปแค่สองซอย คิดได้ยังไงกันก็ไม่รู้ หึ... อีกอย่างที่พี่ไม่ชอบมาก ๆ ก็คือหล่อนชอบทำตัวสนิทสนมกับคุณแม่ของพี่”
เขามองไปยังบ้านหลังที่ปลูกห่างออกไป ซึ่งได้สร้างให้มารดาอยู่กับคนรับใช้อีกสี่คน ไพรภูมิได้สร้างบ้านบนเนื้อที่เปล่าที่เป็นมรดกตกทอดมาจากคุณพ่อของเขา ที่นี่มีพื้นที่กว้างมากพอที่จะสร้างบ้านได้หลายหลัง เขาจึงได้สร้างบ้านให้กับคุณแม่ของเขาอยู่ในบริเวณเดียวกัน
อีกอย่างที่ไพรภูมิตัดสินใจไม่ให้มารดาอยู่ร่วมบ้านหลังคาเดียวกันกับภรรยาของเขา หลังจากที่มารดารู้ว่าปันฐิตาไม่สามารถจะมีลูกให้กับไพรภูมิได้ ท่านก็ไม่ค่อยชอบหน้าสะใภ้คนนี้เอามาก ๆ
ไพรภูมิเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของท่าน ท่านจึงผิดหวังและเสียใจมาก ๆ เพราะความที่อยากจะอุ้มหลาน ทั้งสองสามีภรรยาเสียเงินเสียทองไปจัดการทำเด็กหลอดแก้ว ผสมเทียมครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ทุกอย่างก็ฟาวล์ เสียเงินไปเปล่า ๆ ปลี้ ๆ
เสียเงินมากมายเท่าไรไม่ว่า แต่ลูกสะใภ้ไม่มีหลานให้ได้นี่สิ ทำให้คุณชวนชมถึงกับไม่มองหน้ามองตาของเธอ นางยังบ่นกับลูกชายหลายครั้งว่า ถ้ามีลูกด้วยกันไม่ได้ ก็ควรจะเลิกกันไปเสีย
“เชนยังคงหาเมียใหม่ได้สบาย ๆ และทั้งสองคนอายุยังน้อย ๆ ยังมีเวลาหารักใหม่ได้อีกด้วย การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เติบโตมันต้องใช้ระยะเวลา และก็ใช้เงิน ถ้าชักช้า จะทำให้ทุกอย่างดูยุ่งยากไป อีกอย่างแม่ก็จะอยู่ได้อีกสักกี่วัน กี่โมง ก็ไม่รู้ แม่อาจจะตายวันตายพรุ่งก็ได้ เชน... แม่อยากอุ้มหลาน”
คำพูดแบบนี้ของมารดาพูดกรอกหูลูกชายอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไพรภูมิเองรู้สึกปวดร้าวในหัวใจ
นั่นก็แม่ นี่ก็เมีย ซึ่งเขาอยู่ตรงกลาง ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีของแม่ผัวกับลูกสะใภ้มันก็ทำให้ครอบครัวและความสัมพันธ์ของพวกเขาสั่นคลอน
ปันฐิตาเองรู้สึกเสียใจมาก ๆ จนทำตัวห่างเหินกับแม่สามี แล้วหมางเมินกับเขาอีกด้วย ทั้งที่จริงเธอรักไพรภูมิมาก
ปันฐิตาเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของเขา และต่อน้ำคำ เธอจึงเดินเข้าไปในครัว ก่อนจะกลับมาพร้อมกับน้ำดื่ม
“น้ำดื่มเย็น ๆ ค่ะ ดื่มน้ำเสียก่อนนะคะพี่เชน เผื่อพี่จะใจเย็นลงได้ ปันไม่เข้าใจเลยนะคะว่า ทำไมพี่ถึงจงเกลียดจงชังแยมนักหนา ทั้งที่ปันบอกพี่หลายครั้งแล้วว่า แยมเป็นเพื่อนรักของปัน และก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุด แยมช่วยเหลือปันทุกอย่าง”
ไพรภูมิพูดไปพลางกลืนน้ำลายลงคอ เขาจะเล่าให้เธอฟังได้อย่างไรว่า ในคืนนั้นเมื่อสี่ปีที่แล้ว เขานั้นเกือบได้เสียกับคีรยา ผู้หญิงแพศยาที่บังอาจมายั่วยวนเขา โชคดีที่เขาได้สติขึ้นมาเสียก่อน ไม่อย่างนั้น เขากับปันฐิตาคงจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่งงานกันแบบนี้ ชายหนุ่มเฉไปมองทางอื่น ถอนหายใจยาว
“เอาเป็นว่า ปันขอเถอะค่ะ ครั้งที่ร้อย ปันขอแยมเอาไว้สักคนนะคะ ปันไม่ได้ขอร้องให้พี่ทำดีกับแยม แต่พี่เพียงแต่เลิกพูดถึงแยมแบบนั้นเสียที” ท่าทีอ่อนใจ
“ฮะ! นี่ปันถึงกับชักสีหน้าใส่พี่ เพียงเพราะพี่พูดถึงแม่ผู้หญิง เพื่อนที่น่ารังเกียจของปันคนนั้นอย่างงั้นหรือ”
“คำก็น่ารังเกียจ สองคำก็น่ารังเกียจ ปันชักจะยังไง ๆ แล้วนะคะ หรือว่า... ที่จริง พี่ไม่ได้รังเกียจแยม เพียงแต่ไม่อยากจะเห็นแยม และไม่อยากได้ใกล้ชิดแยม”
“ปันพูดแบบนี้ได้ยังไง พี่เป็นผัวของปันนะ” เขาร้อนตัว
ใช่สิ... ร้อนใจด้วย เขาเกลียดผู้หญิงที่ดูขรึมเงียบ แต่กลับเร่าร้อนเวลาอยู่บนเตียง
“เอาเถอะ สุดท้ายปันก็กลับมาหาเรื่องพี่แทน” เขาส่ายหน้า ไม่แตะแก้วน้ำที่เธอยกมาให้ พร้อมกับลุกขึ้นยืน ไพรภูมิยืนเท้าสะเอว
“ถ้าปันเต็มใจที่จะให้แม่นั่นมายืมเงิน แล้วก็สร้างความเดือดร้อนให้ต่อไปเรื่อย ๆ ปันไม่ได้เดือดร้อน ก็เอา เชิญเลย” กางมือออก พร้อมกับทำสีหน้าเครียด
