ตอนที่ 5
พาริภัคกระซิบถามเสียงพร่า ในขณะที่ดนุสรณ์กำลังดื่มด่ำกับทรวงอกอวบของหล่อน
“ไม่ เราหยุดไม่ได้แล้ว หรือว่า คุณต้องการหยุด”
พาริภัคผลักใบหน้าของเขาให้ห่างจากทรวงอกอวบพลางส่ายหน้าก่อนจะประทับเรียวปากไปหาริมฝีปากหนาของเขาอย่างดุเดือด โดยที่ดนุสรณ์ก็ไม่ยอมปล่อยเวลาผ่านไปอย่างเนิบนาบเขาตักตวงสิ่งที่เขาต้องการมาช้านาน
ร่างบางของพาริภัคดีดดิ้นเป็นจังหวะพร้อมกับเสียงร้องครวญคราง มิใช่แสดงออกถึงความเจ็บปวดแต่อย่างใด หากแต่แสดงถึงความกระหึ่มที่ดวงใจที่กำลังผวาตื่น หล่อนบิดร่างไหวไปมาตามสัมผัสที่ร้อนรุมพร่างพรมไปทุกหย่อมหญ้าของชิ้นกายงามที่เฝ้าถนอมฟูมฟักไม่ให้หย่อนคล้อย ประณีตบรรจงทุกขั้นตอนจนสวยสมความตั้งใจ
พลังจูบที่ดื่มดำพร่ำพรอดออดอ้อนและเว้าวอนอยู่ในทีถูกชโลมราบทาบลงยังหน้าท้องของหล่อน ก่อนจะพร่างพรมไปยังท่อนขาขาวนวลที่หนีบเบียดเข้าหากัน พร้อมกับฝ่ามือเรียวบางที่ลูบไล้สัดส่วนของเขาอย่างโหยหา
เรียวขาวถูกแยกออกอย่างช้า ๆ ด้วยฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งแล้วบรรจงวางฝ่ามือลงทาบยังดอกกุหลาบที่กำลังเบ่งบานรอหยาดน้ำชุบชโลมให้ชุ่มเย็น พาริภัคกัดริมฝีปากพลางเหวี่ยงศีรษะไปมา ดวงตาหลับพริ้มเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างได้เคลื่อนตัวไปตามธรรมชาติที่ทั้งหล่อนและเขาต้องการ
เพียงได้ดื่มด่ำในครั้งแรกก็ต้องการครั้งต่อไป แต่สวรรค์นั้นก็ต้องล่มลงเมื่อทั้งสองแว่วได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาในบริเวณบ้านพัก
“ใครมา”
ดนุสรณ์ถอนร่างห่างออกมาจากพาริภัค ก่อนจะลุกไปเปิดม่านมองลงไปจากหน้าต่างห้อง
“คุณธัสมาครับพา”
เมื่อได้ยินว่าพี่ชายมาเท่านั้น พาริภัคก็รนรานหยิบจับทำอะไรไม่ถูก
“ใจเย็นนะครับ ผมจะลงไปรับหน้าเอง เดี๋ยวคุณค่อยลงไป”
เมื่อดนุสรณ์ปลอบแบบนั้นก็ทำให้พาริภัคสงบลงได้ ยิ่งเขาจูบปลอบใจก็ยิ่งทำให้หล่อนสะท้าน จากนั้นดนุสรณ์ก็คว้าเสื้อผ้าสวมใส่อย่างรวดเร็วแล้วออกจากห้องของพาริภัคแล้วลงไปด้านล่าง ซึ่งกันต์ธัสเข้ามาถึงพอดี
.
“นายหัวครับ”
ดนุสรณ์กระพุ่มมือไหว้เขาที่หันมามองด้วยความแปลกใจ
“ทำไมนายยังอยู่ที่นี่”
ดนุสรณ์คลี่ยิ้ม
“ผมเพิ่งเสร็จงานครับ เห็นว่ามันค่ำแล้วก็ตั้งใจจะกลับใต้พรุ่งนี้เช้า”
กันต์ธัสมองไปรอบตัวเห็นมีคนงานชายที่เปิดประตูให้เขาและคนงานหญิงที่เข้ามาช่วยรับข้าวของที่เขาซื้อมาเข้าไปเก็บ
“พี่ธัสคะ”
แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงพาริภัค น้องสาวคนเดียวของเขา เธอเป็นหญิงสาววัยยี่สิบสี่ปี หล่อนเรียนจบและช่วยพี่ชายทำงานแต่ตอนนี้เตรียมจะเรียนต่อระดับปริญญาโทก็เลยเดินทางขึ้น ๆ ลง ๆ ระหว่างกรุงเทพฯกับภาคใต้ กันต์ธัสก็คลี่ยิ้มส่งให้น้องอย่าอ่อนโยน
“ทำไมมาดึกจังคะ พานึกว่าพี่ธัสจะไม่มาเสียอีก”
พาริภัคสอดแขนมาคล้องแขนพี่ชายแล้วเอนศีรษะเข้ามาหาอย่างประจบ ทำให้เขาโอบไหล่ของหล่อนพลางเขย่าศีรษะเล็กเบา ๆ
“พี่แวะซื้อขนมมาฝาก ทานสิ อร่อยนะ”
“ไม่ล่ะค่ะ ดึกแล้ว ไม่ทานหรอก ไว้พรุ่งนี้นะคะ แต่ว่าพี่ธัสทานอะไรมาหรือยัง”
เมื่อน้องสาวเอ่ยถามถึงอาหารก็ทำให้เขารู้สึกหิวขึ้นมาทันที
“หิวใช่ไหมล่ะ”
“แต่ถ้าพี่ทานคนเดียวพี่ทนอดดีกว่า”
พาริภัคเอียงคอมองหน้าเขา
“ใครบอกพี่ธัสจะทานคนเดียว ลืมแล้วหรือคะคุณสรก็อยู่ที่นี่”
กันต์ธัสหันไปมองหน้าดนุสรณ์ที่รีบหลุบเปลือกตาก้มหัวลงอย่างนอบน้อม
“พี่ธัสขึ้นไปอาบน้ำก่อนไหมคะ พาจะไปหาอะไรอร่อย ๆ ให้ทาน”
“จ้า งั้นก็ได้”
กันต์ธัสพูดจบก็เขย่าศีรษะของหล่อนอีกครั้งแล้วเดินผ่านร่างของดนุสรณ์ขึ้นไปยังห้องพักของเขา พาริภัคก็ช้อนสายตามองหน้าดนุสรณ์อย่างมีความหมาย แต่ก็สามารถทำได้เพียงเท่านั้นก่อนจะรีบเข้าครัวพร้อมกับสาวใช้คนหนึ่งทำอาหารอย่างง่ายออกมารอพี่ชายที่ลงมาพอดีเมื่ออาหารเสร็จ
กันต์ธัสก็ทานอาหารกับดนุสรณ์ไปพลางคุยเรื่องงานไปพลาง เพราะดนุสรณ์เรียนจบแล้วแต่ไม่ได้เรียนต่อเพราะกันต์ธัสต้องการคนช่วย จึงให้ดนุสรณ์ช่วยงาน เนื่องจากดนุสรณ์นั้นเปรียบไปก็เหมือนน้องชายของเขาคนหนึ่งเพราะสัญจิตาแม่ของดนุสรณ์นั้นก็เป็นแม่นมที่เลี้ยงดูกันต์ธัสมาตั้งแต่เขายังเล็ก ได้ดื่มนมเต้าเดียวกันมาก็ว่าได้เพราะแม่ของกันต์ธัสเสียตั้งเขาเพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่เดือน
ต่อมาพ่อของเขาก็แต่งงานใหม่มีพาริภัคเกิดมา ครั้นพอกันต์ธัสโตขึ้นได้รับช่วงดูแลงานของครอบครัวพ่อของเขาก็ป่วยแล้วเสียชีวิตส่วนแม่ของพาริภัคก็แต่งงานใหม่ โดยที่กันต์ธัสไม่ยอมให้พาริภัคไปอยู่กับพ่อเลี้ยง เขาจึงให้สัญจิตาช่วยดูแลหล่อนด้วย
“พี่ธัสแวะไปที่บ้านคุณอาธามธรณ์มาหรือคะ”
“จ้ะ”
เมื่อพี่ชายบอกอย่างนั้นทำให้พาริภัคขยับเข้ามาใกล้
“ได้เจอคุณภัสรดาไหมคะ”
กันต์ธัสพยักหน้า
“เป็นไงคะ สรุปว่าไง เธอจะได้เป็นพี่สะใภ้ของพาไหม พาชอบเธอมากเลย เธอสวย เธอเก่ง เธอเรียบร้อย เธอเนี๊ยบไปทุกด้าน ทันสมัย ฉลาดคล่องแคล่ว พาชอบผู้หญิงแบบนี้ค่ะ เธอวางตัวดีด้วยนะคะไม่เคยมีข่าวฉาวอะไรเลย”
คำพูดของน้องสาวก็ทำให้กันต์ธัสต้องวางช้อนแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ทำให้เขานึกถึงการพูดคุยกึ่งขอร้องของปิ่นประดับที่คุยกับเขาเมื่อตอนเย็น และใจแวบหนึ่งของความคิด เขาเห็นเธอ ดรุณีสาวแสนโสภา อ้อนแอ้นอรชรน่าถนอม เธอมีภาพลักษณ์ที่น่าปกป้องและครอบครองไปพร้อม ๆ กัน
นัยน์ตาคมเจือแววหวานอย่างมีเสน่ห์ แม้จะซ่อนแววหม่นอยู่ในทีก็ตาม ริมฝีปากยวนเย้าน่าจุมพิต ทรวงทรงองเอวเหมาะเจาะสมสัดส่วน ผิวพรรณวรรณหมดจดเกลี้ยงเกลาเอี่ยมอ่อง
กันต์ธัสเผลอผ่อนลมหายใจออกมาเสียยืดเมื่อจำภาพที่หนึ่งธิดากอดเอวของเสกข์อย่างแนบแน่นราวกับสนิทสนมกันนักหนา เขากระดกวอดก้าในแก้วรวดเดียวหมดก่อนจะตรงไปยังห้องพักแล้วล้มตัวลงนอน แต่ไม่อาจจะข่มตาหลับลงได้ ด้วยเหตุผลที่เขาต้องขบคิดว่า จะช่วยเหลือปิ่นประดับตามที่ท่านร้องขอหรือปฏิเสธดี
หนึ่งธิดานั่งเฝ้าปิ่นประดับตั้งแต่เธอกลับมาถึงบ้านพร้อมธามธรณ์ จวบจนกระทั่งสาย ปิ่นประดับค่อย ๆ ลืมตาขึ้นแล้วได้เห็นหน้าเธอ แต่ภาพลางเลือนกลับกลายเป็นใบหน้าของพชร พ่อของหนึ่งธิดาซึ่งก็คือลูกชายคนเล็กที่ท่านรักมาก
“พชรหรือลูก..”
ปิ่นประดับร้องเรียกเสียงแผ่วพร้อมกับยกมือยื่นมาแตะที่ใบหน้าของหนึ่งธิดาที่ท่านเห็นเป็นใบหน้าของพชร
“พชร กลับมาแล้วหรือลูก กลับมาหาแม่แล้วใช่ไหม”
ปิ่นประดับร้องถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครืออีกทั้งน้ำตาก็พาลไหลออกมา
