EP.3 วันเกิด
และแล้วก็มาถึงสุดสัปดาห์ วันนี้ตรงกับวันเกิดของเด็กอ้วนอย่างน้องอบอุ่นซึ่งวันนี้เจ้าตัวตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะจะได้ออกไปฉลองวันเกิดข้างนอกเป็นปีแรก หลังจากที่คุณแม่ของเธอจัดให้ที่บ้านทุกปี และวันนี้กุลนิดาก็ขอลางาน 1 วันเพื่อมาดูแลและให้ความสำคัญกับคนที่เธอรักมากที่สุด
" คุณแม่ขา วันนี้น้องอบอุ่นน่ารักไหมคะ "
เด็กหญิงกมลทิพย์เอ่ยถามคุณแม่ด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูเพราะวันนี้เธอใส่ชุดวันเกิดเป็นชุดเจ้าหญิงสีชมพูที่กุลนิดาตั้งใจซื้อให้ในวันเกิดของลูกสาว
" น่ารักมากเลยค่ะ วันนี้น่ารักแล้วอย่าลืมเป็นเด็กดีด้วยนะคะลูก "
กุลนิดาบอกกับลูกสาวที่วันนี้จะต้องออกไปข้างนอกด้วยกัน เพราะทุกครั้งที่ออกไปข้างนอกลูกของเธอมักจะสร้างตำนานกลับมาทุกครั้ง เขาว่ากันว่าเด็กดื้อคือเด็กฉลาดตอนนี้แม่ก็เริ่มไม่มั่นใจแล้ว
" น้องอบอุ่นสัญญาค่ะว่าวันนี้จะไม่ดื้อไม่ซนนะคะคุณแม่ นั่นไงรถลุงอิฐมาแล้วค่ะ "
เด็กอ้วนบอกหลังจากที่เพิ่งบอกว่าจะไม่ดื้อไม่ซนแต่พอได้ยินเสียงรถลงอิฐกลับวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตออกไปหาเลย
" ระวังลูก... "
กุลนิดาส่ายหน้าให้กับคนที่ตั้งใจจะเป็นเด็กดีแต่ก็เป็นได้เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น เธอจึงเดินตามลูกออกไปตอนนี้เจ้าเด็กอ้วนอยู่ในอ้อมกอดของลุงอิฐเรียบร้อยแล้ว
" ฝากเด็กอ้วนแป๊บนึงนะคะ เดี๋ยวกุลรีบไปแต่งตัว ไม่เกิน 10 นาทีแน่นอนค่ะ "
ร่างเล็กบอกกับอิทธิฤทธิ์หลังจากที่เธอมัวแต่แต่งตัวให้กับลูกสาวตัวน้อยของเธอจนตัวเธอเองยังไม่ได้เปลี่ยนชุดเลยด้วยซ้ำ
" ไปเถอะครับ เดี๋ยวพี่ดูลูกให้เอง "
อิทธิฤทธิ์บอกพร้อมกับหันมาเล่นกับเจ้าเด็กอ้วนที่เขาเฝ้าทะนุถนอมมาตั้งแต่เด็ก เขาเฝ้าดูการเติบโตของกมลทิพย์จนตอนนี้หลงรักหัวปักหัวปำไปแล้ว
กุลนิดาใช้เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่ถึง 10 นาทีจริงๆก็ออกมาจากตัวบ้านพร้อมกับชุดเดรสสีครีมเก่าๆ ที่อิทธิฤทธิ์เคยซื้อให้ตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว เอาจริงๆตั้งแต่เธอมีลูกสาวเธอแทบไม่ซื้อของอะไรให้ตัวเองเลยมีแค่ไหนก็ใช้แค่นั้น รวมถึงเรื่องแต่งหน้าลืมไปได้เลยเพราะนอกจากเธอไม่มีเวลาแล้วเธอยังต้องเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์เอาไว้ให้ลูกอีกด้วย ในวันที่เธอจากมาเธอออกมาแค่ตัว สภาพคุณหนูกุลนิดาจึงเป็นแค่ความทรงจำในอดีตเท่านั้น เพื่อนไฮโซปลอมๆหรือใครที่เคยรู้จักเธอรับรองไม่มีใครจำเธอได้แน่
อิทธิฤทธิ์มองดูคนตัวเล็กตรงหน้าที่กลับเข้าไปแต่งตัวอย่างรวดเร็วแล้วกลับออกมาพร้อมกับชุดเดรสตัวเก่าที่เขาเคยซื้อให้ตั้งแต่พาเธอมาอยู่ที่นี่แรกๆ เขาคิดเอาไว้แล้วว่าเธอจะต้องไม่ซื้ออะไรให้ตัวเองจริงๆเขาจึงเดินไปข้างหลังรถของตัวเองและหยิบกล่องกระดาษที่เขาเตรียมมาแล้วยื่นให้เธอ
" สำหรับกุลครับ พี่เตรียมมาให้ อย่าปฏิเสธนะครับพี่อยากให้เรา"
กุลนิดามองดูกล่องกระดาษที่อิทธิฤทธิ์ยื่นมาให้ ในนั้นมีชุดเดรสสีชมพูที่เข้ากันกับชุดของลูกสาวเธอ ก็เพราะวันที่ไปซื้อชุดของลูกสาวเธอไปด้วยกันกับอิทธิฤทธิ์นั่นแหละเขาคงสังเกตุตั้งแต่ตอนนั้นเลยซื้อมาซะเหมือนกันเลย
" พี่อิฐ ไม่เห็นต้องสิ้นเปลืองเลยค่ะ กุลใส่อะไรก็ได้ค่ะ "
ร่างเล็กบอกออกไปอย่างเกรงใจเพราะเขาดีกับเธอจนเธอไม่รู้จะตอบแทนยังไงไหวแล้ว เขาดีกับเธอมากกว่าพ่อแท้ๆของเธอเสียอีก
" เอาน่า ยังไงซะวันนี้ก็เป็นวันดีๆของเด็กอ้วน พี่อยากให้เธอและลูกมีความสุขมากที่สุดและพี่ก็มองว่าชุดนี้มันเข้ากับชุดของน้องอบอุ่นมากนะ พี่อุตส่าห์ตั้งใจเลือกอย่าให้ความตั้งใจของพี่สูญเปล่าเลย ไปเปลี่ยนเถอะครับ "
กุลนิดายกมือไหว้เอ่ยขอบคุณอีกครั้งพร้อมกับรับถุงกระดาษนั้นมาแล้วก็เข้าไปเปลี่ยนชุดในเวลาอันรวดเร็วและพอเธอเดินออกมาอิทธิฤทธิ์ก็มองคนตัวเล็กที่ใส่ชุดที่เขาซื้อให้ได้พอดีแถมยังสวยมากอีกด้วยเขายืนตกตะลึงนิ่งค้างอยู่แบบนั้นไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัวจนเจ้าเด็กอ้วนที่เขากำลังอุ้มอยู่ต้องหยิกแก้มเขาหนักๆเขาถึงรู้สึกตัว
" นี่แหนะ ลุงอิฐ คุณแม่สวยจนต้องตกตะลึงเลยหรอคะ เห็นไหมว่าคุณแม่ของน้องอบอุ่นสวยที่สุดเลย น้องอบอุ่นก็สวย "
เด็กสาวพูดให้คุณแม่ของตัวเองได้เขินอาย กุลนิดาทำอะไรไม่ถูกเมื่อโดนจ้องมองจากอิทธิฤทธิ์แบบไม่วางตา แถมยังโดนเจ้าลูกตัวแสบแซวเข้าให้อีก
" ครับ สวย สวยมาก "
อิทธิฤทธิ์เมื่อหลุดจากภวังค์ก็เอ่ยชมคนตรงหน้าออกมาทันที ความรู้สึกของเขาตอนนี้มันยิ่งชัดเจนทวีคูณเมื่อได้เห็นคนตรงหน้าที่สวยตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าทั้งๆที่ทำงานอย่างหนักมาตลอดหลายปี
" ไปกันเถอะค่ะ เดี๋ยวรถติดนะ "
ร่างเล็กบอกแก้เก้อ และอิทธิฤทธิ์ก็เดินไปเปิดประตูรถให้กับกุลนิดาพร้อมทั้งให้เจ้าเด็กอ้วนนั่งบนตักของคุณแม่ และตัวเขาก็รีบมานั่งอีกฝั่งและทะยานออกไปยังจุดหมายปลายทางความรู้สึกตอนนี้เหมือนกับพ่อแม่ลูกกำลังจะไปทานข้าวนอกบ้านด้วยกัน หากคนข้างนอกมองเข้ามาก็คงเข้าใจแบบนั้น
เมื่อมาถึงร้านอาหารที่เขาจองเอาไว้อาจจะไม่ได้หรูหราสำหรับคนมีเงินแต่สำหรับกุลนิดาในตอนนี้ก็คงจะต้องแพงมากอยู่ดี
" กุลเกรงใจจังเลยค่ะพี่อิฐ จริงๆเราไปร้านธรรมดากันก็ได้นะคะ หมูกะทะกุลก็ไม่ติดนะ "
ร่างเล็กบอกติดตลกเพราะเธอไม่อยากให้เขาสิ้นเปลืองนี่คือวินาทีสุดท้ายที่เขาจะเปลี่ยนใจได้แล้ว
" ที่นี่ก็มีหมูกระทะนะครับ ถ้ากุลจะกินพี่ก็ไม่ติดเหมือนกันนะ "
อิทธิฤทธิ์บอกพร้อมกับเผยรอยยิ้มที่ชวนให้สาวๆทั่วทั้งเมืองหลงใหล เขาจัดเป็นผู้ชายประเภทครบเครื่องทั้งเรื่องหน้าตา ชาติตระกูล ฐานะที่ร่ำรวย พร้อมทั้งธุรกิจโรงแรมหลายแห่งของที่บ้านที่กำลังไปได้สวยซึ่งมีเขานั่งแท่นผู้บริหาร
" หมูกระทะหรอคะ คุณแม่น้องอบอุ่นอยากกินหมูกระทะค่ะ "
เมื่อพูดถึงหมูกระทะของโปรดของเด็กอ้วน เจ้าตัวก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที นานๆทีเธอจะพาลูกไปกินหมูกระทะสักครั้งหนึ่งซึ่งทุกครั้งที่ไปน้องอบอุ่นก็จะมีความสุขทุกครั้ง
" เรากินอะไรกันก็ได้นะคะลูก เกรงใจลุงอิฐเขานะลูก "
กุลนิดาปรามลูกสาวไม่ให้ไม่ให้ร้องขอคนตรงหน้าจนเสียมารยาทเกินไป แต่เด็กก็คือเด็กคิดยังไงก็พูดออกมาแบบนั้น
" อยากกินหมูกระทะหรอครับ งั้นวันนี้เรากินหมูกระทะกันดีไหม "
อิทธิฤทธิ์ตามใจเด็กอ้วนของเขา จริงๆเขาก็ไม่เคยขัดใจเลยสักครั้งนั่นแหละ ด้วยท่าทางขี้อ้อนและหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มมีหรือที่เขาจะปฏิเสธได้ลง มีแต่จะสรรหามาให้เพราะอยากเอาใจนั่นแหละ
" เย้! ดีมากๆเลยค่ะลุงอิฐ "
