EP.1 คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว(1)
" แง๊!!! คุณแม่ขาน้องอบอุ่นเจ็บจังเลยค่ะ "
เด็กสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มตัวอวบอ้วนกำลังย่างเข้าสู่วัย 4 ขวบ ซึ่งน้องอบอุ่นสะดุดขาตัวเองล้มลงไปที่พื้นในขณะที่กำลังวิ่งตามเจ้าเหมียวน้อยในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ส่วนคนเป็นแม่แค่แวะจ่ายตังค์ให้กับแม่ค้าแป๊บเดียวเพราะลูกสาวตัวน้อยอยากกินนมชมพูปั่น เผลอแป๊บเดียวก็ได้ยินเสียงลูกสาวร้องไห้อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นักแล้ว เธอจึงรีบวิ่งมาสุดชีวิตเพื่อมาดูลูกสาวที่กำลังหกล้มและเสียขวัญอยู่
" น้องอบอุ่น ไหน...เจ็บตรงไหนลูก แม่ขอดูหน่อยสิคะ "
กุลนิดา เขมิกา (กุล) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยววัย 28 ปีรีบวิ่งเข้ามาดูอาการของลูกสาวอย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามทำสีหน้าให้ปกติที่สุด เพราะไม่อยากให้ลูกรู้สึกตกใจไปมากกว่านี้ พอสำรวจตามร่างกายก็พบว่ามีเพียงแค่เข่าเล็กเท่านั้นที่ถลอกจนเลือดออก แต่เจ้าตัวแสบกลับร้องเหมือนเจ็บไปทั้งตัวสงสัยน่าจะตกใจมากกว่า
" ซนจนได้เรื่องแล้วนะคะลูกเห็นไหม เด็กดีของแม่วันนี้กลายเป็นเด็กดื้อแล้วนะ "
กุลนิดาประคองลูกสาวตัวน้อยให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มใสของลูกสาวออกจากแก้มให้เบาๆ
" น้องอบอุ่นไม่ได้ดื้อนะคะคุณแม่ น้องอบอุ่นเห็นน้องแมววิ่งมาทางนี้ก็เลยแค่วิ่งมาไล่จับค่ะ กลัวว่าน้องแมวจะหลงทางน้องอบอุ่นเปล่าดื้อนะคะ "
น้องอบอุ่นเด็กสาววัย 4 ขวบที่ตอนนี้พูดจาเริ่มฉะฉานแล้วก็พยายามอธิบายให้แม่ฟังด้วยกลัวว่าคุณแม่จะโกรธ
" แล้วน้องแมวหายไปไหนแล้วล่ะคะ "
กุลนิดามองไปรอบๆบริเวณนี้ก็ไม่เจอกับแมวเลยสักตัว
" หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ค่ะคุณแม่ น้องอบอุ่นตามไม่ทัน น้องแมววิ่งเร็วมากๆเลยค่ะ "
ลูกสาวตัวน้อยของเธอตอบตาใส ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้เธอจะดุลูกลงได้ยังไง เฮ้อ!กุลนิดาผู้แพ้ทางลูก
" คราวหลังไม่วิ่งแบบนี้แล้วนะคะลูก เดี๋ยวหกล้มไปอีกเจ็บหนักมากกว่านี้ หนูจะต้องไปให้ลุงหมอฉีดก้นนะรู้ไหม "
กุลนิดาขู่ลูกสาวเพราะลูกสาวของเธอกลัวเข็มมากที่สุดแล้ว ยิ่งแกเคยไม่สบายแล้วโดนฉีดตรงก้นเล็กๆนั่นแกเลยจำฝังใจ
" ไม่เอานะคะคุณแม่น้องอบอุ่นไม่ฉีดตูดดด... "
เด็กน้อยตัวอ้วนกลมพูดพร้อมกับทำท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้
" งั้นต่อไปอย่าวิ่งหนีคุณแม่แบบนี้อีกนะคะ มันอันตรายมากเลยนะรู้ไหม แล้วสวนสาธารณะแบบนี้ที่มันกว้างน้องอบอุ่นจะพลัดหลงกับคุณแม่เอาได้นะคะ ถ้าน้องอบอุ่นไม่ดื้อคุณแม่จะพามาที่นี่บ่อยๆดีไหม หรือถ้าน้องอบอุ่นดื้อมากๆก็จะโดนเข็มฉีดยาจิ้มแบบนี้ๆๆๆๆ "
น้องอบอุ่นหัวเราะลั่นเพราะโดนคุณแม่จี้เอวซึ่งเด็กน้อยตัวอวบอ้วนบ้าจี้เสียด้วยสิ
" ฮ่าๆๆๆๆๆ คุณแม่อย่าแกล้ง... ฮิๆๆๆๆ "
น้องอบอุ่นหัวเราะคิกคักมีความสุข จนลืมว่าตัวเองร้องไห้ไปเมื่อสักครู่ ทั้งที่คราบน้ำตายังติดอยู่บนแก้มใสแต่เจ้าตัวน้อยอ้วนกลมนี่กลับลืมเสียแล้ว
ปกติแล้วในช่วงเย็นแบบนี้กุลนิดาชอบพาลูกสาวออกมาเดินเล่นสวนสาธารณะใกล้บ้านเพื่อเสริมพัฒนาการให้กับแก แต่ทุกทีก็ดูแลอย่างใกล้ชิดมีบ้างบางครั้งที่เธอเผลอเรอไม่ทันเจ้าตัวแสบ และทุกครั้งที่เผลอลูกสาวก็จะได้รับบาดแผลแบบนี้มาตลอด แม้ลูกสาวของเธอจะพูดจาไพเราะน่ารักแต่นิสัยกลับดื้อรั้นห้าวหาญเหมือนคนเป็นพ่อไม่มีผิด นี่ขนาดไม่ได้เลี้ยงกันมานะยังขนาดนี้เลย
" อ่ะ นมชมพูปั่นที่หนูอยากกินไงลูก คุณแม่ซื้อมาให้แล้วค่ะ "
กุลนิดายื่นนมชมพูปั่นแก้วละไม่กี่บาทให้กับลูกสาว น้องอบอุ่นก็กินนมชมพูปั่นอยากมีความสุข เธอเลี้ยงลูกสาวเองมาตลอด 4 ปี นั่นจึงทำให้เงินที่พอมีเก็บมันแทบจะไม่เหลือแล้ว เธอเลยจำเป็นต้องออกไปทำงานและเพิ่งทำได้เพียงแค่ครึ่งปีเท่านั้น แม้ว่าในตอนนี้ฐานะของเธอจะเข้าขั้นยากจนมากๆแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยให้ลูกสาวต้องอด ในยามที่ลูกสาวอยากจะกินอะไรเธอก็พยายามซื้อให้กินตามกำลังเสมอมา แม้บางครั้งตัวเองจะต้องอดแต่สำหรับเธอลูกสาวมาก่อนเสมอ
" คุณแม่กินด้วยกันสิคะอร่อยมากๆเลยค่ะ น้องอบอุ่นชอบ "
น้องอบอุ่นยื่นแก้วนมชมพูปั่นให้กับแม่ได้กินด้วยกัน ทุกครั้งที่แม่ซื้ออะไรมาให้เธอจะแบ่งกับแม่กินเสมอและทุกครั้งแม่ก็จะตอบแบบนี้เสมอเช่นกัน
" คุณแม่อิ่มแล้วค่ะ น้องอบอุ่นกินเถอะ กินเยอะๆจะได้โตเร็วๆนะคะคนสวย "
กุลนิดาลุกขึ้นยืนและอุ้มลูกสาวขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน จากนั้นก็รีบเดินกลับบ้านเพราะตอนนี้ลูกสาวของเธอมีบาดแผลตรงหัวเข่าคงนั่งอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว และเมื่อพาลูกสาวมาถึงบ้านก็เจอเข้ากับรถเก๋งคันหรูที่จอดรออยู่หน้าบ้านหลังค่อนข้างเก่าที่เธอเช่าเอาไว้อยู่กับลูกสาว พร้อมกับอิทธิฤทธิ์ที่ยืนพิงรถหรูอยู่และยิ้มให้เธอกับลูกสาวอยู่
" ลุงอิฐ....น้องอบอุ่นคิดถึงลุงอิฐจังเลยค่ะ "
เด็กอ้วนออดอ้อนอิทธิฤทธิ์ยกใหญ่เมื่อเห็นหน้า พร้อมกับกางแขนออกกว้างเพื่อให้อิทธิฤทธิ์อุ้ม และอิทธิฤทธิ์ก็รับเด็กอ้วนนี้มาอุ้มเอาไว้
" ว่าไงคะเด็กอ้วน วันนี้ไปซนที่ไหนมาคะ "
อิทธิฤทธิ์เอ่ยถามน้องอบอุ่นเพราะเห็นว่าตรงหัวเข่ามีแผลและเลือดออกมาเล็กน้อย แต่เด็กอ้วนของเขาก็ยังไม่มีน้ำตาให้เห็นสักแอะมีแต่รอยยิ้มที่ส่งมาให้กับเขา
" ลุงอิฐพูดเหมือนคุณแม่เลย น้องอบอุ่นไม่ได้ซนเสียหน่อยค่ะ แค่วิ่งไล่จับน้องแมวแต่น้องแมววิ่งเร็วกว่าน้องอบอุ่นเลยตามไม่ทันก็เลยล้มค่ะ แต่น้องอบอุ่นไม่ร้องไห้เลยนะคะน้องอบอุ่นเข้มแข็งมากๆค่ะ "
เด็กอ้วนพูดโอ้อวดให้กับลุงอิฐของเธอได้ฟัง
" จริงหรอคะ ไม่มีเด็กอ้วนที่ไหนร้องไห้จริงๆหรอ? "
กุลนิดาทำเสียงน่ารักถามลูกสาว ซึ่งน้องอบอุ่นก็หันกลับมาหาคุณแม่พร้อมกับยิ้มจนตาหยี ส่วนอิทธิฤทธิ์ก็ได้แต่มองการกระทำของกุลนิดาอยู่แบบนั้นเหมือนคนโดนมนต์สะกดก็ไม่ปาน
" แฮร่!!! น้องอบอุ่นโกหกค่ะลุงอิฐ ที่จริงแล้วน้องอบอุ่นร้องไห้ค่ะแต่แค่แป๊บเดียวนะคะ ไม่นานเลย "
เด็กอ้วนบอกกับลุงอิฐของเธอเสียงน่ารัก น้องอบอุ่นถูกฝึกให้เป็นเด็กไม่โกหกมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทุกครั้งที่น้องอบอุ่นคิดจะโกหกกุลนิดาก็จะถามย้ำลูกสาวแบบนี้เสมอ
" หรอครับ เด็กอ้วนของลุงเก่งที่สุดเลย วันนี้ลุงมีของเล่นมาฝากเยอะแยะเลยเราเข้าไปเล่นในบ้านกันดีกว่าไหมครับ คุณแม่จะได้ทำอาหารอร่อยๆให้เราทานกัน "
อิทธิฤทธิ์พูดขึ้นมาเพราะเขาเข้าออกบ้านนี้บ่อยมากจนแทบจะเป็นบ้านของตัวเองอยู่แล้ว เขาแวะมาที่นี่ทุกวันหลังเลิกงาน ไม่เว้นแม้กระทั่งวันหยุด และจะกลับออกไปอีกทีก็ตอนที่น้องอบอุ่นหลับไปแล้วแทบทุกวัน
" ไปกันค่าลุงอิฐ "
