ep2
น้ำรินตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อใกล้รุ่ง ร่างเปลือยเปล่าปวดร้าวจนไม่อยากขยับเขยื้อน กลางลำตัวของเธอเจ็บหนึบและเต็มไปด้วยคราบเหนียวเหนอะ หญิงสาวกัดฟันหยัดยืนร่างขึ้นแล้วพาตัวเองเข้าไปชำระล้างร่างกายในห้องน้ำ คืนค่ำอันน่าหวาดกลัวได้ผ่านพ้นไปแล้วพร้อมกับความสาวของเธอ คิดไปเธอก็แอบอดสูตัวเองไม่ได้ว่าทำไมต้องเลือกทางนี้
หญิงสาวโอ้เอ้อยู่ในห้องน้ำจนได้ยินเสียงเรียกอยู่หน้าห้อง เธอรีบพันกายด้วยผ้าขนหนูออกมายืนใจเต้นอยู่กลางห้อง เขาเหรอ?....
“คุณคะ เปิดประตูด้วยค่ะ”
เสียงเรียกที่ดังอยู่หน้าห้อง ทำให้เธอเดาได้ว่าน่าจะเป็นคนรับใช้ของเรือนนี้
“สักครู่ค่ะ”
น้ำรินรีบแต่งตัวอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่จะเปิดประตู สายตาก็พลันมองไปที่เตียง เห็นร่องรอยบางอย่างปรากฏชัด เธอรีบใช้ผ้าคลุมเตียงเพื่อปกปิดพร้อมด้วยใบหน้าที่แดงซ่าน
“มาแล้วค่ะ”
ประตูเปิดออก พร้อมกับร่างผอมเกร็งของหญิงวัยกลางคนถือสำรับกับข้าวเข้ามาวางไว้ที่โต๊ะในห้อง
“นายหัวจะกลับมาคืนนี้ และยังไม่อนุญาตให้คุณออกจากห้องนี้นะคะ ฉันจะยกข้าวมาให้คุณ 3 มื้อ ส่วนกินจะกินหรือไม่กินก็เรื่องของคุณ”
“เอ่อ ขอบคุณค่ะ”
น้ำรินชะงักนิดหนึ่งก่อนจะกล่าวขอบคุณตามมารยาท
เมื่อผู้หญิงคนนั้นออกไป เธอลองเดินไปบิดลูกบิดประตูก็เห็นว่าล็อคจากด้านนอก จึงได้แต่แปลกใจว่าคนที่รับใช้อยู่ที่เรือนหลังนี้ ไม่จำเป็นต้องถามเธอก่อนเข้าห้องด้วยซ้ำแต่ก็ยังมีมารยาทที่จะถาม บางทีเธออาจจะต้องมองผู้หญิงคนนั้นใหม่
น้ำรินกวาดตามองไปรอบๆ ห้อง กระเป๋าเดินทางใบโตยังวางอยู่ที่เดิม เธอนิ่งมองมันอยู่นาน....กระเป๋าเดินทางที่เตรียมจะหนีออกนอกประเทศ แต่เธอถูกจับได้กลางสนามบินสุวรรณภูมิ....
***************
ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
น้ำรินลากกระเป๋าเดินทางอย่างรีบร้อนเข้ามาเช็คอินที่สายการบิน คิวของผู้โดยสารยาวเหยียดจนเธอร้อนใจ นึกสังหรณ์ใจว่าคนที่เธอนัดหมายจะมาทันหรือไม่ ดูเขาอิดออดไม่อยากมา แต่เธอและเขาต้องไปจากเมืองไทย เพราะช่วงระยะเวลาสั้นๆ เธอไม่มีทางหาเงินจำนวนมากมาใช้คืนบริษัทได้ เธอจำเป็นต้องไปทำงานกับเพื่อนที่หาลู่ทางให้เธอหาเงินใช้หนี้ได้เร็วกว่าอยู่เมืองไทย
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ปลายสายเป็น “นนท์” แฟนหนุ่มของเธอนั่นเอง
“...รินอยู่ที่ไหนแล้ว”
“กำลังเช็คอินอยู่ คุณเข้าไปในด้านในหรือยัง?”
“....คุณรอผมสักประเดี๋ยวนะ ผมกำลังไป”
น้ำรินวางสายอย่างหงุดหงิด เธอบอกแผนการกับเขาไว้แล้วว่าต่างคนต่างเช็คอินแล้วไปเจอกันบนเครื่องแต่เขากลับจะให้เธอรอ เขาไม่รู้เหรอว่านายราไวยหรือนายหัวเจ้าของกิจการอันยาอันดามันกรุ๊ปมีอิทธิพลแค่ไหน? แค่เธอวางแผนจนซื้อตั๋วเครื่องบินได้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว
หญิงสาวเตร็ดเตร่อยู่หน้าเคาน์เตอร์เช็คอิน จนเหลือเวลาอีกไม่นานจึงตัดสินใจโทรศัพท์หานนท์อีกครั้ง แต่ปลายสายไม่มีสัญญาณแล้ว หญิงสาวชะงักรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล เกิดอะไรขึ้นกับนนท์ หญิงสาวร้อนใจพยายามโทรศัพท์หาเขาอีกครั้งแต่ก็ยังติดต่อไม่ได้ กระทั่งเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองก็รู้แล้วว่า...เธอติดกับเข้าแล้ว
“เชิญทางนี้ครับ คุณน้ำริน”
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ 2 คน เดินประกบเธอไปยังรถที่จอดรออยู่
“เข้าไป”
เสียงเบาๆ แต่หนักแน่น พร้อมแรงผลักเข้าไปด้านใน ชายหนุ่มท่าทางสำอางคนหนึ่งอายุประมาณ 30 ปีเศษนั่งรออยู่ เขาดูใจดี ไม่ดุ แต่เธอก็อดที่จะขนลุกไม่ได้ เพราะรู้ว่าผู้ชายคนนี้คือราเมศ น้องชายของนายหัวราไวยนั่นเอง
“ฉัน...ฉันขอโทษ”
“เก็บคำขอโทษของเธอเอาไว้ ความผิดของเธอจะไม่มีการต่อรองอะไรอีกแล้ว ออกรถได้”
รถเคลื่อนออกไปอย่างนิ่มนวล แต่คนในรถกลับนั่งใจสั่น
“ฉันพยายามจะหาเงินมาชดใช้คุณแล้ว แต่มันหาไม่ทันจริงๆ ที่ฉันจะไปต่างประเทศ ฉันก็จะไปทำงานหาเงิน ไม่ได้หนี”
“จะให้ฉันเชื่อเหรอ?”
“ฉันรู้ว่าคุณไม่เชื่อ แต่ฉันพูดจริงๆ แล้วข้อเสนอที่คุณบอกมา...ฉันทำไม่ได้!”
“งั้นก็เหลือเพียงทางเดียวคือ ส่งคุณไปชายแดน ที่นั่นมีบ่อนของนายหัวอยู่ สาวๆ ที่นั่นกำลังขาดแคลนพอดี”
“ไม่นะ...”
“อูยยยย......”
เสียงครางเบาๆ ดังออกมาจากด้านหลังรถ น้ำรินชะงัก เธอจำเสียงของเขาได้
“นนท์...นนท์เป็นอะไรหรือเปล่า?”
น้ำรินขยับจะเข้าไปหาแฟนหนุ่ม แต่ถูกรั้งเอาไว้โดยบอดี้การ์ดของราเมศ
“ริน.....ช่วยนนท์ด้วย”
น้ำรินสะอื้นทันทีที่เห็นนท์ค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าของเขาบวมปูดฟกช้ำ สภาพที่เธอก็รู้ว่าเขาถูกซ้อมมาปางตาย
“ข้อเสนอที่ให้เธอไปทำงานของนายหัว เป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดของพี่ชายฉันแล้ว เธอไม่เคยฟัง”
“ฉันไม่ได้รักนายหัว ไม่มีวันที่จะรัก”
“งั้นก็ไปทำงานให้หนี้ที่ชายแดนปาดังก็แล้วกัน”
“ฉันไม่ไป ฉันยินดีจะติดคุก ถูกฟ้องล้มละลาย ถูกตราหน้าว่าขี้โกง ยังไงก็ดีกว่าขายตัวให้พี่ชายของคุณ” น้ำรินเดือดดาลขึ้นในทันที สงสารแฟนหนุ่มจับใจที่เขาต้องมาเจ็บตัว
“ติดคุกเหรอ? สบายไปนะ ถ้าเธอไม่อยากให้เขาเจ็บตัว เธอฟังฉันดีกว่า”
ราเมศชี้ไปที่นนท์ที่หน้าตาบวมปูด นนท์หลบสายตาทันที
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนนท์!”
“เธอนี่รักแฟนจนน่าอิจฉานะ แต่เขาไม่สมควรที่จะได้ความรักจากเธอหรอก มีเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งที่ฉันอยากให้เธอรู้เอาไว้....นนท์คือเด็กของฉัน”
****************
